รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 383 สมบัติล้ำค่าของชาติ
หลังจากที่จี้หลิงชวนออกไปได้ประมาณสองชั่วโมง ลั่วเสี่ยวชิงก็กำลังนั่งแท็กซี่มาที่คฤหาสน์
เมื่อใกล้ถึงแล้ว ลั่วเสี่ยวชิงจึงโทรหามู่ซีซี
หลังจากได้รับโทรศัพท์แล้ว มู่ซีซีจึงรีบลงไปชั้นล่างและรออยู่ทางด้านนอกคฤหาสน์
ป้าหลิงซึ่งได้รับคำสั่งจากจี้หลิงชวนให้ดูแลมู่ซีซีทุกย่างก้าว ดังนั้นป้าหลิงจึงคอยติดตามมู่ซีซีและอยู่ข้างกายเธอตลอดเวลา
เมื่อมู่ซีซีเห็นลั่วเสี่ยวชิงลงจากรถแท็กซี่ ใบหน้าของเธอก็แสดงรอยยิ้มออกมาพร้อมกับเดินเข้าไปหาลั่วเสี่ยวชิงอย่างรวดเร็ว”เสี่ยวชิง ในที่สุดเธอก็มาถึงแล้ว!”
เมื่อลั่วเสี่ยวชิงเห็นมู่ซีซีเดินเข้ามาด้วยความรวดเร็ว เธอกลัวว่ามู่ซีซีจะสะดุดล้ม จึงรีบวิ่งเข้ามาพยุงแขนของมู่ซีซีไว้พร้อมกับจ้องไปที่มู่ซีซีด้วยความไม่พอใจและพูดขึ้นว่า “นี่คุณมู่ซีซี เธอเดินช้าๆ หน่อย อย่าลืมสิว่าตอนนี้ในท้องของเธอมีเจ้าตัวเล็กอยู่นะ !”
มู่ซีซียกมือขึ้นมาสัมผัสจมูกตัวเองด้วยความรู้สึกผิดและพึมพำขึ้นว่า “มันก็ไม่ได้ขนาดนั้นนิ…”
ลั่วเสี่ยวชิงจ้องไปที่มู่ซีซีอีกครั้ง หลังจากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “ฉันไม่สน ยังไงก็ตามเธอก็ควรที่จะระมัดระวังมากกว่านี้สิ หากลูกบุญธรรมของฉันอยู่ในท้องเป็นอะไรขึ้นมาล่ะ !”
ทั้งสองคนต่อปากต่อคำกันอย่างดื้อดึง และเมื่อป้าหลิงที่เดินตามอยู่ทางด้านหลังเห็นว่ามู่ซีซีเดินออกไปอย่างรวดเร็ว มู่ซีซีเพียงสวมเสื้อสเวตเตอร์บางๆที่สวมสำหรับอยู่ในบ้านและไม่ได้สวมแม้แต่แจ็กเกตเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้อากาศข้างนอกหนาวและมีลมแรง ป้าหลิงกังวลว่ามู่ซีซีจะเป็นหวัด ดังนั้นป้าหลิงจึงพูดกับมู่ซีซีและลั่วเสี่ยวชิงขึ้นว่า”คุณซีซี คุณลั่ว ข้างนอกอากาศหนาว เข้าไปในบ้านกันก่อนเถอะ”
เมื่อลั่วเสี่ยวชิงได้ยินคำพูดของป้าหลิง ลั่วเสี่ยวชิงก็ก้มลงมองที่มู่ซีซี และเธอคิดว่าในตัวของมู่ซีซีสวมเพียงเสื้อบางๆเท่านั้น ดังนั้นเธอจึงรีบจูงมือของมู่ซีซีและเดินเข้าไปในคฤหาสน์
จี้หลิงชวนมักจะเย็นชาต่อบุคคลภายนอกอยู่เสมอ และรอบๆตัวของเขาก็สามารถมีความรู้สึกที่ทำให้คนอื่นรู้สึกกดดัน ดังนั้นลั่วเสี่ยวชิงจึงรู้สึกกลัวจี้หลิงชวนมาตลอด เมื่อเธอเข้าไปในคฤหาสน์ อย่างแรกที่เธอทำก็คือมองไปรอบๆคฤหาสน์ จนกระทั่งมู่ซีซีมองไปที่ใบหน้าของลั่วเสี่ยวชิงเป็นอย่างนั้นแล้วเธอจึงหัวเราะขึ้นและพูดว่า “วันนี้จี้หลิงชวนมีธุระและไปที่บริษัทตั้งแต่เช้าแล้ว คาดว่าเขาจะไม่กลับมาจนกระทั่งถึงช่วงบ่าย”
หลังจากที่ได้ฟังมู่ซีซีพูดอย่างนั้นแล้ว ลั่วเสี่ยวชิงก็ดูเหมือนโล่งใจขึ้น เธอถอนหายใจยาวๆออกมาหนึ่งครั้งและรีบยกมือขึ้นตบที่หน้าอกของตัวเอง “ซีซี บอกตรงๆนะ คุณชายจี้ของเธอนี่ชอบทำให้คนอื่นอึดอัดใจจริงๆ หน้าก็หล่อมากๆอยู่หรอก แต่พอเย็นชาขึ้นมานี่หนาวไปทั้งตัวเลย”
เมื่อเห็นท่าทางของลั่วเสี่ยวชิง มู่ซีซีนึกย้อนถึงภาพของจี้หลิงชวนอีกครั้ง ดูเหมือนว่านอกจากจี้หลิงชวนจะชอบทำใบหน้าที่เย็นชาแล้ว อย่างอื่นก็ไม่ได้ดูแย่สักเท่าไหร่
มู่ซีซีพูดปกป้องชื่อเสียงของสามีตัวเองอย่างตรงไปตรงมาว่า “เสี่ยวชิง เธอก็พูดเกินไปแล้ว… ฉันคิดว่าจี้หลิงชวนเขาก็ไม่เลวเลยนะ … ”
ลั่วเสี่ยวชิงรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนกับหมาหัวเน่า เธอเบิกตากว้างขึ้นพร้อมกับมองไปที่มู่ซีซีและพูดขึ้นว่า “เหรอ พอเลยนะคุณมู่ซีซี เธอแน่ใจเหรอว่าเธอไม่ได้กำลังแสดงความรักต่อหน้าของฉัน? คุณชายจี้ของเธอทำตัวน่ารักแต่เฉพาะกับเธอเท่านั้น โอเคไหม…”
เมื่อมู่ซีซีเห็นท่าทางของลั่วเสี่ยวชิงแล้วก็รู้สึกขำเธอเล็กน้อย และเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศและออกจากหัวข้อที่ไม่น่าสนใจนี้ มู่ซีซีจึงพูดกับลั่วเสี่ยวชิงขึ้นว่า “เสี่ยวชิง ฉันคิดว่าเธอจะมาเร็วกว่านี้ ตอนนี้ก็ปาไปเกือบเที่ยงแล้ว…”
ทันทีที่มู่ซีซีพูดจบ ลั่วเสี่ยวชิงก็ยกของที่เธอซื้อขึ้นมาพร้อมกับตอบกลับมู่ซีซีด้วยรอยยิ้มว่า “นี่ไง ฉันตั้งใจไปที่ห้างสรรพสินค้าและซื้อของสิ่งนี้มาให้เธอโดยเฉพาะ”
มู่ซีซียื่นมือไปหยิบถุงกระดาษในมือของลั่วเสี่ยวชิงด้วยความประหลาดใจ “เธอซื้ออะไรมานะ”
ลั่วเสี่ยวชิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจก่อนที่จะตอบกลับมู่ซีซีไปว่า”แน่นอนว่ามันเป็นของขวัญสำหรับลูกสาวบุญธรรมหรือลูกชายบุญธรรมของฉันเอง~”
ทันทีที่ลั่วเสี่ยวชิงพูดจบ มู่ซีซีก็หยิบของในถุงกระดาษออกมา มีเสื้อผ้าเด็กหลายชุด โดยมีทั้งเสื้อผ้าสำหรับเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง
มู่ซีซีไม่ได้สนใจว่าลูกที่เกิดจะเป็นเพศไหน โดยเธอคิดแต่เพียงว่าลูกชายก็ได้ลูกผู้หญิงก็ดี ใส่ด้วยกันได้ เพราะเธอเห็นว่าลั่วเสี่ยวชิงซื้อมาให้ด้วยความใส่ใจ
นอกจากนี้แบรนด์เสื้อผ้าก็ยังเป็นแบรนด์เสื้อผ้าเด็กที่มีชื่อเสียง ซึ่งเสื้อผ้าเหล่านี้ราคาคงจะไม่ใช่ถูกๆแน่นอน โดยปกติแล้วลั่วเสี่ยวชิงจะไม่ค่อยซื้อเสื้อผ้าราคาแพงเช่นนี้
มู่ซีซีคิดขึ้นพลางสวมกอดลั่วเสี่ยวชิงด้วยความรู้สึกประทับใจ และพูดกับลั่วเสี่ยวชิงด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “เสี่ยวชิง ขอบคุณเธอมากนะ ”
เมื่อลั่วเสี่ยวชิงมองเห็นดวงตาที่ค่อยๆแดงก่ำขึ้นของมู่ซีซี เธอก็เปลี่ยนเรื่องพูดทันที โดยลั่วเสี่ยวชิงยิ้มพร้อมกับรีบพูดขึ้นมาว่า “ซีซี ลองดูเสื้อผ้าที่ฉันซื้อมาสิว่าเป็นอย่างไรบ้าง?รสนิยมของฉันดีหรือเปล่า ?”
ลั่วเสี่ยวชิงกับมู่ซีซีหันมาพูดคุยกันเรื่องเสื้อผ้าในทันที
เมื่อเด็กผู้หญิงสองคนอยู่ด้วยกันก็มักจะมีหัวข้อพูดคุยกันไม่รู้จบอยู่เสมอ มู่ซีซีรู้สึกมีความสุขมาก และใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นลั่วเสี่ยวชิงก็อยู่ทานอาหารกลางวันพร้อมกับมู่ซีซี
เดิมทีลั่วเสี่ยวชิงก็คิดว่าจะอยู่เป็นเพื่อนกับมู่ซีซีจนไปถึงบ่ายแล้วค่อยกลับ แต่เพราะที่บ้านของลั่วเสี่ยวชิงมีธุระนิดหน่อย ดังนั้นหลังจากที่เธอรับประทานอาหารกลางวันเสร็จเธอจึงรีบกลับบ้านไปก่อน
และหลังจากที่มู่ซีซีส่งลั่วเสี่ยวชิงกลับไป เธอก็ตั้งใจจะงีบหลับสักหน่อย แต่ใครจะไปรู้ว่า ไม่นานหลังจากที่มู่ซีซีกลับมาที่ห้องและกำลังจะนอนลงบนเตียง ก็มีเสียงเคาะประตูด้านนอกดังขึ้น
จู่ๆ เสียงที่สุภาพของป้าหลิงก็ดังขึ้นมาจากทางด้านนอก “คุณซีซี นายหญิงจี้มาหาค่ะ และตอนนี้ท่านก็รอคุณอยู่ข้างล่างแล้ว ”
ทันทีที่มู่ซีซีได้ยินว่าคุณย่ามาหาเธอ เธอก็หายง่วงในทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของมู่ซีซีปรากฏขึ้นอีกครั้ง และมู่ซีซีก็ตอบกลับไปอย่างรวดเร็วว่า “ทราบแล้วค่ะ หนูจะไปเดี๋ยวนี้ ”
มู่ซีซีพูดขึ้นพลางยื่นมือออกไปเปิดประตูและรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อป้าหลิงเห็นท่าทางการเดินที่รวดเร็วของมู่ซีซีแล้ว กลัวว่าเธอจะล้ม ป้าหลิงจึงยื่นมือไปพยุงแขนของมู่ซีซีไว้และพูดขึ้นว่า “คุณซีซี เดินช้าหน่อยค่ะ เดินช้าๆ”
มู่ซีซีเดินตรงไปจนถึงห้องนั่งเล่น และเธอก็เห็นนายหญิงจี้นั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น โดยมี แม่บ้านจางยืนอยู่ทางด้านข้าง
“คุณย่า!” มู่ซีซีร้องเรียกนายหญิงจี้อย่างมีความสุขพร้อมกับรีบเดินเข้าไปหานายหญิงจี้
เมื่อนายหญิงจี้เห็นอย่างนั้นแล้ว ก็รีบลุกขึ้นทันทีและพูดกับมู่ซีซีขึ้นว่า “ช้าๆหน่อย ช้าๆหน่อย!”
เมื่อมู่ซีซีเดินไปถึงตรงหน้านายหญิงจี้ นายหญิงจี้ก็รีบพยุงแขนของมู่ซีซีอย่างรวดเร็วและมองไปที่มู่ซีซีที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยสายตาที่มีความกังวลพร้อมกับตำหนิมู่ซีซีว่า “ซีซี ตอนนี้เธอกำลังท้อง ต้องระวังหน่อย เดินก็ต้องเดินช้าๆ”
เมื่อได้ยินนายหญิงจี้พูดอย่างนั้นแล้ว มู่ซีซีก็หน้าแดงขึ้นด้วยความเขินอาย จากนั้นก็พยักหน้าด้วยท่าทางที่เชื่อฟังและตอบกลับไปว่า“อืม หนูรู้ค่ะคุณย่า หนูรู้สึกดีใจมากไปหน่อยที่เห็นคุณย่ามา ”
นายหญิงจี้รีบพยุงมู่ซีซีนั่งลงบนโซฟา
มู่ซีซีมองไปที่นายหญิงจี้และถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงเป็นใยว่า”คุณย่า ช่วงนี้สุขภาพร่างกายของคุณย่าเป็นอย่างไรบ้างคะ?”
“ดีมากๆ เธอไม่ต้องห่วง”
นายหญิงจี้พูดขึ้นพลางหันไปมองที่มู่ซีซีและถามขึ้นว่า “ในทางตรงกันข้ามเธอกับจี้หลิงชวนก็จริงๆเลย ! ข่าวดีข่าวใหญ่แบบนี้ทำไมถึงได้ไม่ยอมบอกย่าก่อนนะ!!!”
เป็นเพราะนายหญิงจี้ได้โทรไปหาจี้หลิงชวนเพื่อสอบถามเกี่ยวกับอาการล่าสุดของมู่ซีซี จี้หลิงชวนจึงบอกกับเธอว่าผลการตรวจเมื่อสามวันก่อนปรากฏว่ามู่ซีซีกำลังตั้งครรภ์และตั้งครรภ์ได้เกือบสองเดือนแล้ว
เมื่อได้ยินข่าวนี้ นายหญิงจี้จะนั่งติดได้อย่างไร ทันทีที่ทราบข่าวนายหญิงจี้ก็สั่งให้แม่บ้านจางจัดการเตรียมทุกอย่างให้พร้อมและรีบมาหามู่ซีซีที่นี่ในทันที