รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 325 เสพติด
จี้หลิงชวนอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายอย่างยับยั้งชั่งใจ ปลายนิ้วของเขาขยับช้าๆอย่างไม่อาจควบคุมได้ เขาค่อยๆลากปลายนิ้วเรียวยาวไปตามโครงหน้าของมู่ซีซีที่เขารักใคร่ทีละน้อย
แค่เพียงการสัมผัสผิวเบาๆ จี้หลิงชวนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความปรารถนาที่กำลังอัดแน่นอยู่ภายในร่างกายของเขา ยิ่งไปกว่านั้นไม่ต้องพูดเลยว่าในตอนนี้เป็นเวลาเช้าตรู่ ส่วนหนึ่งของร่างกายของผู้ชายก็กระวนกระวายได้ง่ายในช่วงเวลานี้
จี้หลิงชวนเม้มริมฝีปากอย่างยับยั้งชั่งใจ เขาแอบสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ระงับความปรารถนาที่ดังก้องอยู่ภายในหัวใจของเขา
เกรงว่าเขาจะทำให้มู่ซีซีตื่น จี้หลิงชวนนั้นยังไม่อยากจะยอมแพ้ แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่ดึงมือกลับมาเท่านั้น
ภายในใจของเขาปลอบประโลมตัวเอง ไม่เป็นไร ตอนนี้ขอเพียงมู่ซีซีกลับมาก็ดีมากพอแล้ว
ในอนาคต ตราบใดที่มู่ซีซียังอยู่เคียงข้างเขา เขาจะค่อยๆทำให้มู่ซีซีตกหลุมรักเขา
ขณะที่ครุ่นคิด จี้หลิงชวนก็ค่อยๆลุกขึ้นจากเตียง เขาหันหลังและห่มผ้านวมให้กับมู่ซีซีอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงค่อยๆเดินออกจากห้องอย่างเงียบๆ
มู่ซีซีหลับสบายตลอดทั้งคืน กระทั่งแปดโมงเช้าวันถัดมาเธอก็ตื่นขึ้น
ทันทีที่เธอตื่นขึ้น มู่ซีซีก็ก้มศีรษะลงและสูดดมผ้าห่มบนร่างกายของเธอ ไม่รู้ว่าเธอคิดผิดไปหรือเปล่า เธอรู้สึกว่ากลิ่นกายที่เป็นเอกลักษณ์ของจี้หลิงชวนบนผ้าห่มนั้นกลับแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเก่า
มู่ซีซีเหลือบมองที่ประตูโดยไม่รู้ตัว ประตูก็ปิดสนิท ไม่เหมือนกับว่ามีใครบางคนได้เข้ามา
ภายในใจของเธอรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย เมื่อเธอรู้สึกเช่นนี้ เธอก็ไม่มีความรู้สึกง่วงอีกต่อไป เธอจึงลุกขึ้นจากเตียง เปลี่ยนเสื้อผ้าล้างหน้าล้างตาและลงไปชั้นล่าง
ทันทีที่มู่ซีซีเดินลงบันได เธอเห็นจี้หลิงชวนกำลังนั่งอยู่บนโซฟา ในมือของเขากำลังถือนิตยสารการเงินฉบับล่าสุด
เมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของมู่ซีซีบนบันได จี้หลิงชวนวางนิตยสารการเงินในมือลงทันที เขามองมู่ซีซีที่กำลังเดินลงมาชั้นล่าง
เมื่อทั้งสองสบสายตากัน จี้หลิงชวนมองมู่ซีซีด้วยแววตาที่เป็นปกติและเอ่ยว่า “ซีซี หิวหรือยัง? ป้าหลิงทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว เธอเตรียมโจ๊กไก่ที่เธอชอบไว้ให้”
ทันทีที่สิ้นเสียงของจี้หลิงชวน ป้าหลิงที่อยู่ในห้องครัวก็เดินออกมาพร้อมโจ๊กหม้อใหญ่และเดินเข้าไปภายในห้องอาหาร พลางพูดกับจี้หลิงชวนและมู่ซีซีว่า “คุณชายจี้ คุณหนูซีซี อาหารเช้าเสร็จแล้วเรียบร้อย”
มู่ซีซีไม่ต้องการทานอาหารเช้าพร้อมกับจี้หลิงชวน
มู่ซีซีไม่ใช่คนโง่ ดวงตาที่ยากจะหยั่งรู้ได้ของจี้หลิงชวนนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ไม่อาจซ่อนเร้น มู่ซีซีนั้นไม่กล้าแม้แต่จะมองเขา
เธอเกรงว่าตัวเธอนั้นจะถูกจี้หลิงชวนทำให้สับสนอีกครั้ง เมื่อเธอหลงเสน่ห์และเสพติดเขาเข้าแล้ว จี้หลิงชวนอาจจะทอดทิ้งเธอและไม่สนใจใยดีเธออีก
มู่ซีซียืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน ป้าหลิงที่เพิ่งนำหม้อโจ๊กไปวางไว้ในห้องอาหารก็เดินกลับมายังห้องครัวเพื่อหยิบจานช้อนและตะเกียบ เธอยังไม่ลืมที่จะเอ่ยกับมู่ซีซีที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมว่า “คุณหนูซีซี รีบไปชิมเถอะ คุณไม่ได้ทานโจ๊กที่ฉันทำตั้งนานแล้ว โจ๊กนี้ฉันตื่นมาทำตั้งแต่ตีห้าในช่วงเช้าตรู่ ฉันต้มโดยหม้อดินมันจะส่งกลิ่นหอมเป็นพิเศษ”
เมื่อป้าหลิงพูดเช่นนั้น มู่ซีซีก็รู้สึกสงสารป้าหลิงที่ยอมเสียสละเวลาการนอนในช่วงเช้ามาทำอาหารให้กับเธอ
มู่ซีซีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยักหน้าให้กับป้าหลิง จากนั้นเธอก็เดินตามจี้หลิงชวนเข้าไปในห้องอาหารและทั้งสองก็เข้าไปพร้อมกัน
จี้หลิงชวนนั่งลงก่อน จากนั้นมู่ซีซีก็นั่งลงตรงข้ามกับจี้หลิงชวน
ป้าหลิงเดินไปยังห้องครัวอีกครั้งเพื่อหยิบเครื่องเคียงต่างๆ
ชามข้างหน้ามู่ซีซีและจี้หลิงชวนยังคงว่างเปล่า เมื่อมู่ซีซีคิดอยากจะตักโจ๊กใส่ชาม แต่ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงกลับกลายเป็นจี้หลิงชวนนั้นเคลื่อนไหวเร็วกว่าเธอ ก่อนที่มู่ซีซีจะตอบสนอง จี้หลิงชวนก็หยิบชามเปล่าตรงหน้ามู่ซีซีไปและตักโจ๊กที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นใส่ลงในชามของมู่ซีซีจากนั้นก็วางมันลงตรงด้านหน้าของมู่ซีซี เขาไม่ลืมที่จะเตือนมู่ซีซีว่า “โจ๊กยังร้อนอยู่ เธอกินระวังๆล่ะ”
มู่ซีซีเหลือบมองโจ๊กที่อยู่ข้างหน้าเธอ เธออดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปทางจี้หลิงชวนที่นั่งอยู่ตรงข้ามพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย
มู่ซีซีไม่ต้องการที่จะทานโจ๊กที่จี้หลิงชวนตักให้ แต่ตอนนี้จี้หลิงชวนก็ตักให้กับเธอแล้ว ในตอนนี้หากเธอโพล่งออกไปว่าไม่กิน เธอก็คงจะเป็นคนที่พยายามสร้างความแตกแยก
ราวกับว่าภายในใจของเธอนั้นยังคงแคร์จี้หลิงชวน
ขณะที่คิด ภายในใจของมู่ซีซีก็รู้สึกถึงความโกรธที่ไม่สามารถอธิบายได้ หลังจากที่ละสายตาออกจากจี้หลิงชวน มู่ซีซีก็เพิกเฉยต่อเขา เธอเอ่ยคำขอบคุณเบาๆจากนั้นมู่ซีซีก็ก้มหน้าก้มตาทานโจ๊กที่อยู่ตรงหน้าเธอ
ต้องขอบอกว่าฝีมือป้าหลิงนี่สุดยอดจริงๆ เนื้อไก่ทั้งนุ่มและสดใหม่ทั้งยังส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วปาก
มู่ซีซีนั้นรู้สึกอยากอาหารเป็นอย่างมาก เธอทานโจ๊กและไม่สนใจจี้หลิงชวนที่นั่งอยู่ตรงข้าม
จี้หลิงชวนที่นั่งอยู่ตรงข้ามนั้นคอยจ้องมองมู่ซีซีด้วยแววตาที่สงบนิ่ง
เมื่อมองดูมู่ซีซีทานอย่างเอร็ดอร่อย ความอยากอาหารของจี้หลิงชวนก็เพิ่มมากขึ้น
ตั้งแต่มู่ซีซีจากไป จี้หลิงชวนรับประทานอาหารเช้าเป็นครั้งแรกหลังจากทำงานอย่างบ้าคลั่งมาเป็นเวลาครึ่งปี เขารู้สึกอยากอาหารและทานโจ๊กไปสองชาม
เมื่อเห็นว่ามู่ซีซีทานอิ่มแล้ว จี้หลิงชวนก็วางชามในมือลงและมองไปที่มู่ซีซีพร้อมกับเอ่ยว่า “ซีซี ตอนนี้เธอกลับมาแล้ววางแผนจะทำอะไรต่อ? ที่โรงเรียนฉันยื่นพักการเรียนให้เธอแล้ว หากว่าเธอต้องการจะกลับไปเรียน ฉันก็จะจัดการให้เธอทันที”
“ไม่ต้องหรอก เมื่อถึงเวลาฉันจะจัดการเอง” มู่ซีซีปฏิเสธคำพูดของจี้หลิงชวนในทันที
เมื่อจี้หลิงชวนได้ยินคำพูดของมู่ซีซี เขารู้สึกหดหู่เล็กน้อย แต่เพื่อที่จะเคารพในการตัดสินใจของมู่ซีซี จี้หลิงชวนจึงทำได้เพียงพยักหน้า
“ฉันยังมีเรื่องให้ต้องสะสาง ขอตัวก่อน” หลังจากพูดจบ มู่ซีซีก็หยิบกระเป๋าของเธอและลุกขึ้น เธอเดินออกจากคฤหาสน์และขึ้นแท็กซี่จากไป
ทันทีที่มู่ซีซีกลับมายังเมืองหรง เธอก็ถูกลู่เฉินอันพาไปยังงานเลี้ยงนั้น เธอยังไม่ได้บอกกล่าวลั่วเสี่ยวชิงว่าเธอกลับมาแล้ว หลังจากที่หายตัวไปนาน ลั่วเสี่ยวชิงจะต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับเธอแน่
มู่ซีซีเปลี่ยนโทรศัพท์ของเธอ ในตอนนี้เธอใช้โทรศัพท์ที่ลู่เฉินอันซื้อให้เธอเมื่อเธอกลับมายังเมืองหรง มู่ซีซีจำหมายเลขโทรศัพท์ของลั่วเสี่ยวชิงไม่ได้ เธอจึงนั่งแท็กซี่ตรงไปยังมหาวิทยาลัยA
เส้นทางที่คุ้นเคย เธอเดินไปรอยังห้องเรียนของเธอ เมื่อเวลาผ่านไปหลังจากที่รอได้ประมาณสิบนาที เสียงออดเลิกเรียนก็ดังขึ้น
นักเรียนในห้องเรียนค่อยๆออกมาทีละคน อาจมาจากกระแสจิตของเพื่อนที่สื่อถึงกัน แม้ว่ามู่ซีซีจะยืนอยู่ในมุมที่ไม่เป็นที่สะดุดตา แต่ทันทีที่ลั่วเสี่ยวชิงเดินออกมา เธอก็มองเห็นมู่ซีซีได้อย่างรวดเร็ว
ช่วงเวลาที่ลั่วเสี่ยวชิงและมู่ซีซีสบสายตากัน ร่างกายของเธอก็หยุดนิ่งอยู่กับที่และเบิกตากว้างด้วยสายตาที่ไม่อยากเชื่อ