รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - บทที่ 64-2 คืนมรสุมคละคลุ้งกลิ่นคาวเลือด
วันนี้ก็เช่นกัน หลังจากมื้อกลางวัน ราฮีก็ออกมาทำงานที่บ้านพ่อแม่สามี หลังจากบรีฟข่าวสำคัญในและนอกประเทศให้แก่คุณนายจางแล้วก็รับประทานอาหารเย็นกันสองคน ประธานปาร์คออกไปตีกอล์ฟตั้งแต่เช้ายังไม่กลับ ซองบอมก็ไม่ติดต่อมา
พอได้มาเจอกันบ่อยๆ เข้าก็สนิทสนมคุ้นเคย คุณนายจางอัธยาศัยดีและมีท่าทางอ่อนโยนกับเธอมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะราฮีทำให้ได้รับตำแหน่ง ‘ท่านประธาน’ ที่ไม่เคยมีโอกาส
‘นี่ ตัวแทนชเว มาดูนี่หน่อยสิ’
คุณนายจางที่รับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้วและกำลังดื่มชาเข้าไปในห้องพักราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ สักพักก็ออกมาพร้อมกับกล่องใบใหญ่
คุณนายจางเรียกราฮีว่าตัวแทนชเวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ราฮีเองก็ปฏิบัติต่อเธออย่างนอบน้อม เรียกคุณนายจางว่า ‘ท่านประธาน’ เวลาพบปะคนอื่นข้างนอก
เมื่อเปิดกล่อง เพชรพลอยก็สะท้อนแสงส่องประกายวิบวับ ข้างในเป็นเซ็ตสร้อยคอและต่างหูเพชร เพชรเม็ดใหญ่และดีไซน์หรูหราตามรสนิยมของคุณนายจาง
‘นี่ดูเป็นไง’
‘อุ๊ย สวยจังค่ะคุณแม่’
‘งั้นเหรอ ดีไซน์มันไม่ดูโบราณไปหน่อยเหรอ สั่งทำมาหลายปีแล้ว’
‘เพชรที่ถูกเจียระไน ไม่ทำให้รู้สึกว่าโบราณหรอกจริงไหมคะ’
แน่นอนว่าโกหก ในสายตาราฮีมันทั้งเชยและใหญ่เกินไป เพชรเป็นอัญมณีที่หรูหราและเปล่งประกาย ดีไซน์ควรจะเรียบๆ ไม่เยอะเกินไปจะดีที่สุด
‘ใส่ตอนงานเลี้ยงก่อตั้งมูลนิธิดีไหม’
‘แน่นอนค่ะ ดูสง่างามเหมาะสมมาก’
คุณนายจางครุ่นคิดอยู่สักครู่ ก็ยื่นกล่องให้แก่ราฮี
‘เธอเอาไปใส่สิ’
‘คะ?’
‘เธอเอาไปเถอะ เพชรมันเหมาะกับสาวๆ อย่างเธอมากกว่า’
‘เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ คุณแม่’
ราฮีแทบกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ น่าตกใจมาก ของขวัญที่ให้เธอตอนแต่งงาน คุณนายจางยังวางให้ด้วยความเสียดาย หลังจากนั้นก็ไม่เคยบอกว่าจะให้อะไรอีก
‘รีบเอาไปซะก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ ฉันแอบพ่อเธอสั่งทำ ยังไงก็เอาไปใส่ไปไหนมาไหนไม่ได้อยู่แล้ว เธอเอาไปใส่ซะ ยังสาวยังสวยอย่าแต่งให้มันเรียบนัก แต่งตัวซะบ้าง’
ราฮีแอบซาบซึ้ง ท่าทางของเธอที่มักจะแต่งตัวเรียบๆ ไร้สีสันอาจจะดูเรียบง่ายในสายตาของคุณนายจาง ถ้ารู้ว่าชุดเรียบๆ นั้นราคาเท่าไหร่ คงจะเอาคำพูดแบบนั้นกลับคืนไปแน่
‘ขะ ขอบคุณนะคะคุณแม่ หนูเสียดาย จะเก็บไว้ใช้อย่างดีเลยนะคะ’
‘เสียดายอะไร ใช้ไปเถอะไม่ต้องเสียดาย ถ้ามัวแต่เสียดายมันจะกลายเป็นขี้ซะ มะรืนนี้ฉันก็จะเจ็ดสิบอยู่แล้ว มีชีวิตเหลืออีกไม่เท่าไหร่ คิดแล้วก็ได้แต่เสียใจ มัวแต่เสียดาย ตอนตายก็เอาใส่โลงไปไม่ได้’
‘ค่ะ คุณแม่ พอเข้ารับตำแหน่งท่านประธานแล้ว อย่าไปกลัวคุณพ่อนะคะ ต้องมีความสุขให้มากๆ คุณแม่มีคุณสมบัติพอ คุณพ่อไม่ได้สร้างบูกยองขึ้นมาคนเดียว ถ้าไม่มีความลำบากและเสียสละของคุณแม่ ก็ไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด คุณพ่อเองก็ควรต้องรู้เรื่องนั้น’
สีหน้าของคุณนายจางซาบซึ้งไม่น้อยกับคำพูดของราฮี
‘ที่ผ่านมา คงเสียใจเพราะฉันมากเลยสินะ’
‘คะ? เอ่อ ไม่ใช่นะคะ’
‘ฉันไม่รู้ว่าลูกชายมีปัญหา คิดแต่ไปกดดันเธอว่ามีลูกไม่ได้…’
สีหน้าของคุณนายจางขอโทษจากใจจริง ทำให้ความเศร้าที่พอกพูนจากปัญหาเรื่องลูกคลายลงเล็กน้อย
หลังจากแต่งงาน ราฮีไม่อาจเอาชนะการรบเร้าของประธานปาร์คที่อยากมีหลานและพยายามทำทุกอย่างแล้ว
ทั้งลองกินยาบำรุงที่เขาว่าดี กินยาสมุนไพรวิเศษที่ทำให้ร่างกายอบอุ่น ใส่ชุดชั้นในที่เป็นเครื่องรางที่คุณนายจางไปเอามาให้จากหมอดูมีฝีมือ
ถึงกระนั้น แต่งงานผ่านมาหนึ่งปี ก็ยังไม่มีข่าวคราวเรื่องลูก ราฮีได้แต่งกล้ำกลืนในใจเพราะถูกพร่ำย้ำว่าเป็นสะใภ้ที่ร่างกายอ่อนแอ แต่ไม่ว่าใครมองมาก็จะเห็นว่าปัญหานั้นมาจากซองบอม
‘ความจริงหนูก็เป็นห่วงเรื่องนั้น ทั้งเหล้า บุหรี่ เนื้อแล้วก็อาหารสำเร็จรูปมันอันตรายจริงๆ แต่คุณซองบอมไม่ฟังคำพูดหนูเลย ทั้งเกลี้ยกล่อมก็แล้ว อ้อนวอนก็แล้ว แต่ก็ไม่สนใจ หนูไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ’
ราฮีถอนหายใจแรง
‘ตายๆ ฉันละกลุ้มเพราะลูกชายจริงๆ จะทำยังไงดีนะ หืม? แต่ต่อให้จะดีจะร้ายยังไง เขาก็เป็นสามีเธอ’
‘คะ คุณนายคะ’
แม่บ้านวัยหกสิบกว่าที่ทำงานดูแลทุกอย่างภายในบ้านหน้าซีดวิ่งเข้ามาในห้องรับแขก
‘มีอะไร’
‘นะ ในข่าวตอนนี้ คุณหนู…’
‘ซองบอมเหรอ? ซองบอมทำไม’
คุณนายจางทำหน้าสงสัย แต่ราฮีใจหล่นตุ้บไปอยู่ที่ตาตุ่ม รู้สึกเย็นวาบไปทั้งท้ายทอย
ซองบอมไปทำงานที่บาร์ แม้แต่กับภรรยา เขายังมีนิสัยเงื้อมือได้อย่างไม่ลังเล แล้วกับพวกผู้หญิงร้านเหล้าจะขนาดไหน
ใบหน้าของคุณนายจางที่ดูข่าวของซองบอมซีดเผือดไร้สีเลือด
‘ทะ ทำยังไงดี ซะ ซองบอมลูกแม่’
‘มะ ไม่เป็นไรนะคะคุณแม่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ’
ราฮีประคองคุณนายจางที่จะล้มเอาไว้ เบื้องหน้ามืดสนิท แต่ก็ยังเชื่อมั่นในอำนาจของประธานปาร์คและบูกยอง
* * *
สถานการณ์ถูกแก้ไขด้วยความเร็วแสงตามความคิดของราฮี ด้วยการเข้าไปจัดการอย่างรวดเร็วของทนายของบูกยองกรุ๊ป ซองบอมเลยถูกปล่อยตัว เนื่องจาก ‘เป็นผู้กระทำผิดครั้งแรก ตกลงกับผู้เสียหายเป็นที่พึงพอใจและสำนึกในความผิดด้วยใจจริง’
ไม่รู้ว่าจ่ายให้ผู้หญิงที่โดนล่วงละเมิดทางเพศกับพวกผู้ชายที่โดนทำร้ายไปเท่าไหร่ แต่อำนาจเงินก็ช่วยให้ปัญหาคลี่คลายได้ในชั่วพริบตา
“มีเงินนี่ดีจริงๆ”
ราฮีเผลอพึมพำขณะมองกองทัพนักข่าวที่มาออกันอยู่หน้าสถานีตำรวจ หนึ่งในนักข่าวคนหนึ่งหันมามอง ราฮีรีบก้มหน้าทันที
ช่างน่าอับอายขายขี้หน้า ถึงแม้คนทั้งโลกจะไม่รู้ความจริงว่าเธอคือภรรยาของซองบอม แต่ราฮีก็ไม่ควรถูกกล้องถ่ายเพราะสามีถูกจับมาสถานีตำรวจเนื่องจากทำร้ายร่างกายคนอื่น
ไม่อาจทนให้เห็นสภาพสุดแย่นี้ได้ ทั้งกับตัวเอง จีฮวัน และผู้คนที่ในภาพจำว่าเธอคือชเวราฮี ผู้ประกาศข่าวผู้เด็ดเดี่ยว สวย ฉลาดและงามสง่า
เสียงโทรศัพท์ของคนขับรถดังขึ้น
“ครับ ตอนนี้กำลังรอเวลาอยู่ครับ ครับ เข้าใจแล้วครับ จะไปจอดรถที่ประตูหน้านะครับ”
คนขับรถวางสายแล้วหันมา
“คุณทนายโทรมาครับ บอกให้ออกไปทางประตูหน้า”
“ทำไมให้ไปประตูหน้า…เข้าใจแล้วค่ะ ออกรถเถอะค่ะ”
รถเคลื่อนไปทางประตูหน้าช้าๆ
แชะ! ที่หน้าสถานีแสงแฟลชจากกล้องนับไม่ถ้วนสว่างวาบเหมือนตอนกลางวัน ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับที่ซองบอมและทนายเดินออกมา
ซองบอมก้มหน้านิ่ง ภายใต้แสงแฟลชรัวๆ เขายิ่งดูชั่วช้าและเหมือนหมูโง่ๆ ตัวหนึ่ง ในสายตาของราฮีที่เป็นภรรยายังขนาดนี้ แล้วกับคนอื่นจะแย่ขนาดไหน
ต่อหน้าไมค์หลายสิบตัวที่ยื่นมาตรงหน้า ซองบอมยิ่งก้มหน้าและพูดน้อย ทำทีเป็นขอโทษ น้ำตาคลอ และเช็ดขอบตาบ้าง
น่าสมเพชที่ซองบอมที่ก้มหัวน้ำตาคลอดูเป็นหมูกระจอกๆ ไม่ใช่แค่หมูที่ชั่วช้า การที่เลือกที่จะเดินออกมาทางประตูหน้า ไม่หนีไปทางประตูหลังหรือประตูข้าง น่าจะเป็นแผนการของทนาย
ทันทีที่รถมาจอก ทนายก็เปิดประตูให้ซองบอมเข้าไปนั่งยังเบาะหลัง ราฮีเขยิบไปข้างในสุด ก้มหน้าหลบแสงแฟลชจากกล้อง
คนขับรถออกรถอย่างรวดเร็ว หลบนักข่าวที่วิ่งเข้ามา อึดใจเดียวก็ออกมาจากสถานีตำรวจได้สำเร็จ ทันทีที่พ้นจากสถานีตำรวจ ซองยอมที่เคยก้มหน้าเหมือนนักโทษก็ยืดตัวพิงเบาะ คลายเนกไทอย่างลวกๆ
“ไอ้พวกเวร ฉันทำอะไร ทำยังกับฉันเป็นนักโทษ แม่งเอ๊ย…”
ไม่ใช่ทำยังกับเป็นนักโทษ แต่เป็นนักโทษเลยเถอะ ราฮีมองซองบอมด้วยสายตาเรียบเฉยที่สุด พยายามจะไม่ใส่อารมณ์ดูถูกเข้าไป เมินสภาพผมยุ่ง หน้ามันเลื่อมไปด้วยเหงื่อ เสื้อเชิ้ตที่ปริจนเห็นพุง ขมวดคิ้วโฟกัสอยู่แต่กับรอยเลือดที่กระเด็นติดอยู่บนเสื้อเชิ้ตสีขาว
“โอ๊ย ขายขี้หน้าชะมัด ไอ้ทนายก็จะตัดแม่งทิ้งซะ”
“ไปซัมซองดงค่ะ”
“ไปฮันนัมดง”
คนขับรถมองผ่านกระจกมองหลังด้วยสีหน้าละล้าละลัง
“เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว จะไปทำไม กลับบ้าน!”
“จะให้ไปไหนครับ”
คนขับรถที่ลังเลถามเสียงอ่อย ครั้งนี้ราฮีตอบอย่างหนักแน่น
“ไปซัมซองดงค่ะ”
ความบ้าอาละวาดของซองบอมเป็นอุปสรรคเพียงชั่วคราว แต่ความโกรธของประธานปาร์คนี่สิไม่อาจประมาณได้ ปัญหาก็คือ ซองบอมยังไม่รู้ถึงความร้ายแรงของสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป
ก่อนถึงสถานีตำรวจ ราฮีได้รับโทรศัพท์จากประธานปาร์ค น้ำเสียงของเขาสงบนิ่งและเยือกยะเยือกอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยสักครั้ง
‘พามาที่นี่ ไม่ต้องพาไปที่อื่น ถ้าไม่พามันมา ราฮี เธอนั่นแหละที่จะตายแทน’
ท้ายทอยของราฮีเย็นวาบ ตัวสั่นกับลางสังหรณ์กับลมมรณะที่พัดมา