รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 321 ผู้บงการการลักพาตัว
ในตอนที่พบศพหญิงสาวลอยน้ำ เกือบทุกคนเข้าใจว่าคนคนนั้นคือมู่ซีซี
จี้หลิงชวนที่อยู่ด้านข้างเหลือบมองป้าหลิงที่มาได้ทันเวลามู่ซีซีและเอ่ยว่า “ป้าหลิง คุณไปเตรียมอาหารเถอะ เธอน่าจะยังไม่ได้ทานอาหารค่ำ”
ทันทีที่ป้าหลิงได้ยินคำสั่งจากจี้หลิงชวน เธอรีบตอบรับอย่างดีใจและหมุนตัวเข้าไปทำอาหารภายในห้องครัว
ป้าหลี่ที่กำลังวุ่นวายอยู่ภายในครัว เธอรู้สึกดีใจกับจี้หลิงชวนเป็นอย่างมาก คุณหนูซีซีกลับมาก็ดีแล้ว คุณหนูซีซีกลับมา คุณชายจี้ก็คงไม่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากอีกแล้ว แม้แต่บ้านเขาก็ไม่กล้ากลับมา เขากลัวว่าภาพความทรงจำทุกอย่างจะทำให้หวนคิดถึงมู่ซีซี
ขณะครุ่นคิดป้าหลิงก็รีบทำอาหารอย่างอารมณ์ดี อาหารที่เธอทำล้วนแต่เป็นอาหารที่มู่ซีซีชอบ
ป้าหลิงลงมือทำอาหารอย่างเชี่ยวชาญ ในไม่ช้าอาหารทุกจานก็เสร็จเรียบร้อยและมีกลิ่นหอมลอยอบอวลไปทั่ว
หลังจากเสิร์ฟอาหารลงบนโต๊ะ จี้หลิงชวนนั่งตรงข้ามกับมู่ซีซี ป้าหลิงสัมผัสได้ว่าทั้งมู่ซีซีและจี้หลิงชวนอาจจะมีเรื่องที่ต้องพูดคุยกัน เธอนั้นเข้าใจสถานการณ์ดีจากนั้นเธอจึงเดินกลับห้องของตนเองอย่างเงียบๆ
ทันใดนั้นภายในห้องอาหารก็เหลือเพียงจี้หลิงชวนและมู่ซีซีเพียงสองคน
ที่จริงแล้วมู่ซีซียังไม่ทันทานอาหารเย็น เธอก็ถูกลู่เฉินอันพาไปยังงานเลี้ยง กระทั่งตอนนี้เธอจึงรู้สึกหิว ฝีมือการทำอาหารของป้าหลิงนั้นยอดเยี่ยม มู่ซีซีไม่ได้ทานมาจวนจะครึ่งปีแล้ว ในตอนนี้เธอรู้สึกคิดถึงฝีมือของป้าหลิงจริงๆ
ทั้งสองทานอาหารและไม่ได้พูดคุยกัน แต่คนที่ทานอาหารนั้นคือมู่ซีซี ส่วนจี้หลิงชวนนั้นคอยมองดูมู่ซีซีทานอาหาร
นี่เป็นครั้งแรกที่จี้หลิงชวนคิดว่าการมองดูคนคนหนึ่งทานอาหารมันก็คือช่วงเวลาแห่งความสุขได้เช่นกัน
กระทั่งมู่ซีซีทานอาหารจนอิ่ม เธอวางตะเกียบในมือลง เงยหน้าสบสายตาจี้หลิงชวนและพูดเข้าประเด็น “จี้หลิงชวน เรื่องของเราสองคนเราพูดคุยกันเข้าใจแล้ว”
ทันทีที่สิ้นเสียงของมู่ซีซี ปฏิกิริยาแรกของจี้หลิงชวนคือการจ้องมองไปที่มู่ซีซีด้วยท่าทีจริงจังและพูดว่า “มู่ซีซี ฉันไม่เห็นด้วยกับการหย่า”
คำตอบที่แน่วแน่ของจี้หลิงชวนทำให้มู่ซีซีผงะไปชั่วขณะ
หลังจากที่ได้สติ มู่ซีซีรีบกักเก็บความรู้สึกและอารมณ์ซับซ้อนที่ไม่ได้สามารถอธิบายได้ไว้ภายในใจ สำหรับมู่ซีซีแล้ว หากว่าจี้หลิงชวนไม่ยินยอมที่จะหย่า มันก็ง่ายต่อการที่เธอจะเอาคืนชูเหยา
ไม่ยอมหย่าก็ไม่ต้องหย่า
มู่ซีซีมองจี้หลิงชวนจากนั้นเธอก็พยักหน้า “ฉันไม่หย่าก็ได้ แต่เรื่องบนเตียงฉันพูดไปแล้ว”
มู่ซีซีพูดอย่างตรงไปตรงมา จี้หลิงชวนชะงักไปชั่วครู่ เมื่อฟื้นคืนสติ เขาก็พยักหน้าให้กับมู่ซีซีและเอ่ยด้วยน้ำเสียงขื่นขมว่า “ซีซี ต่อให้เธอไม่พูด ตราบใดที่เธอไม่ยินยอม ฉันก็จะไม่บังคับเธอ”
“แล้วก็ ฉันมีคำถามอยากจะถามคุณ” เมื่อมู่ซีซีพูด สีหน้าของเธอก็ดูจริงจังมากขึ้น เธอมองจี้หลิงชวนและพูดว่า “จี้หลิงชวน ฉันจะถามคุณว่าเรื่องที่ฉันถูกลักพาตัว คุณสืบหาเบาะแสเรื่องราวนี้หรือยัง? พบหรือยังว่าผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังคือใคร?”
เมื่อจี้หลิงชวนได้ยินมู่ซีซีถามเช่นนี้ สีหน้าของเขาก็เริ่มจริงจัง เขายกมือขึ้นและสัมผัสคิ้วที่ขมวดแน่นของเขา จากนั้นจี้หลิงชวนเงยหน้าขึ้นและจ้องมองมู่ซีซีพร้อมกับพูดว่า “ฉันส่งคนไปสอบสวนทันทีหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น บุคคลที่ลักพาตัวเธอและชูเหยานั้นสืบพบแล้ว เขาเป็นอันธพาลในเมืองหรง เดิมทีเกือบจะควบคุมตัวได้แล้ว แต่ในช่วงวินาทีที่สำคัญนั้นเกิดข้อผิดพลาดขึ้นจึงทำให้สองคนนั้นหนีไปยังอเมริกาได้ ตอนนี้ไม่ได้รับข่าวเกี่ยวกับพวกเขาเลย”
เมื่อมู่ซีซีได้ยินในสิ่งที่จี้หลิงชวนพูด เธอหัวเราะอย่างเย้ยหยัน ทันทีที่จี้หลิงชวนเห็นเช่นนั้น เขารีบเอ่ยคำสัญญากับมู่ซีซีทันที “ซีซี เธอวางใจได้ ฉันจะต้องจับตัวคนที่ลักพาตัวเธอไปรับโทษตามกฎหมายให้ได้อย่างแน่นอน ฉันส่งคนไปตามหาตัวพวกมันที่อเมริกาแล้ว ฉันเชื่อว่าไม่นานเกินรอเรื่องทุกอย่างจะเสร็จสิ้น ซีซี ไม่ว่าอย่างไรฉันก็จะต้องทำเพื่อเธออย่างแน่นอน”
มู่ซีซีเงยหน้าขึ้นและสบสายตาเข้ากับแววตาที่ยากจะหยั่งรู้ได้ของจี้หลิงชวน เธอค่อยๆเปิดริมฝีปากและเอ่ยเน้นย้ำทีละคำกับจี้หลิงชวน “จี้หลิงชวน ถ้าหากฉันบอกคุณว่าฉันสงสัยในตัวชูเหยา คดีลักพาตัวนี้ชูเหยาเป็นคนวางแผนตั้งแต่แรกเริ่ม จุดประสงค์ก็เพื่อให้ฉันและเด็กที่กำลังจะเกิดมาได้เข้าสู่ห้วงแห่งความตาย คุณจะเชื่อฉันไหม?”
มู่ซีซีพูดพลางจ้องมองจี้หลิงชวนอย่างไม่ละสายตา เธอไม่อยากพลาดสีหน้าและการแสดงออกบนใบหน้าของจี้หลิงชวนแม้แต่วินาทีเดียว
มู่ซีซีนั้นคิดในใจว่าหากว่าจี้หลิงชวนนั้นเชื่อในสิ่งที่เธอเพิ่งพูดไปเมื่อครู่นี้ ถ้าเป็นเช่นนั้นเธอจะยกโทษให้กับจี้หลิงชวน
ยกโทษให้จี้หลิงชวนที่ให้เธอเป็นตัวแทนของชูเหยา ยกโทษให้จี้หลิงชวนที่ไม่เลือกช่วยเธอในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด ยกโทษให้จี้หลิงชวนที่ไม่รักเธอและจากนี้ไปเธอก็ยินยอมที่จะเริ่มต้นใหม่กับจี้หลิงชวน
มู่ซีซีคิดเช่นนี้ แต่วินาทีถัดมา เสียงของจี้หลิงชวนก็ดังขึ้นในห้องอาหารที่เงียบสงัด
น้ำเสียงของจี้หลิงชวนนั้นดูประหลาดใจ เขาพูดพร้อมขมวดคิ้ว “ซีซี ไม่หรอก เธอาจจะเข้าใจอะไรผิด ชูเหยาไม่ใช่คนแบบนั้น และเธอลืมไปเหรอว่าชูเหยาเองก็เป็นเหยื่อและถูกลักพาตัวไปพร้อมกับเธอ ชูเหยาเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องลักพาตัวเธอด้วย”
ทักษะการแสดงของชูเหยานั้นดีมากมาโดยตลอด เมื่ออยู่ต่อหน้าจี้หลิงชวนทักษะการแสดงของเธอนั้นไม่มีบกพร่องเลยแม้แต่น้อย
ดังนั้นในสายตาของจี้หลิงชวน ชูเหยาเป็นหญิงสาวที่อ่อนโยนน่าทะนุถนอมและจะต้องมีใครปกป้องเสมอ การวางแผนการลักพาตัวและต้องการฆ่ามู่ซีซีนี้เป็นเรื่องที่เลวร้ายมากและดูเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับชูเหยา
ดังนั้นเมื่อครู่นี้จี้หลิงชวนจึงปฏิเสธการคาดเดาของมู่ซีซีโดยไม่คิด
เมื่อมู่ซีซีเห็นท่าทีที่แน่วแน่ของจี้หลิงชวนแล้ว ความอยากอาหารของเธอก็พลันหายไปในทันที ก้นบึ้งภายในจิตใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเย้ยหยัน
สุดท้ายแล้ว จี้หลิงชวนก็ยังคงเลือกที่จะเชื่อชูเหยาและไม่เชื่อในตัวเธอ
ตอนนี้มู่ซีซีรู้สึกโชคดีอย่างมากที่เธอไม่ได้บอกจี้หลิงชวนไปตรงๆว่าเรื่องนี้เป็นชูเหยาที่ลักพาตัวเธอ
ในตอนนี้เธอไม่สามารถแสดงหลักฐานใดๆออกมาได้ ไม่อย่างนั้นเกรงว่าจี้หลิงชวนอาจคิดว่าเธอใส่ร้ายชูเหยา
มู่ซีซีวางตะเกียบในมือลงทันที นิ้วทั้งสิบของเธอกำหมัดแน่น
จี้หลิงชวนไม่เชื่อ? ไม่เป็นไร ถ้าอย่างนั้นเธอจะค่อยๆฉีกความเปลือกปลอมของชูเหยาออกทีละน้อยด้วยตัวเธอเอง
เธอจะเปิดเผยความเลวร้ายที่สุดของชูเหยาให้ทุกคนได้เห็น!
ขณะที่เธอคิด มู่ซีซีก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและพูดกับจี้หลิงชวนว่า “ฉันอิ่มแล้ว คุณทานต่อเถอะ”
หลังจากพูดจบแล้ว มู่ซีซีก็เพิกเฉยต่อจี้หลิงชวนและเดินขึ้นไปชั้นบน
จี้หลิงชวนมองตามแผ่นหลังของมู่ซีซีที่เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองเลยแม้แต่น้อย เขายกมือขึ้นสัมผัสคิ้วที่ขมวดแน่น ในความคิดของจี้หลิงชวนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำพูดของมู่ซีซีเมื่อครู่นี้ ‘จี้หลิงชวน ถ้าหากฉันบอกคุณว่าฉันสงสัยในตัวชูเหยา คดีลักพาตัวนี้ชูเหยาเป็นคนวางแผน คุณเชื่อไหม?’
เมื่อครุ่นคิดเรื่องนี้ จี้หลิงชวนอดไม่ได้ที่จะถามตัวเองในใจว่า เป็นไปได้ไหมที่จริงๆแล้วชูเหยาจะเป็นผู้บงการในคดีลักพาตัวนี้?