รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 402 จะสำเร็จหรือล้มเหลวตัดสินกันในฉากนี้
- Home
- รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
- บทที่ 402 จะสำเร็จหรือล้มเหลวตัดสินกันในฉากนี้
จูบของจี้หลิงชวนสามารถทำให้มู่ซีซีค่อยๆสงบสติอารมณ์ลงได้ จี้หลิงชวนกอดมู่ซีซีเอาไว้ในอ้อมแขนของเขาและจูบไปที่หูของมู่ซีซีอีกครั้งพร้อมกับกระซิบที่ข้างหูของมู่ซีซีว่า”ซีซี เธอไม่ต้องกังวลใจไปนะ ฉันจะต้องพาเธอและลูกออกไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย เชื่อฉันสิ”
มู่ซีซีเอื้อมมือออกไปกอดจี้หลิงชวนเช่นเดียวกัน จากนั้นก็พยักหน้าให้กับจี้หลิงชวนและพูดออกมาโดยไม่ลังเลใจว่า “ฉันเชื่อคุณ”
สำหรับมู่ซีซีแล้ว ตราบใดที่เธอสามารถอยู่กับจี้หลิงชวนได้ จะเป็นหรือตายก็ไม่สำคัญ ขอเพียงให้ได้อยู่กับจี้หลิงชวนเท่านั้น
จี้หลิงชวนยกมือขึ้นมาตบเบาๆที่หลังมู่ซีซีและพูดขึ้นมาว่า”ซีซี ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เธอรีบไปนอนเถอะ”
มู่ซีซีมองไปที่จี้หลิงชวนตาไม่กะพริบ สายตาของเธอดูเคร่งขรึมขึ้นมาก เธอยื่นมือออกมาและจับมือของจี้หลิงชวนไว้แน่น ราวกับว่าเธอไม่ต้องการให้จี้หลิงชวนออกไปอย่างไงอย่างงั้น มู่ซีซีจ้องไปที่จี้หลิงชวนและพูดออกมาทีล่ะคำๆอย่างช้าๆว่า”จี้หลิงชวน คุณจะต้องดูแลตัวเองดีๆ หากว่าคุณเป็นอะไรไป ฉันก็ไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวได้…”
มู่ซีซียังไม่ทันพูดจบ จี้หลิงชวนหลิงชวนก็ปิดปากของเธอด้วยการจูบ
“ซีซี เธอวางใจได้ เราทั้งคู่จะต้องปลอดภัย”จี้หลิงชวนมองไปที่มู่ซีซี ราวกับว่าเขากำลังให้คำสาบานกับเธอ จี้หลิงชวนยื่นมือออกไปจับที่ศีรษะของมู่ซีซี อย่างระมัดระวังและค่อยๆขยับมือไปที่หลังหูของเธอ พร้อมกับพูดเกลี้ยกล่อมเธออีกครั้ง”ซีซี ไปนอนซะเถอะ”
คราวนี้มู่ซีซีจึงยอมพยักหน้าให้กับจี้หลิงชวนอย่างเชื่อฟัง และสวมกอดจี้หลิงชวนแน่น
ผลจากการที่มู่ซีซีเหน็ดเหนื่อยมากเกินไป เป็นเพราะในวันนี้ เธอมีความเครียดเป็นอย่างมากประกอบกับหิวมาตลอดทั้งวัน เดิมทีมู่ซีซีซึ่งกำลังตั้งครรภ์จะมีความรู้สึกเพลียและง่วงนอนง่ายอยู่แล้ว อีกทั้งตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว และเมื่อเธออยู่ในอ้อมแขนของจี้หลิงชวน ได้กลิ่นที่คุ้นชินจากตัวของเขา มู่ซีซีจึงรู้สึกโล่งใจและผ่อนคลายขึ้น เวลาผ่านไปไม่นานนัก มู่ซีซีก็ค่อยๆผล็อยหลับไป
เมื่อเห็นว่ามู่ซีซีนิ่งสงบไปแล้ว จี้หลิงชวนจึงได้ถอนหายใจออกมา ในที่สุด จี้หลิงชวนก็ไม่สามารถควบคุมความรู้สึกเจ็บปวดของตัวเองได้
อาการบาดเจ็บที่จี้หลิงชวนได้รับ ไม่ได้เล็กน้อยเหมือนที่เขาแสดงต่อหน้าของมู่ซีซี
เพราะกลัวว่าจะทำให้มู่ซีซีตื่น จี้หลิงชวนจึงยกมือขึ้นมาปิดที่ริมฝีปากและไอด้วยเสียงทุ้มต่ำ และในเวลาต่อมา จี้หลิงชวนก็สัมผัสได้ว่าฝ่ามือของตัวเองมีความรู้สึกอุ่นๆและชื้น เขาจึงขมวดคิ้วขึ้นมาในทันที จี้หลิงชวนค่อยๆคลายมือออกและพบว่าในฝ่ามือของตันเองมีของเหลวสีแดงสดไหลออกมา
จี้หลิงชวนดึงกระดาษชำระออกมาเช็ดของเหลวสีแดงที่อยู่ในมืออย่างใจเย็น และกลัวว่ามู่ซีซี จะเห็นกระดาษชำระที่เปื้อนเลือด เขาจึงยัดกระดาษชำระกลับเข้าไปในกระเป๋าของเขา
เขากอดมู่ซีซีอยู่เงียบ ๆ สักครู่ และเพราะกังวลว่ามู่ซีซีจะหนาว จี้หลิงชวนจึงได้ค่อยๆเอามู่ซีซีที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาวางลงบนเตียงด้วยความอาลัยอาวอน หลังจากที่เขาห่มผ้าให้มู่ซีซีอย่างเรียบร้อยแล้ว ประตูห้องที่ปิดสนิทก็ถูกผลักเปิดออกอีกครั้งจากทางด้านนอก
บอดี้การ์ดสองคนเดินตรงเข้ามา จี้หลิงชวนกลัวว่าบอดี้การ์ดทั้งสองจะทำให้มู่ซีซีตื่น เขายกมือขึ้นหยุดบอดี้การ์ดทั้งสองในทันที จากนั้นตนเองจึงรีบเดินไปหาบอดี้การ์ดทั้งสองอย่างรวดเร็ว
บอดี้การ์ดทั้งสองคุมตัวจี้หลิงชวนทางซ้ายคนและทางขวาคน จากนั้นก็ผลักเขาออกไปจากห้อง และพาตัวไปที่ห้องเก็บของก่อนหน้า
ระหว่างทาง จี้หลิงชวนพยายามกวาดสายตามองไปรอบๆ และพยายามเก็บรายละเอียดของระบบความปลอดภัยของคฤหาสน์อย่างเงียบๆ ประจวบเหมาะกับตอนนั้นเป็นการเปลี่ยนเวรยามของพวกบอดี้การ์ดที่ทำการคุ้มกัน และจี้หลิงชวนก็ได้จดจำการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดไว้ในใจ
จี้หลิงชวนถูกพากลับไปขังไว้ที่ห้องเก็บของที่ทั้งแคบและมืด
เขารู้สึกไม่ง่วงเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่ได้เห็นสภาพของมู่ซีซีเมื่อกี้นี้ทำให้หัวใจของจี้หลิงชวน รู้สึกร้อนใจมากขึ้น เขาไม่ต้องการให้มู่ซีซีอยู่ในสถานที่ที่อันตรายแบบนี้อีกต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้น……
จี้หลิงชวนคิดพลางรู้สึกเจ็บบาดแผลที่บริเวณท้อง สักพักหนึ่ง ในลำคอของเขาก็มีกลิ่นคาวของเลือดฟุ้งออกมา จี้หลิงชวนใช้มือปิดปากแน่นและไออกมา ทันใดนั้น ที่ฝ่ามือของเขาก็มีเลือดไหลออกมา
จี้หลิงชวนหลับตาลงพร้อมกับมือทั้งสองค่อยๆกำรวบแน่นเข้ามา ในใจของเขาเกิดความกังวลขึ้นมา ในสถานการณ์ตอนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง มันดูแย่เกินไปจริงๆ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาจริงๆล่ะ จี้หลิงชวนนึกถึงคำพูดที่เขาได้พูดเอาไว้กับมู่ซีซีเมื่อกี้ขึ้นมา ในใจของจี้หลิงชวนก็รู้สึกวิตกกังวลและไม่สงบ
ดังนั้นเขาจึงต้องพามู่ซีซีไปจากที่นี่ในเวลาอันรวดเร็ว!
จะให้เกิดอะไรขึ้นไม่ได้
จี้หลิงชวนนอนไม่หลับ และในสมองของเขาเริ่มคิดอะไรต่างๆนานา บวกกับสิ่งที่เขาเพิ่งเห็นเมื่อกี้ เพื่อวางแผนการหลบหนีที่ดีที่สุด
ในใจของจี้หลิงชวนยังคงคิดหาแผนการหลบหนีอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งถึงตีสองตีสามของวันถัดไป แต่จี้หลิงชวนยังคงไม่รู้สึกง่วงเลยแม้แต่น้อย
หลังจากคิดเรื่องนี้มานาน และได้ปฏิเสธแผนการนับไม่ถ้วน และในที่สุดจี้หลิงชวนก็มีแผนการที่ค่อนข้างครอบคลุมอยู่ในสมองของเขาแล้ว
ตอนนี้มันก็ดึกแล้ว หลังจากที่จี้หลิงชวน แอบฟังอย่างระมัดระวังและยืนยันว่าทางด้านนอกไม่มีการเคลื่อนไหวแล้ว จี้หลิงชวน นำอุปกรณ์สื่อสารที่ซ่อนอยู่ในปลอกคอออกมาแล้วสวมที่หูเพื่อเชื่อมต่อ
จี้หลิงชวนลดเสียงให้ต่ำลงและพูดขึ้นว่า “ฟางเซิ่ง?”
ตั้งแต่ที่จี้หลิงชวนบุกไปที่ถ้ำของลู่เฉินอันโดยลำพัง ฟางเซิ่งได้เฝ้าดูการติดต่อสื่อสารอยู่ไม่ห่าง แม้แต่อาหารก็ไม่ได้ออกไปทาน
ตอนนี้เมื่อเขาได้ยินเสียงของจี้หลิงชวนแล้ว ฟางเซิ่งก็ตอบกลับในทันทีว่า “คุณชายจี้ คุณยังโอเคไหม? เราจะเริ่มปฏิบัติการกันได้เมื่อไหร่?”
เมื่อจี้หลิงชวนได้ยินเสียงของฟางเซิ่ง เขาก็พูดเบาๆขึ้นอีกครั้งว่า“ฟางเซิ่งตอนนี้นายฟังฉันให้ดีนะ แผนก่อนหน้านี้ มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เราจะเริ่มปฏิบัติการพรุ่งนี้ตอน 8 โมงเช้า นายจัดคนมาหนึ่งกลุ่มจำนวนสิบคนที่มีอาวุธปืนครบมือ และให้ยิงปืนขึ้นทางด้านหน้าคฤหาสน์เพื่อดึงดูดความสนใจของพวกมัน จากนั้นก็ให้คนกลุ่มนี้รีบขึ้นมาที่ชั้นสองและไปช่วยมู่ซีซีที่อยู่ในห้องนอนหลักของคฤหาสน์ จำไว้ให้ดีนะ คนกลุ่มนี้มีจุดประสงค์หลักคือการปกป้องความปลอดภัยของมู่ซีซี จะผิดพลาดไม่ได้! นายเข้าใจไหม??!”
น้ำเสียงที่น่าสงสัยของจี้หลิงชวน ทำให้ฟางเซิ่งอดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล หลังจากได้ยินจี้หลิงชวนพูดจบ ฟางเซิ่งจึงถามขึ้นต่อว่า “คุณชายจี้ แล้วคุณล่ะ?”
“ฉันมีแผนของฉันอยู่แล้ว นายจำไว้ว่าต้องปกป้องความปลอดภัยของมู่ซีซีให้ได้ก็พอ !!!” หลังจากที่อธิบายทุกอย่างแล้ว จี้หลิงชวนก็ตัดการสื่อสารในทันที เพราะกลัวคนพวกนั้นจะรู้ตัว
เมื่อมองดูเวลา ตอนนี้ก็ตีสามแล้ว จี้หลิงชวนยกมือขึ้นและนวดไปที่หว่างคิ้วที่ขมวดแน่นของตัวเอง บังคับตัวเองให้ผ่อนคลายขึ้น อีกไม่นานก็จะถึงเช้าแล้ว ยังมีงานที่เขาจะต้องทำ ฉะนั้นในคืนนี้เขาก็จะต้องได้รับการพักผ่อนสองถึงสามชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เพื่อให้ร่างกายของเขากลับมาเป็นปกติ
จี้หลิงชวนจึงพยายามข่มตาลงและบังคับตัวเองให้หลับ