รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน - ตอนที่ 11
บทที่ 11 ลุงท้องโต(2)
โคมไฟสีแดงในบ้านตระกูลหลินสว่างไสว หลินเวยมี่สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วผลักประตูเปิดออก มองไปที่คนในห้องรับแขก ที่มาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ทำให้เธอต้องขมวดคิ้วขึ้น
“พ่อ แม่เลี้ยง น้องสาว” เธอแสดงสีหน้าไร้อารมณ์ ยิ่งกว่าคนไม่รู้จักกันทักทาย
น้าหรานทำเสียงเชอะใส่เธออย่างเย็นชา แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเธอ
หลินซินหยานรีบโบกมือให้เธอ “พี่สาว มานั่งที่นี่”
“ไม่ละ ฉันจะขึ้นไปข้างบน” เธอหัวเราะให้จากระยะไกล มองดูครอบครัวที่มีความสุขของทั้งสามคน แล้วเธอล่ะเป็นอะไร? แต่ยังไงเธอก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว
บ้านหลังนี้ ก็เป็นเหมือนกับกรงขังเธอแค่นั้น ถ้าเกิดว่าไม่ต้องกลับมาแล้วละก็ เธอหวังว่าตลอดทั้งชีวิตไม่ต้องกลับมาที่นี่อีกแล้ว
“เวยมี่ รอก่อน อย่าเพิ่งขึ้นไป พ่อมีเรื่องจะคุยด้วย” นานๆทีหลินจ่านหงอารมณ์ดีพูดกับเธอ
หลินเวยมี่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แต่ก็เชื่อฟังเดินเข้าไปหา ในตอนนี้เธอไม่มีแรงเหลือแล้ว ได้แต่ทำตามที่บอก
“เวยมี่ ยังจำคุณชายตระกูลเฉินได้ไหม” หลินจ่านหงพูดกับเธออย่างอารมณ์ดี
หลินเวยมี่เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ ขมวดคิ้วใส่หลินจ่านหง ราวกับเริ่มคิดอะไรขึ้นมาได้
“พ่อ พ่อหมายถึงอะไร” น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ มองไปที่เขาอย่างตื่นตระหนก คุณชายเฉินมีชื่อเสียงไม่ดีทำตัวแบบลูกคนรวย ชอบเล่นรถ ชอบคบกับดารา ชีวิตของเขาเหลวแหลกไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
“พรุ่งนี้ไปพบคุณชายตระกูลเฉิน” หลินจ่านหงพูดตรงๆขึ้นมา
ในตอนนี้สีหน้าของหลินเวยมี่กลับเย็นชาขึ้นมา ที่แท้เขาจะรีบไล่เธอออกไปหรอ? หลินจ่านหงทำไมจะไม่รู้ว่าคุณชายเฉินเป็นคนอย่างไร? คนแบบนี้ยังให้เธอไปพบอีกหรอ?
“ฉันไม่ไป!” เธอยืนกราน
“ไม่ไป? เธอคิดว่าเธอจะสามารถหาผู้ชายดีๆ ได้อีกหรอ? ตอนนี้ในแวดวงใครไม่รู้บ้างว่าลูกสาวคนโตตระกูลหลินเหลวแหลกแค่ไหน? ใครจะสนใจเธอ? น้าหรานทำเสียงสูงตะคอกใส่เธอ
“ดังนั้นคุณเลยจะไล่ฉันออกไปใช่ไหม? ฉันเป็นจุดด่างพร้อย พวกคุณเลยรีบจะไล่ฉันออกไปใช่ไหม? หลินเวยมี่หัวเราะออกมา แล้วมองไปที่พวกเขาอย่างเย็นชา
น่าหัวเราะจริงๆ ลูกเกิดเรื่องแบบนี้แล้ว เขากลับไม่ออกมาปกป้อง กลับกลายเป็นว่ารีบขับไล่ไสส่ง พ่อแบบนี้ เธอจะต้องการไปทำไม?
ใจของเธอเหมือนถูกฉีกขาด ถูกความโศกเศร้าทิ่มแทงไปที่หน้าอกของเธอ
“เธอนอกจากมีแต่ทำให้ฉันอับอายยังทำอย่างอื่นได้อีกหรอ?” หลินจ่านหงตะโกนอย่างเย็นชา
หลินเวยมี่มองดูเขาอย่างไม่เชื่อใจ พูดไปแล้วหน้าตาที่เขาพูดถึง เธอเองก็ทำให้หน้าตาของเขาด่างพร้อย ดังนั้นจึงต้องรีบจัดการให้เรียบร้อย
หายใจเข้าออกลึกๆ ก็รู้สึกไม่โกรธแล้ว
น้าหรานพูดก็ไม่ผิด ในความคิดของคนอื่นเธอเป็นผู้หญิงที่แปดเปื้อนไปแล้ว แต่งงานกับใครแล้วจะเป็นอะไร? แค่ขายตัวเองออกไปได้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ?
“ได้ ฉันไป! พวกคุณจัดการเลย” เธอพูดกลับอย่างเย็นชาเสร็จ ก็ไม่มีแรงที่จะอยู่ตรงนี้แล้ว จึงหันหลังกลับขึ้นตึกไป
วันที่สอง อากาศดี หลินซินหยานมาเคาะห้องของเธอแต่เช้าตรู่
“พี่สาว ตื่นได้แล้ว” หลินซินหยานตะโกนจากนอกห้อง
หลินเวยมี่ขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก ไม่ได้นอนมาคืนหนึ่ง รอบดวงตาคล้ำดำ พร้อมกับสวมชุดนอนหลวมๆ ออกมาเปิดประตู แล้วมองหลินซินหยานอย่างเย็นชา
“มีเรื่องอะไร?”
“คุณชายเฉินจะมาในอีกสองชั่วโมง ฉันขึ้นมาปลุกพี่สาวก่อน” หลินซินหยานพูดพลางยิ้มพลาง
“เออๆ รีบให้ฉันแต่งออกไปมากเลยหรอ?” หลินเวยมี่ยิ้มกลับอย่างเย็นชา พร้อมกับแววตาเสียดสี
หลินซินหยาน
สีหน้าเธอเปลี่ยนทันที ค่อยๆส่ายหัว “พี่สาว ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น พี่เข้าใจผิดแล้ว.
หลินเวยมี่
เห็นเธอแล้วนึกถึงกระต่ายน้อยที่น่าสงสาร ได้แต่รู้สึกหงุดหงิดในใจ ไม่ได้พูดอะไรออกมา ได้แต่ปิดประตูดังใส่เธอ
ถ้าพวกเขาอยากให้เธอแต่งออกไปมาขนาดนั้น อย่างนั้นก็ทำตามที่พวกเขาให้ทำแล้วกัน
เธอนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ค่อยๆบรรจงแต่งหน้า
“คุณลุงหลิน ทำไมคุณหนูหลินเวยมี่ยังไม่ลงมาอีกนะ?” คุณชายเฉินยิ้ม เขารู้จักหลินเวยมี่มานานแล้ว เพียงแต่ไม่มีโอกาสได้พบกัน
นานๆทีจะมีโอกาส ในครั้งนี้เขาจะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปง่ายๆแน่นอน แต่ว่าหลังจากได้ยินเรื่องราวของหลินเวยมี่ เขาก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
หลินจ่านหงคร่ำครวญอยู่สักครู่ ก็พยักหน้าให้กับหลินซินหยาน ขณะที่หลินซินหยานกำลังขึ้นไปบนตึก หลินเวยมี่ก็เดินลงมาแล้ว
เธอแต่งหน้าอย่างละเอียดอ่อน พร้อมกับเขียนขอบตา ทำให้เธอที่ปกติก็สวยอยู่ในตอนนี้ยิ่งดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลขึ้นไปอีก นอกจากนี้ชุดกระโปรงสีฟ้าที่เธอสวมก็ยิ่งทำให้รูปร่างของเธอดูดีขึ้นไปอีก
คุณชายเฉินมองเธอด้วยความตกตะลึง จนลืมตัว เผลออ้าปากค้างจับจ้องไปที่หลินเวยมี่ที่กำลังเดินลงบันไดมา
“แค่กๆ” หลินจ่านหงทำเสียงไอขึ้นมา มองคุณชายเฉินอย่างไม่พอใจ
คุณชายเฉินแสดงหน้าตาที่ผิดธรรมชาติ พร้อมกับยืนขึ้น แล้วยื่นมือไปที่หลินเวยมี่ “สวัสดีๆ”
“คุณชายเฉิน สวัสดี” หลินเวยมี่ทักทายกลับแต่ไม่ได้จับมือของเขา และเดินไปนั่งที่โซฟา
คุณชายเฉินก็ตามไปนั่งข้างเธอ และมองไปที่เธอโดยไม่ละสายตา
“คุณหลิน ฉันรู้จักคุณมานานแล้ว”
“ใช่หรอ?” เธอยิ้มกลับอย่างเฉยเมย พร้อมกับค่อยๆเขยิบออกห่างจากเขา และขมวดคิ้วเบา ๆ แสดงอาการไม่พอใจเล็กน้อย
“แน่นอน ฉันชอบคุณหลินมานานมากแล้ว” คุณชายเฉินพูด พร้อมกับเอามือวางไปบนขาของเธอ
ยังไม่ทันที่หลินเวยมี่จะเหวี่ยงใส่เขา ก็มีคนอารักขาใส่แว่นตาสีดำเดินเข้ามา แล้วตามด้วยชายคนหนึ่งในชุดสูทบุกเข้ามา
“ฉันมาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า?”