รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน - ตอนที่ 14
บทที่ 14 จำไว้ เธอเป็นผู้หญิงของฉัน(1)
“เวยมี่? เสียงอะไรน่ะ?” เสียงเคาะประตูถี่ขึ้น
ใจของหลินเวยมี่แทบจะหลุดออกมาถึงคอ กัดฟันจนเลือดจะออกมาแล้ว ฉู่เฉินซีไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ที่เขากระทำกับเธอช่างรุนแรงเหลือเกิน ทุกครั้งที่ทำราวกับกระแทกไปถึงจิตวิญญาณของเธอ
“พ่อ ฉัน…ไม่เป็นอะไร เมื่อสักครู่ฉันแค่โดนแก้วบาด” หลินเวยมี่อดทนกับการกระทำของเขาจนเสียงสั่น รีบตอบกลับไป
“ไม่เป็นอะไรจริงๆใช่ไหม?” หลินจ่านหงถามอย่างสงสัย
“อืม” เสียงนี้ยิ่งทำให้ไฟในตัวฉู่เฉินซีคลั่งมากยิ่งขึ้น เขาเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีกอย่างห้ามไม่ได้
“โอเค จัดการกับแผลเรียบร้อย ก็รีบนอนนะ” เสียงของหลินจ่านหงไกลออกไปขึ้นเรื่อยๆ
หลินเวยมี่รู้สึกโล่งออก เงยหน้าขึ้นพบกับรอยยิ้มอันกระหายเลือดของเขา หัวใจของเธอยิ่งรู้สึกเย็นชามากขึ้น ผู้ชายคนนี้ดุราวกับเสือ ใครมีเรื่องกับเขาต้องไม่ได้ลงเองด้วยดีแน่
“ที่รัก ลีลาของฉันเป็นอย่างไร?” เขายิ้มเบาๆแล้วก้มลงมาจูบเธอ
หลินเวยมี่หายใจแรงขึ้น พร้อมกับกัดฟันไว้แน่นไม่ปล่อยให้มีเสียงเล็ดลอดออกมา แต่ก็ยังมีเสียงออกมาจากจมูก เธอมองฉู่เฉินซีอย่างโกรธเคือง โดยเฉพาะตอนที่เห็นรอยยิ้มเสแสร้งของเขา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกอยากฆ่าเขาเหลือเกิน
“ฉันจะฆ่าแก!” หลินเวยมี่ไม่สามารถควบคุมความโกรธไว้ได้ จึงร้องขึ้นมาอย่างเย็นชา
“ขอชีวิตหรือขอตาย? ฉันชอบคำขอนี้” เขายิ้มราวกับหมาป่า พร้อมกับมือที่วางบนเอวเธอ และใช้แรงแทงเข้าไปอีก
หลินเวยมี่กัดฟันไว้ ไม่ให้เสียงที่น่าอายออกมา “คนเลว ฉันกับแกยังไม่จบเท่านี้แน่!”
“ไม่จบ? ดี งั้นพวกเราไม่ต้องหยุดกัน ดีไหม? เสียงหัวเราะของฉู่เฉินซีดังออกมา
“คนเลว ฉันเกลียดแก เกลียดแก!”
ค่ำคืนที่เร่าร้อนยังคงดำเนินต่อไปภายในห้อง…
เช้าตรู่ แสงอาทิตย์ส่องเข้ามาทั่วห้อง เส้นผมยาวสลวยของหญิงสาวกระจายเต็มหมอน งดงามราวกับสาหร่าย
ปัง ปัง ปัง…
เสียงเคาะประตูอย่างรีบร้อนดังขึ้น ขนตาขยับเล็กน้อยพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างขึ้น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจขึ้นมา
“ใคร?”
“พี่สาว รีบลุกเร็ว เกิดเรื่องแล้ว” เสียงร้อนใจของหลินซินหยานดังขึ้นมาจากนอกประตู
หลินเวยมี่ขมวดหน้าแล้ว ลุกขึ้น ตอนนี้ร่างกายเธอราวกับแตกเป็นส่วนๆ เจ็บปวดมากเหลือเกิน เดินถึงห้องน้ำ มองในกระจกก็พบแต่รอยม่วงช้ำเต็มไปทั้งตัว ได้แต่หัวเราะอย่างขมขื่น
เธอโกรธจนกัดฟัน จัดการแต่งตัวอย่างเร่งรีบ เธอออกไปพร้อมกับชุดคอเต่า
น้าหรานนั่งอยู่บนโซฟาด้วยความโกรธ หลินซินหยานที่อยู่ด้านข้างก็ไม่รู้ว่าพูดอะไร ขณะที่หลินจ่านหงก็สีหน้าดูไม่ค่อยดีเลย นั่งดื่มน้ำชาอย่างไม่สบายใจ
“พ่อ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หลินเวยมี่ถามขึ้นอย่างงงงวย
หลินจ่านหงมองไปที่หลินเวยมี่
มองไปครู่เดียว ก็ถอนหายใจ แล้วพูดขึ้นว่า “คุณชายเฉินเกิดเรื่องขึ้นแล้ว”
หลินเวยมี่ไม่ตกใจ มานั่งข้างหลินจ่านหง พร้อมถามอย่างเรียบเฉย “เขาเป็นอะไร?”
“ได้ยินมาว่า เมื่อวานโดนรถชน มือขวาทั้งมือถูกบีบออก ตอนนี้ยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เลย” หลินจ่านหงถอนหายใจหนึ่งครั้ง ตบไปที่ไหล่ของหลินเวยมี่เบาๆ “เวยมี่ ไม่ต้องห่วง คุณชายเฉินเป็นแบบนี้แล้ว พ่อจะต้องไม่ให้เธอลำบากแต่งออกไปกับเขาแน่นอน”
หลินเวยมี่เธอได้แต่ตะลึงจนนิ่งไป พร้อมพยักหน้าอย่างงงงวย หัวเธอคิดไปถึงคนที่ยิ้มราวกับหมาป่า เมื่อวานเขาพึ่งถามเองว่ามือไหนที่คุณชายเฉินแตะต้องตัวเธอ วันนี้ก็เกิดอุบัติเหตุ แถมยังบังเอิญเป็นมือขวาที่ขาดด้วย? มีเรื่องบังเอิญขนาดนี้เลยหรอ?
“พรุ่งนี้ฉันจะมองหาคนใหม่ที่ดีกว่านี้ให้เธอ” น้าหรานพูดแทรกขึ้นมา พร้อมกับใบหน้าที่คิดแทนเธอ
หลินเวยมี่ฉีกยิ้มที่มุมปาก พร้อมกับแววตาเย็นชา “ไม่ต้องแล้ว ฉันมีแฟนแล้ว”
“เธอมีแฟนแล้ว? ใช่ผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า?” น้าหรานถามด้วยความประหลาดใจ พร้อมกับสายตาเสียดสี
“ใช่ มีแฟนแล้วทำไมไม่บอกกัน?” หลินจ่านหงรีบถามขึ้นมา
หลินเวยมี่มองดูพวกเขาอย่างเย็นชา พร้อมกับแววตาเสียดสี แฟนที่เธอพูดถึง เป็นเพียงข้อแก้ตัวของเธอ เห็นได้ชัดว่าคุณชายเฉินที่น้าหรานแนะนำเป็นคนอย่างไร ถ้าเกิดเธอยอมทำตาม ใครจะไปรู้ว่าจะแนะนำคนแบบไหนให้เธอรู้จักอีก?
“ยังรู้จักกันไม่นาน ยังไม่ลึกซึ้งขนาดนั้น”
“เหอๆ ใช่ไหม? ยังไม่ลึกซึ้งขนาดนั้นแต่ทำเรื่องแบบนี้แล้ว…” น้าหรานพูดเหน็บแนมขึ้นมา
หลินเวยมี่ใบหน้าของเธอเปลี่ยนสี มองไปที่เธออย่างเย็นชา “ใช่ ตอนแรกใครทำเรื่องน่าอายก่อน ถึงได้เข้ามาที่บ้านนี้ได้?”
“เธอพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?” น้าหรานได้ยินก็เปลี่ยนสีหน้า ลุกขึ้นมาจากโซฟาอย่างโกรธเคือง พร้อมกับตะโกนเสียงดัง
“ตามที่พูดนั่นแหละ คุณไม่เข้าใจหรอ?”
“พอแล้ว! ไม่ต้องพูดแล้ว! เจอกันทีไรทะเลาะกันทุกที บ้านนี้กลายเป็นอะไรแล้ว?” หลินจ่านหงทำหน้าปวดหัว แล้วมองไปที่หลินเวยมี่ “เวยมี่ หาเวลาพาเขามาที่บ้านนะ”
หลินเวยมี่หน้าชาไปสักพัก แล้วพยักหน้าตอบรับ เธอไปหาผู้ชายที่ไหนมาบ้าน? กลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว!