รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 457 ไม่ปล่อยให้แกอยู่เป็นสุขแน่!
ลั่วเสี่ยวชิงได้ยินแล้วจึงรีบเอ่ยขอบคุณ จากนั้นจึงรีบวิ่งไปที่แผนกผู้ป่วยใน ขึ้นลิฟต์ขึ้นไปที่ชั้นเจ็ด แล้วรีบไปที่ห้องเจ็ดศูนย์หนึ่ง เพิ่งเปิดประตูเข้าไป ลั่วเสี่ยวชิงจึงเห็นลั่วเฉินชิงที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ทันที
เห็นแค่สีหน้าลั่วเฉินชิงซีดขาว แล้วนอนอยู่บนเตียงคนไข้อย่างไร้เรี่ยวแรง
ลั่วเสี่ยวชิงเห็นขอบตาจึงแดง จากนั้นจึงรีบก้าวเดินไปหาลั่วเฉินชิง “เฉินชิง น้องเป็นยังไงบ้าง? บาดเจ็บที่ไหนหรือเปล่า?”
น้ำเสียงของลั่วเสี่ยวชิงสั่นอย่างไม่รู้ตัว แล้วพูดสะอึกสะอื้น
ลั่วเฉินชิงไม่ตอบ แม่ลั่วที่เฝ้าอยู่ข้างๆกัดริมฝีปากแน่น สีหน้าก็โกรธจนแดง แล้วพยายามหักห้ามความโกรธเอาไว้ จากนั้นจึงยื่นมือไปจับแขนลั่วเสี่ยวชิงไว้ “เสี่ยวชิง ลูกออกมากับแม่ แม่มีเรื่องจะคุยด้วย”
เสียงเพิ่งจบลง แม่ลั่วไม่สนใจว่าลั่วเสี่ยวชิงเต็มใจหรือเปล่า จึงเดินลากเธอก้าวเดินออกไปจากห้องพักฟื้น
แม่ลั่วลากลั่วเสี่ยวชิงเข้าไปในห้องน้ำโรงพยาบาล พอประตูห้องน้ำปิดปุ๊บ แม่ลั่วจึงสะบัดแขนเธอออก พร้อมจ้องเธออย่างโกรธเคือง ทันใดนั้น แม่ลั่วจึงยกมือขึ้นมาตบหน้าลั่วเสี่ยวชิงอย่างไม่ลังเล
ได้ยินแค่เสียงดังเพี๊ยะ ใบหน้าของลั่วเสี่ยวชิงจึงเริ่มบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด
ลั่วเสี่ยวชิงกุมหน้าตัวเองที่โดนตบ จากนั้นจึงได้ยินเสียงที่โมโหของแม่ลั่วดังขึ้นว่า “ลั่วเสี่ยวชิง แกมันตัวซวย! ที่ตอนนี้น้องชายแกโดนรถชนก็เพราะแก! ฉันบอกแกไว้เลย ถ้าแกไม่รับจัดการเรื่องนี้ แล้วทำให้น้องแกซวยไปด้วยอีก แกก็ไสหัวออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ!!!”
ลั่วเสี่ยวชิงฟังสิ่งที่แม่ลั่วพูด จึงก้มหน้าลงมา พยายามควบคุมน้ำตาไว้ เป็นแบบนี้จริงๆด้วย คุณแม่ไม่เคยสนใจความรู้สึกของเธอเลย เธอลั่วเสี่ยวชิงเป็นแค่คนที่ไม่สำคัญ
“หนูรู้แล้วค่ะ แม่ไว้ใจเถอะค่ะ หนูจะไม่ให้น้องชายเป็นอะไรอีก” ลั่วเสี่ยวชิงพูดเสียงเบา
“ขอให้เป็นอย่างนั้น!” แม่ลั่วพูดเสียงเข้ม จากนั้นจึงก้าวเดินออกไปจากห้องน้ำ
วินาทีที่แม่ลั่วหันหลังเดินออกไป น้ำตาที่ลั่วเสี่ยวชิงพยายามหักห้ามไว้จึงไหลลงมาอย่างควบคุมไม่อยู่ทันที
ทั้งๆที่เธอชินแล้วกับที่คุณแม่ทำกับเธอแบบนี้ แต่ตอนที่โดนคุณแม่ตบหน้า ในใจก็รู้สึกเจ็บอยู่ดี
ลั่วเสี่ยวชิงไม่อยากให้ตัวเองดูอ่อนแอขนาดนั้น จึงกัดริมฝีปากแล้วรีบเช็ดน้ำตาตัวเอง ลั่วเสี่ยวชิงห้ามน้ำตาไว้ แล้วเดินไปที่อ่างล้างมือ มองขอบตาตัวเองในกระจกที่บวมแดง ใบหน้าที่บวมแดงอย่างทุลักทุเล จึงยิ้มอย่างขมขื่น เธอไม่อยากให้ลั่วเฉินชิงเห็นเธอในสภาพแบบนี้ เดี๋ยวเขาจะเป็นห่วงอีก
ขณะคิดลั่วเสี่ยวชิงจึงรีบล้างหน้าด้วยน้ำเย็น ล้างคราบน้ำตาบนใบหน้าให้สะอาด จากนั้นจึงเดินไปซื้อไอศกรีมแท่งที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นล่างโรงพยาบาล แล้วเอามาประคบใบหน้ากับดวงตาที่บวมแดง
จนกระทั่งใบหน้ากับดวงตาตัวเองกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ดูอะไรไม่ออกแล้ว ลั่วเสี่ยวชิงค่อยทิ้งไอศกรีมแท่ง จากนั้นก็ไปซื้อขนมที่ลั่วเฉินชิงชอบแล้วเดินกลับไป
พอกลับถึงห้องพักฟื้น ลั่วเสี่ยวชิงเพิ่งเดินไปใกล้ลั่วเฉินชิง ลั่วเฉินชิงที่สีหน้ากังวลจึงรีบเอ่ยถามเธออย่างเป็นห่วงว่า “พี่ เมื่อกี้พี่ไปไหนครับ? ทำไมไปนานขนาดนี้?”
แม่ลั่วนั่งอยู่ข้างลั่วเฉินชิง แล้วเอาแต่เงียบ สีหน้าก็เย็นชา สายตาไม่มองไปทางลั่วเสี่ยวชิงเลย
ลั่วเสี่ยวชิงจึงฝืนยิ้มกับลั่วเฉินชิง “พี่ลงไปซื้อขนมที่น้องชอบกินไง”
ขณะพูดลั่วเสี่ยวชิงจึงวางถุงขนมที่ซื้อมาไว้ที่หัวเตียง
ลั่วเฉินชิงเอ่ยกับพี่สาวตัวเองอย่างทำตัวไม่ถูก “พี่ครับ ผมโตขนาดนี้แล้วไม่ต้องกินขนมหรอกครับ เปลืองเงินเปล่าๆ”
ลั่วเสี่ยวชิงลูบศีรษะลั่วเฉินชิงอย่างเอ็นดู “เฉินชิง วันนี้เราบาดเจ็บที่ไหนหรือเปล่า? สาหัสไหม?”
ลั่วเฉินชิงเห็นลั่วเสี่ยวชิงทำหน้าเป็นห่วง จึงรีบพูดว่า “พี่ครับ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมไม่เป็นอะไร แค่ที่ขาบาดเจ็บนิดหน่อย แล้วก็สมองกระทบกระเทือนนิดหน่อย คุณหมอบอกว่าผมนอนดูอาการในโรงพยาบาลสักสามวันถ้าไม่เป็นอะไรก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วครับ”
ลั่วเสี่ยวชิงได้ยินลั่วเฉินชิงพูดแบบนี้ใจที่เกร็งอยู่ตลอดค่อยคลายออก พูดคุยกับลั่วเฉินชิงไปสักพัก ลั่วเสี่ยวชิงจึงออกไปก่อน
ก่อนออกไป ลั่วเสี่ยวชิงไม่ค่อยวางใจ จึงไปถามอาการของลั่วเฉินชิงกับคุณหมอ รู้ว่าไม่เป็นอะไรมากเธอค่อยวางใจ แล้วเอ่ยขอบคุณคุณหมอ จากนั้นจึงไปจากโรงพยาบาล
ลั่วเสี่ยวชิงเพิ่งเดินออกจากโรงพยาบาล โทรศัพท์ในกระเป๋าจึงดังทันที
ลั่วเสี่ยวชิงหยิบโทรศัพท์ออกมา บนหน้าจอแสดงเบอร์โทรที่ไม่ได้บันทึกไว้
แต่สำหรับลั่วเสี่ยวชิงเบอร์นี้ไม่ใช่เบอร์แปลก ถึงแม้ไม่ได้บันทึกไว้ แต่มองแว็บเดียวเธอก็จำได้ว่านี่เป็นเบอร์ของหลิวหยู่
ลั่วเสี่ยวชิงจึงจับโทรศัพท์แน่นกว่าเดิม ในใจก็แอบสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นเธอค่อยกดรับสาย
พอกดรับสายแล้วเสียงหัวเราะที่เยือกเย็นของหลิวหยู่จึงดังออกมา “ลั่วเสี่ยวชิง ตอนนี้มึงน่าจะรู้ข่าวที่น้องชายมึงโดนชนแล้วสินะ”
ลั่วเสี่ยวชิงกัดริมฝีปากแน่น “คุณหลิว มีเรื่องอะไรคุณก็มาลงกับฉัน น้องชายฉันไม่เกี่ยวด้วย คุณอย่าทำร้ายเขา!”
หลิวหยู่ได้ยินแล้วจึงยิ้มอย่างเย็นชา “ลั่วเสี่ยวชิง ไม่คิดเลยว่ามึงจะกล้าขนาดนี้ กล้าไปแจ้งตำรวจ กูบอกมึงไว้เลย กูให้เวลามึงแค่หนึ่งวัน ตอนนี้เวลาผ่านไปครึ่งวันแล้ว มึงคิดดีหรือยัง? ถ้ามึงยังคิดไม่ได้ ถึงเวลาน้องชายมึงคงไม่ใช่แค่ได้แผลถลอกแล้วก็สมองกระทบกระเทือนแค่นี้หรอก”
หลิวหยู่พูดข่มขู่จบแล้วจึงกดวางสายทันที
ลั่วเสี่ยวชิงอึ้งนิ่งไปครู่หนึ่ง มือทั้งสองข้างจับโทรศัพท์ไว้แน่น ในใจก็คิดว่า ตามคาด! ครั้งนี้อยู่ๆน้องชายตัวเองก็โดนรถชนเกี่ยวกับหลิวหยู่จริงๆด้วย!
อำนาจแตกต่างกันขนาดนั้น หลิวหยู่มีทั้งเงินทั้งอำนาจ แต่เธอไม่มีอะไรเลย
เธอจะทนเห็นน้องชายตัวเองเกิดเรื่องแบบนี้ไม่ได้!
แต่ว่าถ้าจะให้เธอตกลงแต่งงานกับหลิวหยู่ยิ่งเป็นไปไม่ได้!
ท่าทางเกรงใจของหลิวหยู่ที่มีต่อลู่เฉิงฮ่าวแบบนั้น ลู่เฉิงฮ่าวอาจจะช่วยเธอได้
แต่ว่าก่อนหน้านั้นลั่วเสี่ยวชิงตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับลู่เฉิงฮ่าวอีก หรือว่าตอนนี้ต้องขอให้เขาช่วยเธอจริงๆ?
สัมผัสที่หกของผู้หญิงบอกลั่วเสี่ยวชิงว่า ถ้าครั้งนี้เธอไปหาลู่เฉิงฮ่าว งั้นก็คงจะต้องยุ่งเกี่ยวกับเขามากกว่านี้แน่นอน