รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 432 ลู่เฉิงฮ่าวผู้ไม่สบอารมณ์
แล้วจี้หลิงชวนจะสามารถทำอะไรได้อีกล่ะ เขาทำได้เพียงแค่จูบมู่ซีซีเพื่อบรรเทาตัณหาของเขา และในท้ายที่สุดจี้หลิงชวนก็วิ่งไปอาบน้ำเย็นเพื่อลดความร้อนในตัวของเขา
มู่ซีซีอาบน้ำเสร็จตั้งนานแล้ว เมื่อจี้หลิงชวนอาบน้ำเย็นออกมา เขาก็เห็นมู่ซีซีกำลังนั่งอยู่บนหัวเตียง และกำลังอ่านหนังสือที่อยู่ในมือ
จี้หลิงชวนเดินไปหยิบหนังสือจากมือของมู่ซีซีเอามาวางไว้บนโต๊ะที่อยู่ทางด้านข้างของหัวเตียง จากนั้นเขาก็เปิดผ้าห่มและล้มตัวลงไปนอนบนเตียง จี้หลิงชวนค่อยๆเอื้อมมือออกไปกอดมู่ซีซี พร้อมกับดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมแขน จากนั้นก็ก้มลงไปจูบที่หน้าผากของเธอและพูดขึ้นว่า “ซีซี หนังสือมีอะไรที่น่าดูกว่าฉันอย่างนั้นเหรอ ”
มู่ซีซีตกตะลึงและพูดไม่ออกเมื่อเห็นท่าทางที่หลงตัวเองของจี้หลิงชวน
มู่ซีซีมองจี้หลิงชวนด้วยสายตาที่เอือมระอา จากนั้นก็นึกถึงเรื่องสำคัญบางเรื่องที่ป้าหลิงได้บอกกับเธอในวันนี้ขึ้นมาได้
เมื่อมู่ซีซีนึกขึ้นมาได้ จึงรีบบอกกับจี้หลิงชวนแล้วพูดว่า “ใช่แล้ว จี้หลิงชวน ยังมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ฉันจะบอกกับคุณ วันนี้ป้าหลิงพูดขึ้นมาว่าของขวัญวันครบรอบหนึ่งเดือนของอันอันพวกเราจะจัดเตรียมยังไงดี?”
ตอนนี้ก็ยังพอมีเวลาอยู่ แต่ก็จะต้องเริ่มเตรียมพร้อมตั้งแต่ตอนนี้
จี้หลิงชวนพยักหน้าเมื่อได้ยินสิ่งที่มู่ซีซีพูด จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ฉันก็กำลังจะคุยเรื่องนี้กับเธอเหมือนกัน อันอันเป็นลูกคนแรกของเรา ฉันวางแผนที่จะจัดงานและเตรียมของขวัญวันครบรอบหนึ่งเดือนของเขาอย่างยิ่งใหญ่ ”
ตอนนี้จี้หลิงชวนมีลูกคนแรกแล้ว เขาแทบรอไม่ไหวที่จะบอกให้คนทั้งโลกได้รู้ว่าเขามีลูกแล้ว และยังคงเป็นลูกของเขากับมู่ซีซีอีกด้วย
ดังนั้น จี้หลิงชวนจึงวางแผนที่จะฉลองวันครบรอบหนึ่งเดือนให้กับอันอันไว้เรียบร้อยแล้ว
เมื่อมองดูท่าทางมีความสุขของจี้หลิงชวน มู่ซีซีก็พยักหน้าเห็นด้วย และทั้งสองก็คุยกันถึงเรื่องสถานที่จัดงานรวมทั้งของขวัญที่จะต้องเตรียมสำหรับวันครบรอบ
คฤหาสน์ของจี้หลิงชวนมีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ หลังจากที่พูดคุยกันแล้ว ทั้งสองจึงตัดสินใจเลือกใช้บ้านของตัวเองเป็นสถานที่จัดงานวันครบรอบ หลังจากพูดคุยกันเสร็จแล้ว จี้หลิงชวนก็เข้านอนพร้อมกับมู่ซีซี
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ยี่สิบวันผ่านไปในชั่วพริบตาและก็เป็นวันฉลองวันครบรอบอายุหนึ่งเดือนเต็มของอันอัน
ในเวลาเช้าตรู่ จี้หลิงชวนและมู่ซีซีตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้า จากนั้นจี้หลิงชวนก็เป็นคนไปดูแลเรื่องการจัดงานครบรอบหนึ่งเดือนเต็มของอันอันด้วยตัวเอง ส่วนมู่ซีซีเป็นคนเลือกเสื้อผ้าชุดที่ดูดีที่สุดและน่ารักที่สุดให้กับอันอัน
งานครบรอบหนึ่งเดือนของอันอันตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี ลั่วเสี่ยวชิง ผู้ซึ่งได้รับคำเชิญตั้งแต่เนิ่นๆได้ตื่นแต่เช้าตรู่
หลังจากออกไปทานอาหารเช้าเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลั่วเสี่ยวชิงก็รีบไปหามู่ซีซีในทันที
เพราะก่อนที่เธอจะไปที่บ้านของมู่ซีซี มู่ซีซีได้โทรหาลั่วเสี่ยวชิงและก็พูดย้ำกับเธอหลายครั้งแล้วว่า ไม่ให้ลั่วเสี่ยวชิงซื้ออะไรมาเลย เพราะอันอันได้รับของขวัญจำนวนมากมายแล้ว คาดว่าอันอันโตจนอายุสิบขวบก็ยังใช้ไม่ครบเลย ตอนนี้มู่ซีซีจะต้องทำความสะอาดห้องเป็นพิเศษเพื่อมาใช้วางของเล่นของอันอันโดยเฉพาะ หากลั่วเสี่ยวชิงซื้อของเล่นมาให้กับอันอันตอนนี้ก็พลอยแต่จะเปลืองเงินเปล่าๆ
ลั่วเสี่ยวชิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามความปรารถนาของมู่ซีซีเท่านั้น เธอรีบไปที่บ้านของมู่ซีซีโดยที่ไม่ได้ซื้ออะไรติดไม้ติดมือไปเลย
ผู้คนจำนวนมากที่มาเข้าร่วมงานวันครบรอบหนึ่งเดือนเต็มของอันอัน คนมีหน้ามีตาของเมืองหรงต่างพากันมาเข้าร่วมงานพร้อมกับสมาชิกในครอบครัวของพวกเขา
จี้หลิงชวนรับหน้าที่เป็นคนต้อนรับทักทายแขกผู้ชายในงานและลั่วเสี่ยวชิงก็คอยอยู่เป็นเพื่อนมู่ซีซีในการต้อนรับแขกผู้หญิงด้วย
และเป็นไปตามที่คาดไว้ ลั่วเสี่ยวชิงเห็นเจ้านายของเขาลู่เฉิงฮ่าวอยู่ในงานเลี้ยงด้วย
ลู่เฉิงฮ่าวเป็นเพื่อนคนสนิทของจี้หลิงชวน และแน่นอนว่าเขาก็จะต้องมาร่วมงานวันครบรอบหนึ่งเดือนเต็มของลูกชายจี้หลิงชวนด้วยเหมือนกัน
แม้ว่าเรื่องคืนนั้นระหว่างลั่วเสี่ยวชิงกับลู่เฉิงฮ่าวจะผ่านไปเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว แต่ลั่วเสี่ยวชิงก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาหลังจากเห็นลู่เฉิงฮ่าว
โชคดีที่ช่วงนี้บริษัทยุ่งมาก ลั่วเสี่ยวชิงจึงเอาแต่อยู่ในสำนักงานเล็กๆฝังตัวอยู่กับการแปลเอกสาร โดยจงใจหลบหน้าของลู่เฉิงฮ่าว
และผู้บริหารระดับสูงอย่างลู่เฉิงฮ่าวก็มีงานยุ่งมากเสียกว่าลั่วเสี่ยวชิงอีก ดังนั้น ถึงแม้ว่าลั่วเสี่ยวชิงและลู่เฉิงฮ่าวจะทำงานอยู่ในชั้นเดียวกัน แต่แค่ผนังกั้นกำแพงแผ่นเดียวเท่านั้น แต่ลั่วเสี่ยวชิงและลู่เฉิงฮ่าวก็ไม่เคยได้เจอกันเลย
ในคราวนี้ลั่วเสี่ยวชิงกลัวว่าลู่เฉิงฮ่าวจะพบเธอเข้า ดังนั้นเธอจึงกวาดสายตามองออกไปรอบๆตัวอยู่ตลอด หากลั่วเสี่ยวชิงพยายามหลบหน้าอยู่อย่างนี้ จนกว่างานเลี้ยงจะสิ้นสุดลง ลั่วเสี่ยวชิงก็จะไม่ต้องเจอกับลู่เฉิงฮ่าว
เมื่องานเลี้ยงสิ้นสุดลง เวลาก็ดึกมากแล้ว และก็เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว
เดิมทีมู่ซีซี ต้องการจะให้ลั่วเสี่ยวชิงพักอยู่ที่นี่สักคืน แต่ลั่วเสี่ยวชิงรู้สึกเกรงใจและกลัวว่าจะมาเป็นก้างขวางคอของจี้หลิงชวนและมู่ซีซี
ดังนั้น ลั่วเสี่ยวชิงจึงยืนยันที่จะกลับไป เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วมู่ซีซีก็คงทำอะไรไม่ได้ เธอจึงบอกให้ป้าหลิงเรียกคนขับรถเข้ามา
ผ่านไปสักพักปรากฏว่า ตอนที่ป้าหลิงเดินกลับเข้ามาในบ้าน มู่ซีซีกลับไม่เห็นคนขับเข้ามาด้วย ก่อนที่มู่ซีซีจะได้ถาม ป้าหลิงก็รีบรายงานกับมู่ซีซีว่า “คุณซีซี เมื่อกี้มีแขกในงานดื่มจนเมา คนขับจึงพาแขกกลับไปส่ง และตอนนี้เขาก็ยังคงอยู่ระหว่างทาง จะต้องใช้เวลาอีกประมาณสองชั่วโมงถึงจะกลับมาถึงที่นี่ ”
รออีกสองชั่วโมงก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว
กลับไปดึกดื่นขนาดนั้น มู่ซีซีจะรู้สึกสบายใจได้อย่างไรกัน เมื่อเห็นท่าทางลำบากใจของมู่ซีซีแล้ว ลั่วเสี่ยวชิงจึงยิ้มและพูดกับมู่ซีซีว่า “ซีซี ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ต้องการคนขับรถไปส่งหรอก เดี๋ยวฉันเรียกแท็กซี่กลับไปเองก็ได้..”
มู่ซีซีกำลังจะตอบปฏิเสธ แต่จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งพูดแทรกมู่ซีซีเข้ามาว่า “ฉันกำลังจะขับรถกลับอยู่พอดี และสามารถไปส่งเธอได้”
เสียงนั้นเป็นเสียงที่ค่อนข้างคุ้นเคย เมื่อลั่วเสี่ยวชิงได้ยินก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ เธอมองย้อนกลับไปที่ต้นกำเนิดของเสียงโดยไม่รู้ตัว เธอเห็นลู่เฉิงฮ่าวซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ และเขาก็กำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากเธอ โดยเขายืนอยู่ทางด้านข้างของจี้หลิงชวน
สายตาของลู่เฉิงฮ่าวมองไปที่ลั่วเสี่ยวชิง และเห็นได้อย่างชัดว่าคำพูดเมื่อกี้เขากำลังพูดกับลั่วเสี่ยวชิง
อันที่จริงแล้วงานเลี้ยงในวันนี้ ลู่เฉิงฮ่าวเห็นลั่วเสี่ยวชิงตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในงาน
แน่นอนว่าลู่เฉิงฮ่าวก็รู้ว่าลั่วเสี่ยวชิงกำลังจงใจหลบหน้าของเขาอยู่
ตั้งแต่ที่ลู่เฉิงฮ่าวโตมาจนกระทั่งถึงตอนนี้ เขาไม่เคยถูกผู้หญิงคนไหนรังเกียจและไม่ชอบหน้ามาก่อนเลย ดังนั้นลู่เฉิงฮ่าวจึงไม่สนใจที่จะวิ่งเข้าไปหาลั่วเสี่ยวชิงเพื่อทำให้ตัวเองหงุดหงิด
เขาทำเป็นมองไม่เห็นลั่วเสี่ยวชิง
และในตอนสุดท้าย ก็ไม่คิดว่าลู่เฉิงฮ่าวจะได้พบกับลั่วเสี่ยวชิงตรงนี้
เมื่อได้ฟังลั่วเสี่ยวชิงพูดว่าเธอจะนั่งรถแท็กซี่กลับไป ปฏิกิริยาของลู่เฉิงฮ่าวก็ไวกว่าความรู้สึกของเขาอีก เมื่อได้ยินลั่วเสี่ยวชิงพูดดังนั้นแล้ว ลู่เฉินฮ่าวก็พูดประโยคเมื่อกี้ออกมาโดยไม่ทันคิดแม้แต่น้อย
ทั้งคู่สบตากัน ลั่วเสี่ยวชิงมองลู่เฉิงฮ่าวอยู่สักพัก จากนั้นเธอก็หันกลับมาอย่างรวดเร็ว เธอส่ายหัวและปฏิเสธอย่างสุภาพขึ้นว่า “ขอบคุณคุณชายลู่มากค่ะ ฉันไม่รบกวนคุณชายลู่หรอกค่ะ ฉันกลับไปเองได้”
ลู่เฉิงฮ่าวขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นท่าทางที่ลั่วเสี่ยวชิงหลบสายตาของเขา
พูดกันตามตรง นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่เฉิงฮ่าวเจอผู้หญิงที่ไม่อยากเห็นหน้าเขา ดังนั้นลู่เฉิงฮ่าวจึงรู้สึกอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก ลั่วเสี่ยวชิงไม่เพียงแต่ไม่อยากให้เขาไปส่ง และยังจงใจหลบหน้าเขาด้วย?
ทำได้ดี ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะต้องไปส่งลั่วเสี่ยวชิงให้ได้!
ลู่เฉิงฮ่าวคิดขึ้นพลางพูดออกมาว่า “เวลานี้ที่นี่เรียกรถยากไม่ใช่เหรอ คุณลั่วหรือว่าเธออยากจะเดินจากที่นี้กลับไปจนถึงบ้านล่ะ ?”
ลั่วเสี่ยวชิงคิดว่าตัวเองได้ปฏิเสธลู่เฉิงฮ่าวไปแล้ว แต่เธอไม่คิดเลยว่าลู่เฉิงฮ่าวจะยังมาพูดประโยคนี้กับเธออีก
เมื่อลู่เฉิงฮ่าวพูดขึ้นมาแบบนี้เธอก็ไม่มีอะไรจะพูดต่อ