รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - บทที่ 48-2 กอดปลอบผมหน่อย ได้โปรด / บทที่ 49-1 เราเป็นอะไรกัน
- Home
- รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ
- บทที่ 48-2 กอดปลอบผมหน่อย ได้โปรด / บทที่ 49-1 เราเป็นอะไรกัน
บทที่ 48-2 กอดปลอบผมหน่อย ได้โปรด
ผู้จัดการสาขาหาทางเอาตัวรอดจากบรรยากาศอันดุเดือด ส่วนประธานก็รีบลุกตามด้วยใบหน้าที่ยังอยากมีชีวิตรอด
“ทนายรยูครับ ผมจะออกไปสูบบุหรี่หน่อยนะครับ”
“ครับ เชิญเถอะ”
“อ้า ต้องรีบเลิกบุหรี่แล้ว…”
“นั่นสินะครับ”
ประตูปิดลง ก็เหลือแต่ความเงียบ
“จิ๊ พวกใช้ไม่ได้”
จีฮวันแค่นยิ้มกับเสียงบ่น
“ดูเหมือนไม่ควรจะเป็นคำพูดของคนที่ทำให้เกิดงานนี้เลยนะครับ”
“น่าขำ แกคิดว่าฉันยอมมาสถานที่ไร้สาระแบบนี้เพื่อใคร”
“จะบอกว่าเพื่อผมงั้นเหรอครับ”
“ถ้าเมื่อวานแกยอมคุกเข่าลอดใต้หว่างขาไอ้บ้านั่นจริง ฉันคิดจะตัดแกออกจากทะเบียนบ้าน”
ตุ้บ! ท้ายทอยของจีฮวันเย็นวาบ
“ระ รู้เรื่องนั้นได้ยังไงครับ…”
ดวงตาของทนายรยูลุกวาบ
“ลูกชายของรยูจองมยองต้องไปตามรับใช้ไอ้พวกนักลงทุนแบบนั้น วันนั้นฉันไปที่นั่นเลยได้เห็นสภาพเลวทรามนั่นพอดี ภาวนาไม่ให้ลูกชายคลานลอดเป้าไอ้เศรษฐีใหม่ไร้การศึกษานั่น ภาพนั่นมันทำให้ฉันเดือดและอารมณ์เสียไม่หาย”
มือของจีฮวันที่วางอยู่บนเข่าสั่นเทา ทำไมต้องให้คนที่ไม่อยากให้เห็นมาเห็นสภาพนั้นด้วย
“แล้วทำยังไงครับ เลยยื่นมือมาจัดการกับท่านประธานปาร์คงั้นเหรอครับ”
“ฉันไม่ได้ทำอะไร แค่เปิดเผยสถานะของฉันกับความสัมพันธ์ของเรา ในสนามกอล์ฟ ไอ้ประธานนั่นดังเรื่องขี้เหนียว แล้วยังไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งที่หลบเลี่ยงภาษี แล้วยังเดินเชิดหน้าชูคอไปไหนมาไหน เรื่องก่อนหน้านั้น จะหนีภาษีจะทำชั่วอะไรยังไง ไม่เกี่ยวกับฉัน แต่อย่าบังอาจมาแตะลูกชายรยูจองมยอง มันจะต้องชดใช้อย่างสาสม”
สิ่งที่เคยสงสัยกระจ่างแล้ว ทั้งการขอโทษของประธานปาร์คและการได้กลับเข้าไปทำงาน เป็นฝีมือของพ่อทั้งหมด
“เป็นเพราะแกไม่ฟังที่ฉันพูด ดั้นด้นไปเรียนต่อกลับมารับใช้ไอ้พวกเศรษฐีเลวๆ พวกนี้น่ะเหรอ อุตส่าห์ตะโกนปาวๆ ว่าอยากเป็นตัวของตัวเอง อย่ามายุ่งกับชีวิต แล้วลุกพรวดพราดออกไปเหมือนจะตัดความสัมพันธ์ แต่ดันมาโดนไล่ออกจากบริษัทเพราะปัญหาเรื่องผู้หญิง”
“ถ้างั้นยื่นมือมายุ่งเรื่องนี้ทำไมครับ ลูกที่ทิ้งไปจะไปคลานลอดหว่างขาใคร ก็ไม่จำเป็นต้องมาสน”
ทนายรยูมองจีฮวันแวบหนึ่งแล้วดื่มเหล้าเข้าไปอึกหนึ่ง
“แกเองก็ลองมีลูก ถ้าลูกโดนคนภายนอกประณามในเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จะเข้าใจจิตใจของพ่อแม่ที่เจ็บแค้น”
จีฮวันแค่นยิ้ม
“ถ้าเป็นพ่อแม่ปกติก็คงจะอย่างนั้นครับ แต่ไม่ใช่ท่านผู้พิพากษา ท่านไม่ได้สงสารลูก แต่เพราะมันจะทำให้ท่านเสื่อมเสียเกียรติตัวเอง เพราะท่านเป็นคนที่เห็นเกียรติสำคัญกว่าครอบครัว”
ทนายรยูเปลี่ยนเรื่องทำเป็นไม่ได้ยิน
“ตอนนี้ฉันเตรียมโรงเรียนกฎหมายไว้แล้ว เดี๋ยวนี้มีคนเปลี่ยนอาชีพกันเยอะ หลายคนเปลี่ยนมาทางโรงเรียนกฎหมายหลังอายุสามสิบ ตอนนี้น่าจะได้สติแล้ว ว่าที่ผ่านมาทำอะไรแบบนั้นมันไร้ประโยชน์ เลิกใช้ชีวิตแบบสิ้นเปลือง”
จีฮวันทนฟังอีกไม่ไหวลุกพรวดเปิดประตูออกไป
ทั้งตามรับใช้พวกเศรษฐี, ไร้ประโยชน์, ใช้ชีวิตสิ้นเปลือง คำต่างๆ ที่พ่อพูดพล่อยๆ ออกมากลายเป็นมีดทิ่มแทงไปทั้งตัวของจีฮวัน ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด ไม่เลย
การเลือกและการตัดสินใจของจีฮวันกลายเป็นความน่าอับอาย ชีวิตที่พยายามอย่างเต็มที่กลายเป็นเรื่องเสียเวลา มันเป็นเช่นนั้นเสมอมาจนถึงตอนนี้
น้ำตาพรั่งพรูลงมาเหมือนคนบ้า
* * *
ลมเย็นๆ ที่ทะเลสาบพัดมากระทบใบหน้า เขานั่งอยู่บนม้านั่งที่เคยมานั่งดูทะเลสาบกับอึนคังเมื่อไม่กี่วันก่อนมาครั้งชั่วโมงแล้ว แต่มันไม่จริงเลย
มันไม่ได้เบาลงไปสักนิด ตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้รู้สึกสบายใจขึ้น เพราะมันแตกต่างกันตรงที่วันนั้นเขาอยู่กับอึนคัง แต่ตอนนี้เขาอยู่คนเดียว
ไม่รู้จะทำอย่างไรกับจิตใจที่ยับเยิน นึกถึงแต่อึนคัง เสียงเจื้อยแจ้ว เสียงหัวเราะลั่น แก้มยุ้ยๆ ริมฝีปากหวานๆ เส้นผมที่เคยแทรกผ่านระหว่างนิ้วของจีฮวัน…
จีฮวันลุกพรวดแล้วก็เริ่มออกวิ่ง ความจริงเขาจอดรถไว้ แต่ลืมไปเสียสนิท ได้แต่วิ่งออกมาจากสวนริมทะเลสาบ แค่วิ่งข้ามทางม้าลายไป ก็จะได้เจออึนคัง
จีฮวันวิ่งแล้วก็วิ่งอย่างไร้สติ อึดใจเดียวก็มาถึงคอนโด กดรหัสที่ประตูกลาง แล้ววิ่งขึ้นบันไดฉุกเฉินไป ชั้นหนึ่ง ชั้นสอง ชั้นสี่ ชั้นห้า ชั้นเจ็ด ชั้นเก้า…
เขาวิ่งขึ้นไดมาเหมือนคนบ้า เหงื่อหยดติ๋งๆ จนมาถึงชั้นสิบห้า เห็นเลข 1503 ถึงได้สติ
เรามาทำอะไรที่นี่ มาหาอึนคังแล้วจะได้อะไร บอกว่าอยากนอนด้วย? บอกว่าอยากมีอะไรด้วยแทบบ้า? บอกว่าอยากกอดเธอทั้งวัน?
บอกว่าได้แผลจากพ่อจอมเผด็จการมา อยากจะนอนกับเธอ? ขอให้เธอกอดปลอบความรู้สึกที่เหมือนขยะนี้?
“ไอ้บ้าเอ๊ย…”
จีฮวันเหนื่อยล้า ขาหมดแรงทรุดลงนั่งลงกับพื้น อย่างนี้ก็จะกลายเป็นว่าเขามองอึนคังเป็นแค่เครื่องระบายอารมณ์ทางเพศ ยิ่งกว่านั้น…
“คุณพีบี?”
จีฮวันเงยหน้าไปเจออึนคังยืนอยู่ เธอสวมกระโปรงยาวกับแจ็คเก็ตแบบที่เคยเห็นบ่อยๆ พันผ้าพันคอหลายชั้น
และจากูที่มีสายจูงคาดหน้าอกแลบลิ้นแฮ่กๆ ส่ายหางอย่างบ้าคลั่งมายังจีฮวัน
จีฮวันโซเซลุกขึ้นหลีกให้พ้นประตู แววตาที่มองมาดูเศร้ามาก จนอึนคังจุกในอก
“จากูเข้าไปก่อน”
อึนคังปิดประตูหลังจากส่งจากูที่ครางหงิงๆ เพราะอยากไปหาจีฮวันให้เข้าห้องไป
ทันทีที่ประตูปิดลง จีฮวันก็เซจะล้ม อึนคังรีบเข้าไปกอดเขาเอาไว้
บทที่ 49-1 เราเป็นอะไรกัน
อยากถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมหน้าซีดเหงื่อท่วมแบบนี้ แล้วนี่มาหาฉันเหรอ… แต่อึนคังไม่ถามอะไร ได้แต่กอดจีฮวันเอาไว้เงียบๆ
คนที่เคยเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่มีหลุดเสมอ เวลานี้นั่งคุดคู้ในสภาพยับเยินอยู่หน้าบ้าน อึนคังไม่ถามไม่ซักไซ้ และรู้สึกสงสาร
จีฮวันที่อยู่ในอ้อมกอดของอึนคังดูไร้เรี่ยวแรงจนเมื่อกี้แทบจะล้ม เธอลูบหลังที่ดูอ่อนแรงของเขา จากนั้นก็ลูบจากศีรษะลงมาคอ จากหลังลงมาเอวช้าๆ อย่างเอาใจใส่
ตอนเด็กๆ อึนคังท้องอืดบ่อยๆ ทุกครั้งแม่ก็จะทำให้แบบนี้ ให้เธอนอนตะแคงซ้าย แล้วลูบหลังไปเรื่อยๆ
จากคอมาหลัง จากหลังมาเอว ลูบมาจนถึงก้นกบ ลูบแล้วก็ลูบอีก ไออุ่นจากหลังแผ่กระจายมายังท้อง หน้าอก และต้นขาของอึนคัง
พลังความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั้งตัว ลิ้นปี่ที่เคยจุกแน่นก็คลายอึดอัดลง และอึนคังก็ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
ร่างกายของจีฮวันที่เคยชื้นเย็นก็อบอุ่นขึ้นทีละนิดด้วยมือจองอึนคังที่ช่วยลูบให้
จีฮวันถึงได้ได้สติ รับรู้ว่าตัวเองถูกโอบกอด และทิ้งแทบจะทั้งตัวไว้กับเธอ จีฮวันรีบผละออกจากอึนคัง
“ขอโทษครับ พรุ่งนี้จะติดต่อมานะครับ”
จีฮวันรีบพุ่งไปที่บันได ไม่อาจมองหน้าอึนคังตรงๆ ได้ อึนคังมองตามเบื้องหลังเขาและโพล่งออกไป
“ที่บ้านฉันมีของดีนะ! เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อคุณพีบีในตอนนี้”
จีฮวันหันกลับไป
“ไม่อยากลองแช่ในอ่างร้อนๆ ที่ผสมผงชาเขียวดูบ้างเหรอคะ ตอนที่เหงื่อออกจากหน้าผากและปลายแขนมันช่วยให้อารมณ์ดี จิบไวน์โบโฌเลส์ นูโวที่มีกลิ่นหอมเบาๆ สักแก้ว”
สีหน้าอึ้งๆ ของจีฮวันค่อยกลับมามีชีวิตชีวา การอาบน้ำที่มีไวน์โบโฌเลส์ นูโวกับผงอาบน้ำชาเขียว เพอร์เฟกต์ ถูกใจเขาเลย
แต่จะมีอ่างอาบน้ำในห้องน้ำคอนโดที่มีแต่ตู้อาบน้ำได้อย่างไรกัน…
“ฉันมีอ่างอาบน้ำค่ะ ทำจากไม้ฮิโนกิด้วย”
เจอดอกสุดท้ายเข้าไปจีฮวันถึงกับเข่าทรุด อ่างอาบน้ำไม้ฮิโนกิ เขาพ่ายแพ้ให้กับสิ่งนี้
จริงด้วย จีฮวันยืนอึ้งอยู่ที่ประตูห้องน้ำ จ้องมองอ่างไม้ฮิโนกิขนาดใหญ่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นไม้เตะจมูก
น้ำร้อนกำลังไหลทะลักออกมาจากในอ่าง ไอน้ำลอยฟุ้งดูงดงาม
“ให้ตายสิ”
เสียงอุทานชื่นชมออกมาจากปากของจีฮวันโดยอัตโนมัติ
“เจ๋งใช่ไหมคะ สุดยอดเลยใช่หรือเปล่า”
อึนคังที่จุ่มมือลงในอ่างวัดอุณหภูมิยกนิ้วโป้งด้วยสีหน้าปลื้มปริ่ม
“หนึ่งในสิ่งที่ฉันภูมิใจที่สุดในชีวิตก็เรื่องปรับปรุงห้องน้ำใหม่นี่แหละ จากูชอบเดินเล่นที่สวนริมทะเลสาบมาก ฉันเองก็ชอบมองวิวทะเลสาบที่มองลงไปจากห้อง เลยตัดสินใจย้ายมา แต่ที่นี่ไม่มีอ่างอาบน้ำ ฉันกลุ้มจากจนถึงวินาทีสุดท้าย ซื้อมาทำใหม่ก็ได้ แต่เพื่อนๆ ในเน็ตบอกกันเยอะว่าจะซื้อคอนโดมาทำใหม่ทำไม เลยยิ่งกลุ้มใจ บอกว่าฉันควรรู้อะไรอะไรเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์บ้าง แต่พ่อ…”
อึนคังหยุดพูดตาเบิกโต
“หืม? ทำไมคะ ขำอะไร”
“เอ่อ เปล่าครับ แค่…”
จีฮวันไม่รู้ว่าตัวเองกำลังหัวเราะ อาจจะเพราะชอบสภาพแบบนี้ ชอบบรรยากาศแบบนี้ มันสบายๆ และรู้สึกวางใจ
ฟังเสียงอึนคังเจื้อยแจ้วไม่หยุด ใจก็พลอยสงบ กล้ามเนื้อหัวใจที่เคยตึงเครียดก็ผ่อนคลายลง จนหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว
“แล้วไงต่อครับ คุณพ่อว่ายังไง”
“พ่อบอกว่ากังวลอะไรไร้สาระ ไม่ได้เอาไว้เก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ ถ้ามีบ้านที่ต้องการ จะอยู่โดยไม่ปรับแก้ให้ถูกใจงั้นเหรอ ฉันลองคิดๆ ดูแล้วก็จริง ดังนั้นก็เลยซื้ออย่างไว แล้วก็ได้อ่างอาบน้ำออกมา ปิ๊ง!”
“แล้วพอใจที่ได้อยู่ที่นี่ไหมครับ”
“มากค่ะ ได้เห็นวิวทะเลสาบสวยๆ ออกไปวิ่งหรือไปเดินเล่นเช้าใจได้ตามใจ จากูเองก็ชอบมาก เพื่อนบ้านชั้นบนชั้นล่างก็ดี คาเฟ่ที่ชั้นหนึ่งบรรยากาศก็ดีมาก พวกคุณลุงรปภ.ใจดี ดีหมดทุกอย่างเลย”
จีฮวันนึกถึงรปภ.ที่เข้าข้างอึนคังไม่ลืมหูลืมตาพลางยิ้ม ดูเหมือนเขาจะรู้แล้วว่าทำไมรปภ.ถึงชอบและเข้าข้างอึนคัง และก็พอสันนิษฐานได้ว่าทำไมเธอถึงมีชื่อเสียงที่ดีในหมู่เพื่อนบ้าน
นั่นก็เพราะอึนคังเป็นคนดี เพราะเธอใจดีและทำดีต่อคนอื่นอย่างจริงใจก่อน
“คุณพีบีเห็นว่าไงคะ ที่ฉันทำโอเคหรือเปล่า”
“ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ทำดีแล้วครับ มีแค่ใจกลางโซลเท่านั้นที่ผมไม่แนะนำการซื้อขายคอนโด ถ้ามุ่งหวังในการอยู่อาศัยจริง การปรับแต่งบ้านให้ตรงความต้องการของตัวเอง จะดีต่อสุขภาพจิตที่สุด คุณพ่อพูดถูกต้องแล้วครับ”
“มาลองดูไหมคะว่าน้ำพอดีไหม”