รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 353 ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นอย่างกะทันหัน
- Home
- รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
- บทที่ 353 ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นอย่างกะทันหัน
มู่ซีซีจ้องไปยังใบหน้าที่หล่อเหลาของจี้หลิงชวนที่อยู่ใกล้เธอแค่เพียงปลายมือด้วยท่าทางที่งุนงง และหยุดชะงักไปชั่วขณะ
ในท้ายที่สุด จี้หลิงชวนก็มองไปที่ลักษณะท่าทางอันดูน่ารักของมู่ซีซีและอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา จี้หลิงชวนรู้สึกคันไม้คันมือเป็นอย่างมาก จากนั้นเขาจึงเอื้อมมือออกไปและแตะที่จมูกของเธอพร้อมกับพูดขึ้นเบาๆว่า”อรุณสวัสดิ์ ซีซี”
จี้หลิงชวนสัมผัสไปที่จมูกของมู่ซีซีเบาๆราวกับว่าเขาเห็นเธอเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยง
มู่ซีซีชะงักตัวแข็งทื่อ ในสมองของเธอดูว่างเปล่าไปหมด และในหูของเธอได้ยินเพียงแค่เสียงหัวใจเต้นรัวตุบ ๆ ๆดังขึ้นมาเท่านั้น
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที มู่ซีซีก็ได้สติกลับมา เธอเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า เมื่อคืนนี้เธอได้นอนอยู่กับจี้หลิงชวน
ด้วยความตื่นตระหนก มู่ซีซีจึงรีบขยับสายตาออกจากจี้หลิงชวน และรีบลุกขึ้นนั่งในทันที
มู่ซีซีเพิ่งจะลุกขึ้นนั่งได้ไม่นาน จี้หลิงชวนก็เหยียดมือขนาดใหญ่ของเขาออกไปและคว้าที่ข้อมือของมู่ซีซีไว้ จี้หลิงชวนที่เพิ่งตื่นนอน เสียงของเขาฟังดูแหบขึ้นเล็กน้อย“ ซีซี ยังเช้าอยู่เลย เธอนอนลงต่ออีกสักพักเถอะ ”
มู่ซีซีจะนอนต่อทั้งแบบนี้ได้อย่างไรกันล่ะ เธอพยายามสะบัดแขนให้หลุดจากมือของจี้หลิงชวนและพูดขึ้นว่า “ฉันนอนไม่หลับ… และเช้านี้ก็ยังมีเรียน”
โชคดีที่ครั้งนี้จี้หลิงชวนไม่ได้ร้องขออะไรเธอ เมื่อได้ยินมู่ซีซีพูดแบบนั้น มือขนาดใหญ่ของจี้หลิงชวนก็ค่อยๆคลายออก
จี้หลิงชวนลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับมู่ซีซี หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ไปล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ลงไปทานอาหารพร้อมกันที่ห้องอาหารด้านล่างของคฤหาสน์
ป้าหลิงได้เตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้ว เมื่อเห็นจี้หลิงชวนและมู่ซีซีลงมาแล้ว ป้าหลิงก็รีบไปยกจานอาหารเช้าเข้ามาที่ห้องอาหารและพูดกับทั้งสองขึ้นว่า”คุณชายจี้ คุณมู่ อาหารเช้าได้เตรียมไว้พร้อมแล้วค่ะ”
จากนั้นจี้หลิงชวนและมู่ซีซีเข้าไปในห้องอาหารพร้อมกัน
จี้หลิงชวนเดินเข้าไปลากเก้าอี้ให้กับมู่ซีซีนั่งด้วยความเอาใจใส่ เมื่อเห็นมู่ซีซีนั่งลงแล้ว จี้หลิงชวนก็เดินไปลากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับมู่ซีซีออกมาแล้วนั่งลง
อาหารเช้ามีจำนวนมากมาย และในหลายๆจานก็เป็นอาหารที่มู่ซีซีชอบทาน
มู่ซีซีก้มหน้าลงทานอาหารเช้าอย่างตั้งใจ ส่วนจี้หลิงชวนก็ทานไปพลางพร้อมกับมองมู่ซีซีทานอาหารเช้า
หลังจากเห็นมู่ซีซีทานอาหารเช้าเกือบจะเสร็จแล้ว จี้หลิงชวนก็วางตะเกียบลงและมองไปที่มู่ซีซีพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ซีซี ยังเช้าอยู่ ฉันจะส่งเธอไปมหาวิทยาลัยนะ”
ทันทีที่จี้หลิงชวนพูดจบ มู่ซีซีตอบปฏิเสธขึ้นว่า “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่ไปเองก็ได้ … ”
ยังไม่ทันที่มู่ซีซีจะพูดจบ จี้หลิงชวนก็พูดเสริมขึ้นว่า “ไม่เป็นไร มันเป็นทางผ่านของฉันพอดี ”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่แน่วแน่ของจี้หลิงชวน มู่ซีซีจึงทำได้เพียงแค่พยักหน้าตกลงเท่านั้น
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ จี้หลิงชวนก็ขับรถพามู่ซีซีไปส่งที่มหาวิทยาลัย a
และตอนหลังเลิกเรียนของบ่ายวันนั้น ทันทีที่มู่ซีซีเดินออกจากประตูมหาวิทยาลัย aเธอก็เห็นรถของจี้หลิงชวนจอดรอเธออยู่ข้างถนนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหน้าประตูมหาวิทยาลัย
มู่ซีซีรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าจี้หลิงชวนปฏิบัติต่อเธอเปลี่ยนไป จี้หลิงชวนไม่เพียงแต่ส่งเธอไปมหาวิทยาลัยทุกวัน ยังมารับเธอหลังเลิกเรียน และเวลาอยู่ที่บ้านเขาก็เชื่อฟังมู่ซีซีทุกอย่าง มู่ซีซีพูดอะไรจี้หลิงชวนก็จะทำอย่างนั้น มู่ซีซีรู้สึกได้ว่าจี้หลิงชวนปฏิบัติต่อเธอดีมากจริงๆ
วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ มู่ซีซีไม่ต้องไปโรงเรียน เมื่อวานนี้ฝนตกและมู่ซีซีก็ไม่ได้พกร่มไปมหาวิทยาลัยด้วย ฉะนั้นตอนเที่ยงเธอจึงเดินตากฝนไปที่โรงอาหาร
แต่ก่อนมู่ซีซีเป็นคนที่มีสุขภาพดีมากๆ ต่อให้ตากฝนบ้างเป็นครั้งคราวก็ไม่มีปัญหาอะไร และมู่ซีซีเองก็ไม่สนใจในเรื่องนี้ เมื่อคืนเธอยังดีๆอยู่เลย แต่พอถึงเช้าวันนี้ เมื่อเธอตื่นขึ้นมาเธอกลับรู้สึกว่าร่างกายผิดปกติ
มู่ซีซีรู้สึกหนักๆที่บริเวณเปลือกตา ลืมตาก็ไม่ค่อยจะขึ้น และยังรู้สึกว่าตาลายอีกด้วย ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังรู้สึกคันคอ และเสียงพูดก็ไม่ค่อยจะมี
ร่างกายรู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงเลย มู่ซีซีรู้สึกว่าตัวเธอต้องเป็นหวัดแน่ๆ
เธอพลิกตัวหันไปอีกด้านหนึ่งด้วยความยากลำบาก และมองเห็นเพียงแค่พื้นที่ว่างทางด้านข้าง จี้หลิงชวนน่าจะตื่นแล้ว
ในขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ฝ่ามือขนาดใหญ่ได้ค่อยๆเคลื่อนลงมาแตะที่หน้าผากของเธอ มู่ซีซีที่กำลังงุนงงได้หันศีรษะกลับมาและเห็นจี้หลิงชวนซึ่งแต่งตัวเรียบร้อยแล้วยืนอยู่ทางด้านข้างของเตียง จี้หลิงชวนมองมาที่เธอพร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างกะทันหัน
เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยของจี้หลิงชวนดังเข้ามาในหูของมู่ซีซีทันที “ซีซี เธอเป็นไข้แล้ว!”
มู่ซีซีเห็นใบหน้าของจี้หลิงชวนที่มีความกังวลและร้อนใจ และไม่นานหลังจากนั้น มู่ซีซีก็ได้ยินเสียง จี้หลิงชวนตะโกนบอกกับป้าหลิงทางชั้นล่างว่า “ป้าหลิง! ป้าหลิง! โทรเรียกแพทย์ประจำตัวมาโดยด่วน! !!”
มู่ซีซีขมวดคิ้วด้วยความทรมาน และเมื่อเธอขยับริมฝีปากเพื่อจะเปล่งเสียงออกมา เธอจึงพบว่าเสียงของเธอนั้นแหบมากๆ
และเมื่อจี้หลิงชวนที่ยืนอยู่ทางด้านข้าง ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของมู่ซีซี เขาก็รีบเข้าไปกอดและปลอบโยนมู่ซีซีว่า “ซีซี อดทนหน่อยนะ คุณหมอกำลังจะมา อดทนนะ ”
จี้หลิงชวนพูดปลอบโยนมู่ซีซีพลางก้มหน้าลงจูบที่หน้าผากของเธอด้วยความสงสาร
หมอประจำตัวเดินทางมาถึงอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียงแค่สิบนาทีเท่านั้นคุณหมอก็มาถึง
ทันทีที่คุณหมอมาถึงก็ยุ่งทำการตรวจ อย่างแรกคุณหมอได้ทำการวัดอุณหภูมิร่างกายของมู่ซีซี และ ผลปรากฏว่าเธอมีไข้สูงถึง 38.9 องศา
นอกจากนี้ยังมีอาการปอดติดเชื้อและอาการปอดอักเสบ ซึ่งจะต้องให้น้ำเกลือในการรักษา
มู่ซีซีกลัวการฉีดยาเล็กน้อย เธอส่ายหัว หลังจากได้ยินคุณหมอบอกว่าต้องให้น้ำเกลือ
เมื่อจี้หลิงชวนที่อยู่ทางด้านข้างเห็นปฏิกิริยาของมู่ซีซีอย่างนี้แล้ว เขาก็เดินเข้ามาจับมือของมู่ซีซีไว้พร้อมกับพูดเกลี้ยกล่อมมู่ซีซี ราวกับพูดเกลี้ยกล่อมเด็กน้อยด้วยความอดทนว่า “ซีซี ไม่ต้องกลัว การฉีดยามันไม่เจ็บ ฉันจะนั่งอยู่ตรงนี้เป็นเพื่อนเธอเอง ถ้าหากว่าเธอกลัว ฉันจะเป็นคนช่วยปิดตาให้กับเธอเอง อย่ามองมันเลยนะ”
จี้หลิงชวนพูดขึ้นพลางมองไปที่คุณหมอ คุณหมอกำลังจะเตรียมตัวฉีดยาให้กับมู่ซีซี เมื่อเห็นว่าคุณหมอกำลังจะฉีดยาให้กับมู่ซีซีจี้หลิงชวนก็รีบเอื้อมมือออกไปปิดตาของมู่ซีซีอย่างนุ่มนวล จากนั้นน้ำเสียงอันอ่อนโยนที่พูดออกมาปลอบประโลมมู่ซีซีอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนก็ดังขึ้น “ซีซี ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องตื่นเต้น มันเป็นแค่การฉีดยาเท่านั้น อดทนนิดหนึ่ง เดี๋ยวก็ไม่เป็นไรแล้ว ”
และสิ่งที่แปลกก็คือ ก่อนที่มู่ซีซีจะฉีดยาเธอทั้งกลัวและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แต่เมื่อได้ยินเสียงของ จี้หลิงชวน หัวใจของเธอก็สงบลงอย่างผิดปกติ
ราวกับว่าไม่มีความรู้สึกกลัวแล้ว…
และมู่ซีซียังรู้สึกแปลกๆขึ้นมาอีกว่า น้ำเสียงที่อ่อนโยนของจี้หลิงชวนนั้นฟังดูไพเราะเอามากๆ…เมื่อมู่ซีซีได้รับน้ำเกลือขวดที่สอง เธอก็รู้สึกว่าอาการของตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ไม่มีอาการตาลายเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว และในลำคอก็รู้สึกโล่งสบาย สามารถพูดได้อย่างปกติ แต่ก็ยังมีอาการเสียงแหบเล็กน้อย
มู่ซีซีเห็นว่าจี้หลิงชวนยังคงนั่งอยู่ทางด้านข้างเป็นเพื่อนเธอพร้อมกับยังจับมือเธอเอาไว้แน่น ก่อนหน้านี้ไม่ทันได้สังเกต แต่ตอนนี้เธอกลับรู้ตัวแล้ว เมื่อถูกจี้หลิงชวนจับมือไว้เช่นนี้ มู่ซีซี กลับรู้สึกอายขึ้นเล็กน้อย เธอพยายามขยับมือที่ถูกจี้หลิงชวนจับเอาไว้ และสายตาของเธอก็มองไปที่จี้หลิงชวนที่นั่งอยู่ตรงด้านข้าง ก่อนที่จะพูดออกมาเบาๆว่า “จี้หลิงชวน ฉัน ไม่เป็นไรแล้ว อันที่จริงดีขึ้นมากแล้ว ถ้าหากมีงานที่บริษัท คุณก็รีบไปทำก่อนเถอะ …ฉันอยู่คนเดียวได้ …”