รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 473 ค่ำคืนอันบ้าคลั่ง
ลั่วเสี่ยวชิงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เธอรีบยื่นมือออกไปขวางลู่เฉิงฮ่าวพร้อมกับพูดอย่างติดๆขัดๆขึ้นว่า “ลู่เฉิงฮ่าว คุณอย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ! ฉันไม่เป็นไปไร…คุณไม่ต้องดูหรอก รอสักสองสามวันมันก็จะดีขึ้นเอง … ”
เมื่อได้ฟังคำพูดน้ำเสียงไพเราะของลั่วเสี่ยวชิง ลู่เฉิงฮ่าวรู้สึกสบายใจขึ้น จริงๆแล้วครั้งนี้ ลู่เฉิงฮ่าวก็ไม่ได้วิปริตอะไร เขาแค่รู้สึกกังวลเรื่องการบาดเจ็บของลั่วเสี่ยวชิงก็เท่านั้น ฉะนั้นเขาเลยอยากเห็นว่าอาการบาดเจ็บของลั่วเสี่ยวชิงนั้นรุนแรงแค่ไหน
แต่ตอนนี้ลั่วเสี่ยวซิงดูดื้อรั้นมาก
เธอพยายามขัดขวางไม่ให้ลู่เฉิงฮ่าวถอดกางเกงของเธอ ลู่เฉิงฮ่าวไม่วิธีอื่นที่จะจัดการลั่วเสี่ยวชิงได้ เขาทำได้เพียงแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็ค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงและห่มผ้าให้กับลั่วเสี่ยวชิง หลังจากที่ลู่เฉิงฮ่าวห่มผ้าให้เธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็พูดกับลั่วเสี่ยวชิงขึ้นว่า”อย่างนั้นคุณนอนรออยู่บนเตียงก่อนนะ ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว ผมจะออกไปหาอะไรมาให้คุณทาน ”
เมื่อพูดจบ ลู่เฉิงฮ่าวก็รีบเดินเข้าไปล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้าและเดินออกจากห้องไป
ในเวลานี้ลั่วเสี่ยวชิงทั้งเหนื่อยล้าและหิวเป็นอย่างมาก ขาและเอวของเธอก็ยังคงเจ็บปวดอยู่ เมื่อได้ยินลู่เฉิงฮ่าวบอกว่าจะนำอาหารมาให้เธอทาน เธอจึงรอนอนอยู่บนเตียงอย่างเชื่อฟัง
เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนที่เสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยของลู่เฉิงฮ่าวจะดังขึ้นทางด้านนอกของประตู
ทันทีที่เปิดประตูถูกผลักเปิดเข้ามา ลั่วเสี่ยวชิงก็สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมๆของอาหาร
ลั่วเสี่ยวชิงเหลือบมองไปที่หน้าประตูโดยไม่รู้ตัว เธอเห็นลู่เฉิงฮ่าวเดินเข้ามาพร้อมกับถือถุงหลายใบอยู่ในมือ
เมื่อเห็นว่าลู่เฉิงฮ่าวกลับมาแล้ว ลั่วเสี่ยวชิงซึ่งนอนอยู่บนเตียงก็ค่อยๆเท้าแขนลุกขึ้นมานั่งในทันที แต่ทันทีที่เธอขยับตัว ลู่เฉิงฮ่าวซึ่งมองเห็นการกระทำของเธออย่างนั้นแล้วจึงรีบหยุดเธอไว้ “ลั่วเสี่ยวชิง อย่าขยับ อย่าขยับ! คุณนอนรอดีๆ ก็พอ!”
ลู่เฉิงฮ่าวพูดขึ้นพลางเดินเข้ามาหาเธอที่ขอบเตียง ทันทีที่ลู่เฉิงฮ่าวเดินเข้ามาถึงเขาก็วางของทั้งหมดในมือไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง จากนั้นเขาก็ยื่นมือไปพยุงลั่วเสี่ยวชิงที่อยู่บนเตียงให้ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง และไม่ลืมที่จะหยิบ หมอนมาซ้อนวางที่ด้านหลังของลั่วเสี่ยวชิงเพื่อให้เธอรู้สึกสบายตัวขึ้นด้วยความเอาใจใส่
หลังจากที่จัดให้ลั่วเสี่ยวชิงนั่งอย่างสบายตัวแล้ว ลู่เฉิงฮ่าวก็หยิบกล่องอาหารออกมาจากถุงที่เขาถือเข้ามาส่งให้กับลั่วเสี่ยวชิง “ผมไม่รู้ว่าคุณชอบกินอะไร ก็เลยซื้อของพวกนี้มาให้คุณอย่างละนิดอย่างละหน่อย นี่คือเกี๊ยวกุ้ง นี่โจ๊กเนื้อไก่ฉีก ซาลาเปาไส้มันปู ปากหม้อเนื้อสด เสี่ยวหลงเปา เกี๊ยวน้ำ คุณชอบกินอะไร? ผมจะหยิบให้”
เมื่อลั่วเสี่ยวชิงได้ยินลู่เฉิงฮ่าวพูดชื่อรายงานอาหารขึ้น เธอก็เม้มปากแน่น… นี่ลู่เฉิงฮ่าวคงจะไม่ได้ซื้ออาหารพวกนี้มาเผื่ออาหารเช้าหรอกนะ มันดูมากเกินไปจริงๆ… แถมซื้อมาเยอะขนาดนี้ เธอคงจะทานไม่หมดหรอก
เมื่อเห็นว่าลู่เฉิงฮ่าวยังคงจ้องมองมาที่เธออยู่ ลั่วเสี่ยวชิงจึงรีบตอบกลับลู่เฉิงฮ่าวไปว่า”ถ้าเป็นอาหารเช้าแล้ว ฉันกินอะไรก็ได้ …ฉันไม่เลือกกิน … ”
ทันทีที่เสียงของลั่วเสี่ยวชิงแผ่วเบาลง ลู่เฉิงฮ่าวก็รีบพูดเสริมขึ้นในทันทีว่า”ถ้าคุณไม่คนเลือกกินล่ะก็ อย่างนั้นคุณก็ชิมอย่างละนิดละหน่อยก็ได้”
ลั่วเสี่ยวชิงเห็นลู่เฉิงฮ่าวกำลังยุ่งอยู่กับการช่วยเธอหยิบของออกมาจากถุง ในใจของเธอก็เกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นอย่างที่ตัวเธอเองก็อธิบายไม่ได้ และ จู่ๆเธอก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังไม่ได้ล้างหน้าและแปรงฟังเลย ดังนั้น ลั่วเสี่ยวชิงจึงมองไปที่ลู่เฉิงฮ่าวอีกครั้งและรีบพูดขึ้นว่า “เดี๋ยวก่อน ฉันอยากจะไปล้างหน้าแปรงฟันก่อน… ตั้งแต่ตื่นขึ้นมายังไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันเลย …”
ลั่วเสี่ยวชิงพูดพลางขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง เมื่อลู่เฉิงฮ่าวเห็นอย่างนั้นแล้ว เขายื่นมือออกมาหยุดลั่วเสี่ยวชิงพร้อมกับพูดขึ้นว่า “เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งรีบ ให้คุณกินอาหารเช้าเสร็จก่อน แล้วค่อยล้างก็ได้ ตอนนี้คุณไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่ที่จะยืนและจะไปล้างหน้าแปรงฟังได้ยังไง ?”
ลู่เฉิงฮ่าวดื้อรั้นมากเช่นกัน เขาห้ามและไม่ยอมปล่อยให้ลั่วเสี่ยวชิงลงจากเตียง
ลั่วเสี่ยวชิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกลับไปนั่งลงบนเตียงเช่นเดิม จากนั้นก็รอให้ลู่เฉิงฮ่าวหยิบอาหารเช้าที่ไม่ซ้ำกันออกมาวางต่อหน้าเธอ
ตอนนี้ลั่วเสี่ยวชิงรู้หิวมากๆ กลิ่นหอมๆของอาหารและไอร้อนของมันยังคงอบอวลอยู่เบื่องหน้า เมื่อได้สัมผัสถึงกลิ่นหอมๆของอาหาร ทำให้ท้องที่กำลังว่างของลั่วเสี่ยวชิงร้องครวญครางขึ้นมาในทันที
ลั่วเสี่ยวชิงไม่เกรงใจลู่เฉิงฮ่าวแล้ว เธอรีบยื่นมือออกไปรับตะเกียบที่ลู่เฉิงฮ่าวส่งให้เธอ จากนั้นก็เริ่มทานอาหาร
อาหารเช้าทุกอย่างที่ลู่เฉิงฮ่าวซื้อมา เขาค่อยๆหยิบออกมาจากถุง จากนั้นก็ยื่นให้ลั่วเสี่ยวชิงชิมอย่างละนิดอย่างละหน่อย อาหารเช้าที่หลากหลายค่อยๆตกถึงท้องของลั่วเสี่ยวชิง และท้องที่กำลังว่างของเธอก็ได้รับอาหารเข้าไป จนกระทั่งเธอรู้สึกอิ่มในที่สุด
เมื่อลั่วเสี่ยวชิงรู้สึกดีขึ้นบ้างแล้ว เธอก็หันไปถามลู่เฉิงฮ่าวขึ้นว่า “คุณกินข้าวเช้าหรือยัง”
ลั่วเสี่ยวชิงถามขึ้นพอเป็นมารยาทเท่านั้น เพราะเธอคิดว่าลู่เฉิงฮ่าวคงจะทานตั้งแต่ตอนที่เขาออกไปซื้ออาหารเช้าให้กับเธอแล้ว
แต่ลั่วเสี่ยวชิงไม่คิดว่าลู่เฉิงฮ่าวจะหันกลับมามองที่เธอ และตอบกลับเธอว่า “ผมยังไม่ได้กินเลย เพราะตอนที่ผมออกไปซื้ออาหารเช้ามาให้คุณ ผมกลัวว่ามันจะเย็นซะก่อน ก็เลยไม่ได้กิน แต่ไม่เป็นไร อาหารจำนวนมากขนาดนี้คุณคงกินไม่หมดหรอก ฉะนั้นผมรอให้คุณกินเสร็จก่อน ที่เหลือผมคอยกินก็ได้ แบบนี้ก็จะได้ไม่สิ้นเปลือง”
ทันทีที่ลู่เฉิงฮ่าวพูดจบ ลั่วเสี่ยวชิงก็จ้องที่ลู่เฉิงฮ่าวด้วยความประหลาดใจ ลั่วเสี่ยวชิงจะกล้าปล่อยให้คุณชายลู่ ลู่เฉิงฮ่าวกินอาหารที่เธอกินเหลือได้อย่างไรกัน
และลั่วเสี่ยวชิง เธอคิดไม่ถึงจริงๆว่า ลู่เฉิงฮ่าวจะยังไม่ทานอะไรเลยจนมาถึงตอนนี้ ขนาดเธอยังรู้สึกหิวเลย แล้วลู่เฉิงฮ่าวที่เมื่อคืนนี้ทานอาหารเย็นไปพร้อมๆกับเธอ เขาคงจะรู้สึกหิวมากน่าดู
และเหตุผลที่ลู่เฉิงฮ่าวไม่ยอมทานอาหารเช้าก่อน ก็เป็นเพราะเขากลัวว่าอาหารเช้าที่เขาซื่อกลับมาให้เธอจะเย็นซะก่อน จู่ๆ ลั่วเสี่ยวชิงก็เกิดรู้สึกผิดขึ้นมา เธอมองไปที่ลู่เฉิงฮ่าวและพูดขึ้นเบาๆว่า”ฉันอิ่มแล้ว คุณไม่ต้องห่วงฉันแล้ว รีบกินอะไรหน่อยเถอะ ถ้านานกว่านี้อาหารจะเย็นซะหมด ”
เมื่อลู่เฉิงฮ่าวได้ยินลั่วเสี่ยวชิงพูดอย่างนั้นแล้ว เขาก็ยื่นมือออกไปหยิบโจ๊กไก่ฉีกที่ลั่วเสี่ยวชิงเพิ่งทานเหลือครึ่งชามไปทานต่อ
ตัวลู่เฉิงฮ่าวเองไม่คิดอะไรมาก แต่ใบหน้าของลั่วเสี่ยวชิงกลับแดงระเรื่อขึ้นมา
ลู่เฉิงฮ่าวได้หยิบตะเกียบที่ลั่วเสี่ยวชิงใช้แล้วขึ้นมาใช่ทานต่อ ราวกับว่าเขาได้จูบเธอทางอ้อม
แม้ว่าลู่เฉิงฮ่าวจะมีการศึกษาสูง เวลาทานอาหารไม่ส่งเสียงดัง แต่ก็ทานเสร็จไวมากในไม่ช้าลู่เฉิงฮ่าวก็ทานจนอิ่มท้อง เขามองไปยังกล่องบรรจุอาหารที่ว่างเปล่า จากนั้นก็หันกลับไปมองที่ลั่วเสี่ยวชิงซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเตียงและพูดขึ้นว่า “เมื่อคืนนี้รอบหลังคุณยังไม่ได้อาบน้ำเลย หลังจากตื่นนอนควรอาบน้ำก่อน มันจะทำให้คุณรู้สึกสบายตัวขึ้น พอคุณอาบน้ำเสร็จแล้ว ผมจะทายาให้”
ลู่เฉิงฮ่าวพูดพลางหยิบหลอดยาขึ้นมา เขามองสบตากับสายตาที่กำลังดูงุนงงของลั่วเสี่ยวชิง จากนั้นลู่เฉิงฮ่าวก็พูดเสริมขึ้นอีกครั้งว่า “คุณเจ็บขาไม่ใช่เหรอ? และก็ปฏิเสธที่จะให้ผมดูอีก ผมรู้สึกกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บของคุณ ฉะนั้น ตอนที่ออกไปซื้ออาหารเช้า ผมเลยซื้อยาแก้อักเสบและลดบวมจากร้านขายยาข้างนอกมาให้คุณด้วย”
ทันทีที่ลู่เฉิงฮ่าวพูดประโยคนี้ออกมา ใบหน้าของลั่วเสี่ยวชิงก็แดงขึ้นมาในทันที
ลั่วเสี่ยวชิงจะกล้าให้ลู่เฉิงฮ่าวทายาให้กับเธอได้อย่างไรกัน เธอรู้สึกเขินอายกับคำพูดของลู่เฉิงฮ่าวจนเธอนั้นแทบอยากจะขุดหลุมฝังตัวเอง
ลั่วเสี่ยวชิงรีบพูดขัดจังหวะคำพูดของลู่เฉิงฮ่าวขึ้นในทันทีว่า “ไม่ต้องหรอก อาบน้ำเสร็จแล้ว ฉันทายาเองได้”
เมื่อพูดจบลั่วเสี่ยวชิงก็รีบขยับตัวลงจากเตียง แต่ผลปรากฏว่า การที่เธอรีบร้อนเกินไป ทำให้ตอนที่ขาของเธอสัมผัสลงบนพื้น เธอรู้สึกมีอาการเจ็บปวดขึ้น ลั่วเสี่ยวชิงเจ็บจนต้องอ้าปากร้องออกมา จากนั้นไม่นานเธอก็ยกขากลับขึ้นไปบนเตียงเช่นเดิม