รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 364 ละครที่จัดฉากเล่นเอง
ลู่เฉิงจินดูแลชูเหยาดีมาก ตัวเองพาคนไปช่วยชูเหยากลับมาจากอเมริกา พอกลับมาในประเทศพร้อมชูเหยาแล้วก็ยังจ้างแม่บ้านมาดูแลเธออีก ถึงแม้ตัวเองจะโดนลู่เฉิงฮ่าวขังไว้ที่บ้านออกมาไม่ได้ กลัวว่าจะดูแลเธอไม่ดี เขายังโทรไปสั่งแม่บ้านว่า ให้แม่บ้านดูแลเธอดีๆ ถ้ามีเรื่องอะไร ต้องรีบโทรหาเขาทันที
อาจจะเพราะคำย้ำเตือนของลู่เฉิงจิน ตอนที่แม่บ้านเห็นชูเหยาโดนจี้หลิงชวนพาตัวไป ในใจจึงรู้สึกถึงความผิดปกติ แล้วรีบโทรหาลู่เฉิงจินทันที
ลู่เฉิงจินได้รับสายจากแม่บ้าน พอรู้ว่าชูเหยาโดนจี้หลิงชวนพาตัวไปแล้ว สีหน้าจึงเย็นชาทันที ทั้งเป็นห่วงทั้งโมโหจึงยกแก้วในมือขึ้นมาขว้างไปที่พื้นแรงๆ
ไม่รอให้ลู่เฉิงจินระบายความโมโหออกมา ในโทรศัพท์จึงมีเสียงของแม่บ้านดังขึ้นมาอีกว่า “ใช่ค่ะ คุณชายลู่ ตอนที่คุณหนูชูโดนคนพวกนั้นพาไป ได้ยินคนพวกนั้นพูดถึงเรื่องที่คุณหนูชูกำลังท้องอยู่ด้วยค่ะ……”
เสียงของแม่บ้านเพิ่งจบลง ในใจลู่เฉิงจินจึงสั่นเกร็งทันที พอได้ยินว่าชูเหยาท้อง ในหัวลู่เฉิงจินจึงอดนึกถึงค่ำคืนเมื่อสองเดือนก่อนไม่ได้ อยู่ๆชูเหยาก็ชวนเขาไปที่บ้าน แล้วในห้องรับแขก ชูเหยาเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน ค่ำคืนนั้นพวกเขาสองคนมีอะไรกัน ตอนนั้นลู่เฉิงจินยังไม่ได้สังเกตอะไรมาก พอตอนนี้เขามาลองนึกย้อนดู ค่อยรู้ว่าคืนนั้นตอนที่เขาทำอะไรกับชูเหยา เพราะว่าชูเหยาเร่าร้อนเกินไป เขาจึงควบคุมตัวเองไม่อยู่ ตอนทำไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยด้วย!
เพราะฉะนั้น ถ้าตอนนี้ชูเหยาท้องจริงๆงั้นก็แสดงว่าเด็กในท้องชูเหยาคนนั้นอาจจะเป็นทายาทของเขาก็ได้!
พอคิดว่าอาจจะเป็นไปได้ใบหน้าลู่เฉิงจินจึงมีความดีใจทันที!
เขารู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรใจเย็นก่อน ลู่เฉิงจินจึงหยิกขาตัวเองแรงๆ บังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์
ลู่เฉิงจินจึงอดลุกขึ้นไม่ได้แล้วเดินไปมาในห้องนอนที่ล็อกสนิท เดินไปด้วย ในหัวลู่เฉิงจินก็เอาแต่เรียบเรียงเหตุการณ์ต่างๆ
ลู่เฉิงจินจำได้แม่น วันที่สองหลังจากที่เขามีอะไรกับชูเหยาแล้ว เขาก็ติดต่อชูเหยาไม่ได้แล้วหาตัวเธอไม่เจอด้วย
ตอนนี้ดูมาอาจจะเพราะว่าหลังจากวันที่ชูเหยามีอะไรกับเขาแล้วก็โดนจี้หลิงชวนส่งตัวไปขังไว้ที่อเมริกา
สถานการณ์ตอนนั้นของชูเหยา ถูกขังอยู่ในห้องทุกวันออกไปไหนไม่ได้ ถึงแม้ที่นั่นจะมีบอดี้การ์ดที่เป็นผู้ชาย แต่ด้วยความเข้มงวดของจี้หลิงชวน บอดี้การ์ดพวกนั้นไม่กล้าแตะต้องชูเหยาแน่นอน
เพราะฉะนั้นพอคิดแบบนี้ ความมั่นใจที่มีแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของลู่เฉิงจินจึงพุ่งปรี๊ดไปถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าเด็กในท้องชูเหยาเป็นลูกของเขา!
พอคิดได้ว่าตอนนี้ในท้องชูเหยามีลูกของเขาสองคน ลู่เฉิงจินจึงตื่นเต้นจนอยากจะไปหาชูเหยาเดี๋ยวนี้เลย แล้วถามชูเหยาให้ชัดเจน!
แต่ว่าพอนึกได้ว่าชูเหยาโดนจี้หลิงชวนพาตัวไป ความดีใจบนใบหน้าลู่เฉิงจินจึงเปลี่ยนมาเข้มขรึมทันที
มือทั้งสองข้างที่อยู่ข้างตัวก็กำหมัดแน่นทันที!
ไม่ได้ ก่อนหน้านั้นจี้หลิงชวนเอาตัวชูเหยาไปขังที่อเมริกา เขาก็หาตัวชูเหยาไม่เจอไปครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนี้ชูเหยาท้องอยู่แล้วโดนจี้หลิงชวนพาตัวไปอีก ครั้งนี้จี้หลิงชวนอาจจะทำอะไรกับชูเหยาอีกก็ได้!
พอคิดแบบนี้ ลู่เฉิงจินจะใจเย็นได้ยังไง ประตูห้องถูกล็อกไว้ เขาเปิดไม่ออก พอใจร้อนจึงยกเท้าขึ้นมาถีบประตูแรงๆจนเปิด
พอลู่เฉิงจินถีบประตูกะทันหันแบบนี้บอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่หน้าประตูจึงตั้งรับไม่ทัน แค่ชั่วพริบตา รอบอดี้การ์ดตั้งสติได้แล้ว จะยังเห็นเงาลู่เฉิงจินอีกได้ยังไงล่ะ!
ลู่เฉิงจินวิ่งหนีไปที่โรงจอดรถแล้วแล่นรถออกไปรวดเร็วเหมือนจรวดแล้ว
บอดี้การ์ดคนนั้นทำอะไรไม่ได้จึงต้องรีบขับรถตามไปด้วยสีหน้าย่ำแย่ทันที
ลู่เฉิงจินขับรถเร็วมาก เหมือนไม่อยากมีชีวิตรอดอย่างนั้น จนบอดี้การ์ดตามเขาไม่ทัน
บนถนนรถก็เยอะ ตามไปไม่นานพอถึงสี่แยกที่มีรถเยอะลู่เฉิงจินก็หาโอกาสหนีไปแล้ว
ลู่เฉิงจินในรถเห็นคนพวกเขาตามไม่ทันแล้ว ค่อยรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาแม่บ้านคนนั้น
พอโทรออกปุ๊บ เสียงที่ร้อนรนของลู่เฉิงจินจึงดังขึ้นในรถที่เงียบสงบ “ป้ารู้หรือเปล่าว่าชูเหยาถูกคนพวกนั้นพาตัวไปที่ไหน?”
ตอนนี้ลู่เฉิงจินไม่รู้เลยว่าชูเหยาถูกพาตัวไปที่ไหน! จึงต้องฝากความหวังไว้ที่แม่บ้านคนนั้น
แม่บ้านคนนั้นได้ยินลู่เฉิงจินถามแบบนี้ จึงขมวดคิ้วนึกย้อนไปครู่หนึ่งแล้วพูดกับลู่เฉิงจินอย่างไม่แน่ใจว่า “คุณชายลู่คะ ป้าไม่รู้ว่าคุณหนูชูโดนพวกเขาพาตัวไปที่ไหน……แต่ว่าป้าได้ยินพวกเขาบอกว่าเหมือนจะพาคุณหนูชูไปที่โรงพยาบาล……”
ลู่เฉิงจินได้ยินว่าไปโรงพยาบาล คิ้วที่ขมวดอยู่จึงขมวดแน่นกว่าเดิม จากนั้นจึงกดตัดสายทันที
ลู่เฉิงจินไม่แน่ใจว่าจี้หลิงชวนจะพาชูเหยาไปที่โรงพยาบาลไหน แต่ว่าโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหรงคือโรงพยาบาลกลาง ลู่เฉิงจินจึงแล่นไปทางโรงพยาบาลกลางอย่างไม่ลังเลเลย
ความจริงทำให้รู้ว่าลู่เฉิงจินเดาถูก ตอนที่เขาไปถึงโรงพยาบาลกลาง แล้วใช้เส้นสาย จึงรู้ว่าจี้หลิงชวนพาชูเหยามาที่โรงพยาบาลกลางจริงๆ
ไม่เพียงแค่นี้ แผนกที่จี้หลิงชวนไปกลับเป็นแผนกตรวจพิสูจน์
ลู่เฉิงจินนึกถึงลูกในท้องชูเหยา ในใจจึงลนลานกว่าเดิม พอรู้ข่าวแล้วจึงรีบก้าวเดินไปทางแผนกตรวจดีเอ็นเอทันที
ตอนที่ลู่เฉิงจินไปถึงที่แผนกแต่ไม่เจอจี้หลิงชวนกับชูเหยา พอถามพยาบาลแล้วค่อยรู้ว่าชูเหยาถูกส่งตัวไปในห้องพักฟื้นแล้ว
จากนั้นลู่เฉิงจินจึงรีบเดินไปทางห้องพักฟื้นที่ชูเหยาอยู่ทันที
บังเอิญมาก ตอนที่ลู่เฉิงจินไปถึงหน้าประตูห้อง จึงได้ยินเสียงทุ้มต่ำที่แฝงไปด้วยความโมโหของจี้หลิงชวนดังมาจากในห้องว่า “ชูเหยา! ก่อนหน้านั้นเธอบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกของฉัน แต่ว่าตอนนี้ผลตรวจดีเอ็นเอออกมาแล้ว! เด็กในท้องเธอไม่ใช่ลูกของฉัน! ตอนนี้เธอยังจะอ้างอะไรอีก?!”
ลู่เฉิงจินได้ยินสิ่งที่จี้หลิงชวนพูดชัดเจน เขาจึงยืนอึ้งนิ่งอยู่กับที่ ก่อนหน้านั้นที่รู้จากทางโรงพยาบาลว่าจี้หลิงชวนพาตัวชูเหยามาตรวจดีเอ็นเอ ในใจเขาก็ลนลานมากแล้ว ตอนนี้ได้ยินจี้หลิงชวนบอกว่าเด็กในท้องชูเหยาไม่เกี่ยวข้องกับจี้หลิงชวนเองกับหู! ในใจเขาจึงดีใจ ขณะคิด ลู่เฉิงจินจึงได้ยินเสียงที่เข้มขรึมโมโหของจี้หลิงชวนดังขึ้นอีกว่า “ชูเหยา! คืนวันนั้นเมื่อสองเดือนก่อนฉันไม่ได้มีอะไรกับเธอแน่นอน ทั้งหมดเป็นแค่ละครที่เธอจัดฉากขึ้นมาเพื่อจะหลอกฉันสินะ!!!”