รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 318 เผชิญหน้ากัน
“ส่วนที่นายถามฉันว่า ฉันกับลู่เฉินอันเป็นอะไรกัน เขาเป็นคนช่วยชีวิตฉันไว้ ฉันติดค้างบุญคุณเขา! ถ้าตอนนั้นไม่ใช่เขาที่ช่วยฉันไว้ ตอนนี้ฉันมู่ซีซีคงไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว”
ฟังมู่ซีซีพูดจนจบ จี้หลิงชวนจึงขมวดคิ้วแน่น สายตาที่ลึกลับแฝงไปด้วยความทรมาน จี้หลิงชวนอยากยื่นมือไปจับมือมู่ซีซีไว้ แต่มู่ซีซีกลับหลบหลีกเสียก่อน
อะไรที่ควรพูดก็พูดจบแล้ว มู่ซีซีจึงเก็บสายตาที่มองไปทางจี้หลิงชวน จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปจากห้องน้ำอย่างไม่ลังเลเลย
จี้หลิงชวนมองแผ่นหลังมู่ซีซีที่เดินจากไป ยืนนิ่งอยู่ไปสักพักค่อยตั้งสติได้ มุมปากจึงยิ้มอย่างขมขื่น จากนั้นค่อยเก็บรอยยิ้มที่ขมขื่น พยายามปรับอารมณ์ตัวเอง แล้วเดินออกจากห้องน้ำ
มู่ซีซีเพิ่งเดินออกจากห้องไปที่ทางเดิน จึงเห็นลู่เฉินอันที่ยืนพิงผนังอยู่อย่างขี้เกียจ แล้วในมือก็ถือบุหรี่ไว้อย่างดูดี เหมือนกำลังรอใครอย่างนั้น
ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงของมู่ซีซี ลู่เฉินอันจึงขยี้บุหรี่ในมือ ยกมือขึ้น แล้วโยนก้นบุหรี่ไปที่ถังขยะข้างๆ จากนั้นสายตาของเขาค่อยมองไปทางต้นเสียง
พอสบตากัน ลู่เฉินอันจึงมองกวาดดวงตาแดงๆของมู่ซีซี แล้วสายตาก็เลื่อนลงไปข้างล่าง แล้วหยุดลงที่ริมฝีปากของมู่ซีซีที่โดนจูบจนแดง
แววตาที่ซึมเศร้าเริ่มหม่นหมอง แต่แค่ชั่ววินาทีลู่เฉินอันก็กลับไปเป็นปกติแล้ว เร็วจนเหมือนคนอื่นตาฝาดอย่างนั้น
มู่ซีซีคิดไม่ถึงเลยว่าลู่เฉินอันจะรออยู่หน้าประตู พอเห็นลู่เฉินอัน มู่ซีซีจึงรีบก้มหน้าลงเล็กน้อย แล้วฝืนยิ้มทักทายว่า “คุณชายลู่”
ลู่เฉินอันไม่ได้ถามอะไรมาก แค่พยักหน้าให้มู่ซีซี แล้วมุมปากก็เอ่ยว่า “ถ้าเคลียร์เสร็จแล้ว งั้นก็ไปกับฉัน”
มู่ซีซีพยักหน้า เพิ่งก้าวเดินไปทางลู่เฉินอัน ไม่รอให้มู่ซีซีเดินไปถึงตรงหน้าเขา ข้างหลังมู่ซีซีจึงมีเสียงฝีเท้าที่รีบลนลาน ทันใดนั้นจึงมีเสียงเข้มขรึมของจี้หลิงชวนดังมาว่า เดี๋ยวก่อน!”
มู่ซีซีที่ได้ยินเสียงจึงหยุดชะงัก แต่สายตาลู่เฉินอันที่อยู่ข้างๆกลับไม่แปลกใจเลย แต่กลับเลิกคิ้วอย่างทะเล้น แววตาซึมเศร้าที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดก็หันมองไปทางจี้หลิงชวน
จี้หลิงชวนรีบก้าวเดินมาตรงหน้ามู่ซีซี สายตาที่เยือกเย็นก็หันมองไปทางลู่เฉินอัน แล้วดึงมู่ซีซีมาไว้ข้างหลังตัวเอง
ทั้งสองสบตากัน สายตาของจี้หลิงชวนกับลู่เฉินอันจึงเผชิญหน้ากัน
อากาศบริเวณรอบๆก็เหมือนมีกลิ่นควันระเบิดแผ่ไปทั่ว
จี้หลิงชวนมองเห็นความอันตรายที่ลึกลับจากสายตาลู่เฉินอัน
คิ้วของจี้หลิงชวนจึงขมวดแน่น เขาอยู่ในวงการธุรกิจมาตั้งกี่ปี เคยเจอคนมามากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เจอคนอย่างลู่เฉินอันที่ทำให้เขามองไม่ทะลุ
ลู่เฉินอันเห็นความระแวงจากสายตาจี้หลิงชวน จึงยิ้มมุมปาก แล้วเอ่ยทักทายกับจี้หลิงชวนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “คุณคงเป็นคุณชายจี้ที่ชื่อเสียงโด่งดังในเมืองหรงใช่ไหมครับ ผมเคยได้ยินข่าวมาไม่น้อย ต่อไปฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”
ขณะพูดลู่เฉินอันก็ยื่นมือข้างขวาไปตรงหน้าจี้หลิงชวน
จี้หลิงชวนมองลู่เฉินอันที่อันตรายแล้วก็ลึกลับมาก จากนั้นค่อยยื่นมือออกไปจับมือกับเขาอย่างเรียบนิ่ง พร้อมพูดเสียงนิ่งเฉยว่า “ไม่หรอกครับ ความสามารถของคุณชายลู่อาจจะอยู่เหนือกว่าผมก็ได้”
จากนั้นสายตาจี้หลิงชวนก็หันมองมู่ซีซีที่อยู่ข้างหลัง แล้วเอ่ยกับลู่เฉินอันว่า “แต่ว่ามีเรื่องหนึ่งต้องขอบคุณคุณชายลู่ ขอบคุณคุณชายลู่มากนะครับที่ช่วยชีวิตภรรยาผมไว้ เรื่องนี้ผมติดค้างคุณเอง ต้องขอบคุณคุณแน่นอนครับ”
จี้หลิงชวนเหมือนกำลังประกาศความเป็นเจ้าของอย่างนั้น
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ ที่ผมช่วยคุณหนูมู่ก็แค่เรื่องเล็กๆเองครับ……”
ลู่เฉินอันยังพูดไม่จบ จี้หลิงชวนก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “ตอนนี้ผมหาภรรยาของผมเจอแล้ว เพราะฉะนั้นคงไม่รบกวนให้คุณชายลู่ดูแลแล้วครับ”
ขณะพูดจี้หลิงชวนก็ยื่นมือไปจับมือมู่ซีซีไว้อย่างบังคับ พร้อมเอ่ยกับลู่เฉินอันอีกว่า “ผมกับภรรยายังมีธุระ ขอตัวก่อนนะครับ”
จี้หลิงชวนจูงมือมู่ซีซีไว้แน่น ไม่ให้โอกาสมู่ซีซีหนีเลย จากนั้นก็ให้คนไปบอกคุณหยางว่ามีธุระด่วนต้องกลับไปจัดการ แล้วค่อยจูงมือมู่ซีซีเดินออกไปนอกประตู
ลู่เฉินอันที่ยังยืนนิ่งอยู่กับที่มองท่าทางของจี้หลิงชวนที่รีบจูงมือมู่ซีซีเดินออกไปจึงยิ้มมุมปาก แล้วหัวเราะในลำคอ จี้หลิงชวน นี่เพิ่งเริ่มต้นแกก็ทนไม่ไหวแล้วเหรอ งั้นอีกหน่อยคงสนุกกว่านี้แน่นอน
ขณะคิดลู่เฉินอันก็ยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ แล้วเริ่มตั้งตารอสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
“จี้หลิงชวน! นายเป็นบ้าอะไร! นายปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” มู่ซีซีกัดริมฝีปากแน่น พยายามดิ้นหลุดจากมือจี้หลิงชวน
จี้หลิงชวนไม่ยอมปล่อย แต่กลับจับแน่นกว่าเดิม
เขาหันมองมู่ซีซีที่เอาแต่ดิ้นรน พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ซีซี ใจเย็นๆก่อน เรากลับไปที่บ้านก่อนแล้วค่อยคุยกันได้ไหม?”
จี้หลิงชวนเป็นคุณชายสูงส่ง ไม่เคยใช้น้ำเสียงอ้อนวอนแบบนี้กับคนอื่น ไม่มีใครทำให้จี้หลิงชวนต้องพูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้ มู่ซีซีเป็นคนแรกเลย
ส่วนมู่ซีซีที่ได้ยินเสียงอ่อนโยนของจี้หลิงชวนเมื่อกี้จึงอึ้งเล็กน้อย จนลืมที่จะดิ้นหนี แล้วเดินตามจี้หลิงชวนออกไปถึงหน้าประตู
จนกระทั่งมีเสียงที่อ่อนปวกเปียกดังขึ้น มู่ซีซีถึงดึงสติกลับมาได้
“หลิงชวน!”
เสียงเพิ่งดังมา ใบหน้าที่ไร้เดียงสาของชูเหยาก็โผล่มาตรงหน้าจี้หลิงชวนกับมู่ซีซี
เพราะอยู่ๆชูเหยาก็เจอลู่เฉินอันจึงรู้สึกกลัวมากเกินไป ไม่กล้าอยู่ในงานต่อ กลัวว่าคนบ้าอย่างลู่เฉินอันจะมาหาเธออีก เพราะฉะนั้นเธอจึงหนีออกมาจากงานแล้วรออยู่ข้างนอก
ให้เธอกลับไปแบบนี้ ในใจชูเหยารู้สึกไม่ยอม ตอนนี้มู่ซีซีกลับมาแล้ว เธอต้องจับจี้หลิงชวนไว้แน่น กลัวว่าเดี๋ยวจี้หลิงชวนจะโดนยัยมู่ซีซีแย่งไปอีก
เมื่อกี้ชูเหยาเห็นจี้หลิงชวนเดินออกมาจึงเอ่ยอย่างดีใจ เหมือนเจออัศวินขี่ม้าขาว ความหวาดกลัวในใจก็ค่อยๆสงบลง ชูเหยาจึงรีบเดินไปหาจี้หลิงชวนอย่างดีใจ
แต่ว่าทันใดนั้น รอยยิ้มชูเหยาจึงค้างอยู่บนหน้า นัยน์ตาก็หดอย่างรวดเร็ว สายตาก็จ้องมองไปที่มู่ซีซีที่จี้หลิงชวนจูงมืออยู่ข้างหลัง