รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 391 มู่ซีซีหายตัวไป
มู่ซีซีหันกลับไป จึงเห็นลู่เฉินอันเดินตามเธอออกมาจากร้านอาหาร
ตอนนี้เธอหยุดเดินแล้ว ลู่เฉินอันก็หยุดฝีเท้าเหมือนกัน
มู่ซีซีมองลู่เฉินอัน พยายามหักห้ามความไม่สบายใจไว้แล้วเอ่ยกับเขาว่า “คุณชายลู่ ยังมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”
ลู่เฉินอันยักไหล่ สายตามองไปที่มู่ซีซีแล้วยิ้มมุมปากเอ่ยว่า “คุณหนูมู่ คุณรีบกลับไปขนาดนี้ ตอนนี้ผมก็ไม่มีอะไรทำพอดี งั้นให้ผมไปส่งคุณดีกว่า แถวนี้โบกรถยากมากด้วย”
เสียงของลู่เฉินอันจบลง มู่ซีซีจึงรีบปฏิเสธทันที “ไม่ต้องค่ะ ขอบคุณคุณชายลู่นะคะ เดี๋ยวสามีฉันจะมารับค่ะ”
เสียงของมู่ซีซีเพิ่งจบลง อยู่ๆลู่เฉินอันก็ก้าวเดินไปใกล้มู่ซีซี
มู่ซีซีมองลู่เฉินอันที่เดินมาหาตัวเอง ในใจจึงสั่นเกร็งทันที เม้มริมฝีปากแน่น แล้วเริ่มเกร็งทั้งตัว มือทั้งสองข้างก็ปกป้องท้องตัวเองไว้แล้วเดินถอยหลังไป
จนกระทั่งหลังของมู่ซีซีชนกับกำแพงเหล็กเย็นๆ มู่ซีซีที่ตกใจจึงรีบหันกลับไปมองรถเก๋งสีดำที่ตัวเองถอยไปชน
มู่ซีซีขมวดคิ้วแน่น แล้วรีบหันกลับไปมองลู่เฉินอัน ไม่รอให้มู่ซีซีเอ่ยพูดออกมาก่อน ทันใดนั้น ประตูรถที่มู่ซีซีแนบติดอยู่นั้นอยู่ๆก็มีคนเปิดประตูออกมาจากข้างใน
แผ่นหลังของมู่ซีซีชนกับประตูอยู่ ตอนนี้อยู่ๆประตูก็เปิดออก มู่ซีซีไม่ทันระวัง เท้าจึงสะดุดแล้วร่างกายก็เซเข้าไปที่รถอย่างควบคุมไม่ได้
มู่ซีซีตกใจเลยอยากจะกรีดร้อง แต่เธอยังไม่ทันได้ส่งเสียงออกไป ที่ปากก็มีผ้าปิดปากมาปิดไว้ แล้วมีกลิ่นฉุนๆลอยเข้าจมูกมู่ซีซี
ทันใดนั้น สติของมู่ซีซีจึงเลือนหายไปทันที
ก่อนที่จะสลบ มือทั้งสองข้างของมู่ซีซีก็อุ้มท้องตัวเองไว้แน่น พร้อมเอ่ยเสียงเบาว่า “จี้หลิงชวน……”
ลู่เฉินอันที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม จึงยื่นมือไปปิดประตู แล้วตัวเองค่อยดึงเปิดประตูข้างคนขับแล้วเข้าไปนั่ง
ระหว่างทางจี้หลิงชวนขับรถด้วยความเร็วสองร้อยกว่าไมล์ แล้วฝ่าไฟแดงไปหลายครั้ง ใช้เวลาที่รวดเร็วที่สุดเพื่อไปถึงร้านอาหารหนานเซียงที่มู่ซีซีบอก
พอรถจอดสนิทปุ๊บ จี้หลิงชวนจึงรีบกระโดดลงจากรถทันที
จี้หลิงชวนรีบก้าวเดินเข้าไปในร้านอาหาร มองกวาดไปรอบๆก็ไม่เห็นเงาของมู่ซีซีเลย
คิ้วของจี้หลิงชวนจึงขมวดแน่นกว่าเดิม จากนั้นสายตาของเขาจึงมองไปบนถนนนอกร้านอาหาร
จี้หลิงชวนที่ตาแหลมจึงเห็นรถคันสีดำของบ้านตัวเองยังจอดอยู่ข้างถนน
ในใจจี้หลิงชวนจึงสั่นเกร็งทันที แล้วเม้มปากแน่น จี้หลิงชวนที่เป็นคนใจเย็นกลับรีบหยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมาอย่างลนลานแล้วโทรหามู่ซีซี รอสายมู่ซีซีไปด้วย แล้วเขาก็ก้าวเดินไปที่รถสีดำนอกร้านอาหารด้วย
เวลาเดียวกัน ในรถอีกคันที่แล่นอยู่บนถนนก็มีเสียงโทรศัพท์ดังแทรกความเงียบกริบในรถ
“นายครับ มีคนโทรหามาครับ ชื่อจี้หลิงชวน”
เสียงเพิ่งจบลง ลู่เฉินอันที่นั่งอยู่ข้างคนขับจึงยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจแล้วเอ่ยว่า “โยนโทรศัพท์ออกไป”
“ได้ครับนาย” เสียงเพิ่งจบลง กระจกรถจึงลดลงมา ทันใดนั้น โทรศัพท์ของมู่ซีซีจึงถูกโยนออกไปนอกรถทันที
เพราะความเร็วของรถที่แล่นไปอย่างรวดเร็วโทรศัพท์ที่ถูกโยนออกไปจึงพังเละ แล้วเสียงโทรศัพท์ก็หยุดลงด้วย
ลู่เฉินอันที่นั่งอยู่ข้างคนขับรถหันกลับไปมองโทรศัพท์ที่พังเละข้างถนนแล้วยิ้มมุมปาก พร้อมหรี่ตาลงอย่างมืดมน แววตาก็มีรอยยิ้มแฝงอยู่
จี้หลิงชวน เกมของเราสองคนเพิ่งเริ่มต้น หวังว่าแกอย่าทำให้ฉันผิดหวังแล้วกัน!
เวลาเดียวกันจี้หลิงชวนที่เดินไปถึงที่รถสีดำของบ้านตัวเอง อยู่ๆข้างหูก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นมาว่า “ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”
จี้หลิงชวนขมวดคิ้วแน่นแล้วกดวางสาย จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาเคาะกระจกรถ แต่ก็ไม่มีคนตอบรับ
มือของจี้หลิงชวนจึงกำหมัดแน่น จี้หลิงชวนที่ร้อนรนใจมากกัดฟันแน่น แล้วแอบสูดหายใจเข้าลึกๆ
จี้หลิงชวนพยายามบังคับให้ตัวเองใจเย็น จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาบอดี้การ์ด
แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นไม่มีคนรับสาย!
สีหน้าจี้หลิงชวนจึงเข้มขรึมทันที แล้วโทรไปหาเบอร์ของคนขับรถ
ตามคาด โทรศัพท์ของคนขับรถก็ไม่มีคนรับเหมือนกัน!
ตอนนี้หาตัวไม่เจอ เพราะฉะนั้นเกิดเรื่องกับมู่ซีซีเหรอ?!!!
จี้หลิงชวนจึงกัดริมฝีปากแน่น แล้วก้าวเดินไปในร้านอาหารอีกครั้ง จากนั้นจึงเดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วพูดกับพนักงานแคชเชียร์ว่า “ไปเรียกผู้จัดการของพวกคุณมา ผมจะดูกล้องวงจรของร้านพวกคุณ!”
พนักงานแคชเชียร์เห็นจี้หลิงชวนแต่งตัวแบบนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน แล้วตกใจกับสีหน้าที่เข้มขรึมของเขาด้วยจึงรีบไปหาผู้จัดการทันที
ในเมืองหรงขอแค่เป็นคนที่มีฐานะตำแหน่งหน่อยต้องรู้จักจี้หลิงชวนแน่นอน
ผู้จัดการเห็นว่าจี้หลิงชวนเป็นคนเรียกร้องเอง จะกล้าพูดอะไรอีก จึงรีบไปเอาบันทึกกล้องวงจรมาให้ดูทันที
เพราะที่นี่เป็นร้านอาหารระดับห้าดาว ในร้านอาหารจึงมีกล้องวงจรมากพอสำหรับให้เห็นทุกซอกทุกมุมในร้าน
จี้หลิงชวนจึงเห็นบันทึกกล้องวงจรบนหน้าจอ มู่ซีซีเดินเข้ามาในร้านอาหารก่อน แล้วบอดี้การ์ดกับคนขับรถก็เดินตามเธอเข้ามา
จากนั้นมู่ซีซีก็นั่งลงที่โต๊ะตรงมุมหน้าต่างของลู่เฉินอัน บอดี้การ์ดกับคนขับรถก็นั่งลงที่โต๊ะไม่ไกลจากเธอมากนัก
ผ่านไปครู่หนึ่งมู่ซีซีจึงหยิบโทรศัพท์ออกมา ตอนนั้นน่าจะเป็นตอนที่เขาโทรหามู่ซีซี
มู่ซีซีจึงเดินไปรับโทรศัพท์ที่ห้องน้ำหญิง บอดี้การ์ดกับคนขับรถจึงตามเธอไปที่ห้องน้ำหญิง เพราะว่าเข้าไปไม่ได้ บอดี้การ์ดกับคนขับรถจึงรออยู่ข้างนอก
แต่ว่าทันใดนั้นจึงเกิดเรื่อง อยู่ๆบอดี้การ์ดกับคนขับรถที่เฝ้าอยู่หน้าห้องน้ำหญิงก็โดนผู้ชายร่างใหญ่ที่เดินออกมาจากห้องน้ำชายล้อมไว้
ทั้งสี่คนจึงเริ่มลงมือกัน ดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามเตรียมตัวมาดี บอดี้การ์ดกับคนขับรถไม่ทันระวัง ไม่ถึงหนึ่งนาที ผู้ชายร่างใหญ่สองคนก็เอาผ้าปิดปากมาปิดจมูกของบอดี้การ์ดกับคนขับรถ
จากนั้นบอดี้การ์ดกับคนขับรถจึงหมดสติแล้วล้มลงไปที่พื้น
ทันใดนั้น ผู้ชายร่างใหญ่สองคนจึงลากตัวบอดี้การ์ดกับคนขับรถที่สลบไปแล้วเข้าไปในห้องน้ำชาย