รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 451 ได้รับบาดเจ็บแล้ว
เสียงกรีดร้องของหลิวหยู่ดังขึ้นบนถนนที่เงียบสงัดในช่วงกลางดึก
หลิวหยู่จับเป้าของตัวเองไว้ ความเจ็บปวดทำให้ร่างกายนั้นต้องเกลือกกลิ้งไปมาบนถนน ไขมันทั้งร่างกายสั่นสะท้านไปทั่วตัวเพราะความเจ็บปวด
ลู่เฉิงฮ่าวมองดูท่าทีที่น่าสมเพชของหลิวหยู่ จากนั้นเขาก็หันกลับมาด้วยท่าทางที่เศร้าใจและเดินกลับไปยังรถตู้
ลู่เฉิงฮ่าวยืนนิ่งอยู่บริเวณประตูหลังและเบาะหลัง เขามองดูลั่วเสี่ยวชิงที่หลบอยู่ในมุมรถ บนใบหน้าของเธอนั้นมีน้ำตารินไหล จากนั้นเขาก็เห็นว่าเสื้อผ้าของลั่วเสี่ยวชิงนั้นถูกฉีกขาดเป็นชิ้นๆ เสื้อคลุมของเธอก็เช่นกัน แต่เนื่องจากการขัดขืนอย่างสุดพลังของลั่วเสี่ยวชิง ในเวลาไม่นานนักก่อนที่ลู่เฉิงฮ่าวจะตามมาทัน ดังนั้นหลิวหยู่จึงยังไม่ได้ทำเรื่องต่ำช้ากับลั่วเสี่ยวชิง
แต่ถึงอย่างนั้นลั่วเสี่ยวชิงก็ยังอยู่ในอาการที่หวาดกลัว ดวงตาของเธอเบิกกว้างและจ้องมองลู่เฉิงฮ่าวด้วยความงุนงง
ลู่เฉิงฮ่าวจ้องมองใบหน้าที่ซีดเผือดของลั่วเสี่ยวชิงและมีรอยคราบน้ำตาจากการร้องไห้เพราะความตื่นกลัว ภายในใจของลู่เฉิงฮ่าวอ่อนระทวยลงทันที สีหน้าที่บึ้งตึงก่อนหน้านี้ก็พลันหายไปในชั่วพริบตา
แม้แต่ตัวลู่เฉิงฮ่าวเองก็ไม่รู้ตัวว่าในขณะที่เขาพูดกับลั่วเสี่ยวชิงนั้นน้ำเสียงของเขาก็อ่อนโยนลงมาก “ลั่วเสี่ยวชิง ไม่ต้องกลัว ฉันมาช่วยเธอแล้ว ฉันจะไม่ทำร้ายเธอ”
ทันทีที่น้ำเสียงของลั่วเฉิงฮ่าวสิ้นสุดลง น้ำตาของลั่วเสี่ยวชิงก็รินไหลลงมาอาบแก้มราวกับว่าสติของเธอนั้นฟื้นคืนมาแล้ว ลั่วเสี่ยวชิงไม่อาจควบคุมตัวเองได้ เธออ้าแขนกว้างและหันไปหาลู่เฉิงฮ่าว
ทันทีที่ลู่เฉิงฮ่าวเห็นเช่นนั้นเขาก็อ้าแขนกว้าง
ลั่วเสี่ยวชิงกอดเอวบางของลู่เฉิงฮ่าวไว้แน่น เธอฝังศีรษะไว้บนแผงอกของลู่เฉิงฮ่าว น้ำตารินไหลลงมาอย่างไม่อาจหยุดยั้ง
ลู่เฉิงฮ่าวกอดลั่วเสี่ยวชิงไว้แน่น เมื่อได้สังเกตเห็นน้ำตาของลั่วเสี่ยวชิง ในเวลาอัดรวดเร็วเสื้อของเขาก็เปียกปอนไปด้วยน้ำตาของเธอ หัวใจของลู่เฉิงฮ่าวอ่อนโยนลงทันใดและเขารู้สึกสับสน เขาทำได้เพียงแค่ยกมือขึ้นและลูบหลังของลั่วเสี่ยวชิงอย่างเบามือ “เสี่ยวชิง ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่ตรงนี้ ฉันไม่มีทางให้ใครหน้าไหนทำร้ายเธอได้ทั้งนั้น เธอไม่ต้องกลัว”
ลั่วเสี่ยวชิงยังคงร้องไห้ เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น เมื่อเธอได้กลิ่นน้ำหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของลู่เฉิงฮ่าว ลั่วเสี่ยวชิงรู้สึกโล่งใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ลั่วเสี่ยวชิงร้องไห้และไม่เงยหน้าขึ้นเลยแม้แต่น้อย ลู่เฉิงฮ่าวไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไร เขามองเสื้อผ้าบนเรือนร่างของลั่วเสี่ยวชิงที่ถูกฉีกทึ้งเป็นชิ้นๆและไม่อาจจะสวมใส่ได้อีก อากาศในกลางคืนนั้นหนาวเหน็บ ลู่เฉิงฮ่าวเกรงว่าลั่วเสี่ยวชิงจะหนาวและอาจเป็นหวัดได้ เขารีบถอดเสื้อสูทของตนเองและสวมทับบนเรือนร่างของลั่วเสี่ยวชิง จากนั้นเขาประคองเธอขึ้นรถ ในตอนที่เดินผ่านหลิวหยู่ ลู่เฉิงฮ่าวชำเลืองมองหลิวหยู่ด้วยแววตาที่มืดมน เป็นการดีที่จะอวยพรให้ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับลั่วเสี่ยวชิง ไม่อย่างนั้นหลิวหยู่ได้ตายคามือเขาแน่!
ตั้งแต่ลู่เฉิงฮ่าวเติบโตมา เขาไม่เคยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้ถึงเพียงนี้
แต่ในช่วงวินาทีนั้น ลู่เฉิงฮ่าวแทบอยากจะฆ่าหลิวหยู่ให้ตายคามือเขา!
ตลอดทางลู่เฉิงฮ่าวคอยประคองลั่วเสี่ยวชิงและพาเธอขึ้นรถ เขาประคองเธอไปนั่งเบาะผู้โดยสาร จากนั้นก็คาดเข็มขัดนิรภัยให้แก่เธอ หลังจากที่ลู่เฉิงฮ่าวจัดการกับลั่วเสี่ยวชิงแล้วเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาและให้คนของเขามาจัดการในส่วนที่เหลือนี้ให้เสร็จสิ้น
จากนั้นลู่เฉิงฮ่าวสตาร์ทรถและขับออกไป
ลู่เฉิงฮ่าวควบคุมพวงมาลัยและขับรถด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างหนึ่งเขาคอยลูบหลังและปลอบโยนลั่วเสี่ยวชิง “เสี่ยวชิง เธอไม่ต้องกลัว ฉันจะพาเธอกลับไปที่บ้านฉัน ฉันเรียกหมอมาแล้ว ต้องตรวจดูร่างกายเธอก่อนว่าได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า โอเคไหม?”
ลั่วเสี่ยวชิงยังคงร้องไห้และพูดอะไรไม่ออก เธอทำได้เพียงแค่ร้องไห้เท่านั้น มือทั้งสองข้างของเธอกุมชายเสื้อของลู่เฉิงฮ่าวไว้แน่น เหมือนกับว่าเธอกลัวว่าลู่เฉิงฮ่าวจะจากเธอไป
การกระทำเล็กๆน้อยๆของลั่วเสี่ยวชิงที่ไร้ซึ่งสติในตอนนี้ทำให้หัวใจที่แข็งกระด้างของลู่เฉิงฮ่าวอ่อนลงในทันใด เกรงว่าหากตอนนี้ลั่วเสี่ยวชิงพูดอะไรออกมา ลู่เฉิงฮ่าวคงตอบรับและยินดีไปเสียทุกเรื่องเป็นแน่
ลั่วเสี่ยวชิงไม่ตอบเขา ลู่เฉิงฮ่าวจึงตัดสินใจด้วยตัวเขาเอง เขากลับรถและขับตรงไปยังคฤหาสน์ของเขา
หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดลู่เฉิงฮ่าวก็จอดรถบริเวณหน้าคฤหาสน์ของเขา
ทันทีที่รถของลู่เฉิงฮ่าวจอดสนิท เขารีบลงจากรถ จากนั้นเขาเดินอ้อมไปยังเบาะนั่งของผู้โดยสารและเปิดประตู เขาเหยียดมือออกอย่างระมัดระวังและอุ้มลั่วเสี่ยวชิงลงจากรถ
เขาเดินเข้าไปภายในคฤหาสน์
ในขณะที่ลู่เฉิงฮ่าวกำลังขับรถมายังคฤหาสน์ เขาก็ได้เรียกหมอมาที่บ้านแล้ว ลู่เฉิงฮ่าวอุ่มลั่วเสี่ยวชิงไปยังห้องนอนมาสเตอร์ เขาค่อยๆปล่อยอ้อมกอดออกจากร่างกายที่ยังสั่นเทาของลั่วเสี่ยวชิงและวางเธอลงบนเตียงใหญ่อย่างเบามือ จากนั้นเขาเอ่ยกับหมอประจำตัวทันทีว่า “เร็ว ตรวจร่างกายเธอ มีอะไรได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า? และเธอยังคงร้องไห้ตลอดเวลา ไม่พูดอะไรเลยสักคำ!”
หมอประจำตัวเห็นท่าทีร้อนใจของลู่เฉิงฮ่าว เขาไม่กล้าละเลยแม้แต่ในเสี้ยววินาที เขารีบตรวจร่างกายของลั่วเสี่ยวชิงอย่างละเอียด
ยี่สิบนาทีต่อมา หมอประจำตัวก็ตรวจร่างงกายเสร็จ เขาเก็บข้าวของและพูดกับลู่เฉิงฮ่าวที่ร้อนใจว่า “คุณชายลู่ ผมทำการตรวจเบื้องต้นให้เรียบร้อยแล้ว บาดแผลบนร่างกายของเธอนั้นไม่ได้เป็นอะไร เป็นเพียงรอยบอบช้ำจากการดิ้นรนขัดขืน พักสองสามวันรอยฟกช้ำเหล่านี้จะจางหายไปเอง ในเรื่องที่เธอร้องไห้ไม่หยุดนั้นเป็นเพราว่าเธอเพิ่งผ่านการกระตุ้นและมีอาการเครียด หลังจากผ่านพ้นคืนนี้ไป อารมณ์ของเธอจะค่อยๆดีขึ้นและเธอก็จะกลับสู่สภาวะปกติ”
เมื่อลู่เฉิงฮ่าวได้ยินในสิ่งที่หมอบอก หัวใจที่ร่วงหล่นไปอยู่ตาตุ่มก็กลับคืนสู่ที่เดิม
เขาพยักหน้าให้กับหมอประจำตัวจากนั้นเขายกมือขึ้นและบอกให้หมอประจำตัวออกไปได้
ลั่วเสี่ยวชิงร้องไห้จนเหงื่อท่วมร่างกาย เสื้อผ้าของเธอเปียกปอนเนื่องจากการขัดขืนและดิ้นรน
ลู่เฉิงฮ่าวกลัวว่าลั่วเสี่ยวชิงจะเป็นหวัด เขาจึงเรียกป้าอวี๋ที่เป็นสาวใช้ให้ขึ้นมาด้านบน
ป้าอวี๋เป็นหญิงสาววัยกลางคนในช่วงอายุ40ปี
ทันทีที่เข้ามาภายในห้อง ลู่เฉิงฮ่าวรีบพูดกับป้าอวี๋ว่า “ป้าอวี๋ ป้าไปเอาน้ำอุ่นมาแล้วก็เอาผ้าเช็ดตัวมาเช็ดเหงื่อบนร่างกายเธอด้วย จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดสะอ้านให้แก่เธอ”
แม้ลู่เฉิงฮ่าวจะเจ้าชู้และเป็นเพลย์บอยชื่อดังในเมืองหรง มีคู่นอนมากมายนับไม่ถ้วน แต่หลายปีที่ผ่านมานี้ลู่เฉิงฮ่าวไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนกลับมาที่บ้านเลย
ลั่วเสี่ยวชิงเป็นผู้หญิงคนแรกที่ลู่เฉิงฮ่าวพากลับบ้าน ดังนั้นภายในคฤหาสน์ของลู่เฉิงฮ่าวแน่นอนว่าไม่มีเสื้อผ้าที่ลั่วเสี่ยวชิงสวมใส่ได้
แต่ตอนนี้เสื้อผ้าบนร่างกายของลั่วเสี่ยวชิงนั้นทั้งเปียกและสกปรก ไม่สามารถสวมใส่ได้อีก ตอนนี้ดึกมากแล้วด้วย ออกไปซื้อตอนนี้ก็คงจะไม่ทัน
ลู่เฉิงฮ่าวเดินไปยังห้องเสื้อผ้าของตัวเอง จากนั้นเขาก็พบชุดนอนชุดหนึ่งที่ขนาดเล็กกว่าปกติและเขาเคยสวมใส่เพียงหนึ่งครั้ง เขานำชุดนอนนั้นไปให้กับป้าอวี๋และขอให้ป้าอวี๋เปลี่ยนให้แก่ลั่วเสี่ยวชิง
หลังจากมอบชุดนอนให้ป้าอวี๋แล้วลู่เฉิงฮ่าวก็ก้าวเท้าออกจากห้องนอนมาสเตอร์
สำหรับป้าอวี๋นี่เป็นครั้งแรกที่คุณชายดูแลหญิงสาวที่เขาพากลับบ้านอย่างระมัดระวัง เธอรีบหยิบผ้าขนหนูและจุ่มลงในน้ำอุ่น จากนั้นเธอถอดเสื้อผ้าและเช็ดตัวให้กับลั่วเสี่ยวชิงอย่างระมัดระวัง