รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 389 การเจอหน้าที่อันตราย
ข้อความของมู่ซีซีส่งกลับไปไม่ถึงสิบวินาที โทรศัพท์ในมือมู่ซีซีจึงดังอีกครั้ง ลู่เฉินอันเป็นคนโทรมา
มู่ซีซีลังเลไปหลายวินาที สุดท้ายก็กดปุ่มรับสาย
“คุณชายลู่ สวัสดีค่ะ”
เสียงของมู่ซีซีเพิ่งจบลง เสียงที่ทุ้มต่ำขอลู่เฉินอันจึงดังขึ้นมาว่า “คุณหนูมู่สวัสดี ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”
“ค่ะ ไม่ได้เจอกันนานแล้ว” ตอนที่มู่ซีซีแยกกับลู่เฉินอันแล้วกลับมาหาจี้หลิงชวน ตั้งแต่ตอนที่พวกเขายังไม่คืนดีกัน จนถึงตอนนี้ มู่ซีซีตั้งครรภ์ลูกของจี้หลิงชวนก็ใกล้จะคลอดแล้ว พอมานับดูแล้วทั้งสองคนน่าจะไม่ได้เจอกันเกือบหนึ่งปีแล้ว
“คุณชายลู่กลับไปที่อเมริกาเหรอคะ?” มู่ซีซีเอ่ยถาม
เธอรู้ว่าเมื่อก่อนลู่เฉินอันใช้ชีวิตที่อเมริกาตลอด
แต่ว่าคำตอบของลู่เฉินอันกลับทำให้มู่ซีซีอึ้ง “ผมไม่ได้กลับอเมริกา อยู่ที่เมืองหรงตลอด”
ไม่รอให้มู่ซีซีตั้งสติได้ ลู่เฉินอันจึงเอ่ยอีกว่า “คุณหนูมู่ ไม่รู้ว่าวันนี้คุณว่างหรือเปล่า ถ้ามีเวลามากินข้าวด้วยกันก็คงจะดี”
มู่ซีซีได้ยินสิ่งที่ลู่เฉินอันพูด จึงเริ่มลังเล ตั้งแต่ที่ท้องเธอเริ่มโต จี้หลิงชวนไม่ค่อยวางใจให้เธอออกไปข้างนอกเลย ถึงแม้จะออกไป แต่จี้หลิงชวนก็จะไปกับเธอ
ช่วงเวลาที่มู่ซีซีเงียบไป เสียงของลู่เฉินอันจึงดังขึ้นอีกว่า “คุณหนูมู่ ไหนบอกว่าไม่มีโอกาสขอบคุณผมไงครับ? ถ้าคุณหนูมู่อยากขอบคุณผมจริงๆงั้นก็เลี้ยงข้าวผมสักมื้อสิ”
ลู่เฉินอันพูดขนาดนี้แล้ว มู่ซีซีทำอะไรไม่ได้ จึงฝืนใจตอบว่า “ได้ค่ะ คุณชายลู่ งั้นคุณเป็นคนเลือกร้านแล้วกันค่ะ”
เสียงของมู่ซีซีเพิ่งจบลง อีกฝั่งลู่เฉินอันจึงก้มมองนาฬิกาข้อมือ พร้อมเอ่ยว่า “งั้นคุณหนูมู่ อีกหนึ่งชั่วโมง ผมจะรอคุณที่ร้านอาหารหนานเซียง ไว้เจอกันครับ”
เสียงเพิ่งจบลง โทรศัพท์จึงตัดสายไปทันที
มู่ซีซีมองโทรศัพท์ที่โดนตัดสายไปแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย ทำอะไรไม่ได้ อาหารมื้อนี้กับลู่เฉินอันจะปฏิเสธไม่ได้จริงๆ เพราะยังไงลู่เฉินอันก็ช่วยเธอไว้
มู่ซีซีจึงลุกขึ้นเดินกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ดูดีหน่อยแล้วค่อยลงมา
ตอนนี้ท้องของมู่ซีซีโตมากแล้ว ถึงแม้จะใส่เสื้อตัวโคร่งๆก็ปิดบังท้องไม่อยู่
ป้าหลิงที่อยู่ข้างๆเห็นมู่ซีซีที่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินลงมาชั้นล่าง ป้าหลิงจึงรีบเดินไปหาเธอพร้อมเอ่ยอย่างมีมารยาทว่า “คุณหนูซีซี วันนี้คุณจะออกไปข้างนอกเหรอคะ?”
มู่ซีซีพยักหน้าให้ป้าหลิง “ค่ะ หนูนัดกับเพื่อนคนหนึ่งจะไปดื่มน้ำชาด้วยกัน เดี๋ยวจะออกไปค่ะ”
ป้าหลิงได้ยินว่ามู่ซีซีจะออกไป จึงขมวดคิ้วอย่างลำบากใจ แล้วรู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ
มู่ซีซีเห็นแบบนี้จึงปลอบใจป้าหลิงว่า “ป้าหลิง ป้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แค่ไปดื่มน้ำชากับเพื่อนเองค่ะ ไม่เกิดเรื่องอะไรหรอกค่ะ เดี๋ยวหนูพาคนขับรถกับบอดี้การ์ดไปด้วย”
ป้าหลิงได้ยินมู่ซีซีพูดแบบนี้ ในใจค่อยวางใจหน่อย ตัวเองห้ามมู่ซีซีไม่ได้ จึงต้องพยักหน้าให้เธอ “คุณหนูซีซีคะ งั้นคุณดูแลตัวเองดีๆนะคะ”
มู่ซีซีตอบรับ ป้าหลิงจึงรีบออกไปเรียกคนขับรถกับบอดี้การ์ดให้มู่ซีซี
มู่ซีซีนั่งอยู่เบาะหลัง บอดี้การ์ดนั่งอยู่ข้างคนขับรถ คนขับรถสตาร์ทรถแล้วแล่นไปทางร้านอาหารที่มู่ซีซีบอก
ป้าหลิงมองเห็นรถของมู่ซีซีค่อยๆหายไป ไม่รู้ทำไม อยู่ๆตาข้างขวาของป้าหลิงจึงกระตุก
ป้าหลิงจึงเม้มปากตัวเอง หักห้ามลางสังหรณ์ที่ไม่ดีในใจไว้ จากนั้นจึงรีบกลับเข้าไปในคฤหาสน์แล้วหาโทรศัพท์ตัวเอง แล้วรีบโทรไปที่เบอร์จี้หลิงชวน
โทรศัพท์ดังไปสักพักแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ยินเสียงจี้หลิงชวนรับ
ตอนที่ป้าหลิงโทรไป เพราะจี้หลิงชวนมีประชุมด่วน เขาแค่รีบหยิบเอกสารแล้วรีบไปที่ห้องประชุม เลยลืมเอาโทรศัพท์ไปด้วย
จนกระทั่งสายโทรศัพท์ดังจนตัดไปเอง ไม่ได้รอให้จี้หลิงชวนกดรับสายอีก
ในใจป้าหลิงไม่วางใจ จึงโทรไปอีกครั้ง แต่ก็โทรไม่ติดเหมือนเดิม ป้าหลิงจึงต้องถอดใจไปก่อน
เห็นถนนที่ว่างเปล่า ป้าหลิงจึงแอบภาวนาในใจ ขอให้เมื่อกี้ตัวเองคิดมากไปเอง ต้องไปเกิดอะไรกับคุณหนูซีซีแน่นอน
อื้อ ครั้งนี้คุณหนูออกไปพาบอดี้การ์ดไปด้วย แล้วคนขับรถก็ส่งคุณหนูไปเองด้วย แค่ไปดื่มน้ำชากับเพื่อนเอง ไม่เกิดเรื่องอะไรแน่นอน
สี่สิบนาทีหลังจากนั้น รถแล่นไปถึงร้านอาหารหนานเซียง มู่ซีซีไปถึงที่ร้านอาหารตามเวลากับที่นัดลู่เฉินอันไว้พอดี
พอรถจอดปุ๊บ บอดี้การ์ดจึงลงจากรถก่อน แล้วมาเปิดประตูให้มู่ซีซี
บอดี้การ์ดกับคนขับรถเดินตามหลังห่างมู่ซีซีสามก้าวแล้วเดินเข้าไปในร้านอาหาร
มู่ซีซีเพิ่งเข้าร้านอาหารตาแหลมจึงเห็นลู่เฉินอันที่นั่งอยู่ตรงมุมหน้าต่างเงียบๆทันที
ลู่เฉินอันก็เหมือนเห็นมู่ซีซีเหมือนกัน ห่างกันหลายสิบเมตร สายตาที่ซับซ้อนของลู่เฉินอันจึงมองไปที่ท้องของมู่ซีซี
พอสบตากัน ไม่รู้ว่ามู่ซีซีคิดไปเองหรือเปล่า รู้สึกว่าวินาทีที่สบตากับลู่เฉินอัน ในแววตาของเขาแฝงไปด้วยความมืดมน
ในใจมู่ซีซีจึงเริ่มเกร็งขึ้นมาทันที มือทั้งสองข้างก็จับกันแน่น แล้วแอบสูดหายใจเข้าลึกๆ เธอค่อยตั้งสติตัวเองได้ จากนั้นจึงปล่อยมือทั้งสองข้าง แล้วเดินไปหาลู่เฉินอัน
มู่ซีซีดึงเก้าอี้ตรงข้ามลู่เฉินอันออกมาแล้วนั่งลง บอดี้การ์ดกับคนขับรถที่ตามหลังมู่ซีซีอยู่นั้น จึงไปนั่งที่โต๊ะข้างๆที่ไม่ไกลมากนัก
สายตาของลู่เฉินอันมองกวาดมู่ซีซี แล้วสายตาก็หยุดลงบนท้องของมู่ซีซีที่นูนขึ้นอีกครั้ง
ทันใดนั้น อยู่ๆลู่เฉินอันก็หันมองมู่ซีซีแล้วเอ่ยพูดกับเธออย่างที่เธอคาดไม่ถึงว่า “แค่ไม่เจอกันไม่กี่เดือน คุณท้องแล้วเหรอ”
พอพูดถึงเรื่องท้อง บนใบหน้ามู่ซีซีจึงมีรอยยิ้มเล็กน้อย แล้วยื่นมือไปลูบท้องตัวเอง พร้อมยิ้มเอ่ยว่า “ค่ะ”
เสียงของมู่ซีซีเพิ่งจบลง เสียงที่แหบแห้งของลู่เฉินอันจึงดังขึ้นอีกครั้ง “เด็กกี่เดือนแล้วครับ?”
“แปดเดือนแล้วค่ะ อีกสองเดือนก็ถึงกำหนดคลอดแล้วค่ะ”
“พ่อของเด็กคือจี้หลิงชวนคุณชายจี้?”
มู่ซีซีคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าลู่เฉินอันจะรู้จักจี้หลิงชวน สำหรับเรื่องที่มู่ซีซีรู้มา ลู่เฉินอันโตที่อเมริกา เพิ่งกลับประเทศไม่นาน ในประเทศก็ไม่มีเพื่อนหรือญาติอะไรด้วย เขาน่าจะไม่รู้จักจี้หลิงชวนสิถึงจะถูก แต่เมื่อกี้ได้ยินลู่เฉินอันพูดถึงจี้หลิงชวน ไม่รู้ทำไมถึงทำให้มู่ซีซีรู้สึกว่าลู่เฉินอันรู้จักกับจี้หลิงชวน
ขณะคิดมู่ซีซีจึงอดถามลู่เฉินอันไม่ได้ว่า “คุณชายลู่ คุณรู้จักจี้หลิงชวนเหรอคะ?”