รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 374 เมาแล้วทำตามอำเภอใจ
ในเวลาต่อมา มู่ซีซีรู้สึกถึงความร้อนที่กระจายออกมาจากบริเวณศีรษะและแสบร้อนที่บริเวณดวงตา อีกทั้งหัวใจของเธอก็เร็วขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
มู่ซีซีเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาคู่นั้นของจี้หลิงชวน
เธอสัมผัสได้ว่าจี้หลิงชวนกำลังต้องการที่จูบเธออีกครั้ง เมื่อรู้อย่างนั้นแล้วใบหน้าอันขาวบริสุทธิ์ของมู่ซีซีก็เปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นในทันที มู่ซีซีผลักจี้หลิงชวนออกไปด้วยความเขินอาย ตอนนี้เธอรู้สึกเจ็บนิดๆที่บริเวณริมฝีปาก และคิดว่ามันคงจะทั้งบวมและแดงไปหมดแล้ว หากให้จี้หลิงชวนยังจูบเธอแบบไม่รู้จักพอแบบนี้ต่อไป แล้วอีกสักพักเธอจะมีหน้าออกไปคนอื่นได้อย่างไร!
เมื่อมู่ซีซีคิดได้อย่างนี้แล้ว เธอก็รีบเปลี่ยนหัวข้อเรื่องที่จะคุยในทันที โดยมู่ซีซีมองไปที่จี้หลิงชวนแล้วพูดขึ้นว่า “จี้หลิงชวน ฉันหิวแล้ว เราจะทานอาหารกันได้หรือยัง?”
เมื่อจี้หลิงชวนได้ยินมู่ซีซีบอกว่าเธอหิวแล้ว เขาก็รีบจับมือและจูงมือเธอมานั่งลงที่โต๊ะ โต๊ะตัวที่สุดแสนจะโรแมนติก จากนั้นเขาก็จุดเทียนในทันที
อาหารตะวันตกที่ดูประณีตและน่าอร่อยได้ถูกจัดวางพร้อมอยู่บนโต๊ะแล้ว
สายตาของมู่ซีซีอดไม่ได้ที่จะหันไปมองจี้หลิงชวนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า จี้หลิงชวนชายดูเย็นชาอยู่เสมอ วันนี้จะมีด้านที่โรแมนติกอยู่ด้วย
เพราะเขาไม่เพียงแต่จัดเตรียมอาหารค่ำใต้แสงเทียน แต่ยังเตรียมฉากการขอแต่งงานที่โรแมนติกไว้อีกด้วย
หญิงสาวเกิดมาพร้อมกับความโรแมนติก เมื่อมู่ซีซีเห็นจี้หลิงชวนจัดเตรียมการไว้เพื่ออย่างพิถีพิถันแบบนี้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเลี่ยนขึ้นมา หวานเกินกว่าความหวานน้ำผึ้งเสียอีก!
ทันทีที่จี้หลิงชวนนั่งลง เขาก็หยิบมีดและส้อมขึ้นอย่างดูดีมีสง่า ในขณะที่กำลังพูดคุยกับมู่ซีซีไปพลางก็มือก็ทำการหั่นสเต๊กไปพลางด้วยระมัดระวัง
ในขณะที่มู่ซีซีกำลังสงสัยว่าทำไมจี้หลิงชวนหั่นสเต๊กแต่ไม่ทาน และในวินาทีต่อมา เธอเห็นจี้หลิงชวนยกจานสเต๊กที่หั่นเสร็จแล้วยื่นมาไว้ทางด้านหน้าให้กับตัวเธอ และหยิบจานสเต๊กจานที่ยังไม่หั่นของเธอเปลี่ยนกลับไป
มู่ซีซีจ้องเขม็งไปยังจานสเต๊กที่ถูกหั่นเป็นชิ้นๆเรียบร้อยแล้วที่กำลังวางอยู่ตรงด้านหน้าและมองไปดูจานสเต๊กฝั่งตรงข้ามที่เธอได้ทานไปแล้ว ซึ่งในขณะนี้จี้หลิงชวนได้กำลังจี้ทำการหั่นอยู่ มู่ซีซีรู้สึกเขินอายเล็กน้อยและพูดกับจี้หลิงชวนขึ้นว่า”จี้หลิงชวน…จานนั้นฉันทานไปแล้ว…คุณทานจานนี้ดีกว่านะ…”
จี้หลิงชวนไม่เคยรังเกียจสิ่งของที่มู่ซีซีทานไปแล้วเลยแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้ามเขากลับยิ้มออกมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร จานที่เธอทานแล้วรสชาติดียิ่งกว่า”
จากนั้นเขาก็พูดต่อไปว่า “หิวแล้วไม่ใช่หรือ?เธอลองชิมดูสิ ว่ารสชาติเป็นอย่างไรบ้าง?”
เมื่อจี้หลิงชวนพูดอย่างนั้นแล้ว มู่ซีซีก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกินสเต๊กจานที่จี้หลิงชวนได้หั่นมาให้เธอด้วยความตั้งใจ
หลังที่อาหารถูกทยอยขึ้นมาวางบนโต๊ะ คนที่กินส่วนใหญ่จะเป็นมู่ซีซี ส่วนหลิงชวนนั้นเป็นคนทำหน้าที่ดูแลมู่ซีซีในขณะที่ทานอาหาร สักพักก็ช่วยหั่นสเต๊ก คีบอาหารให้ เทไวน์แดงให้กับมู่ซีซี แม้แต่ตอนที่มุมปากของมู่ซีซีเปื้อน จี้หลิงชวนก็ยังเป็นคนหยิบผ้าเช็ดปากขึ้นมาช่วยมู่ซีซีเช็ดออกเบา ๆ
ตอนทั้งสองทานอาหารกันจนเสร็จและออกจากห้องอาหารส่วนตัวไป ใบหน้าของจี้หลิงชวนดูพอใจเป็นอย่างมาก ในขณะที่มู่ซีซีก็หน้าแดงตลอดทาง และตลอดระยะทางที่เดินออกจากร้านอาหาร มู่ซีซีจะก้มหน้าลงอยู่ตลอด เพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำของเธอเอาไว้
เป็นเพราะจี้หลิงชวนยังต้องขับรถ ฉะนั้นเขาจึงดื่มไวน์แดงไปสองถึงสามจิบ และก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรในการขับรถ แต่ในทางกลับกันมู่ซีซีนั้นได้ดื่มไวน์แดงไปเข้าหลายแก้ว
ซึ่งเดิมทีมู่ซีซีก็เป็นคนคอไม่แข็งมากนัก และคราวนี้เธอยังดื่มเข้าไปเป็นจำนวนมากอีกด้วย ดังนั้นมู่ซีซีจึงมึนเมา
และเมื่อเอนตัวลงบนเบาะที่นั่งในรถได้ไม่นาน มู่ซีซีก็ผล็อยหลับไป
จี้หลิงชวนสตาร์ทรถและมองไปยังมู่ซีซี เมื่อเห็นว่ามู่ซีซีหลับไปแล้ว จี้หลิงชวนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะเธอออกมา
จี้หลิงชวนก็ใช่มือข้างหนึ่งยื่นออกไปคาดเข็มขัดนิรภัยให้กับมู่ซีซี และจัดศีรษะของมู่ซีซีให้เอนมาซบที่ไหล่ของตัวเองอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นว่ามู่ซีซีนอนหลับอยู่ในท่าที่สบายแล้ว จี้หลิงชวนก็ควบคุมพวงมาลัยและขับรถออกไป
ตลอดระยะทางมู่ซีซีพิงซบไปที่ไหล่ของจี้หลิงชวน และนอนหลับอย่างสบาย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา รถได้วิ่งเข้ามาหยุดนิ่งอยู่ด้านนอกคฤหาสน์
ก่อนที่มู่ซีซีจะตื่นขึ้นมา จี้หลิงชวนลงจากรถก่อนแล้วเดินไปยังที่นั่งทางด้านข้างคนขับ เขาค่อยๆ เปิดประตูรถเบา ๆ เพื่ออุ้มมู่ซีซีออกมา จากนั้นก็เดินเข้าไปในคฤหาสน์
จี้หลิงชวนอุ้มมู่ซีซีจนมาถึงในห้องนอนใหญ่ของคฤหาสน์ จากนั้นก็วางเธอลงบนเตียงนุ่มๆ แต่จู่ ๆ มู่ซีซีก็ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงง
ใบหน้าอันหล่อเหลาของจี้หลิงชวนอยู่ใกล้เธอเพียงแค่ปลายมือ และมันก็ยังสะท้อนอยู่ในดวงตาที่กำลังมึนเมาของมู่ซีซีอีกด้วย
หลังจากเมาที่มู่ซีซีเมาแล้ว การตอบสนองของเธอก็ช้าลงไปด้วย เธอจ้องไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาของจี้หลิงชวนด้วยความงุนงงเป็นเวลาเกือบหนึ่งหรือสองนาที หลังจากนั้น เธอจึงได้สติกลับมา มุมปากของมู่ซีซีค่อยๆยกขึ้นและยิ้มกว้างออกมาให้กับจี้หลิงชวน
เป็นเวลานานมาแล้วที่มู่ซีซีไม่เคยยิ้มแบบนี้ ตั้งแต่ที่เธอหายตัวไปเป็นนานเวลากว่าครึ่งปี นี่เป็นครั้งแรกที่มู่ซีซียิ้มอย่างมีความสุขที่สุดให้กับจี้หลิงชวน
ในขณะที่จี้หลิงชวนกำลังตกตะลึงอยู่กับรอยยิ้มอันสดใสของมู่ซีซี และก่อนที่จี้หลิงชวนจะได้สติกลับมา มู่ซีซีก็ยกมือขึ้นมาและโอบรัดไปที่รอบคอของจี้หลิงชวนในทันที จากนั้นเธอก็ใช้แรงที่แขนกระชากเอาตัวของจี้หลิงชวนลงมา ในขณะที่จี้หลิงชวนก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัว
ร่างสูงใหญ่ของจี้หลิงชวนทับลงมาบนร่างกายของมู่ซีซีโดยตรง ผิวที่อ่อนนุ่มของมู่ซีซีแนบอยู่กับร่างกายของจี้หลิงชวนอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีเพียงแค่เสื้อผ้าชิ้นบางๆขั้นอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขาทั้งสองเท่านั้น และจี้หลิงชวนก็สามารถสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิจากร่างกายของมู่ซีซีได้อย่างชัดเจน
ทั้งสองคนอยู่ในท่านี้เป็นเวลาสักพักหนึ่ง และจู่ ๆ เสียงการหายใจของจี้หลิงชวนก็หอบถี่ขึ้นเล็กน้อยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในขณะที่มู่ซีซีซึ่งกำลังมึนเมาอยู่ยังไม่รู้สึกถึงอันตรายที่กำลังจะเข้ามาถึงตัวเธอเลย ไม่เพียงแต่เธอจะไม่ยอมปล่อยมือที่โอบรัดอยู่ที่คอของจี้หลิงชวนเท่านั้น แต่เธอกลับยังเป็นคนเริ่มจูบไปที่ริมฝีปากอันเรียวบาง ๆ ของจี้หลิงชวนก่อนเสียอีก
การจูบเชิงรุกของมู่ซีซีในครั้งนี้ เท่ากับเธอได้ทำลายฟางเส้นสุดท้ายของจี้หลิงชวนซะแล้ว
ความปรารถนาที่ถูกสะสมอยู่ในหัวใจของจี้หลิงชวนมาเป็นเวลาหลายวัน ได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากการจูบของมู่ซีซี
ราวกับระเบิดได้ถูกจุดขึ้นก็ไม่ปาน ตอนนี้เสียง ปัง ของระเบิดได้ดังขึ้นแล้ว
เสียงหายใจของจี้หลิงชวนเร็วและถี่ขึ้นเรื่อยๆ ลูกกระเดือกอันเซ็กซี่ที่อยู่บริเวณคอของจี้หลิงชวนก็เริ่มขยับขึ้นลงอย่างควบคุมไม่ได้ ทันใดนั้น จี้หลิงชวนก็ได้เอื้อมมือออกไปและบีบเข้าที่ปลายคางเล็ก ๆ ของมู่ซีซี เพื่อบังคับให้มู่ซีซีมองมาที่เขา
เมื่อทั้งคู่สบตากัน ดวงตาที่ไม่อาจจะหยั่งรู้ได้ของจี้หลิงชวนจ้องไปที่มู่ซีซีอย่างใกล้ชิด ราวกับเสือชีตาห์ที่กำลังจะล่าอาหาร จี้หลิงชวนหันศีรษะไปทางด้านข้างเล็กน้อย จากนั้นน้ำเสียงแหบเซ็กซี่อันดูมีเสน่ห์ของเขาก็ดังขึ้นที่ข้างๆหูของมู่ซีซี “ซีซี ฉันต้องการเธอ สามารถทำอย่างนั้นได้ไหม?”
มู่ซีซีที่กำลังมึนเมาอยู่เดิมทีก็ไม่ค่อยจะมีสติ เธอที่ได้ยินจี้หลิงชวนพูดอย่างชัดเจน แต่สมองของเธอกลับไม่สามารถแยกแยะและไม่เข้าใจว่าจี้หลิงชวนหมายความว่าอย่างไร
มู่ซีซีสัมผัสได้แต่เพียงว่ามีความร้อนกำลังแผ่ออกมาจากร่างสูงใหญ่ของจี้หลิงชวนที่กำลังคร่อมทับร่างกายของเธอเอาไว้ !
ราวกับว่าอยู่ภายใต้อิทธิพลของจี้หลิงชวน เพราะมู่ซีซีเองก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองก็กำลังร้อนขึ้นมาเช่นเดียวกัน ร้อนจนเธอรู้สึกทนไม่ไหว
มู่ซีซีอดไม่ได้ที่จะร้องครางออกมาเบาๆ และอดไม่ได้ที่จะค่อยๆลูบไล้ไปที่ร่างอันสูงใหญ่ของจี้หลิงชวน