รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 414 วันหวานๆ
คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาหน้าของมู่ซีซีก็แดงขึ้น เธอมองไปที่จี้หลิงชวนซึ่งกำลังถือกะละมังน้ำอุ่นเตรียมมาเช็ดตัวให้กับเธอ เมื่อเห็นดังนั้นแล้วมู่ซีซีก็รีบยื่นมือออกไปคว้าที่แขนจี้หลิงชวนและตะโกนพูดกับจี้หลิงชวนอย่างเขินอายว่า”จี้หลิงชวน… ให้ป้าหวางเป็นคนมาเช็ดตัวให้ฉันดีกว่าไหม”
แม้ว่ามู่ซีซีจะรู้สึกไม่สบายใจที่จะให้คนแปลกหน้ามาสัมผัสตัวของเธอ แต่อย่างนั้นมันก็ดีเสียกว่าการที่จะต้องให้จี้หลิงชวนเป็นคนทำ เพราะเธอไม่อยากเห็นจี้หลิงชวนต้องทุกข์ทรมาน
เมื่อเห็นสีหน้าที่กำลังแดงก่ำของมู่ซีซี จี้หลิงชวนก็พอจะเดาได้ว่ามู่ซีซีกำลังคิดอะไรอยู่ เขามองไปที่มู่ซีซีพร้อมกับยิ้มออกมา จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาลูบหัวของมู่ซีซีอย่างอ่อนโยนและพูดขึ้นว่า”ซีซี ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้ฉันอดทนได้”
ก็ไม่รู้ว่าจี้หลิงชวนจะทำได้อย่างที่ว่าไว้หรือเปล่า ทำไมถึงได้ดูมั่นใจเร็วขนาดนั้น
เมื่อได้ยินจี้หลิงชวนพูดอย่างนี้แล้ว มู่ซีซีก็จำใจจะต้องปล่อยแขนของจี้หลิงชวน
จี้หลิงชวนหยิบกะละมังอ่างล้างหน้าเข้าไปในห้องน้ำได้ไม่นานนัก เขาก็ยกกะละมังใบเดิมที่เติมน้ำอุ่นจนเต็มออกมา
จี้หลิงชวนค่อยๆชุบผ้าขนหนูลงในอ่างอย่างช้าๆเพื่อให้ผ้าขนหนูเปียก จากนั้นก็มาพยุงมู่ซีซีให้ลุกขึ้นนั่ง
ด้วยความกลัวว่ามู่ซีซีจะหนาวหลังจากที่เธอถอดเสื้อผ้าเสร็จ เขาจึงเพิ่มอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศในห้องให้สูงขึ้นเล็กน้อย จากนั้นจึงยื่นมือออกมาช่วยมู่ซีซีถอดเสื้อผ้า
จี้หลิงชวนบิดผ้าขนหนูที่เปียกให้แห้งและเช็ดลงบนร่างกายของมู่ซีซีอย่างระมัดระวัง
ผิวของมู่ซีซีนั้นทั้งขาวและนุ่มลื่นมาก ราวกับผิวของเด็กแรกเกิดไม่มีผิด เพราะผิวที่นุ่มและอ่อนโยนทำให้จี้หลิงชวนออกแรงเช็ดตัวของมู่ซีซีแรงไปหน่อย จนเกือบจะทำให้ผิวของมู่ซีซีกลายเป็นแผล
จี้หลิงชวนพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้นิ้วมือของตัวเองสัมผัสโดนผิวของมู่ซีซีแต่ในกระบวนการเช็ดร่างกายของมู่ซีซีนั้น นิ้วของจี้หลิงชวนก็จะคงสัมผัสถูกผิวที่บอบบางของ มู่ซีซีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม้ว่าจะเป็นเพียงการสัมผัสเบาๆเท่านั้น แต่ในสมองของจี้หลิงชวน ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพเย้ายวนใจก่อนหน้านี้ที่เขามีอะไรกับมู่ซีซีขึ้นมา กระทั่งเสียงร้องครางเบาๆมู่ซีซีก็เหมือนจะค่อยๆดังขึ้นอย่างชัดเจนในหูของเขา
ทันใดนั้น มู่ซีซีก็เริ่มสังเกตได้ว่าการเช็ดตัวของจี้หลิงชวนนั้นเหมือนดูจะช้าลงเรื่อยๆ! และใช่ไม่เพียงแต่การเคลื่อนไหวที่ช้าลงเท่านั้น แต่มู่ซีซียังสัมผัสได้ถึงการหายใจของจี้หลิงชวน ที่ดูเหมือนจะเริ่มหอบถี่ขึ้นเรื่อยๆ
เดิมทีมู่ซีซีก็หน้าแดงอยู่แล้วตอนนี้ใบหน้าของเธอกลับแดงและร้อนเข้าไปใหญ่ แม้ว่าตอนนี้จี้หลิงชวนจะกำลังเช็ดที่ด้านหลังให้เธออยู่ก็ตาม แต่เธอก็ไม่สนใจแล้ว มู่ซีซีก็รีบดึงผ้าห่มที่อยู่ทางด้านข้างมาห่อร่างกายของตัวเองไว้ ใบหน้าสีแดงระเรื่อหันมองไปที่จี้หลิงชวน และสบตากับเขาโดยไม่ตั้งใจ จากนั้นมู่ซีซีก็รีบพูดออกมาอย่างติดๆขัดๆว่า “ไม่ ไม่ต้องเช็ดแล้ว … ”
มู่ซีซีพูดขึ้นพลางเหลือบไปมองที่ส่วนนั้นทางร่างกายท่อนล่างของจี้หลิงชวนโดยไม่ตั้งใจ และเป็นไปตามที่คาดเอาไว้ มันค่อยๆตื่นขึ้นมาแล้ว
มู่ซีซีมองเห็นมันเพียงแค่แวบเดียว จากนั้นเธอก็รีบเบนสายตาไปมองทางอื่นด้วยความตื่นตระหนก
จี้หลิงชวนเองก็ทำอะไรไม่ถูก ก่อนที่เขาจะเตรียมเช็ดตัวให้กับมู่ซีซี จี้หลิงชวนพูดกับตัวเองไว้แล้วว่า เขาต้องไม่คิดเรื่องนั้น จะคิดเรื่องนั้นไม่ได้ เขาต้องการเช็ดตัวให้ภรรยาเพียงอย่างเดียว!
แต่ผลคือ… จี้หลิงชวนคิดไม่ถึงว่าจะตบหน้าของตัวเองได้เร็วขนาดนี้…
ก่อนหน้านี้ยังสาบานกับมู่ซีซีอยู่เลยว่า เขาสามารถอดทนได้ แต่ตอนนี้จี้หลิงชวนกลับใช้ปฏิกิริยาของร่างกายแสดงออกให้มู่ซีซีรู้ว่า ตอนนี้เขาหมดความอดทนแล้ว…
จี้หลิงชวนไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย… แต่สมองและร่างกายของเขามันอยู่เหนือการควบคุม! ทันทีที่เขาสัมผัสโดนผิวอันบอบบางของมู่ซีซี จี้หลิงชวน ก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นม้าที่ดิ้นหลุดจากบ่วงพันธนาการ!
จี้หลิงชวนเหลือบไปมองมู่ซีซีด้วยความรู้สึกผิด จากนั้นก็พูดขึ้นว่า”ซีซีฉันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ … ”
เดิมทีมู่ซีซีเป็นคนค่อนข้างขี้อาย แต่เมื่อได้ยินจี้หลิงชวนพูดอย่างนี้แล้ว อีกทั้งหน้าตาที่รู้สึกผิดของจี้หลิงชวน ก็ทำให้มู่ซีซีอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ทำไมจี้หลิงชวนถึงน่ารักขนาดนี้นะ
มู่ซีซีคิดขึ้นพลางยื่นมือออกมาจากผ้าห่มแล้วพูดกับจี้หลิงชวนขึ้นว่า “เอาผ้าขนหนูส่งมาให้ฉัน เดี๋ยวฉันจะเช็ดเอง ยังไงซะด้านหลังก็เช็ดจนเกือบเสร็จแล้ว เหลือแค่เช็ดด้านหน้าเท่านั้นเอง”
หลังจากมู่ซีซีพูดจบ เธอก็เหลือบไปมองยังส่วนนั้นของจี้หลิงชวนและพูดเสริมขึ้นว่า”คุณควรอาบน้ำสักหน่อยก็คงจะดีนะ … ”
ตอนนี้ถ้าอันอันไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย มู่ซีซีก็พอจะหน้าหนาขึ้นและสามารถใช้มือช่วยจี้หลิงชวนได้ แต่ตอนนี้อันอันยังอยู่ในห้องนี้ แม้ว่าเขาจะหลับอยู่ แต่มู่ซีซีก็ยังรู้สึกไม่ค่อยชินสักเท่าไหร่…
เมื่อได้ฟังสิ่งที่มู่ซีซีพูด จี้หลิงชวนก็พยักหน้าอย่างตรงไปตรงมาให้กับมู่ซีซีและรีบเข้าไปอาบน้ำเย็นในห้องน้ำ
เมื่อมู่ซีซีมองเห็นแผ่นหลังของจี้หลิงชวนค่อยๆเดินห่างออกไป ในใจของเธอก็เกิดความรู้สึกทั้งสุขและทุกข์ขึ้นในเวลาเดียวกัน มู่ซีซีเม้มริมฝีปากและถอนหายใจเล็กน้อย จากนั้นก็หยิบเอาผ้าขนหนูบิดหมาดๆขึ้นมาเช็ดร่างกายของตัวเอง
ตอนที่มู่ซีซีเช็ดตัวเสร็จ จี้หลิงชวนก็อาบน้ำเสร็จและกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี
จี้หลิงชวนกลัวว่าความเย็นที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขาจะแผ่ไปโดนตัวของมู่ซีซี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเข้าใกล้มู่ซีซี จี้หลิงชวนเดินไปปรับเครื่องปรับอากาศให้เป็นลมร้อน จากนั้นก็ยืนให้ลมร้อนพัดร่างกายให้อบอุ่นขึ้นเสียก่อน แล้วค่อยๆเดินเข้าไปหามู่ซีซี เมื่อเห็นว่ามู่ซีซีเปลี่ยนชุดนอนและเนื้อตัวสะอาดสะอ้านนอนอยู่บนเตียงแล้ว จี้หลิงชวนก็ยกอ่างน้ำที่อยู่ด้านข้างไปจัดการเทในห้องน้ำ
หลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว จี้หลิงชวนก็กลับมานั่งลงตรงด้านข้างของมู่ซีซีเหมือนเดิม เขาเหลือบไปเห็นเวลาบนนาฬิกาข้อมือตอนนี้ก็ดึกมาแล้ว วันนี้มู่ซีซีเพิ่งจะคลอดยังอ่อนแออยู่มากๆ คุณหมอบอกว่ามู่ซีซีจะต้องพักผ่อนมากๆ เมื่อจี้หลิงชวนคิดได้อย่างนี้ เขาก็ยกมือขึ้นมาและลูบไปที่ศีรษะของมู่ซีซีพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ซีซี รีบนอนเถอะ ตอนนี้ก็ดึกแล้ว”
ตอนนี้มู่ซีซีเองก็รู้สึกง่วงนอนมากๆ เธอเหลือบไปมองที่จี้หลิงชวน และเห็นว่าจี้หลิงชวน กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ทางด้านข้างของเธอ มู่ซีซีรู้สึกสงสารเล็กน้อย เธอไม่ต้องการให้จี้หลิงชวน นั่งอยู่บนเก้าอี้แบบนี้ไปตลอดทั้งคืน มู่ซีซีคิดพลางขยับตัวให้พื้นบนเตียงมีที่ว่างมากขึ้น จากนั้นก็พูดกับจี้หลิงชวนว่า “จี้หลิงชวน คุณก็ขึ้นมานอนกับฉันเถอะ”
แม้ว่านี่จะเป็นในโรงพยาบาล แต่ก็เป็นห้องชุดระดับวีไอพี ถึงแม้เตียงจะไม่ได้ใหญ่มากเมื่อเทียบกับเตียงที่บ้าน และจี้หลิงชวนก็กลัวถ้านอนสองคนจะทำให้มู่ซีซีอึดอัดและนอนไม่หลับ เขาจึงปฏิเสธออกไปว่า “ฉันยังไม่ง่วง เด็กดี เธอนอนเถอะนะ”
มู่ซีซีดูออกว่าจี้หลิงชวนก็ดูอ่อนล้ามากเช่นกัน เธอไม่เชื่อคำพูดที่จี้หลิงชวนพูดออกมาเมื่อกี้ เธอจึงมองไปที่จี้หลิงชวนอีกครั้งและพูดขึ้นว่า“ถ้าจะนอนก็ต้องนอนด้วยกัน หรือถ้าไม่ อย่างนั้นก็ไม่ต้องนอนทั้งสองคน ”