รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 336: โดนวางยา
ทันทีที่ชูเหยาพูดจบ เธอได้ยินเสียงที่ไม่แยแสของจี้หลิงชวนทางโทรศัพท์: “ผมมีเวลาแค่ 3 นาทีเท่านั้น คุณพูดเถอะ”
เมื่อชูเหยาได้ยินน้ำเสียงเย็นชาและไม่แยแสของจี้หลิงชวน เธอก็กัดริมฝีปากอย่างแรงแล้วพูดว่า: “หลิงชวน เหตุการณ์ที่มู่ซีซีเกิดอุบัติเหตุล้มบันไดในคืนนั้น ฉันขอโทษจริง ๆ ……”
ในขณะที่พูดอยู่นั้นน้ำเสียงของชูเหยาก็หยุดชะงัก และหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเธอก็พูดต่อว่า: “หลิงชวน ฉันอยากพบคุณอีกสักครั้ง คุณไม่ต้องกังวล นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะไม่ไปรบกวนมู่ซีซีอีกแล้วล่ะ ขอเพียงให้โอกาสฉันได้เจอคุณอีกสักครั้งเถอะนะ ฉันจะตัดใจจากคุณได้อย่างแน่นอน”
เมื่อจี้หลิงชวนได้ยินคำพูดของชูเหยาเขาก็ขมวดคิ้วทันที เขาไม่ต้องการที่จะไปพบชูเหยา แต่ชูเหยายังคงสร้างปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมู่ซีซีอยู่ตลอดเวลา จี้หลิงชวนก็รู้สึกรำคาญใจอย่างมากเช่นกัน
ในขณะที่คิดอยู่นั้นจี้หลิงชวนก็ยกมือขึ้นนวดขยับของตัวเอง ทันใดนั้นน้ำเสียงของจี้หลิงชวนก็ดังขึ้นในห้องทำงานอันเงียบสงบ: “ตกลง ตอนหกโมงเย็นเจอกันที่หลานเล่อคาเฟ่ในใจกลางเมือง”
หลังจากตกลงแล้วจี้หลิงชวนได้พูดเสริมว่า: “ชูเหยาผมหวังว่าคุณจะรักษาคำพูด”
ทันทีที่จี้หลิงชวนพูดจบเขาก็วางสายทันที
ชูเหยาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อเขาเห็นจี้หลิงชวนยอมตกลงแล้ว แต่เมื่อฟังประโยคครึ่งหลังของจี้หลิงชวนแล้ว เธอก็รู้สึกเศร้าใจทันที และแม้แต่การแสดงออกบนใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอก็มืดมนลง
เล็บที่ตัดแต่งอย่างสวยงามแทงเข้าไปในฝ่ามือ
หลังจากที่จี้หลิงชวนวางสายชูเหยาแล้ว เขาก็รีบโทรหามู่ซีซีทันที
ตอนนี้มู่ซีซีกลับไปเรียนแล้ว และเมื่อจี้หลิงชวนโทรไปหา มู่ซีซีเพิ่งเลิกเรียน
“ซีซี เย็นนี้ชูเหยานัดผมคุยธุระ คุณต้องการไปด้วยกันกับผมไหม?” จี้หลิงชวนรีบโทรรายงานมู่ซีซี และไม่ได้ปกปิดมู่ซีซีเลยแม้แต่น้อย
“คุณไปคนเดียวเถอะค่ะ ฉันไม่ว่าง” มู่ซีซีปฏิเสธโดยตรง
จี้หลิงชวนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแล้วพูดต่อว่า: “บางทีผมอาจจะกลับมาค่ำหน่อย คุณไม่ต้องรอผมทานอาหารเย็นด้วยกันหรอกนะ”
“ตกลง ฉันเข้าใจแล้ว ถ้าไม่มีอะไรฉันขอวางสายก่อนนะคะ ” น้ำเสียงของมู่ซีซีรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย หลังจากรอสองสามวินาทีและไม่ได้ยินเสียงจี้หลิงชวนตอบกลับ มู่ซีซีก็กดวางสายทันที
เมื่อมองดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตัวเอง มู่ซีซีเม้มริมฝีปากอย่างไม่สบอารมณ์ คืนนั้นมู่ซีซีทำให้ชูเหยารู้สึกอับอายขายขี้หน้าอย่างมาก ตอนนี้เธอคงอยากเอาคืนมากเต็มทีแล้ว
เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าตอนนี้ชูเหยาจะแผนการอะไรอีก เมื่ออยู่ต่อหน้าจี้หลิงชวนเธอจะแสร้งทำหน้าตาน่าสงสารไม่ได้อีกแล้ว
ไม่รู้ว่าคราวนี้ชูเหยาจะมาไม้ไหนอีก
เผลอแป๊บเดียวก็หกโมงเย็นแล้ว และจี้หลิงชวนก็มาถึงร้านกาแฟที่นัดไว้กับชูเหยา
ชูเหยามาถึงก่อนจี้หลิงชวนครึ่งชั่วโมง
ชูเหยามีใบหน้าซีดเซียวและเธอไม่ได้แต่งหน้า และมันยิ่งทำให้หน้าตาของเธอดูน่าสงสารขึ้นไปอีก
น่าเสียดายที่จี้หลิงชวนไม่ได้มองหน้าชูเหยาเลยสักนิด
หลังจากที่จี้หลิงนั่งลงตรงข้ามกับชูเหยา เขาก็ถามออกมาตรง ๆว่า: “ชูเหยา ในครั้งนี้คุณต้องการพูดเรื่องอะไร?”
ชูเหยามองไปที่ท่าทางเย็นชาและไม่แยแสของจี้หลิงชวน เธอรู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจ เธออดไม่ได้ที่จะมีน้ำตาและแววตาจับจ้องไปที่จี้หลิงชวนและพูดออกมาทีละคำว่า :“หลิงชวน ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับคุณจะไม่มีโอกาสเป็นไปได้อีกแล้วจริง ๆเหรอคะ ?”
“ไม่มีแล้ว” จี้หลิงชวนตอบอย่างไม่ลังเล มองดูชูเหยาอีกครั้งและพูดต่ออย่างเคร่งขรึม: “ชูเหยา คนที่ผมรักคือมู่ซีซีและผมรักเธอมาก ในชาตินี้ผมจะรักเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น ”
เมื่อฟังประโยคครึ่งหลังของจี้หลิงชวน มือของชูเหยาที่อยู่ใต้โต๊ะก็กำหมัดแน่น รู้สึกเหมือนราวกับว่าหัวใจของเธอกำลังถูกแทงด้วยมีดอันแหลมคม
ชูเหยาพยายามฝืนยิ้มมันน่าเกลียดยิ่งกว่าการร้องไห้เสียอีก เธอยิ้มให้กับจี้หลิงชวน และมอบไวน์ที่รินไว้ก่อนหน้านี้ให้กับจี้หลิงชวนตามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ: “จี้หลิงชวน ฉันเข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร ”
ในขณะที่ชูเหยาพูดอยู่นั้นเธอก็หยุดชั่วขณะแล้วพูดต่อว่า: “หลังจากดื่มไวน์แก้วนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนก็จะจบสิ้นกันทันที ไม่ต้องกังวล ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะไม่รบกวนคุณอีก”
ในขณะที่ชูเหยาพูดอยู่นั้นก็ได้ยกแก้วไวน์ของตัวเองขึ้น จี้หลิงชวนเหลือบมองแก้วไวน์ที่อยู่ข้างหน้าเขาแล้วหันไปเหลือบมองชูเหยา หลังจากที่เขาหรี่ตาไม่กี่วินาที จี้หลิงชวนก็หยิบไวน์ด้านหน้าของตัวเองขึ้นมา จิบหนึ่งคำแล้วมองที่ชูเหยาพร้อมพูดว่า: “เดี๋ยวผมยังต้องขับรถกลับบ้าน ผมไม่สามารถดื่มมากเกินไป”
ชูเหยาพยักหน้า ในใจของเธอกำลังรู้สึกผิดหวังท่าทางที่ระมัดระวังตัวของจี้หลิงชวน แต่ชูเหยาไม่ได้คิดว่าจะให้จี้หลิงชวนดื่มจนหมดจริง ๆ
ชูเหยาจงใจขอให้ลู่เฉิงจินหายาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด แม้ว่าจี้หลิงชวนจะดื่มไวน์เพียงจิบเดียว แต่ยาก็มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะทำให้จี้หลิงชวนหมดสติประมาณสองถึงสามชั่วโมง
เมื่อจี้หลิงชวนพูดจบ เขาก็วางแก้วลงแล้วมองที่ชูเหยาพร้อมพูดว่า: “ถ้าไม่มีธุระอะไรอีกผมขอตัวก่อนล่ะ ซีซียังรอผมกลับไปทานมื้อค่ำด้วยกัน ”
หลังจากพูดจบ จี้หลิงชวนก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากร้านกาแฟไปทันที
เมื่อชูเหยาเห็นเช่นนี้เธอก็ลุกขึ้นและเดินตามหลังจี้หลิงชวนไป
ชูเหยามองดูนาฬิกาบนข้อมือเธอเพื่อคำนวณเวลาขณะที่เธอเดิน หลังจากผ่านไป 2 นาทีผลของฤทธิ์ยาจะเริ่มแสดงออกมา
เวลานี้ผ่านไปสองนาทีแล้ว ในขณะที่ชูเหยาคิดอยู่นั้นเธอก็มองไปทางจี้หลิงชวนที่ขณะนี้เขาเดินไปถึงข้าง ๆรถของเขาแล้ว เห็นเพียงแต่ว่ายากำลังออกฤทธิ์แล้ว มือข้างหนึ่งของจี้หลิงชวนกำลังจะเปิดประตู และมืออีกข้างหนึ่งกำลังนวดขมับของตัวเองอยู่พร้อมส่ายหัวโดยไม่รู้ตัว
เมื่อเห็นสิ่งนี้ริมฝีปากของชูเหยาก็กระตุกเล็กน้อย จากนั้นจึงเดินไปทางจี้หลิงชวนอย่างรวดเร็ว
และหยุดที่ข้างจี้หลิงชวน ถามด้วยสีหน้าเป็นห่วงและกังวลใจว่า: “หลิงชวน เกิดอะไรขึ้นกับคุณ ? ไม่สบายหรือเปล่าคะ?”
ในขณะที่ชูเหยาพูดอยู่นั้นก็เห็นจี้หลิงชวนทรงตัวไม่ได้แล้ว เธอจึงรีบยกมือขึ้นเพื่อพยุงจี้หลิงชวน แต่ก่อนที่มือของชูเหยาจะสัมผัสโดนมือของจี้หลิงชวน จี้หลิงชวนดูเหมือนจะรู้สึกได้ ดังนั้นเขาจึงรีบถอยห่างจากมือของชูเหยาทันที
มือของชูเหยารู้สึกชาและแข็งทื่อไปทั้งตัว
ในช่วงเวลาต่อมา ก่อนที่ชูเหยาจะตอบสนอง ฝ่ามือขนาดใหญ่ของจี้หลิงชวนก็รัดคอของชูเหยา และบีบคอของชูเหยาอย่างโหดเหี้ยมและกดชูเหยาแนบไปกับรถ
“ชูเหยา! นี่คุณเอาอะไรให้ผมกินกันแน่!!!” จี้หลิงชวนมองชูเหยาแล้วกัดฟันพูดออกมาทีละคำ
เมื่อสบตาอาฆาตของจี้หลิงชวน ชูเหยาอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทา รู้สึกเพียงว่าขนลุกไปทั้งตัว
ชูเหยาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนอารมณ์ความเกลียดชังที่รุนแรงบนใบหน้าของจี้หลิงชวน
เมื่อถึงจุดนี้ ชูเหยาก็ตระหนักได้ว่าจี้หลิงชวนไม่ใช่เป็นแค่จี้หลิงชวนเท่านั้น แต่ยังเป็นถึงประธานของบริษัทจี้ซืออีกด้วย และเป็นประธานที่มีวิธีจัดการที่น่ากลัวและรุนแรง ดังนั้นคนที่มีเรื่องบาดหมางกับเขานั้นจุดจบไม่สวยเลยสักคน!
และตอนนี้เธอยังกล้าที่จะวางยาจี้หลิงชวน! ! ! !
ทันทีที่ชูเหยาเริ่มขยับได้หนี่งก้าว เธอก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เธอทำแล้ว