รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 350 บ้านที่ไม่มีเธอก็ย่อมไม่ใช่บ้าน
- Home
- รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
- บทที่ 350 บ้านที่ไม่มีเธอก็ย่อมไม่ใช่บ้าน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้มู่ซีซียิ่งนอนไม่หลับ ไม่เพียงแต่เธอจะนอนไม่หลับ แต่กลับรู้สึกหงุดหงิดมากๆอีกด้วย เธอนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง หลับตาลงไปแล้วก็ลืมตาขึ้นมาใหม่ เป็นแบบนี้ซ้ำอยู่หลายรอบ ทำยังไงก็ไม่หลับ
จนเกือบจะทำให้ลั่วเสี่ยวชิงตื่นขึ้นมาด้วย มู่ซีซีรู้ว่าถ้าคืนนี้เธอไม่ลงไปดูที่ชั้นล่างสักหน่อย เธออาจจะนอนไม่หลับตลอดทั้งคืนเลยก็ได้
แทนที่จะทรมานตัวเองแบบนี้ สู้ลงไปคุยกับจี้หลิงชวนให้ชัดเจนเลยดีกว่า
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว มู่ซีซีก็ค่อยๆเปิดผ้าห่มและลุกขึ้นจากเตียง เธอสวมรองเท้าแตะ และเดินออกจากห้องไป
ตอนนี้ก็ดึกมากๆแล้ว คุณแม่และน้องชายของลั่วเสี่ยวชิงได้กลับไปนอนที่ห้องกันหมดแล้ว
มู่ซีซีปิดประตูเบา ๆ และเดินลงบันไดไปที่ชั้นล่างสุด ในขณะที่เธอเดินถึงชั้นล่างเธอก็เห็นว่ารถ มายบัคคันสีดำของจี้หลิงชวนยังคงจอดอยู่ที่ชั้นล่าง
ในเวลาเดียวกัน จี้หลิงชวนที่อยู่ในรถก็ยังนอนไม่หลับ เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากตรงทางเดิน จี้หลิงชวนที่อยู่ในรถก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบหันกลับไปโดยไม่รู้ตัว
และในขณะนั้น จี้หลิงชวนก็เห็นเงาของมู่ซีซีปรากฏขึ้นตรงบริเวณบนบันไดผ่านหน้าต่างของรถ เขาหายใจเข้าออกอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นเต้น จี้หลิงชวนเบิกตากว้าง เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย และเขาก็มองไปที่มู่ซีซีตาไม่กะพริบ เพราะกลัวว่าตัวเองจะดูผิดไป
จี้หลิงชวนมองดูมู่ซีซีค่อยๆเดินใกล้เข้ามาหาเขาทีละก้าวๆ
จนกระทั่งมู่ซีซีเอื้อมมือออกมาเคาะกระจกของรถ จี้หลิงชวนจึงตื่นขึ้นจากความฝันและมีสติกลับมา เขารีบลดกระจกรถลงอย่างรวดเร็ว
และมองไปที่มู่ซีซีอย่างใกล้ชิด จี้หลิงชวนได้สติกลับมาอีกครั้ง เขาไม่ได้ฝันไปหรือไม่ใช่เห็นภาพลวงตาแต่อย่างใด มู่ซีซีปรากฏตัวต่อหน้าของเขาจริงๆ
“ซีซี…”จี้หลิงชวนเรียกชื่อของมู่ซีซีออกมาโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงรอยยิ้มที่มีความสุข ราวกับว่าเขากำลังกลัวว่ามู่ซีซีจะจากเขาไป จี้หลิงชวนรีบเปิดประตูและลงจากรถไป เขายืนอยู่ต่อหน้าของมู่ซีซี
มู่ซีซีมองไปที่จี้หลิงชวนซึ่งอยู่ใกล้เพียงแค่ปลายมือ รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของจี้หลิงชวนทำให้เธอรู้สึกสับสน มู่ซีซีขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย เธอพยายามควบคุมสติและอารมณ์ของตัวเอง มู่ซีซีค่อยๆเงยหน้ามองสบตากับดวงตาที่นิ่งสงบของจี้หลิงชวน จากนั้นก็พูดออกมาอย่างช้าๆว่า “จี้หลิงชวน ดึกขนาดนี้แล้วมาทำอะไรที่นี่ ?”
เมื่อได้ยินเสียงของมู่ซีซี จี้หลิงชวนก็มองที่เธอและพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ซีซีบ้านที่ไม่มีเธอมันรู้สึกหนาวๆ และฉันไม่อยากอยู่ที่นั่น”
จี้หลิงชวนพูดขึ้นพลางกำหมัดแน่น เขาจ้องไปที่มู่ซีซีที่ยืนอยู่ใกล้เพียงแค่ปลายมือ และอดไม่ได้ที่จะอยากกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนของเขา
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ในที่สุดจี้หลิงชวนก็พ่ายแพ้ต่อความปรารถนาภายในใจของตัวเอง ในเวลาชั่วพริบตาจี้หลิงชวนยื่นแขนออกไปและกอดมู่ซีซีเอาไว้แน่น
ในขณะที่มู่ซีซีถูกจี้หลิงชวนโอบกอด เธอก็ยืนตัวแข็งทื่อ และลืมที่จะขัดขืน
ตอนที่มู่ซีซีสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิอันร้อนระอุที่แผ่ออกมาจากอ้อมแขนของจี้หลิงชวน และไม่นานหลังจากนั้น ดวงตาของมู่ซีซีก็ค่อยๆแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ จู่ๆเธอก็รู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาโดยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร
ในสมองของมู่ซีซีดูว่างเปล่าไปหมด เธอไม่รู้ว่าถูกจี้หลิงชวนโอบกอดอยู่แบบนี้เป็นเวลานานเท่าไหร่ จนกระทั่งเสียงของจี้หลิงชวน ดังขึ้นมาทำลายบรรยากาศความเงียบสงบระหว่างคนทั้งสอง
จากนั้นมู่ซีซีก็ได้ยินเพียงเสียงแหบต่ำๆของจี้หลิงชวนดังเข้ามาในหูของเธอ “ซีซี ฉันคิดถึงเธอมากจริงๆ คิดถึงมากจริงๆ”
จี้หลิงชวนพูดขึ้นพลางถอยห่างออกไปเล็กน้อย จากนั้นเขาก็จ้องไปที่ดวงตาของมู่ซีซีและพูดขึ้นว่า “ซีซี เธอจะกลับไปอยู่กับฉันได้ไหม?”
มู่ซีซีจ้องตาของจี้หลิงชวน และพยักหน้าให้กับเขา ไม่รู้ว่าเธอกำลังถูกดวงตาคู่นั้นของจี้หลิงชวนสะกดหรือว่าเป็นผลกระทบจากความมืด
เมื่อมู่ซีซีได้สติกลับมา เธอก็พบว่าตัวเองได้ตอบตกลงกับจี้หลิงชวนไปแล้ว มู่ซีซี ก็ขยับริมฝีปากและกำลังจะพูดอธิบายเรื่องที่เธอตกลงไปเมื่อกี้ แต่ในวินาทีต่อมา จี้หลิงชวน ก็ไม่ได้ให้โอกาสมู่ซีซีพูดออกมาเลย จี้หลิงชวนจูบไปที่ริมฝีปากของมู่ซีซีอย่างเร่าร้อน
จากจูบแบบธรรมดาๆในตอนแรก สุดท้ายก็ค่อยๆลึกลงไปที่เหงือกและลิ้นของมู่ซีซี จี้หลิงชวนพยายามดูกลืนความงามของมู่ซีซี
หลังจากการจูบเสร็จสิ้น ทั้งมู่ซีซีและจี้หลิงชวนต่างหายใจอย่างเหนื่อยหอบ
ก่อนหน้านี้ในใจของมู่ซีซีก็สับสนมากพอแล้ว แต่หลังจากที่ถูกจี้หลิงชวนจูบสมองของเธอก็รู้สึกสับสนเข้าไปใหญ่
พอมู่ซีซีได้สติกลับมา มู่ซีซีที่กำลังงุนงงกลับพบว่าตัวเองถูกจี้หลิงชวนพาขึ้นมานั่งอยู่บนรถแล้ว
แถมมืออีกข้างหนึ่งก็ถูกจี้หลิงชวนจับเอาไว้แน่น
มู่ซีซีรู้สึกไม่ค่อยคุ้นเคยกับการที่จู่ๆก็สนิทสนมกับจี้หลิงชวนขึ้นมา และอดไม่ได้ที่จะพยายามดึงมือของเธอออกจากฝ่ามือของจี้หลิงชวน แต่ยิ่งขยับ จี้หลิงชวนไม่เพียงแต่จะไม่ยอมปล่อย กลับจับมือของเธอแน่นขึ้นไปอีก
เมื่อมู่ซีซีไม่สามารถดึงมือของตัวเองออกจากมือของจี้หลิงชวนได้ เธอจึงทำได้เพียงแค่จ้องไปที่จี้หลิงชวนที่กำลังขับรถอย่างเงียบๆ และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หมดความอดทนว่า“จี้หลิงชวน ปล่อยมือฉันนะ”
จี้หลิงชวนหันกลับไปมองมู่ซีซี และพูดขึ้นอย่างมั่นใจว่า “ถ้าฉันปล่อย เธออาจจะทิ้งฉันอีกก็ได้”
จี้หลิงชวนพูดจบประโยคและหยุดชั่วคราว จากนั้นจึงพูดเสริมขึ้นอีกว่า”ซีซี เมื่อกี้สัญญาว่าจะกลับไปอยู่กับฉันแล้ว ตอนนี้ฉันจะไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่”
เมื่อมู่ซีซีเห็นใบหน้าของจี้หลิงชวนที่กลัวว่าเธอจะหนีไปอย่างนั้นแล้ว เธอก็รู้สึกสับสนในตัวเองขึ้นมา
ด้วยใบหน้าแบบนี้ของจี้หลิงชวน ทำให้มู่ซีซีไม่รู้ว่าจะทำยังไง
เดิมทีมู่ซีซีพยายามจะทำใจแข็ง แต่ไม่รู้ว่าเธอเผลอใจอ่อนไปตั้งแต่ตอนไหน
เธอนั่งบนรถไม่พูดไม่จาอะไร เธอทำได้เพียงแค่หลับตาลงและทนให้จี้หลิงชวนจับมือเธอไว้อย่างนั้น
เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์ จี้หลิงชวนจับมือของมู่ซีซีอยู่ตลอดจนกระทั่งไปถึงที่ห้องนอน
ทันทีที่ประตูห้องนอนถูกปิดลง มู่ซีซีมองไปที่จี้หลิงชวนและพูดขึ้นด้วยความรู้สึกที่ไร้อารมณ์ว่า “จี้หลิงชวน ตอนนี้ก็กลับมาถึงที่บ้านแล้ว คุณปล่อยฉันได้หรือยัง?”
เมื่อได้ฟังคำพูดของมู่ซีซี จี้หลิงชวนก็มีความรู้สึกที่อาลัยอาวอนอยู่เล็กน้อย เขาไม่อยากจะปล่อยมือของมู่ซีซี
และหลังจากนั้น น้ำเสียงของมู่ซีซีก็ค่อยๆดูอ่อนโยนขึ้น เธอพูดขึ้นมาว่า“ฉันจะส่งข้อความให้ลั่วเสียวชิงก่อน กลับมากะทันหันแบบนี้ หากไม่บอกเธอล่ะก็ ลั่วเสี่ยวชิงจะเป็นห่วงเอาได้”