รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 362 ความจริงกระจ่าง
ไม่ว่ายังไง ตอนนี้เธอต้องใจเย็นๆก่อน!
ขอแค่เธอใจเย็นลงแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอก็ต้องรับมือได้แน่นอน!
ขณะคิดชูเหยาจึงแอบสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามไม่ให้สีหน้าตัวเองตึงเครียดขนาดนั้น แถมยังยิ้มอ่อนให้จี้หลิงชวนกับมู่ซีซีอีก จากนั้นค่อยก้าวเดินไปหยุดลงตรงหน้าจี้หลิงชวนกับมู่ซีซีทีละก้าวอย่างใจเย็น
ตอนที่สายตาเห็นจี้หลิงชวนจับมือมู่ซีซีอยู่ แววตาของชูเหยาจึงหดเล็กน้อย นิ้วมือจึงกำไว้แน่นพยายามหักห้ามตัวเองจนเล็บจิกเข้าเนื้อ
ทันใดนั้น ชูเหยาจึงได้ยินเสียงที่ตัวเองพยายามฝืนแกล้งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นดังขึ้นในคฤหาสน์ “หลิงชวน ไม่เจอกันนานเลย……”
ตอนที่จี้หลิงชวนเห็นชูเหยาเดินมาหยุดตรงหน้าเขาคิ้วของเขาจึงขมวดแน่นกว่าเดิม
ไม่คิดเลยว่าชูเหยาจะยังมีอารมณ์มีรื้อฟื้นความหลัง ประโยคเมื่อกี้ของชูเหยายังพูดไม่จบ จี้หลิงชวนจึงพูดแทรกอย่างไม่เกรงใจว่า “ชูเหยา เธอท้องเหรอ?”
จี้หลิงชวนพูดเข้าประเด็นทันที แต่กลับเป็นชูเหยาที่ได้ยินแล้วเป็นคนอึ้งแทน ผ่านไปหลายสิบวินาทีเธอค่อยตั้งสติได้ พอสบตากับสายตาที่ลึกลับของจี้หลิงชวน ชูเหยาจึงเกร็งจนต้องกลืนน้ำลาย แล้วเธอก็แอบหยิกอุ้มมือตัวเอง จากนั้นเธอค่อยพยักหน้าให้จี้หลิงชวน รวบรวมความกล้า เงยหน้ามองแล้วเอ่ยพูดกับเขาว่า “อื้อ หลิงชวน ฉันท้อง ฉันท้องสองเดือนแล้ว ลูกในท้องเป็นของนาย”
พอพูดจบ ชูเหยาจึงหักห้ามความหวาดกลัวในใจไว้แล้วสบตากับจี้หลิงชวนแล้วก็มู่ซีซี
คนทั่วไปถ้าเห็นท่าทางที่นิ่งเฉยของชูเหยาแบบนี้ อาจจะเชื่อจริงๆว่าชูเหยาท้องลูกของจี้หลิงชวน
แต่จี้หลิงชวนกลับไปตกหลุมพรางของชูเหยา
ตอนนี้ได้ยินชูเหยาพูดแบบนี้ สายตาจี้หลิงชวนจึงจ้องมองไปที่ชูเหยาแล้วยิ้มมุมปากอย่างเยือกเย็น
ชูเหยาเห็นความเข้มขรึมบนใบหน้าจี้หลิงชวน ในใจจึงสั่นเกร็งมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีทันที
ชูเหยาที่ลนลานขยับริมฝีปาก กำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จี้หลิงชวนไม่ให้โอกาสชูเหยาได้พูดเลย เขาส่งสายตาให้กับบอดี้การ์ดสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ทันใดนั้น คฤหาสน์ที่เงียบสงบจึงมีเสียงที่เยือกเย็นของจี้หลิงชวนดังขึ้นมาว่า “พวกแกสองคน! เอาตัวชูเหยาไปที่รถ!!!”
เสียงของจี้หลิงชวนเพิ่งจบลง บอดี้การ์ดสองคนจึงเดินไปจับตัวชูเหยาไว้ทั้งสองข้าง
บอดี้การ์ดสองคนนั้นผ่านการฝึกมาอย่างชำนาญ พวกเขาสองคนเผชิญหน้ากับผู้ชายสิบคนก็ไม่มีปัญหา แต่นี่แค่ชูเหยาที่ไม่มีเรี่ยวมีแรงอะไรเลย
ชูเหยากำลังจะดิ้นหนี จึงโดนบอดี้การ์ดสองคนจับตัวไว้แน่น ชูเหยาจึงไม่มีเรี่ยวแรงที่จะดิ้นอีก จึงโดนบอดี้การ์ดสองคนลากออกไปขึ้นรถข้างนอกคฤหาสน์
สีหน้าของชูเหยาเปลี่ยนไปทันที พร้อมตะโกนใส่จี้หลิงชวนกับมู่ซีซีอย่างไม่ยอมว่า “จี้หลิงชวน! นายจะทำอะไรกันแน่! นายรีบให้พวกเขาปล่อยฉัน! ตอนนี้ฉันกำลังตั้งท้องลูกของนายอยู่! จี้หลิงชวน นายจะใจดำกับฉันขนาดนี้เลยเหรอ!”
ได้ยินชูเหยาตะโกนพูดแบบนี้ คนรับใช้ที่ดูแลชูเหยาอยู่ก่อนหน้านั้นจึงตั้งสติได้ จากนั้นจึงอยากจะพุ่งไปช่วยชูเหยา แต่ว่าพอคนรับใช้คนนั้นขยับปุ๊บ ก็โดนฟางเซิ่งที่ตาแหลมขวางไว้ทันที
จี้หลิงชวนที่จับมือมู่ซีซียืนอยู่ที่เดิมได้ยินสิ่งที่ชูเหยาพูดเมื่อกี้ ใบหน้าที่เย็นชาอยู่แล้วจึงเข้มขรึมมากกว่าเดิม
จากนั้นจึงหรี่ตาอย่างอันตราย จี้หลิงชวนมองไปทางชูเหยาแล้วพูดทีละคำว่า “เธอบอกว่าท้องลูกของฉันไม่ใช่เหรอ? ได้ งั้นก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลก็จะรู้เองว่าเป็นลูกของใครกันแน่!”
ถึงแม้ตอนนี้เด็กจะยังไม่คลอด แต่ว่าตอนนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปไกลแล้ว ขอแค่เจาะถุงน้ำคร่ำก็ตรวจดีเอ็นเอได้แล้ว แถมยังแม่นยำถึงเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์เลย
ชูเหยาที่โดนบอดี้การ์ดจับตัวอยู่ได้ยินจี้หลิงชวนพูดแบบนี้ จึงอึ้งนิ่งอยู่กับที่ทันที ความหวาดกลัวในใจก็เอ่อล้นพุ่งปรี๊ดขึ้นมาทันที
ชูเหยารู้สึกว่าเหมือนโดนสูบแรงออกไปทั้งตัว แล้วเธอก็หมดเรี่ยวหมดแรง จนร่างกายเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
ชูเหยาตั้งใจวางแผนมาตั้งนาน แต่กลับลืมคิดว่าไปว่าจี้หลิงชวนจะกระทำต่อเธอยังไง!
ชูเหยาคิดไม่ถึงจริงๆว่าจี้หลิงชวนจะเย็นชากับเธอถึงขนาดนี้ ไม่เชื่อสิ่งที่เธอพูดเลยสักนิด แล้วเลือกที่จะพาเธอไปตรวจดีเอ็นเอที่โรงพยาบาลแทน!
ในใจชูเหยาจึงตีกันวุ่นไปหมด!
ไม่! ไม่ได้! จะให้จี้หลิงชวนพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลไม่ได้!
ถ้าไปตรวจจริงๆ งั้นทุกอย่างต้องจบแน่!
ในใจจี้หลิงชวนอาจจะไม่รู้ แต่ในใจชูเหยารู้ดีว่าลูกในท้องไม่ใช่ของจี้หลิงชวน!
ถ้าไปตรวจดีเอ็นเอจริงๆ งั้นเรื่องนี้คงปกปิดไม่อยู่แน่นอน!
ถึงเวลาแผนของเธอก็ต้องสูญเปล่าสิ! แล้วนิสัยของจี้หลิงชวน ครั้งนี้เธอวางแผนหลอกจี้หลิงชวนแบบนี้ ถึงเวลาจี้หลิงชวนคงไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆแน่นอน!
ขณะคิดชูเหยาจึงดิ้นสุดแรงอย่างบ้าคลั่ง ดิ้นหนีไปด้วยแล้วตะโกนไปทางจี้หลิงชวนกับมู่ซีซีว่า “จี้หลิงชวน! นายจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้!!! ฉันไม่ไปโรงพยาบาล! จี้หลิงชวน! นายจะใจดำกับฉันแบบนี้จริงๆเหรอ? ลูกในท้องของฉันเป็นของนาย ทำไมนายไม่ยอมรับล่ะ? หรือว่าเพราะยัยมู่ซีซี นายเลยไม่ยอมรับลูกของตัวเอง?”
อยู่ๆชูเหยาก็พูดเปลี่ยนประเด็น มองจี้หลิงชวนแล้วพูดต่อว่า “หลิงชวน หรือว่า ตอนนี้เพื่อยัยมู่ซีซีนายสามารถทิ้งทุกอย่างได้ ทิ้งฉันแล้วก็ทิ้งลูกของนายด้วยงั้นเหรอ? ฉันรู้ นายพาฉันไปตรวจที่โรงพยาบาลสุดท้ายผลต้องออกมาว่าเด็กในท้องไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือดกับนายแน่นอน! เพราะนายไม่คิดจะเอาฉันกับลูกอยู่แล้ว!”
ชูเหยาเหมือนกำลังพูดให้จี้หลิงชวนฟัง แต่จริงๆแล้วกำลังพูดให้มู่ซีซีฟังต่างหาก!
ถึงแม้จะถึงขึ้นนี้แล้ว แต่ในใจชูเหยาก็ยังไม่ยอมอยู่ดี ยังอยากจะใช้คำพูดเมื่อกี้มาเล่นงานจี้หลิงชวนแทน
ความหมายของคำพูดเมื่อกี้ชูเหยาอยากจะบอกมู่ซีซีว่า ถึงแม้สุดท้ายผลตรวจดีเอ็นเอออกมาแล้ว ถ้าเด็กในท้องของเธอไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือดกับจี้หลิงชวน ก็เพราะจี้หลิงชวนเป็นคนสั่งการให้ปลอมแปลงผลตรวจ
เพราะด้วยอำนาจกับตำแหน่งของจี้หลิงชวนในเมืองหรง อยากจะหาคนมาปลอมแปลงผลตรวจดีเอ็นเอแค่นี้ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย