รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 436 ทำให้เธอหลบหน้าไม่ได้
ลู่เฉิงฮ่าวไม่ได้มาหาเธอเป็นเดือนแล้ว สถานการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อก่อนถึงแม้เขาจะมีผู้หญิงเยอะแค่ไหน ยังไงในหนึ่งเดือนอย่างน้อยก็จะมาที่เธอฉู่เซียวเซียวสองสามวัน
เพราะแบบนี้กี่วันนี้ฉู่เซียวเซียวจึงให้ผู้จัดการตัวเองไปสืบเรื่องตารางงานของลู่เฉิงฮ่าว รู้ว่าครึ่งเดือนที่ผ่านมาเขาไม่ได้ไปหาผู้หญิงคนอื่น เขายุ่งกับงานในบริษัทตลอด ในใจเธอค่อยโล่งไปที
แต่ว่าคืนนี้เหมือนลู่เฉิงฮ่าวคิดมากอย่างเห็นได้ชัด ฉู่เซียวเซียวจึงมั่นใจว่าตัวเองต้องพลาดอะไรไปแน่นอน!
ฉู่เซียวเซียวอยู่ข้างกายลู่เฉิงฮ่าวมาสองปีแล้ว แถมยังคิดดีแล้วว่า ถ้าลู่เฉิงฮ่าวเล่นพอแล้ว เขาก็จะอยากมีเธออยู่ข้างกาย แล้วด้วยความรู้สึกที่มีต่อกันมาหลายปีเขาก็จะแต่งงานกับเธอ แล้วเธอก็จะได้เป็นคุณหญิงลู่อย่างเปิดเผย
เพราะฉะนั้นตอนนี้ฉู่เซียวเซียวจะไม่ยอมให้มีอะไรผิดพลาดเด็ดขาด!
ฉู่เซียวเซียวนอนไม่หลับทั้งคืน วันรุ่งขึ้นจึงตื่นตั้งแต่เช้า แล้วลงมือทำอาหารเช้าด้วยตัวเอง แต่ว่าตอนที่ลู่เฉิงฮ่าวตื่นเขาไม่มองเลยแม้แต่หางตา ไม่ได้ลองชิมเลยสักคำ เขาจึงขับรถไปที่บริษัทเลย
ลู่เฉิงฮ่าวเพิ่งออกไป ฉู่เซียวเซียวจึงรีบโทรหาผู้จัดการตัวเองให้เขาไปเช็กว่าช่วงนี้ลู่เฉิงฮ่าวไปที่ไหนบ้าง
ผู้จัดการเห็นด้วยกับฉู่เซียวเซียวที่จะจับคุณชายอย่างลู่เฉิงฮ่าว จึงรีบให้คนไปสืบทันที
ไม่นานผู้จัดการก็โทรกลับมาหาฉู่เซียวเซียว บอกว่าช่วงนี้ลู่เฉิงฮ่าวยุ่งงานในบริษัทตลอด นอกจากเมื่อคืน ลู่เฉิงฮ่าวไปร่วมงานเลี้ยงฉลองครบหนึ่งเดือนของลูกชายคุณชายจี้ ตอนกลับมาก็ส่งผู้หญิงคนหนึ่งกลับไปด้วย จากนั้นก็ไปที่บาร์ แล้วยังพาสาวสวยนักศึกษาไปเปิดห้องด้วยกัน สุดท้ายไม่รู้ว่าทำไม ทั้งสองอยู่ในโรงแรมไม่ถึงห้านาที ลู่เฉิงฮ่าวก็ออกมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ จากนั้นเขาก็ขับรถมาที่ฉู่เซียวเซียวแทน
ฉู่เซียวเซียวได้ยินผู้จัดการพูดแบบนี้ จึงรู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ จากนั้นจึงรีบเอ่ยกับผู้จัดการว่า “ไปเช็กด้วยว่าคุณชายลู่ส่งผู้หญิงคนไหนกลับบ้าน?”
ผู้จัดการเช็กมาตั้งนานแล้ว พอได้ยินฉู่เซียวเซียวถาม จึงรีบตอบทันที “เป็นนักศึกษาปีสามธรรมดาๆคนหนึ่ง เหมือนจะชื่อลั่วเสี่ยวชิง แล้วก็เป็นเพื่อนกับคุณหญิงจี้ด้วย วันนั้นก็เลยไปร่วมงานเลี้ยงครบรอบหนึ่งเดือนของลูกชายคุณชายจี้ ตอนนี้เหมือนจะทำงานเป็นล่ามอยู่ในบริษัทคุณชายลู่ด้วย”
เสียงเพิ่งจบลง เขาก็เหมือนคิดอะไรได้จึงเอ่ยอีกว่า “อ้อ ใช่สิ ที่ผมมีรูปของเขาพอดี เดี๋ยวส่งไปให้”
ผู้จัดการพูดจบไม่ถึงหนึ่งนาที ในโทรศัพท์ฉู่เซียวเซียวจึงได้รับรูปภาพรูปหนึ่ง น่าจะเป็นรูปถ่ายติดบัตร ลั่วเสี่ยวชิงในรูปไม่ได้แต่งหน้าอะไรมาก หน้าตาก็ไม่ได้ว้าว แค่รู้สึกดูดีในแว็บแรกที่เห็น
ฉู่เซียวเซียวมองลั่วเสี่ยวชิงในรูปจึงรีบขจัดความคิดในใจทิ้งไปเลย หน้าตาอย่างลั่วเสี่ยวชิง แค่มองก็รู้ว่าคุณชายลู่ไม่ชอบหรอก
ทางลู่เฉิงฮ่าวพอเขากลับไปถึงบริษัทแล้วจึงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องพักส่วนตัว จากนั้นก็ให้หลินอี้ซื้ออาหารเช้ามาให้
พอกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว ความอึดอัดที่ลู่เฉิงฮ่าวเก็บกดมาทั้งคืนค่อยดีขึ้นมาหน่อย
เขายกมือขึ้นมานวดระหว่างคิ้ว ลู่เฉิงฮ่าวดูเอกสารที่ลูกค้าญี่ปุ่นส่งมาให้ กำลังเงยหน้าจะสั่งให้หลินอี้ปริ้นเอกสารออกมาแล้วให้ลั่วเสี่ยวชิงแปล แต่เขายังไม่ทันพูดก็ต้องกลืนคำพูดลงไปก่อน อยู่ๆก็นึกได้ว่าเมื่อคืนลั่วเสี่ยวชิงทำให้เขาทุกข์ทรมานทั้งคืน เขาอดไม่ได้จนต้องกัดฟันแน่น แล้วเปลี่ยนคำเอ่ยกับหลินอี้ว่า “ลั่วเสี่ยวชิงมาทำงานหรือยัง? ถ้ามาทำงานแล้ว ก็เรียกเขามาที่ห้องทำงาน ผมมีเอกสารจะให้เขาแปล”
หลินอี้ได้ยินสิ่งที่ลู่เฉิงฮ่าวพูดจึงอดเงยหน้ามองเขาอย่างแปลกใจไม่ได้ ก่อนหน้านั้นถ้าลู่เฉิงฮ่าวมีเอกสารอะไรจะให้ลั่วเสี่ยวชิงแปลก็จะให้เธอเป็นคนเอาไปให้ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เรียกลั่วเสี่ยวชิงเข้ามา
เห็นสีหน้าลู่เฉิงฮ่าวไม่ค่อยดี หลินอี้จึงไม่กล้าถามอะไรมาก ตอบรับแล้วจึงถอยออกจากห้องทำงานผู้บริหาร
พอกลับไปถึงห้องทำงานเล็กๆของตัวเอง หลินอี้จึงมองลั่วเสี่ยวชิงที่ก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ สายตาก็มองสำรวจใบหน้าของเธอ จากนั้นหลินอี้ค่อยเอ่ยทำลายความเงียบว่า “ลั่วเสี่ยวชิง คุณชายลู่ให้เธอเข้าไปเอาเอกสารที่ต้องแปลในห้องทำงานเขาตอนนี้”
ลั่วเสี่ยวชิงได้ยินหลินอี้พูดแบบนี้ ในใจจึงสั่นเกร็งทันที ตั้งแต่ที่เมื่อคืนคุณชายลู่ส่งเธอกลับไปอย่างอึดอัดใจแล้ว ลั่วเสี่ยวชิงจึงยิ่งไม่อยากเจอลู่เฉิงฮ่าวอีก
ถ้าไม่ใช่เพราะลั่วเสี่ยวชิงไม่อยากทิ้งงานที่เงินเดือนสูงๆที่ทำอยู่ เธอก็คงอยากจะลาออกจริงๆ
ตอนนี้ได้ยินหลินอี้พูดแบบนี้ ปฏิกิริยาแรกในใจเธอคือตอบปฏิเสธ
ทันใดนั้น หลินอี้จึงเห็นลั่วเสี่ยวชิงกุมท้องไว้ ขมวดคิ้วพูดกับหลินอี้ด้วยสีหน้าทุกข์ทรมาน “เลขาหลินคะ ขอโทษนะคะ ตอนนี้หนูปวดท้องมากเลยค่ะ หนูอยากไปเข้าห้องน้ำ รบกวนเลขาหลินเข้าไปเอาเอกสารให้หนูหน่อยนะคะ”
ลั่วเสี่ยวชิงทำหน้าขอร้องอ้อนวอนเอ่ยกับหลินอี้อีกว่า “เลขาหลินคะ รบกวนหน่อยนะคะ รบกวนคุณจริงๆ”
หลินอี้ได้ยินลั่วเสี่ยวชิงพูดแบบนี้ ก็ขี้เกียจใส่ใจว่าเธอเป็นอะไร ลั่วเสี่ยวชิงไม่ไปถือว่าเป็นเรื่องดีกับเธอ หลินอี้เกลียดผู้หญิงทุกคนที่เดินลอยหน้าลอยตาต่อหน้าคุณชายลู่
หลินอี้จึงโบกมือกับลั่วเสี่ยวชิงว่า “เธอไปเถอะ เดี๋ยวฉันไปบอกคุณชายลู่เอง”
ลั่วเสี่ยวชิงได้ยินหลินอี้ตอบตกลงแล้ว ในใจค่อยโล่งไปหน่อย จึงรีบเอ่ยว่า “ขอบคุณเลขาหลินมากนะคะ ขอบคุณจริงๆนะคะ งั้นหนูไปก่อนนะคะ”
ขณะพูดลั่วเสี่ยวชิงจึงรีบวิ่งหนีไปที่ห้องน้ำทันที
หลินอี้จึงเคาะประตูแล้วเข้าไปในห้องทำงานผู้บริหารอีกครั้ง
ลู่เฉิงฮ่าวเห็นหลินอี้เข้ามาอีกแล้ว จึงขมวดคิ้วแน่นทันที แล้วพูดกับเธออย่างไม่เกรงใจว่า “ทำไมคุณเข้ามาอีกแล้ว? ลั่วเสี่ยวชิงล่ะ?”
น้ำเสียงก็แฝงไปด้วยความไม่สบอารมณ์
ในใจหลินอี้จึงตกใจ แล้วรีบก้มหน้าลง ไม่คิดเลยว่าลู่เฉิงฮ่าวจะไม่สบอารมณ์ขนาดนี้ จึงรีบอธิบายว่า “คุณชายลู่ เมื่อกี้ตอนที่ฉันไปบอกลั่วเสี่ยวชิง อยู่ๆลั่วเสี่ยวชิงก็บอกว่าปวดท้อง แล้วให้ฉันมาเอาเอกสารแทนค่ะ”
ลู่เฉิงฮ่าวได้ยินหลินอี้อธิบายแบบนี้ อารมณ์จึงเดือดกว่าเดิม!
เมื่อคืนลั่วเสี่ยวชิงอยู่ในหัวลู่เฉิงฮ่าวทำให้เขาทรมานทั้งคืน ตอนนี้ยังหลบหน้าเขาอีก แค่เขาลองคิดแบบนี้ ก็อยากจะจับตัวลั่วเสี่ยวชิงมารังแกให้หลาบจำทันที!
นี่เป็นครั้งที่สองในชีวิตลู่เฉิงฮ่าวที่ต้องเก็บกดต่อหน้าผู้หญิงขนาดนี้!
ได้ ลั่วเสี่ยวชิง ถ้าเธออยากหลบหน้าขนาดนี้ ฉันก็จะรอดูว่าเธอจะหลบหน้าได้ถึงเมื่อไหร่!!!
ขณะคิดลู่เฉิงฮ่าวจึงหักห้ามความโมโหไว้แล้วโบกมือเอ่ยกับหลินอี้ว่า “คุณออกไปก่อน เดี๋ยวให้ลั่วเสี่ยวชิงเป็นคนมาเอาที่นี่เอง!!!”