รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 409 แม่ลูกปลอดภัย
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีลู่เฉินอันก็หมดลมหายใจแล้ว จี้หลิงชวนเห็นลู่เฉินอันที่หมดลมหายใจแล้วจึงรู้สึกโล่งอก เมื่อกี้เพราะเกร็งมากเกินไป จี้หลิงชวนเลยไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ว่าตอนนี้โล่งแล้ว ความเจ็บปวดจึงมาเยือน จี้หลิงชวนขมวดคิ้วแน่น บนสีหน้ามีความเจ็บปวด วินาทีต่อมาจี้หลิงชวนจึงรู้สึกหน้ามืดแล้วสติก็เลือนหายไปทันที
พอจี้หลิงชวนนึกถึงลู่เฉินอันก็อดนึกถึงอุบัติเหตุรถชนเมื่อสิบกว่าปีก่อนไม่ได้
ความแค้นเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่พ่อจี้สร้างไว้กลับย้อนคืนมาตอนนี้ แต่ว่ายังโชคดีที่ทุกอย่างจบไปแล้ว
จะว่าไปตอนนั้นตระกูลจี้ก็ติดค้างลู่เฉินอันจริงๆ ถ้าก่อนหน้านั้นลู่เฉินอันไม่เอามู่ซีซีมาข่มขู่เขา จี้หลิงชวนก็อาจจะปล่อยลู่เฉินอันไปก็ได้ แต่ลู่เฉินอันกลับเลือกที่จะไปทำร้ายคนที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา
แล้วสุดท้าย จี้หลิงชวนก็ดูออกว่าตอนนั้นลู่เฉินอันมีความคิดที่จะตายไปพร้อมกับเขา ตอนนี้สำหรับลู่เฉินอัน การตายไปอาจจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแล้วก็ได้
ฟังฟางเซิ่งรายงานจบแล้ว จี้หลิงชวนจึงพยักหน้าเอ่ยกับเขาว่า “นายไปที่โรงพัก แล้วให้ปากคำตำรวจด้วย ส่วนที่เหลือ นายก็ให้ความร่วมมือตำรวจด้วย”
ที่ลู่เฉินอันจับตัวมู่ซีซีไปก็ทำผิดกฎหมายแล้ว ตอนที่จี้หลิงชวนพาคนไปช่วยมู่ซีซี ลู่เฉินอันก็ยิงจี้หลิงชวนด้วย จนทำให้จี้หลิงชวนโดนยิงที่ตัวสามนัด แล้วเกือบตาย จี้หลิงชวนฆ่าลู่เฉินอันก็เป็นการป้องกันตัว
ทุกอย่างจบลงสักที
ชีวิตของจี้หลิงชวนกับมู่ซีซีก็กลับไปสงบสุขเหมือนเดิม
ครั้งนี้เรื่องที่จี้หลิงชวนบาดเจ็บ มู่ซีซีกับจี้หลิงชวนไม่กล้าบอกนายหญิงจี้ เพราะตอนนี้อายุท่านมากแล้ว ร่างกายก็ไม่ค่อยดี จี้หลิงชวนกับมู่ซีซีเป็นห่วงว่าถ้าท่านรู้ว่าจี้หลิงชวนบาดเจ็บจนเกือบตายอาจจะรับไม่ไหว
มู่ซีซีอยู่ดูแลจี้หลิงชวนในโรงพยาบาลไปครึ่งเดือน ทีแรกจี้หลิงชวนอยากกลับบ้านเร็วกว่านี้ แต่ว่ามู่ซีซีเป็นห่วงบาดแผลบนตัวจี้หลิงชวน จึงบังคับให้เขาอยู่โรงพยาบาลต่อ จนกระทั่งถามคุณหมอให้แน่ใจแล้วว่าตอนนี้แผลของเขาหายดีแล้ว มู่ซีซีค่อยยอมให้จี้หลิงชวนออกจากโรงพยาบาล
ตั้งแต่ที่บาดเจ็บครั้งนี้ จี้หลิงชวนกลายเป็นทาสภรรยาทันที มู่ซีซีพูดยังไงจี้หลิงชวนก็ทำอย่างนั้น เชื่อฟังเธอมากจริงๆ
พอกลับมาที่บ้าน มู่ซีซีก็ตั้งครรภ์ได้เก้าเดือนแล้ว ใกล้กำหนดคลอดเข้ามาเรื่อยๆ คุณหมอบอกว่าคนท้องบางคนอาจจะคลอดก่อนกำหนดก็ได้
หลังจากที่ได้ยินคุณหมอพูดแบบนั้น จึงทำให้จี้หลิงชวนวิตกกังวลแล้วจ้องมองท้องมู่ซีซีทุกวัน
เพราะแบบนี้ จี้หลิงชวนเลยไม่ไปทำงานที่บริษัท เอางานทุกอย่างมาทำในห้องหนังสือตัวเอง เรื่องเล็กๆจี้หลิงชวนก็ให้ฟางเซิ่งจัดการ มีแค่เรื่องสำคัญๆที่ต้องตัดสินใจค่อยให้ฟางเซิ่งส่งงานมาให้เขาทำ
หนึ่งวันมียี่สิบสี่ชั่วโมง จี้หลิงชวนแบ่งเวลาไว้ทำงานแค่สองชั่วโมง นอกจากเวลานอน ที่เหลือก็อยู่กับมู่ซีซีตลอด
ดูแลเอาใจใส่มู่ซีซีดีมาก ทะนุถนอมเธอเหมือนของล้ำค่าที่สำคัญมากอย่างนั้น
วันนี้ พอจี้หลิงชวนกับมู่ซีซีกินมื้อเย็นอย่างสวีทหวานกันเรียบร้อยแล้ว จี้หลิงชวนทำตามคำแนะนำของคุณหมอ จึงจูงมือมู่ซีซีไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้
ตอนที่จี้หลิงชวนไปตรวจครรภ์ครั้งสุดท้ายกับมู่ซีซี คุณหมอแนะนำจี้หลิงชวนกับมู่ซีซีว่า ถ้ามีเวลาก็ต้องออกไปเดินออกกำลังกายเยอะๆ ถ้าถึงเวลาคลอดมู่ซีซีจะได้ไม่เจ็บปวดขนาดนั้น
เพราะฉะนั้นตอนนี้ทุกเช้ากับทุกเย็นจี้หลิงชวนก็จะพามู่ซีซีไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้
ครั้งนี้พอจี้หลิงชวนเดินเล่นกับมู่ซีซีไปแล้วหนึ่งรอบ จี้หลิงชวนก็สังเกตเห็นว่ามู่ซีซีผิดปกติ
เห็นแค่มู่ซีซีเหงื่อไหลเต็มหน้าผาก แล้วสีหน้าก็ย่ำแย่เพราะความเจ็บปวด เธอยืนนิ่งอยู่กับที่ แล้วมือทั้งสองข้างก็กอดท้องไว้แน่น
จี้หลิงชวนเห็นสีหน้าที่ซีดขาวทรมานของมู่ซีซีจึงสะดุ้งตกใจ แล้วรีบยื่นมือไปพยุงมู่ซีซีไว้พร้อมเอ่ยเสียงสั่นว่า “ซีซี เธอเป็นอะไร? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
ขณะพูดจี้หลิงชวนจึงตะโกนไปทางคฤหาสน์ว่า “ใครก็ได้! รีบมาที่นี่เร็ว!”
มู่ซีซีจับท่อนแขนที่แข็งแรงของจี้หลิงชวนไว้แน่น แล้วส่ายหน้าเบาๆให้จี้หลิงชวน “น่าจะ น่าจะคลอดแล้ว ปวดท้อง……ปวดมาก……เหมือนมีอะไรไหลออกมาแล้ว……น่าจะ ถุงน้ำคร่ำน่าจะแตกแล้ว……”
ตอนที่มู่ซีซีเพิ่งตั้งครรภ์ป้าหลิงก็เล่าให้เธอฟังแล้วว่าตอนคลอดลูกจะเป็นยังไง แล้วบอกเธอว่าตอนที่จะคลอดจะปวดท้องมากๆ แล้วจะมีของเหลวไหลออกมา นั่นก็คือน้ำคร่ำ หมายความว่าลูกจะคลอดแล้ว
เพราะรู้มาก่อนหน้านั้น ตอนนี้มู่ซีซียังใจเย็นอยู่
แต่จี้หลิงชวนที่อยู่ข้างๆได้ยินมู่ซีซีพูดแบบนี้ สีหน้าที่เย็นชาจึงซีดขาวเพราะเกร็งทันที
ถ้าคนที่ไม่รู้เรื่องเห็น อาจจะคิดว่าจี้หลิงชวนต่างหากที่จะเป็นคนคลอดลูก!
ตอนนี้มู่ซีซีปวดท้องจนเดินไม่ไหว พอจี้หลิงชวนตั้งสติได้แล้ว จึงรีบอุ้มมู่ซีซีขึ้นมาทันที แล้วรีบเดินไปทางคฤหาสน์
พอจี้หลิงชวนเดินเข้ามาถึงในคฤหาสน์ ป้าหลิงที่ได้ยินเสียงจึงรีบเดินมาหา จี้หลิงชวนที่สีหน้าเกร็งมาก รีบสั่งป้าหลิงว่า “ป้าหลิง! ป้ารีบไปเรียกคนขับรถขับรถมาด่วน!”
ป้าหลิงเห็นท่าทางที่เจ็บปวดทรมานของมู่ซีซีจึงเดาออก เลยรีบวิ่งไปเรียกคนขับรถให้รีบขับรถมาทันที
จากนั้นจี้หลิงชวนก็อุ้มมู่ซีซีเข้าไปที่เบาะหลังรถ
คนขับรถไม่กล้ารอช้าจึงรีบสตาร์ทรถ แล้วรีบแล่นไปที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทาง จี้หลิงชวนก็จับมือมู่ซีซีไว้แน่น มองสีหน้าที่ทุกข์ทรมานเพราะความเจ็บปวดของเธอ เขาก็รู้สึกเป็นห่วงมาก จากนั้นจึงเอ่ยปลอบเธอว่า “ซีซี เธออดทนหน่อยนะ เธออดทนอีกนิดนะ ใกล้จะถึงโรงพยาบาลแล้ว ถึงโรงพยาบาลแล้วก็จะไม่เป็นไรนะ เธออดทนอีกหน่อยนะ”
พูดไปด้วยจี้หลิงชวนก็ก้มจูบหน้าผากมู่ซีซีเหมือนกำลังปลอบใจ
มีแค่จี้หลิงชวนคนเดียวที่รู้ว่าตอนนี้มือตัวเองมีแต่เหงื่อ ก่อนหน้านั้นเพราะมู่ซีซีท้อง เขาจึงไปเสิร์ชดูว่าต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง แต่ผลลัพธ์ที่เสิร์ชเจอ กลับทำให้จี้หลิงชวนเห็นเคสที่คลอดยากมาไม่น้อย
ถึงแม้ตอนนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์จะพัฒนามากแล้ว ความอันตรายในการคลอดลูกไม่มากเท่าเมื่อก่อน แต่ยังไงเมื่อก่อนถ้าผู้หญิงคลอดลูกก็เหมือนเอาชีวิตไปเสี่ยง จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่มีคุณหมอคนไหนกล้ารับประกันว่าแม่ลูกจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์!