รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน - ตอนที่ 155
บทที่155 ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไหนก็ได้ที่ฉันจะเอา
ค่ำคืนนี้มีดวงดาวมากมาย เธอนั่งมองดูดวงดาวอยู่ในสวน รู้สึกไม่สบายใจ เธอรู้ว่าหยิ่งสำคัญในชีวิตของเขามาก เเต่เธอไม่อยากให้ฉู่เฉินซีเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกู้จุนเฟิง
พวกเขาอยู่กันคนละฝั่ง เธอต้องเลือกฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เเต่เธอไม่อยากให้คนใดคนหนึ่งในพวกเขาสองคนได้รับความเจ็บปวด
ฉู่เฉินซีกลัวว่าอำนาจความใหญ่โตเเละความบ้าคลั่งของฉู่เฉินซีจะทำให้กู้จุนเฟิงได้รับความเจ็บปวด เเต่หลังจากที่เธอเห็นภาพในวันนั้น เธอก็รู้สึกว่าเขาน่าสงสารมาก
ถึงเเม้ฉู่เฉินซีจะมีอำนาจใหญ่โตมาก บ้า ไม่เคยกลัวอะไร และเขาก็คงจะรับรู้ถึงความเจ็บปวดได้เหมือนกัน เขาก็แค่ต่อสู้เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองบาดเจ็บก็แค่นั้น
เเละเธอก็คงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปขอร้องให้เขาไม่ไปทำร้ายกู้สะกิดเฟิง
“เฉิน คุณทำเเบบนี้กับฉันได้ยังไง” ในคืนที่เงียบสนิทจู่ๆ ก็มีเสียงผู้หญิงกรีดร้องดังลั่นบ้าน หลังจากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นไม่หยุด
หลินเวยมี่ขมวดคิ้ว เเล้วเดินเข้าไปในบ้านตามเสียงกรีดร้อง
คนรับใช้ยืนมุงกันเต็ม ไม่มีทีท่าว่าจะเข้าไปห้ามปราม
ได้ยินเสียงเเจกันตกเเตก ฉู่เฉินซีใบหน้าเต็มด้วยคราบน้ำตา มือกระชากหัวเธอเอาไว้ เเววตาเต็มไปด้วยความโกรธเเค้น
Elisตกใจกลัว ใบหน้าซีดขาว “เฉิน ปล่อยฉันนะ คุณจะทำกับฉันเเบบนั้ไม่ได้” เธอตะโกนโหวกเหวก โวยวาย
ฉู่เฉินซีหัวเราะเยาะ กระชากผมเธอเเรงกว่าเดิม “ดูเหมือนฉันจะใจดีกับเธอเกินไป จนเธอกล้าทำเรื่องเเบบนี้”
Elisตกใจหน้าซีดขาวเผือก “เฉิน ฉันไม่ได้ทำจริงๆ นะ ทั้งหมดเป็นฝีมือของเฉินห้าวหมิง เขาเป็นคนทำทั้งหมด”
“พวกเธอทั้งคู่อย่าคิดว่าจะหนีรอดไปได้” เขากระชากหัวให้เธอเดินตามเขามาที่หน้าประตู
Elisแข่งขาอ่อนแรง ถูกเขาดึงกระชากลากไปมา
“คุณต้องเชื่อฉันนะ ฉันไม่ได้เป็นคนทำ” เธออ้อนวอน
คนรับใช้ส่วนใหญ่ตกใจวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง
ฉู่เฉินซีหยิบกระดาษจดหมายโยนใส่หน้าเธอ “เธอมีอะไรจะเเก้ตัวอีกมั้ย”
ใบหน้าของElisเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “ฉันไม่ได้เป็นคนทำ ทั้งหมดเป็นฝีมือของเฉินห้าวหมิง มันเป็นคนอยากได้ตัวหลินเวยมี่มันก็เลยทำเเบบนี้”
“เพี้ยะ” ฉู่เฉินซีฟาดฝ่ามือลงใบหน้าของเธออย่างเเรง “พวกเธอทั้งสองอย่าคิดจะหนีรอดไปได้”
“เฉิน คุณทำเเบบนี้กับฉันได้ยังไง” เธอกรีดร้อง “อย่าลืมว่าคุณเป็นว่าที่พี่เขยของฉันนะ คุณไม่คิดหรอว่าพี่สาวฉันจะรู้สึกยังไงบ้าง”
“ว่าที่พี่เขยงั้นหรอ ถ้าเกิดพี่สาวเธอรู้ว่าน้องสาวของเธอที่เอาเเต่จับจ้องอยากจะขึ้นเตียงของพี่เขยตัวเอง เธอจะรู้สึกยังไง” ฉู่เฉินซีเหมือนจะโกรธจนหน้ามืดตามัว เผลอพูดทุกอย่างออกมา
คนใช้ขยับออก จนทำให้เขามองเห็นหลินเวยมี่ได้ชัดเจน
เขาปล่อยมือออกจากเธอ เธอจึงรีบลุกจากพื้นเเล้วหันมามองหน้าพวกเขา
ฉู่เฉินซีมองหน้าเธอเงียบ ไม่รู้จะอธิบายให้เธอฟังยังไง นอกจากมองเธอเงียบๆ เเละเธอกลับมีท่าทางนิ่งเฉยไม่เเสดงอารมณ์ใดๆ เหมือนไม่ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้น
“เหอะๆ หลินเวยมี่ เธอได้ยินเเล้วใช่มั้ย เขาเป็นว่าที่พี่เขยของฉัน เธอก็เป็นได้เเค่ของเล่นเท่านั้น นางแพศยา” Elisเยาะเย้ย
“หุปปาก” ฉู๋เฉินซีหันไปตะโกนใส่เธอ
หลินเวยมี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ใบหน้ายังคงนิ่งเฉย เดินเข้าไปหาเธอช้าๆ
“ถึงจะเป็นเเค่ของเล่นเเล้วไง อย่างน้อยเราก็เคยได้อยู่ด้วยกัน เเล้วเธอหละ ทั้งชาตินี้เธอก็จะได้อยู่กับเขาในฐานะน้องสะใภ้เท่านั้น”
หลินเวยมี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเหนือกว่า
Elisหน้าซีด กัดฟันเเน่น อยากจะเถียงกลับเเต่กลับถูกสายตาของเขาที่มองมาหามไว้ เธอรีบก้มหน้าลง ไม่กล้าพูดอะไรต่อ
หลินเวยมี่ยึดตัวขึ้น กำมือไว้เเน่น พยายามทำเป็นไม่รู้สึกอะไร สูดหายใจเข้าลึกๆ เเล้วเอ่ยพูดขึ้น “เฉิน เราขึ้นไปอาบน้ำด้วยกันนะ”
“เราไม่ได้เเช่น้ำด้วยกันมาสักพักเเล้วนะ”
เธอเดินเข้าไปคล้องเเขนเขาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ฉู่เฉินซีขมวดคิ้ว มองเธอด้วยสายตาเเปลกใจ การกระทำของเธอทำให้เขาเจ็บปวด เธอไม่รู้สึกอะไรจริงๆ งั้นหรอ ถ้าไม่รู้สึกอะไรเเล้วจะพูดเเบบนั้นออกมาให้คนอื่นคิดไม่ดีทำไม
เขาสูดหายใจเข้า เเล้วเดินขึ้นบันไดไป
ในห้องอาบน้ำ หลินเวยมี่สวมชุดนอนสีขาว ตรงกลางมีดอกบัวสีขาวสองดอกใหญ่ๆ ทำให้เห็นเชอร์รี่แดงๆ ที่อยู่ตรงกลางรางๆ
เสื้อผ้าบางๆ เต็มไปด้วยความยั่วยวน ทำให้คนห้ามใจไม่ได้
เธอเอื้อมมือไปสัมผัสน้ำในอ่าง ใบหน้านิ่งเรียบ ไม่เเสดงอารมณ์ใดๆ
เสียงเปิดประตู
เธอหลับตาลง กัดฟันเเน่น เพื่อที่จะทำให้ตัวเองผ่อนคลาย
เสียงฝีเท้าที่เธอคุ้นเคย กลิ่นตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของฉู่เฉินซี เเต่มันกลับทำให้เธอรู้สึกหนักใจอย่างบอกไม่ถูก
เธอเงยหน้าสบตาเขา เเล้วยกยิ้มเล็กน้อย
ฉู่เฉินซีมองหน้าเธอ เขาเห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้ใส่อะไรไว้ข้างใน เเต่เขากลับรู้สึกทำตัวไม่ถูก เธอต้องการจะทำอะไรกันเเน่
หลินเวยมี่เดินเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าเขา เอื้อมมือไปวางไว้ตรงไหล่ของเขา เเล้วเอ่ยพูดขึ้นเบาๆ “ฉันช่วยคุณถอดเสื้อดีกว่า”
ฉู่เฉินซีมองเธอเงียบๆ ไม่ได้ปฏิเสธอะไร
เธอขยับหน้าเข้ามาใกล้ๆ ใช้ฟันกัดกระดุมเสื้อของเขา ตอนเธอกัดกระดุมทำให้ฟันเธอของสัมผัสโดนผิวของเขา
ฉู๋เฉินซีรู้สึกอึดอัดเมื่อถูกเธอสัมผัส เขามองดูการกระทำของเธอ
การกระทำของเธอค่อนข้างเซอะซะ ทำให้กระดุมถูกเธอกัดจนหลุดออกจากเสื้อ ได้ยินเสียงหายใจติดขัดของเขาดังข้างหู
กว่าเธอจะกัดกระดุมออกได้หนึ่งอัน เธอลากลิ้นลงมาตามซิกแพคของเธอ เเล้วกัดลงไปที่กระดุมเม็ดที่สอง
ดีที่เขาติดกระดุมไว้เเค่สามเม็ด พอเเกะออกหมดเหงื่อก็เต็มหน้าผากของเธอเเล้ว
“สาวน้อย เธอจะทรมานฉันหรอ” ฉู่เฉินซีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเเหบพร่า เเววตาร้อนเป็นไฟ
หลินเวยมี่หัวเราะ “ใช่ ทรมานคุณ”
หลังจากถอดเสื้อเขาออกจนหมด พอเห็นหน้าอกของเขา เธอก็เขินหน้าเเดง
ฉู่เฉินซีมองหน้าเธอนิ่ง เอื้อมมือไปจับเอวเธอไว้ เเล้วเอ่ยกระซิบเธอ “ทำต่อซิ”
ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา เธอเเขย่งเท้ายื่นหน้าเข้าไปใกล้เขา
“ฉันอยากรู้ว่าคุณจะทนได้มากเเค่ไหน”
เขายกยิ้มมุมปาก เขาทนเธอไม่ได้อยู่เเล้ว ถึงจะเป็นเเค่เพียงการขยับตัวของเธอก็ทำให้เขาห้ามใจตัวเองไม่ได้เเล้ว
เขาจูบลงตรงคางของเขา เเล้วค่อยๆ เลื่อนลงไปที่ลูกกระเดือก
“อื้อ สาวน้อย……” เขาส่งเสียงร้องด้วยความทรมาน
เขาลืมตาขึ้น ดึงเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมกอด
หลินหลินเวยมี่อยู่ในอ้อมกอดของเขา ใบหน้าเธอแดงด้วยความเขินอาย กัดฟันไว้แน่น มือค่อยๆ เลื่อนต่ำลงไป
เขามองเธอด้วยสายตาร้อนเเรง
หลินเวยมี่เอ่ยบอกเขา “ฉันรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไรอยู่”
เพียงเเค่เธอจูบลงก็ทำให้ฉู่เฉินซีรู้สึกผิดหวัง เขาจับเอวเธอไว้เเน่น จูบเธอตอบ เขาอยากจะกลืนกินเธอลงไปทั้งตัว
“เธอเเน่ใจนะว่าจะทำเเบบนี้” เขาเอ่ยถามเธอขึ้น แล้วออกแรงกระชากเธอให้ไปอยู่ในอ้อมกอด
เธอก้มลงไปกัดเขาเบาๆ
เมื่อได้ยินเสียงที่เริ่มเเปลกของเขา เธอยกยิ้มมุมปาก
“คุณทนไม่ไหวเเล้วใช่มั้ย”
ฉู่เฉินซีมองเธอนิ่ง ค่อยๆ เดินต้อนให้เธอจนมุม
หลินเวยมี่ยกยิ้มอย่างร้ายกาจ “ความอดทนคุณสูงขนาดนี้เลยหรอ จะผู้หญิงที่ไหนก็ทำให้คุณมีอารมณ์ได้งั้นหรอ” มือเธอค่อยๆ เลื่อนต่ำลง
ฉู่เฉินซีตอบกลับ “ฉันไม่ได้รู้สึกกับผู้หญิงที่ไหนก็ไ