รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - บทที่ 74-2 คุณจีฮวัน เรามาเริ่มต้นกันใหม่เถอะ
- Home
- รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ
- บทที่ 74-2 คุณจีฮวัน เรามาเริ่มต้นกันใหม่เถอะ
ราฮีวางเอกสารสองชุดลงตรงหน้าประธารปาร์คกับคุณนายจาง
พอเห็นไม่ได้มีแค่ภาษาเกาหลี ประธานปาร์คที่แทบจะเรียกว่าเป็นคนโง่ ก็โยนกระดาษปึกหนาทิ้งอย่างไม่สนใจ
คุณนายจางที่จบแค่ม.ต้น และไม่ได้ฉลาดไปกว่าประธานปาร์คทำเป็นอ่านอย่างตั้งใจ แต่มีทั้งภาษาอังกฤษและตัวอักษรจีน ไหนจะตัวเลขและกราฟ ตาก็เหมือนจะวิงเวียนขึ้นมาทันที
“นายเองก็จบม.โซลงั้นใช่ไหม”
“ครับ ผมจบคณะบริหารธุรกิจ”
“งั้นก็คงจะได้เจอตัวแทนชเว”
ราฮีตกใจกับคำพูดที่อยู่ๆ ก็โยนมาของประธานปาร์ค โชคดีที่ไม่ได้แสดงความรู้สึกออกมา
“ปีเราห่างกันเกินไปค่ะ เลยไม่เคยเจอกันที่มหาลัย นักศึกษาก็เยอะมากด้วย”
“เอกสารแผนการอะไรไม่ต้องเอา อย่าทำอะไรเยิ่นเย้อ จะจัดการอะไรเลือกดึงมาเสนอภายในห้านาทีพอ พูดมากไร้สาระเสียเวลา อ๋อ ที่สำคัญที่สุดคือการเงินของมูลนิธิ สรุปอันนี้มา”
จีฮวันไม่ตื่นตระหนกกับคำร้องขอกะทันหัน และเริ่มอธิบายอย่างสงบเยือกเย็น
“ผมคิดว่าจะไม่ใช้ระบบองค์กรมูลนิธิที่ทีมการเงินของบูกยองกรุ๊ปทำกันมาครับ เพราะระบบองค์กรของมูลนิธิยิ่งง่ายยิ่งดี หลักการทำงานของบริษัทควรแสดงการเข้าออกของเงินกองทุนอย่างเปิดเผย ต้องเรียบง่ายและถูกต้องแม่นยำ หัวใจของมูลนิธิเพื่อสาธารณประโยชน์ ข้อแรกคือความโปร่งใส ข้อสองก็ยังคงเป็นความโปร่งใส จุดประสงค์ของการเปิดเผยข้อมูล ก็เพื่อให้คนธรรมดาที่ไม่รู้เรื่องบัญชีของมูลนิธิเข้าใจได้ง่าย จึงควรทำให้ง่ายและรวบรัด…”
“จ้องไม่วางตาเลยนะ!”
จีฮวันหุบปากตกใจเสียงตวาดที่ไม่ได้คาดหมายของประธานปาร์ค
“ชอบไอ้หนุ่มหน้าขาวนี่นักหรือไง ถึงได้จ้องไม่วางตา หา?”
เป้าหมายที่ประธานปาร์คตวาดใส่คือคุณนายจาง สติของเธอมัวแต่เคลิ้มลอยไปอยู่กับจีฮวันที่กำลังสรุปงาน จนไปจี้จุดต่อมพินิจพิเคราะห์ของประธานปาร์คเข้า
คุณนายจางหน้าแดงจากความอับอายและการดูถูกที่โดนว่าต่อหน้าพนักงานใต้บังคับบัญชาเป็นครั้งแรกที่ที่บริษัทไม่ใช่ที่บ้าน แล้วก็ไม่ได้มีแค่สะใภ้ ราฮีลอบสังเกตจีฮวัน เหงื่อเย็นๆ ไหลลงมา
“อายุก็มากแล้ว ยังทำตัวเหมือนพวกผู้หญิงบ้าคลั่งผู้ชายอยู่อีก? แค่…”
“ท่านประธานคะ!”
ราฮีรีบเข้าห้าม เพราะถ้าปล่อยไว้ไม่รู้ว่าคำหยาบคายจะลามไปถึงไหน ได้โปรด อย่าให้มีเรื่องอะไรเลย เธอไม่สามารถทนเห็นพฤติกรรมที่น่าอายแบบนั้นได้ แถมยังเป็นต่อหน้าจีฮวันไม่ใช่คนอื่น
“พวกเราขออนุญาตไปก่อนได้ไหมคะ พอดีต้องไปตรวจงานรีโนเวทที่ศูนย์มาโพ แล้วก็ต้องไปประชุมต่อด้วยค่ะ”
ความจริงเข้าไปที่นั่นแล้วเมื่อวาน
ได้ฟังการปรามที่ไม่ใช่การปรามตรงๆ ของสะใภ้ ก็รู้ว่าตัวเองพูดแรงเกินไปหน่อย ประธานปาร์คเหลือบมองจีฮวันแล้วอนุญาต
“ได้ ไม่ต้องมัวพูดพล่ามอยู่ที่นี่ เวลาเป็นเงินเป็นทอง รีบไปทำงานซะ นายรู้นะว่ารับเงินจากฉัน ถึงจะทำแค่ชั่วคราว แต่อย่าคิดทำครึ่งๆ กลางๆ แล้วสะบัดหนีไป”
จีฮวันได้รับสายตาเป็นวาววาบจากประธานปาร์คแล้วตอบกลับ
“ผมจะจำเอาไว้ครับ”
“งั้นไปนะคะ”
ราฮีลุกขึ้น จีฮวันก็ลุกยืนตาม และพากันออกมาจากห้องท่านประธาน
ระหว่างที่ขึ้นลิฟต์จากห้องท่านประธานที่ชั้นยี่สิบเจ็ดลงมายังที่จอดรถ ระหว่างทั้งคู่มีแต่ความเงียบที่น่าอึดอัด
จนมาถึงชั้นสอง ราฮีจึงหันไปเช็คชั้นทันทีและเป็นฝ่ายถามจีฮวัน
“หัวหน้าทีม จอดรถไว้ชั้นใต้ดินชั้นไหนคะ”
“เดินทางมาทำงานวันแรกเหมือนรถจะติดมาก ผมก็เลยมารถไฟใต้ดินครับ”
“งั้นฉันไปส่งนะคะ”
“ไม่ต้องครับ”
“ฉันมีคนขับรถค่ะ จะได้คุยเรื่องงานในรถด้วย ฉันอยากฟังสถานการณ์การเตรียมการ กลับด้วยกันนะคะ”
ราฮีพูดจาสุภาพ แต่กลับรู้สึกถึงความสูงศักดิ์ในฐานะตัวแทนที่ทำให้ปฏิเสธได้ลำบาก
“เข้าใจแล้วครับ”
ทันทีที่ลงไปถึงที่จอดรถและเดินไปยังรถ คนขับคิมก็รีบลงจากรถมาเปิดประตูให้
“ช่วยไปส่งหัวหน้าทีมที่บ้านก่อนนะคะ”
“ครับ ทราบแล้วครับ”
ราฮีกำลังจะขึ้นรถแล้วก็แสร้งทำเป็นหาของ
“อุ๊ย ไม่มีสติเลยฉัน คนขับคิมคะ ฉันลืมของไว้ที่ห้องเลขาท่านประธาน ช่วยไปเอามาให้หน่อยได้ไหมคะ”
“รับทราบครับ”
“ตอนกลับมาช่วยแวะซื้อเครื่องดื่มมาให้หน่อยนะคะ หัวหน้าทีมจะดื่มอะไรคะ”
“ผมไม่เป็นไรครับ”
“ไม่เอากาแฟ ชาโอเคนะคะ ของฉันขอกาแฟลาเต้ หัวหน้าทีมเอาเป็นชาคาโมมายล์ แล้วก็ซื้อที่คนขับคิมอยากดื่มมาด้วยก็ได้นะคะ”
ราฮีหยิบบัตรเครดิตออกจากกระเป๋ายื่นให้คนขับคิม
“ถ้าจะไปคาเฟ่ที่คุณชอบ ต้องใช้เวลาหน่อย ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ”
“ค่ะ ค่อยๆ ไปไม่ต้องรีบนะคะ หัวหน้าทีม เข้าไปคอยในรถกันเถอะค่ะ”
“ครับ”
จีฮวันขึ้นไปนั่งด้านหลังคนขับ
หลังจากเห็นว่าคนขับคิมเข้าไปในตึกเรียบร้อยแล้ว ราฮีก็รีบเปิดประตูฝั่งคนขับแล้วปิดสวิตช์กล่องดำ
จากนั้นก็เดินกลับมาขึ้นรถที่ที่นั่งด้านหลัง แล้วหันมายิ้มเพลียๆ ให้จีฮวันที่ทำหน้าสงสัย
“สงสัยว่าฉันทำอะไรงั้นเหรอ ผู้ชายคนนั้นไม่ได้เป็นแค่คนขับของฉัน แต่ยังเป็นสปายคอยตรวจสอบฉันอีก”
“เข้าใจครับ”
ถึงไม่บอก แต่ก็เห็นชีวิตราฮีได้ทะลุปรุโปร่ง จีฮวันได้แต่สงสาร
“เมื่อกี้ตกใจมากเลยใช่ไหม ไม่รู้ว่าพ่อสามีจะทำแบบนั้นต่อหน้าคุณจีฮวัน ขอโทษนะ”
“เรื่องนั้น ความจริงอาจเพราะผมทำไม่ถูกใจลูกค้า”
จีฮวันยิ้มพลางยักไหล่ ความจริง เขาพอเดาได้อยู่ก่อนบ้างแล้วว่าประธานปาร์คผู้บัญชาการบูกยองเป็นคนแบบไหน
“ต้องมาเห็นสภาพที่ไม่อยากให้เห็นจริงๆ พ่อแม่สามีฉัน เป็นคนวางตัวดีๆ ไม่ได้เลย พ่อสามีทั้งหยาบคาย ไม่มีความรู้ ใช้กำลังรุนแรง มีแค่เงินเยอะ ไม่ต่างอะไรกับพวกแก๊งอันธพาล ส่วนแม่สามี ไม่มีความรู้ เอาแต่ได้ หยาบคาย แต่ก็ยังใจดีกว่าพ่อสามี ไม่รู้เลยว่ามาตรฐานของคำว่าใจดีอยู่ตรงไหน”
ราฮียิ้มบางๆ รอยยิ้มนั้นเหมือนรอยยิ้มของตุ๊กตามากกว่าสิ่งมีชีวิต ใจของจีฮวันรู้สึกมืดมัวไปด้วย
“และผลงานจากความล้มเหลวของวิวัฒนาการในการคัดเลือกเอายีนด้อยของทั้งคู่มาก็คือสามีฉัน เขาทั้งโง่ ต่ำช้า หยาบคาย เอาแต่ได้ ใช้กำลัง กรรมการปาร์คซองบอมผู้โด่งดัง”
“พอเถอะราฮี”
“คุณจีฮวันก็เห็นข่าวไม่ใช่เหรอคะ”
“อืม เห็นและเข้าใจ เพราะงั้น…”
“ฉันเองก็เจอแบบนั้นมาตลอด”
จีฮวันพูดไม่ออก หายใจติดขัดเหมือนมีใครมาบีบคอ
“โดนครั้งแรกวันครบรอบแต่งงานสองปี หลังจากนั้น ก็โดนปีละสามสี่ครั้ง เหมือนงานเลี้ยงความกราดเกรี้ยว จำได้ไหม ตอนที่เราเจอกันที่ธนาคารที่ฮันนัมดง ไม่รอดสายตาคมกริบของคุณจีฮวันไปได้จริงๆ ตอนนั้นฉันไม่ได้ปวดฟันหรอก เช้าวันนั้นฉันโดนตบคว่ำมา สามีของฉัน คุณเห็นข่าวก็น่าจะรู้ หนักเกือบร้อยโล เจอมือคนตัวขนาดนั้นเข้าไป ไม่มีทางที่จะไม่เหลือรอย”
เห็นท่าทางเฉยเมยเหมือนเล่าเรื่องของคนอื่นแล้วใจของจีฮวันก็ยิ่งเจ็บ
“แล้วทำไม…”
อัดอั้นในใจจนพูดออกมาไม่ได้ง่ายๆ
“ทำไมถึงตบฉันน่ะเหรอ สาเหตุมีอยู่แค่สองอย่าง คือฉันไม่ยอมไม่สนใจหรือไม่ยอมนอนด้วย พ่อสามีก็ทำร้ายแม่สามี ต้องเห็นภาพนั้นมาตั้งแต่จำความได้ การตบตีภรรยาเลยเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน เหมือนกินข้าว หลับนอน ไปทำงาน ถามว่าทำไมต้องทนอยู่ให้ตบตี ถ้างั้นฉันต้องทำยังไง หย่าได้ไหม ถ้าหย่าแล้วกลับไป จะยอมรับฉันได้ไหม”
สีหน้าของจีฮวันเคร่งเครียดขึ้น
“ถึงจะแค่ล้อเล่น ก็อย่าพูดแบบนั้น”
“ก็ได้ ฉันคงจะไร้ยางอายเกินไป เป็นหญิงหม้ายแต่กลับอยากได้ชายโสดเพียบพร้อม…”
“ไม่ได้หมายความแบบนั้น”
“ฉันรู้ ถ้าฉันหย่าตอนนี้ ฉันจะไม่เหลืออะไรเลย จะกลับไปอ่านข่าวก็ไม่ได้ อย่างดีที่สุดก็คงหางานในเคเบิ้ลท้องถิ่นได้สักที่ จะบอกว่าฉันดูถูกเคเบิ้ลท้องถิ่นใช่ไหมคะ อือ ฉันดูถูก ก็ฉันเคยเป็นผู้ประกาศข่าวหลักทางสถานีโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียงมาก่อนนี่ ฉันไม่อยากหางานทำในที่ที่มีคำตราหน้าว่าฉันตกต่ำลง”
สีหน้าของราฮีแสดงความเคียดแค้นขึ้นทีละนิด
“บ้านแพงที่สุดในฮันนัมดง มีรถประจำตำแหน่งพร้อมคนขับ เป็นสมาชิกวีไอพีคลินิกความงามกับห้างสรรพสินค้า ถึงไม่ทำงานก็มีเงินเข้าบัญชีธนาคาร… ฉันจะทิ้งความสุขสบายที่มีมาตลอดสี่ปีที่ผ่านมาเหมือนเงาตามตัวได้ไหม ก็คงจะต้องบอกว่าไม่ได้ วันแรกที่โดน หลังจากที่ตัดสินใจว่าจะหย่า รู้ไหมว่าความคิดอะไรที่มันตามติดฉัน ถ้าหย่าแล้ว ฉันจะได้ค่าปลอบขวัญเท่าไหร่ ฉันกลายเป็นคนแบบนั้นไปแล้ว”
ราฮีกัดริมฝีปาก
“แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันอยากเปลี่ยนกับความสุขสบายทั้งหมดนั่น ก็คือคุณจีฮวัน”
นัยน์ตาของจีฮวันตกใจจนสั่นไหว
“ถ้าคุณจีฮวันยอมรับฉัน ฉันก็อยากทิ้งทุกอย่างกลับไปหา อยากกลับไปรักกับคุณจีฮวัน อยากได้รับความรัก อยากกลับไปสมัยที่มีความสุขกับคุณจีฮวันอีกครั้ง สร้างครอบครัวที่อบอุ่น ใช้ชีวิตธรรมดา ฉันจะคอยดูแลคุณจีฮวัน และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ฉันอยากคลอดลูกของคุณจีฮวัน”
น้ำตาไหลออกมาจากตาของราฮี
จีฮวันพูดอะไรไม่ออกที่ได้แต่อึ้งมองน้ำตาของราฮี เค้นคำพูดอย่างยากเย็น
“ขอโทษ ผม ทำแบบนั้นไม่ได้”
“ถ้าเป็นเพราะรู้สึกผิดต่อฉัน ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่ายกโทษให้หมดแล้ว ฉันยกโทษให้คุณจีฮวันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ฉันรู้ว่าคุณจีฮวันจะไม่ทำอีกเป็นครั้งที่สอง เพราะฉะนั้น…”
“เปล่า ที่ผมยอมรับคุณกลับมาไม่ได้ ไม่ใช่เพราะผมรู้สึกผิดกับเหตุการณ์นั้น ผมตั้งใจปฏิเสธ เพราะผม มีคนที่ชอบแล้ว”
“โกหก ผู้หญิงที่บอกว่าจะแต่งงานด้วยไม่ใช่คนที่จะแต่งงานด้วยจริงๆ ซะหน่อย ฉันรู้หมดแล้ว”
“ใช่ เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องโกหก แต่ผมรักคนนั้นจริงๆ ผมรักเธอจากใจจริง”
ราฮีจ้องจีฮวันด้วยดวงตาที่เปี่ยมด้วยน้ำตา ราวกับจะมองว่าเขาพูดจริงหรือไม่
“เรื่องวันนี้จะถือว่าไม่เคยได้ยิน…”
จีฮวันกำลังจะพูดต่อ เสียงเคาะประตูรถก็ดังขึ้นเสียก่อน ราฮีตกใจรีบเช็ดน้ำตากลับไปนั่งท่าเดิม
ประตูรถเปิดออก คนขับคิมส่งถุงกระดาษให้ราฮี
“นี่ครับคุณผู้หญิง”
“ขะ ขอบคุณค่ะ”
“ถ้างั้น ผมไปซื้อกาแฟนะครับ”
“ผมไปห้องน้ำหน่อย”
ราฮีถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางมองจีฮวันที่ลงจากรถไปพร้อมกับคนขับรถคิม
“โกหก ชอบผู้หญิงขี้เหร่แต่งตัวซอมซ่อแบบนั้นเนี่ยนะ รักจากใจจริงงั้นเหรอ ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ”
ตาราฮีเป็นประกายวาบ ก่อนจะเริ่มค้นกระเป๋าของจีฮวัน
“ยอมรับไม่ได้ นิสัยอย่างรยูจีฮวัน ถ้าชอบผู้หญิงคนนั้นจริงๆ ต้องมีหลักฐาน อย่างรูปถ่ายหรือไดอารี่ที่เขียนถึงผู้หญิงคนนั้น”
ราฮีหยิบไดอารี่ของจีฮวันออกมาพลิกดูอย่างรีบเร่ง พลิกไปพลางก็คอยดูนอกหน้าต่างไปพลางว่ามีใครมาหรือไม่ สายตาของราฮีเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง
“นี่มันอะไร”
หยิบกระดาษที่พับสอดอยู่ในไดอารี่ออกมากางดู ดวงตาของเธอก็เบิกโตด้วยความตกใจ ทันใดนั้นจากความตกใจก็แปรเปลี่ยนเป็นความปิติยินดี