รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 371 ชะตากรรมต่อไปของชูเหยา
ฟางเซิ่งกดปิดเครื่องบันทึกเสียง จากนั้นก็ใช้มืออีกข้างหนึ่งหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิด
ข้อความบันทึกเสียง จากนั้นเสียงของชูเหยาก็ดังขึ้นมาในทันที
ทั้งหมดเป็นการสนทนาระหว่างชูเหยากับชายที่มีส่วนร่วมในการลักพาตัว แน่นอนว่า ทุกอย่างเป็นไปตามที่ชายลักพาตัวได้พูดไว้ แผนการทุกอย่างดำเนินไปภายใต้การกำกับดูแลของชูเหยา
เมื่อมีคลิปเสียงนี้ มันก็ง่ายที่จะตัดสินโทษของชูเหยา
ส่วนมู่ซีซีรู้เรื่องทั้งหมดแล้วว่าเป็นฝีมือของชูเหยา และเนื้อหาของข้อความที่ถูกบันทึกไว้นี้ไม่ผิดกับสิ่งที่มู่ซีซีรู้เลย ดังนั้นหลังจากที่มู่ซีซีได้ฟัง เธอจึงไม่ได้มีท่าทีหรือการแสดงออกมามากนัก มีเพียงแค่สายตาอันเย็นชาที่เหลือบมองไปยังจี้หลิงชวนซึ่งยืนอยู่ด้านข้าง
และหลังจากที่จี้หลิงชวนได้ฟังคลิปบันทึกเสียงของชูเหยาแล้ว ท่าทางของจี้หลิงชวนก็ดูอึดอัดและเคร่งขรึมขึ้นมาในทันที
เขาสังเกตเห็นสายตาอันเย็นชาของมู่ซีซีจ้องมาที่ตัวเอง จี้หลิงชวนเงยหน้าขึ้นและเหลือบไปมองมู่ซีซีที่อยู่ด้านข้าง สายตาของทั้งคู่ประสานกัน และในขณะที่จี้หลิงชวนสบตากับมู่ซีซีอยู่นั้น หัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้นมาเรื่อยๆราวกับกำลังรู้สึกผิด เสียใจและเจ็บปวด
จี้หลิงชวนไม่เคยลืมเรื่องครึ่งปีหลังจากที่มู่ซีซีกลับมาเธอได้บอกกับเขาว่าคดีการลักพาตัวเธอนั้นเกี่ยวข้องกับซูเหยา แต่ในขณะนั้น จี้หลิงชวนกลับรู้สึกเพียงว่ามู่ซีซีมีอคติต่อชูเหยาเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่มู่ซีซีพูด
ในตอนที่เขาปักใจเชื่อชูเหยา ต้องทำให้หัวใจของมู่ซีซีเศร้าโศกมากเป็นแน่ และไม่น่าแปลกใจเลยที่ต่อมามู่ซีซีจะดูเฉยชาแบบนั้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเขา!
ยิ่งจี้หลิงชวนคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกเสียใจมากขึ้นเท่านั้น ณ เวลานี้ จี้หลิงชวนอยากจะให้เวลาในตอนนี้ผ่านพ้นไปไวๆ และปล่อยให้ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ต่อไปนี้เขาจะไม่ทำให้ซีซีต้องเสียใจอีกแม้แต่นิดเดียว
จี้หลิงชวนคิดพลางยื่นมือออกไปจับที่มือของมู่ซีซีเอาไว้แน่น”ซีซี ฉันขอโทษ ฉันขอโทษจริงๆ ที่ตอนนั้นฉันไม่เชื่อคำพูดของเธอ … ”
เรื่องมันผ่านมานานมากแล้ว และมู่ซีซีไม่ใช่คนที่ชอบยึดติดกับอดีต ตอนนี้ เมื่อเธอรู้ว่าจี้หลิงชวนเสียใจและรู้สึกผิดจากใจจริงแล้ว ความคับข้องใจในเรื่องนี้ที่อยู่ในหัวใจของมู่ซีซีก็ค่อยๆสลายหายไป
มู่ซีซีส่ายหัวให้กับจี้หลิงชวนและพูดขึ้นว่า”ไม่เป็นไร ตอนนี้ความจริงได้ปรากฏขึ้นมาแล้วส่วนเรื่องในอดีตก็ปล่อยให้มันผ่านพ้นไปเถอะ ”
ตอนนี้มู่ซีซีไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว แต่ในใจของจี้หลิงชวนนั้นกลับให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก ๆ
ทันทีที่เขาคิดถึงเรื่องคดีการลักพาตัวที่วางแผนโดยชูเหยา อีกทั้งความโง่เง่าของตัวเองที่เลือกที่จะช่วย เพราะรู้สึกผิดต่อเธอ จนทำให้มู่ซีซีนอนรักษาตัวบนเตียงเป็นเวลาครึ่งปีและเกือบจะไม่มีชีวิตรอดกลับมา แถมลูกคนแรกของเขากับมู่ซีซีก็แท้งเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ในครั้งนั้น!
จี้หลิงชวนแทบอยากจะตบหน้าของตัวเองแรงๆสักครั้ง !
ครั้งนี้ เรื่องนี้ได้เป็นความท้าทายของจี้หลิงชวนโดยสิ้นเชิง ชูเหยาลงมือทำกับมู่ซีซีมาหลายครั้งแล้ว และตอนนี้จี้หลิงชวนก็ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของชูเหยาแล้ว ทันใดนั้น ดวงตาของจี้หลิงชวนก็เย็นชาขึ้น ดูแล้วการลงโทษโดยการปล่อยให้ชูเหยาถูกขังอยู่ในคุกตลอดชีวิตมันคงจะดูเบาเกินไป
เมื่อจี้หลิงชวนคิดได้แบบนี้แล้ว เขาก็จับที่มือของมู่ซีซีแน่นขึ้น และไม่นานหลังจากนั้น จี้หลิงชวนก็มองไปที่มู่ซีซีด้วยสายตาแห่งความเสียใจอย่างสุดซึ้งพร้อมกับกล่าวขึ้นว่า”ซีซี เธอไม่ต้องกังวล คราวนี้ฉันจะไม่มีวันอ่อนข้อให้ชูเหยาอีก ! หนึ่งชีวิตชดใช้ด้วยชีวิต ชูเหยาทำร้ายลูกของเรา อย่างนั้นก็ให้เธอชดใช้ด้วยชีวิตของเธอก็แล้วกัน!”
เมื่อมู่ซีซีได้ยินสิ่งที่จี้หลิงชวนพูด เธอก็อดไม่ได้ที่จะมองจี้หลิงชวนด้วยความประหลาดใจ
ถ้าเป็นเรื่องของชูเหยาแล้ว จี้หลิงชวนมักปฏิบัติต่อชูเหยาอ่อนโยนมาโดยตลอด แต่มาในครั้งนี้มู่ซีซีไม่คิดเลยว่าจี้หลิงชวนจะโหดร้ายได้ขนาดนี้
เมื่อได้ยินสิ่งที่จี้หลิงชวนพูดในตอนนี้ ที่ว่า เขาต้องการให้ชูเหยาชดใช้โดยชีวิตของเธอ
แต่ก่อนมู่ซีซีก็เคยคิดแบบนี้เหมือนกัน แต่ตอนนี้ความคิดของมู่ซีซีได้เปลี่ยนไปแล้ว ชูเหยาได้ทำสิ่งที่เลวร้ายมากมายและสมควรที่เธอจะต้องตาย แต่ตอนนี้มู่ซีซีกลับรู้สึกว่าถ้าชูเหยาตายไปแล้ว มันจะดูง่ายเกินไป
คนที่หยิ่งยโสอย่างชูเหยา จะต้องถูกกักขังไว้ในห้องมืด วันแล้ววันเล่าปีแล้วปีเล่าจนกว่าเธอจะตาย ชูเหยาต้องไม่ได้ออกจากห้องมืดจนกว่าเธอจะค่อยๆตายไปอย่างทรมานในที่สุด วิธีการนี้ดีกว่าที่จะฆ่าชูเหยาตายในครั้งเดียว!
เมื่อคิดได้แบบนี้มู่ซีซีก็เงยหน้าขึ้นมองจี้หลิงชวนพร้อมกับส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า “จี้หลิงชวนฉันคิดว่าทำแบบนี้กับชูเหยามันดูใจดีกับเธอเกินไป ควรขังชูเหยาไว้ในคุกตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของเธอ มันเป็นการดีเสียกว่าที่จะปล่อยให้เธอตายไปอย่างง่ายดาย ปล่อยให้เธอค่อยๆสำนึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ในคุกเถอะ ”
ตอนนี้สำหรับจี้หลิงชวนแล้ว ไม่ว่ามู่ซีซีจะร้องขออะไร ขอแค่ให้เธอมีความสุข จี้หลิงชวนก็ยอมที่จะตอบตกลงในทันที และจี้หลิงชวนยังได้ออกคำสั่งโดยเฉพาะขึ้นอีกว่า ชูเหยาจะต้องถูกขังอยู่ในห้องทุกๆวันและจะไม่มี การดูแลพิเศษใดๆ ไม่เพียงแค่นั้น เขายังสั่งให้คนเข้าไปทรมานชูเหยาได้เป็นครั้งคราว แต่ต้องไม่ทำให้เธอตาย และให้ขังเธอไว้อย่างนั้นเป็นเวลาร้อยปี
การตัดสินใจลงโทษชูเหยาแบบนี้ เป็นเพราะจี้หลิงชวนอยู่เบื้องหลัง และหลักฐานได้รับการสรุปออกมาแล้ว ศาลจึงใช้เวลาไม่นานในการตัดสินคดีความเกี่ยวกับชูเหยา
เมื่อคดีของชูเหยาถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนในชั้นศาล ทั้งจี้หลิงชวนและมู่ซีซีต่างก็ไม่ได้ไปที่นั่น และเป็นไปตามที่คาดไว้ ชูเหยาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
ในห้องพิจารณาคดี ตอนที่ชูเหยาได้ยินผู้พิพากษาอ่านคำตัดสิน จู่ ๆ ร่างกายของเธอก็ทรุดตัวลงกับพื้นเธอขดตัวและร้องไห้ด้วยความอับอาย
มู่ซีซีเข้าใจความรู้สึกของชูเหยาเป็นอย่างดี การจำคุกตลอดชีวิตนั้นโหดร้ายสำหรับชูเหยา มากกว่าการถูกโทษประหารชีวิตเสียอีก
ในทางตรงกันข้าม ถ้าชูเหยาเลือกได้ เธอก็คงจะเลือกโทษประหารชีวิต ตายให้พ้นๆจากโลกนี้ไปเสียดีว่า !
ในที่สุดชูเหยาก็ถูกผู้คุมสองคนลากออกจากศาล และถูกส่งต่อไปเข้าคุกที่เรือนจำในเขตชานเมือง
เรือนจำไม่ใหญ่ แต่มีนักโทษจำนวนมากที่ถูกคุมขังอยู่ที่นั่น
ชูเหยาถูกส่งไปอยู่ในห้องขังที่แคบรวมกับนักโทษอีกห้าคน สภาพสุขอนามัยในคุกนั้นแย่มาก นักโทษหญิงอีกห้าคนที่อาศัยอยู่ในห้องขังเดียวกันกับชูเหยานั้นชอบยั่วยุและกลั่นแกล้ง !
คนที่น่ากลัวที่สุดคือผู้หญิงร่างสูงในวัยสามสิบซึ่งอาศัยอยู่ในห้องขังเดียวกันกับชูเหยา เธอมีรอยสักที่แขนทั้งสองข้างและโกนศีรษะ เธอไม่ชอบพูด และมีรอยแผลเป็นตามแนวยาวอยู่ทางด้านข้างบริเวณตา
มองดูแล้วสัมผัสได้ถึงความร้ายกาจที่แผ่ออกมาจากกระดูกของเธอเลยทีเดียว
หญิงคนนี้เป็นฆาตกร และเธอยังเป็นหัวหน้าของเหล่านักโทษในเรือนจำหญิงแห่งนี้ด้วย ซึ่งเธอมักจะกลั่นแกล้งนักโทษใหม่อยู่เสมอๆ
ในคืนแรกที่ชูเหยาเพิ่งจะเข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่ ตกกลางดึก จู่ ๆ เธอก็ถูกกระชากผมขึ้นจากเตียงอย่างรุนแรง
และตอนที่ชูเหยากำลังจะอ้าปากกรีดร้องออกมา นักโทษหญิงคนนั้นรู้ว่าชูเหยาคิดจะทำอะไรและไม่ปล่อยให้ชูเหยามีโอกาสได้ทำ เพราะทันทีที่ชูเหยาอ้าปากขึ้น เธอก็รีบยัดถุงเท้าเน่าๆเข้าไปในปากของชูเหยาทันที