รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 433 ความสัมพันธ์แบบเขินๆอายๆ
จี้หลิงชวนที่อยู่ด้านข้างรู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยปกติ ดังนั้นเขาจึงพูดกับลั่วเสี่ยวชิงขึ้นว่า “เสี่ยวชิง ดูเหมือนว่าบ้านของเธอกับบ้านของเฉิงฮ่าวจะอยู่ไม่ไกล และก็เป็นทางผ่านของเฉิงฮ่าวด้วย ให้เฉิงฮ่าวเป็นคนไปส่งเธอ พวกเราค่อยรู้สึกสบายใจ ”
แม้ว่าลู่เฉิงฮ่าวจะเป็นเพลย์บอยที่เอาแต่เที่ยวเล่น แต่เขาก็เป็นเพื่อนสนิทของจี้หลิงชวนเอง ยังไงซะจี้หลิงชวนก็ยังคงเชื่อใจลู่เฉิงฮ่าวได้อยู่
เขาไม่กังวลเลยว่าลู่เฉิงฮ่าวจะทำอะไรลั่วเสี่ยวชิง
เมื่อมู่ซีซีเห็นการแสดงออกที่ไม่ค่อยเต็มใจของลั่วเสี่ยวชิง และตัวมู่ซีซีเองก็ยืนอยู่ทางด้านข้างของ ลั่วเสี่ยวชิง เธอยื่นมือออกไปจับมือของลั่วเสี่ยวชิงโดยเป็นธรรมชาติ และพูดเกลี้ยกล่อมลั่วเสี่ยวชิงออกไปว่า “เสี่ยวชิง ฉันคิดว่าดึกดื่นขนาดนี้แล้ว เธออย่ากลับไปเลยนะ พักอยู่ที่นี่เถอะ ที่นี่มีห้องว่างตั้งหลายห้อง เดี๋ยวฉันจะให้ป้าหลิงทำความสะอาดห้องให้”
แต่ลั่วเสี่ยวชิงก็รู้สึกเกรงใจเล็กน้อยที่จะอยู่รบกวนครอบครัวของมู่ซีซี แต่เธอก็ต้องเลือกสักหนึ่งทาง ลั่วเสี่ยวชิงกัดริมฝีปากของเธอและมองไปที่ลู่เฉิงฮ่าวพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอรบกวนคุณชายลู่ให้ไปส่งฉันกลับหน่อยแล้วกันนะคะ”
เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้ว ลู่เฉิงฮ่าวก็ตอบตกลงทันที เขาแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็หยิบกุญแจรถออกมาและกล่าวกับมู่ซีซีกับจี้หลิงชวนว่า”หลิงชวนพี่สะใภ้ อย่างนั้นพวกเราไปก่อนนะ”
ลั่วเสี่ยวชิงก็บอกลาจี้หลิงชวนและมู่ซีซีเช่นกัน เมื่อมู่ซีซีเห็นลั่วเสี่ยวชิงเดินตามลู่เฉิงฮ่าวออกไป เธอก็กังวลใจ ดังนั้นเธอจึงพูดออกไปอีกว่า “เสี่ยวชิง ถ้ากลับถึงบ้านแล้วอย่าลืมโทรหาฉันนะ ”
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ข้างนอกมันหนาว ซีซีรีบกลับเข้าไปในบ้านเถอะ”ลั่วเสี่ยวชิงหันหลังกลับและโบกมือให้กับมู่ซีซี
ลั่วเสี่ยวชิงเดินตามลู่เฉิงฮ่าวไปจนถึงที่จอดรถกลางแจ้งทางด้านนอกของคฤหาสน์ ลู่เฉิงฮ่าว เปิดประตูรถแล้วก็ขึ้นไปนั่งบนรถ เมื่อเห็นว่าลั่วเสี่ยวชิงยังคงยืนอยู่นอกรถ ลู่เฉิงฮ่าวก็หรี่ตาลงเล็กน้อย จากนั้นก็ลดหน้าต่างลงและพูดกับลั่วเสี่ยวชิงว่า “ขึ้นรถสิ อึ้งอะไรอยู่”
เมื่อได้ยินลู่เฉิงฮ่าวพูด ลั่วเสี่ยวชิงก็ได้สติกลับมา ตอนนี้ก็ไม่มีวิธีไหนจะดีไปกว่านี้แล้ว ลั่วเสี่ยวชิง จึงทำได้เพียงต้องระงับอารมณ์ของตัวเอง จากนั้นก็ยื่นมือออกไปเปิดประตูเบาะหลังของรถ
ลั่วเสี่ยวชิงไม่กล้านั่งใกล้กับลู่เฉิงฮ่าว เพราะเวลาที่เธออยู่ใกล้ๆกับเขาเธอก็มักจะได้กลิ่น น้ำหอมผู้ชายที่อยู่บนตัวลู่เฉิงฮ่าวเสมอ กลิ่นไม่ถึงกลับแรงมาก แต่หอมกำลังดี ทุกครั้งที่ลั่วเสี่ยวชิงได้กลิ่นของมันก็มักจะใจสั่น จากนั้นสมองของเธอก็จะฉุดภาพฉากเย้ายวนใจของคืนนั้นขึ้นมา
แต่ผลปรากฏว่า เมื่อลั่วเสี่ยวชิงเปิดประตูเบาะหลังของรถและก่อนที่เธอจะขึ้นไปนั่ง เสียงของ ลู่เฉิงฮ่าวก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“มานั่งข้างหน้า! ฉันไม่ใช่คนขับรถของเธอ”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ของลู่เฉิงฮ่าว ลั่วเสี่ยวชิงก็กัดริมฝีปากของตัวเองแน่น และไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้ นอกจากปิดประตูทางด้านหลัง ลั่วเสี่ยวชิงพยายามระงับอารมณ์ของตัวเองโดยสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็พยายามทำตัวเองให้เป็นปกติ ลั่วเสี่ยวชิงยื่นมือออกไปเปิดประตูเบาะที่นั่งทางด้านข้างคนขับแทน จากนั้นก็ขึ้นไปนั่งบนรถ
ลู่เฉิงฮ่าวเหลือบมองที่ด้านข้างของลั่วเสี่ยวชิง แล้วเตือนเธอขึ้นว่า “คาดเข็มขัดนิรภัยด้วย”
เมื่อลั่วเสี่ยวชิงสังเกตเห็นว่าลู่เฉิงฮ่าวจ้องมาที่เธอ เธอก็ยื่นมือออกไปดึงเข็มขัดนิรภัยมารัดด้วยท่าทางที่แข็งทื่อ
เมื่อเห็นว่าลั่วเสี่ยวชิงคาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว ลู่เฉิงฮ่าวก็ค่อยๆเคลื่อนสายตาออกจากลั่วเสี่ยวชิง จากนั้นก็สตาร์ทรถและขับรถออกไป
ทันทีที่ลู่เฉิงฮ่าวเคลื่อนสายตาออกไปทางอื่น ลั่วเสี่ยวชิงก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
เมื่อรถขับออกไปได้ประมาณสี่ถึงห้านาที เสียงของลู่เฉิงฮ่าวก็ดังขึ้นมาทำลายบรรยากาศอันเงียบสงบภายในรถอีกครั้ง “ลั่วเสี่ยวชิง บ้านของเธออยู่ที่ไหน”
ลั่วเสี่ยวชิงลังเลอยู่สักพัก ก่อนที่จะตอบออกไปว่า “เลขที่ 38 ถนนจิงหยวน จอดรถทางด้านข้างถนนก็ได้”
ลั่วเสี่ยวชิงไม่กล้าบอกที่อยู่จริงๆของเธอให้กับลู่เฉิงฮ่าวรู้ ที่อยู่เมื่อกี้ที่เธอพูดไปเป็นเพียงแค่ถนนทางไปบ้านของเธอเท่านั้น
ในเวลาต่อมา ทั้งสองคนก็ยังคงนั่งนิ่งเงียบกันอยู่ จนกระทั่งเกือบหนึ่งชั่วโมงต่อมา รถก็ใกล้จะไปถึงสถานที่ที่ลั่วเสี่ยวชิงบอกให้จอด
ทันทีที่รถจอดสนิท ลั่วเสี่ยวชิงก็ผลักประตูออกไปและพูดกับลู่เฉิงฮ่าวอย่างสุภาพและดูห่างเหินว่า “ขอบคุณคุณชายลู่มากนะคะ ที่มาส่งฉันกลับบ้านในคืนนี้”
ลู่เฉิงฮ่าวขมวดคิ้วและไม่แม้แต่จะมองไปที่ลั่วเสี่ยวชิงเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็เหยียบคันเร่งและขับรถออกไป
ในคืนนี้ ลู่เฉิงฮ่าวรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก และเขาก็ไม่อยากกลับบ้านไปนอนอีกด้วย ตอนนี้เพิ่งจะห้าทุ่มเท่านั้น สำหรับลู่เฉิงฮ่าวแล้วเวลามันยังคงเร็วไปด้วยซ้ำ เพราะสถานบันเทิงยามค่ำคืนเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น
เขาขับรถไปจนถึงบาร์ที่มักจะชอบไปอยู่เป็นประจำ จากนั้นก็โทรนัดกลุ่มเพื่อนกินเที่ยวของเขาให้มารวมตัวกัน
ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทุกคนก็มารวมตัวกันจนครบ คนพวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนรวยที่รู้จักแต่เรื่องกินเที่ยวเท่านั้น เจ็ดแปดคนนั่งอยู่ในห้องวีไอพี คนที่เพิ่งจะเข้ามาคือคนที่คุ้นเคยกับลู่เฉิงฮ่าวมากที่สุด เขามักจะเที่ยวเล่นด้วยกัน เมื่อเห็นว่าลู่เฉิงฮ่าวกำลังดื่มอยู่คนเดียว เขาก็เดินเข้าไปนั่งลงทางด้านข้าง จากนั้นก็ตบที่ไหล่พลางยิ้มและพูดขึ้นว่า “คุณชายลู่ ในที่สุดคุณก็ออกมาเที่ยวสักที หากคุณยังไม่ยอมออกมา ผมคงคิดว่าคุณชายลู่เปลี่ยนไปเป็นคนดีแบบคนอื่นเขาแล้ว ”
จากนั้นลู่เฉิงฮ่าวก็นึกถึงภาพระยะนี้ที่เขายุ่งกับกิจการของบริษัทขึ้นมา หลังจากครั้งนั้นกับ ลั่วเสี่ยวชิงเขาก็ไม่ได้มาที่บาร์อีกเลย
เมื่อคิดถึงเรื่องลั่วเสี่ยวชิงขึ้นมา สีหน้าของลู่เฉิงฮ่าวก็ดูเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย ในสมองของเขาฉุกคิดเรื่องที่ลั่วเสี่ยวชิงพยายามหลบหน้าเขาขึ้นมาอีกครั้ง ลู่เฉิงฮ่าวโมโหจนรู้สึกว่าตัวเองหายใจได้ไม่ทั่วท้อง
ก่อนหน้านี้ลู่เฉิงฮ่าวก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เมื่อตอนนี้มาคิดๆดูแล้ว ลู่เฉิงฮ่าวจึงรู้ว่าลั่วเสี่ยวชิง ผู้หญิงคนนี้จงใจหลบหน้าของเขามาโดยตลอด ไม่เช่นนั้นลั่วเสี่ยวชิงที่มาทำงานในบริษัทเป็นเวลาเดือนกว่าๆ ทำไมเขาไม่เคยพบตัวลั่วเสี่ยวชิงเลย!
ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากขึ้นลู่เฉิงฮ่าวก็ยิ่งโมโหมากขึ้นเท่านั้น ตอนนี้เขาแทบรอไม่ไหวที่จะจับลั่วเสี่ยวชิงมาทรมานให้สาแก่ใจ !
“คุณชายลู่ คุณกำลังคิดอะไรอยู่น่ะ ทำไมคุณถึงได้ดูเหมือนไม่ค่อยมีความสุขเอาซะเลย ออกมาเที่ยวมันก็ต้องมีความสุขสิ!” ชายที่เพิ่งคุยกับลู่เฉิงฮ่าวพูดขึ้นพลางเดินไปหาผู้จัดการฝ่ายบริการ “ไป ไปพาเด็กใหม่ทั้งหมดของร้านมาให้ชมเชยดูหน่อย!”
หลังจากได้ยินดังนั้น ผู้จัดการฝ่ายบริการก็พยักหน้าและเดินออกไปจัดการอย่างรวดเร็ว
ภายในไม่กี่นาที ผู้จัดการฝ่ายบริการก็เดินเข้ามาเคาะประตูอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ได้เข้ามาคนเดียว เพราะทางด้านหลังยังมีผู้หญิงที่มากหน้าหลายตาเดินตามเข้ามาด้วยสิบกว่าคน
มีทุกแบบทุกสไตล์จริงๆ มีทั้งเมคอัพหนักๆ สาวรูปร่างดี สไตล์แบบพี่สาว
นอกจากนี้ยังมี แบบแต่งหน้าบางๆ สไตล์นักศึกษาหญิงบริสุทธิ์ไร้เดียงสา รวมทั้งแบบน่ารักกะทัดรัดก็มี
คนที่มีอำนาจมากที่สุดในห้องนี้คือลู่เฉิงฮ่าว แม้ว่าคนรวยพวกนั้นจะได้เลือกผู้หญิงอยู่ในใจไว้แล้ว แต่ลู่เฉิงฮ่าวก็ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหว แล้วพวกเขาจะกล้าเลือกก่อนได้ยังไง
ชายคนที่นั่งอยู่ทางด้านข้างลู่เฉิงฮ่าว ตบเบาๆไปที่ไหล่ของเขาพร้อมกับชี้ไปยังผู้หญิงตรงแถวหน้าและพูดกับลู่เฉิงฮ่าวขึ้นว่า “คุณชายลู่ เอาสิ คุณเชิญเลือกก่อนเลย สาวๆพวกนี้เพิ่งจะเข้ามาใหม่ อย่างบริสุทธิ์และสะอาดอยู่เลย คุณชายลู่วางใจและเลือกใช้ได้”