รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 484 ทั้งสองคนโต้เถียงกัน
“คุณชายลู่…ฉัน…” จิตใต้สำนึกของฉู่เชียวเชียวคิดอยากจะอธิบาย แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยจบ ลู่เฉิงฮ่าวกระตุกยิ้มอย่างเย็นชา สายตาเยือกเย็นกวาดมองไปทั่วร่างกายของฉู่เชียวเชียว “ฉู่เชียวเชียว เธอฉลาดนะ หากว่าเธอยังดื้อดึงแบบนี้ต่อไป งั้นก็เอาแบบที่เธอพูดก็แล้วกัน ทั้งบ้านและเงินเธอก็อย่าคิดว่าจะได้มันไป”
เมื่อฉู่เชียวเชียวได้ยินดังนั้น หัวใจของเธอกระตุกอย่างรุนแรง เธอจะกล้าพูดอะไรได้อีก หากว่าลู่เฉิงฮ่าวไม่ต้องการเธอแล้วและเธอไม่ได้ทั้งบ้านและเงิน ถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่น่ะสิ!
ฉู่เชียวเชียวกัดริมฝีปากแน่น สีหน้าของเธอนั้นยังคงจ้องมองลู่เฉิงฮ่าวอย่างน่าสงสาร “คุณชายลู่ ฉันเข้าใจในสิ่งที่คุณจะสื่อแล้ว ในเมื่อคุณไม่อยากจะเจอฉันแล้ว หลังจากนี้ฉันก็จะทำตามในสิ่งที่คุณพูด”
หลังจากเอ่ยจบ ฉู่เชียวเชียวก็ก้าวออกไป
ลู่เฉิงฮ่าวนั้นรีบวิ่งไล่ตามลั่วเสี่ยวชิงไปในทันทีโดยไม่ชำเลืองมองและสนใจฉู่เชียวเชียวเลยแม้แต่น้อย
เมื่อลั่วเสี่ยวชิงวิ่งออกมาจากห้างทันใดนั้นเธอก็พบว่าในตอนนี้เธอไม่มีแม้แต่ที่จะให้ไป
เธอยืนข้างถนนอย่างว่างเปล่า ห้องที่เธอเช่าอยู่ก่อนหน้านี้ก็ถูกคืนโดยลูกน้องของลู่เฉิงฮ่าวไปแล้ว ตอนนี้เธออยู่กับลู่เฉิงฮ่าว แต่ลั่วเสี่ยวชิงก็ไม่มีกุญแจคฤหาสน์ของลู่เฉิงฮ่าว ส่วนมู่ซีซีเพื่อนรักของเธอนั้นกำลังใช้เวลาสวีทหวานกับคุณสามีที่ยุโรป เธอยังไม่กลับมาแน่ๆ หากจะกลับบ้าน…..ลั่วเสี่ยวชิงยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น
ตั้งแต่เกิดเรื่องของหลิวหยู่ ตอนนี้หัวใจของเธอนั้นเจ็บปวดจนด้านชาจากการกระทำจากแม่ของเธอ ตอนนี้เธอไม่อยากกลับไปเผชิญหน้ากับแม่ลั่ว เธอกลัวว่าหลังจากที่เธอพบแม่ของเธอแล้ว ภายในสมองของเธอนั้นจะอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องน่าหวาดกลัวในค่ำคืนนั้น ค่ำคืนที่หลิวหยู่ลากเธอขึ้นไปในรถและกดทับร่างกายของเธอ เธอคร่ำครวญร้องขอแต่ก็ไม่มีความเมตตาให้แก่เธอเลย และในเรื่องนี้แม่ของเธอเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ
อากาศค่อนข้างเย็น ลั่วเสี่ยวชิงกระชับเสื้อคลุมที่เธอกำลังสวมใส่อยู่ เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะอย่างขื่นขม เธอรีบร้อนออกมาจากบ้าน ลั่วเสี่ยวชิงไม่ได้พกเงินออกมาเลยสักหยวนเดียว
ลั่วเสี่ยวชิงทำได้เพียงหัวเราะเยาะตัวเอง ตอนนี้เธอช่างน่าสังเวชจริงๆ
ขณะที่ครุ่นคิด ลั่วเสี่ยวชิงก็ก้าวเท้าเดินตรงไปยังคฤาสน์ของลู่เฉิงฮ่าว
แต่คฤหาสน์ของลู่เฉิงฮ่าวดูเหมือนจะอยู่ไกลจากที่นี่ คาดว่าหากลั่วเสี่ยวชิงค่อยๆเดินไป ในตอนนั้นลู่เฉิงฮ่าวอาจจะถึงคฤหาสน์แล้ว
ทางด้านลู่เฉิงฮ่าวนั้นรีบวิ่งออกมาจากห้างแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของลั่วเสี่ยวชิง คิ้วของเขาขมวดแน่นทันใด เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาลั่วเสี่ยวชิง แต่สายโทรศัพท์ก็ไม่มีใครรับ เขาโทรติดต่อกันห้าหกครั้งแต่ก็ไม่มีคนรับสักสาย คิ้วที่ขมวดแน่นอยู่แล้วก็ยิ่งขมวดแน่นมากกว่าเก่า
ลู่เฉิงฮ่าวทั้งโมโหทั้งร้อนใจ สายตาของเขานั้นรีบกวาดมองไปทั่วบริเวณห้างแต่ก็ไม่เห็นเงาของลั่วเสี่ยวชิงเลย
ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ลู่เฉิงฮ่าวจึงต้องไปเอารถจากนั้นเขาก็ขับรถไปในเส้นทางที่จะกลับคฤหาสน์ สายตาของเขาคอยค้นหาลั่วเสี่ยวชิงตลอดเส้นทาง
สิ่งที่ลู่เฉิงฮ่าวได้เลือกทำนั้นถูกต้อง เมื่อเขาขับรถไปได้ประมาณ20นาที บริเวณข้างถนนเขาก็พบเจอร่างที่คุ้นเคยของลั่วเสี่ยวชิง
ลู่เฉิงฮ่าวถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรีบเร่งความเร็วเข้าไปหาลั่วเสี่ยวชิง
เสียงเอี๊ยดดังขึ้น เสียงล้อรถเบียดเสียดกับพื้นถนน รถของลู่เฉิงฮ่าวจอดเทียบด้านข้างของลั่วเสี่ยวชิง
ลั่วเสี่ยวชิงนั้นตกใจกับเสียงเอี๊ยดของรถไม่น้อย ร่างกายของเธอนั้นตกตะลึงและไร้ปฏิกิริยาตอบโต้ กระทั่งเธอเห็นลู่เฉิงฮ่าวผลักประตูรถลงมาด้วยสีหน้าที่อึมครึม ลั่วเสี่ยวชิงจึงได้สติราวกับว่าเธอเพิ่งตื่นจากความฝัน
ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้นเธอก็สบเข้ากับสายตาที่มืดมนของลู่เฉิงฮ่าว หัวใจของเธอนั้นกระตุกอย่างรุนแรง ท่าทีของลู่เฉิงฮ่าวนั้นเผยให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขากำลังโกรธ แต่เธอก็จำได้ว่าเธอไม่ได้ไปยั่วโมโหอะไรเขา ขณะที่ครุ่นคิด เธอก็อดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
หลังจากถอยหลังหนึ่งก้าว ลู่เฉิงฮ่าวก็ก้าวเข้ามาและคว้ามือของลั่วเสี่ยวชิงไว้อย่างไม่ต้องสงสัย
ลั่วเสี่ยวชิงยืนนิ่งอยู่กับที่ เธอก้มหน้าลงและไม่กล้าสบสายตาลู่เฉิงฮ่าว
เมื่อลู่เฉิงฮ่าวเห็นท่าทีเช่นนี้ของลั่วเสี่ยวชิง เขาโกรธและขมวดคิ้วแน่นมากขึ้น เขาอดไม่ได้ที่จะพูดกับลั่วเสี่ยวชิงว่า “เธอมาทำอะไรตรงนี้? ถ้าจะกลับทำไมไม่รู้จักเรียกรถแท็กซี่?!”
อากาศด้านนอกหนาวขนาดนี้ ลั่วเสี่ยวชิงจะทำให้ตัวเองหนาวตายข้างถนนหรือไง!
ลั่วเสี่ยวชิงนั้นไม่รู้จริงๆว่าทำไมลู่เฉิงฮ่าวถึงโกรธเธอได้ถึงขนาดนี้ เมื่อเห็นการจ้องมองที่ดุร้ายนั้นกำลังมองมาที่เธอ เธอจึงทำได้เพียงแค่ตอบกลับ “ฉันไม่ได้พกเงินติดตัวมาเลย”
“ไม่ได้พกเงินมาแล้วยังจะวิ่งหนีออกมาทำไม? ตอนนั้นฉันให้เธอเดินออกมาหรือไง?”
คำพูดที่คลุมเครือเหล่านั้นกระตุ้นความโกรธของลั่วเสี่ยวชิงจนได้
ลั่วเสี่ยวชิงนั้นเป็นคนที่อารมณ์ดีอยู่เสมอ แต่เมื่อได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของลู่เฉิงฮ่าว เธอก็อดไม่ได้ที่จะโกรธเคือง
“ฉันไม่ให้ฉันเดินออกมาได้ไง? จะให้ฉันยืนโง่ๆอยู่ตรงนั้นมองดูคุณเล่นชู้กับคนรักของคุณหรือไง!”
ลั่วเสี่ยวชิงกัดริมฝีปากอย่างโกรธเคือง
หลังจากพูดจบ ลั่วเสี่ยวชิงก็ได้เตรียมรับมือกับความโกรธของลู่เฉิงฮ่าวไว้แล้ว แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อพูดออกไป ไม่เพียงแต่ลู่เฉิงฮ่าวจะไม่โกรธแต่เขายังเลิกคิ้วและจ้องมองลั่วเสี่ยวชิงอีกด้วย สีหน้าของเขานั้นดูดีขึ้นอีกต่างหาก “ลั่วเสี่ยวชิง เธอหึงเหรอ?”
“ฉันเปล่า!” ใบหน้าของลั่วเสี่ยวชิงแดงระเรื่อ เกรงว่าลู่เฉิงฮ่าวจะเข้าใจผิด เธอรีบเอ่ยแก้ตัวทันที “ลู่เฉิงฮ่าว คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้หึงอะไรเลย!”
ภายในใจของลั่วเสี่ยวชิงนั้นรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่เธอนั้นไม่ได้ถึงขั้นหึงหวงจริงๆ
แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าภายในใจของลู่เฉิงฮ่าวนั้นแน่ใจแล้วว่าลั่วเสี่ยวชิงกำลังหึง สำหรับคำอธิบายที่ร้อนรนของลั่วเสี่ยวชิง ลู่เฉิงฮ่าวนั้นคิดว่าลั่วเสี่ยวชิงเขินอายและไม่กล้าที่จะยอมรับดังนั้นเธอจึงจงใจปฏิเสธ
ความมืดมนบนใบหน้าของลู่เฉิงฮ่าวในช่วงก่อนหน้านี้หายไปในพริบตา เขาเลิกคิ้วขึ้นและมองเรือนร่างของลั่วเสี่ยวชิงที่สวมเพียงเชิ้ตบางๆ เมื่อสายลมพัดผ่านร่างกายบอบบางนั้นสั่นสะท้ายเล็กน้อย เขาเอื้อมมือออกไปและคว้าข้อมือเล็กๆของลั่วเสี่ยวชิงไว้และพาเธอเข้าไปภายในรถ
ลั่วเสี่ยวชิงนั้นไม่อาจต้านทานได้เลย เธอจึงต้องจำยอมและเข้าไปภายในรถ
ทันทีที่ประตูรถปิดลง ลู่เฉิงฮ่าวก็ปรับอุณหภูมิภายในรถให้สูงขึ้น สายตาของเขาจ้องมองลั่วเสี่ยวชิว นิ้วเรียวยาวและงดงามของเขาก็กำแน่นในทันที เขากระแอมเบาๆและเอ่ยกับลั่วเสี่ยวชิงว่า “ฉู่เชียวเชียวเลิกยุ่งกับฉันแล้ว ตอนนี้ฉันและฉู่เชียวเชียวไม่ได้ข้องเกี่ยวอะไรกันแล้ว”
ลั่วเสี่ยวชิงมองลู่เฉิงฮ่าวที่กลอกตาไปมาอย่างหมดคำพูด เธอไม่เข้าใจเลย ลู่เฉิงฮ่าวจะมาอธิบายให้เธอฟังทำไม ลู่เฉิงฮ่าวจะมีผู้หญิงหรือไม่มีแล้วไง ลั่วเสี่ยวชิงนั้นไม่ได้สนใจอยู่แล้ว
เธอก็แค่เพิ่งทำข้อตกลงกับลู่เฉิงฮ่าว เป็นคนรักของลู่เฉิงฮ่าวในระยะเวลาสามเดือน หลังจากสามเดือนผ่านไปก็แยกจากกันอยู่ดี ดังนั้นลั่วเสี่ยวชิงจึงคิดว่าเธอนั้นไม่ได้มีสิทธิที่จะไปยุ่งเรื่องของลู่เฉิงฮ่าวและเธอก็ไม่คิดจะไปยุ่งอยู่แล้วด้วย