รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 497 ต้องตายสถานเดียว
แย่แล้ว ชายคนนี้ต้องการที่จะฆ่าเธอจริงๆ! ลั่วเสี่ยวชิงสามารถมองเห็นเจตนาที่อยากจะฆ่าในแววตาของคนขับรถแท็กซี่ได้อย่างชัดเจน ลั่วเสี่ยวชิงไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าหากเธอต่อสู้และไม่เชื่อฟัง มีดปอกผลไม้ที่แหลมคมนี้จะต้องพุ่งเข้ามาในช่องท้องของเธออย่างไม่ต้องสงสัย
ลั่วเสี่ยวชิงนั่งตัวแข็งทื่อ และไม่มีการต่อสู้
เมื่อคนขับรถเห็นว่าลั่วเสี่ยวชิงไม่ได้มีการต่อสู่หรือขัดขืนอะไรอีก คนขับพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “ก็นับว่าเธอเป็นคนฉลาด!รออีกสักพัก ในตอนที่ฉันจะฆ่าเธอ ฉันจะให้เธอตายอย่างมีความสุข!”
คนขับรถพูดขึ้นพลางค่อยๆโดยขยับมีดในมือออกห่างจากลั่วเสี่ยวชิง จากนั้นเขาก็หยิบเชือกที่เตรียมไว้ออกมา พร้อมกับมัดมือและเท้าของลั่วเสี่ยวชิงไว้อย่างแน่นหนา
ในระหว่างที่คนขับทำการมัดตัวของลั่วเสี่ยวชิงอยู่นั้น เธอไม่กล้าเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย และร่วมมือกับคนขับเป็นอย่างดี เป็นเพราะในตอนนี้ลั่วเสี่ยวชิงรู้ดีแก่ใจว่า การที่เธอขัดขืนมันก็ไม่สามารถทำให้เธอหลุดพ้นอันตรายได้ในตอนนี้ แต่ในทางกลับหากว่าเธอทำอย่างนั้น มันกลับจะยิ่งทำให้คนขับหงุดหงิดและอาจจะฆ่าเธอเร็วขึ้น
หลังจากรอจนกระทั่งคนขับมัดมือและเท้าของเธอเสร็จ ลั่วเสี่ยวชิงจึงได้รวบรวมความกล้า โดยหันไปมองที่คนขับและพูดออกไปเบาๆว่า “คุณคนขับ…ฉัน ฉันอยากจะถามคุณหน่อยได้ไหมว่า คุณ ทำไมคุณถึงทำแบบนี้? หรือว่าคุณจำผิดคน? ฉันไม่เคยไปมีเรื่องกับใครเลยนะ…แต่ถ้าหากว่าเป็นเรื่องเงินล่ะก็ ฉันให้เงินคุณได้นะ…”
ก่อนที่ลั่วเสี่ยวชิงจะพูดจบ คนขับคนนั้นก็จ้องไปที่ลั่วเสี่ยวชิงอย่างดุเดือด “หุบปากซะ!”
ทันทีที่เสียงพูดของคนขับรถแผ่วเบาลง คนขับก็หยิบผ้าออกมาและยัดปิดปากลั่วเสี่ยวชิงเอาไว้
เพราะตอนนี้ยังคงอยู่ในเขตของตัวเมืองอยู่ มันมีโอกาสมากที่ผู้คนหรือตำรวจจะสามารถมาพบเข้าได้ตลอดเวลา ดังนั้น คนขับจึงไม่สามารถฆ่าลั่วเสี่ยวชิงที่นี่ได้ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเขาอาจจะอธิบายเรื่องที่มาของศพได้ไม่ชัดเจน
คนขับรถคิดพลางยื่นมือออกไปหยิบของในกระเป๋าเสื้อของลั่วเสี่ยวชิงออก จากนั้นก็โยนทิ้งลงในถังขยะในซอยเล็กๆแห่งนั้น
เมื่อเห็นว่าลั่วเสี่ยวชิงไม่มีท่าทีขัดขืน และไม่ส่งเสียงร้องเอะอะดังออกมา คนขับจึงหันหลังกลับและลงจากรถ เมื่อคนขับล็อกประตูเสร็จแล้ว เขาก็เดินไปทางด้านหน้า จากนั้นก็เปิดประตูรถทางด้านที่นั่งคนขับและสตาร์ทรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ลั่วเสี่ยวชิงมองดูทิวทัศน์ที่วิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วจากทางด้านหน้าต่างของรถ สมองของเธอดูสบสนไปหมด
เธอไม่รู้เลยว่าคนขับจะพาเธอไปที่ไหน แต่สิ่งเดียวที่มันดูเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือคนขับรถแท็กซี่คนนี้กำลังจะเตรียมตัวฆ่าเธอ
ความสัมพันธ์ทางสังคมของลั่วเสี่ยวชิงนั้นเป็นไปอย่างเรียบง่าย เธอไม่เคยมีเรื่องขุ่นเคืองกับใคร แต่ถ้าจะมีก็มีอยู่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น นั่นคือ หลิวหยู่ ซึ่งตอนนี้เขาก็ถูกขังอยู่ในคุกโดยฝีมือของลู่เฉิงฮ่าว และในชาตินี้เขาก็ไม่สามารถที่จะออกมา
ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะส่งคนมาฆ่าเธอ
คนที่น่าสงสัยเพียงอย่างเดียวในตอนนี้ก็คือ หลินอี้ คนที่ผลักเธอเข้ามานั่งในรถคันนี้!
แต่เหตุผลอะไรล่ะ ที่ทำให้หลินอี้คิดจะฆ่าเธอ?
ลั่วเสี่ยวชิงไม่สามารถหาเหตุผลในข้อนี้ได้เลย และเธอก็ไม่เคยมีเรื่องขุ่นเคืองใจกับหลินอี้มาก่อน!
ตอนนี้สิ่งเดียวที่ทำให้ลั่วเสี่ยวชิงรู้สึกว่าเธอยังโชคดีอยู่บ้างนั้นคือการที่เธอซ่อนโทรศัพท์เอาไว้ในรองเท้าบูตก่อนหน้านั้นแล้ว
ด้วยวิธีนี้อย่างน้อยเธอก็สามารถหาโอกาสที่จะติดต่อกับบุคคลภายนอกให้มาช่วยเธอได้
ลั่วเสี่ยวชิงอดที่จะคิดถึงลู่เฉิงฮ่าวขึ้นมาไม่ได้
ลั่วเสี่ยวชิงแสยะยิ้มออกมาด้วยท่าทางที่แปลกๆ ครั้งก่อนที่เธอถูกหลิวหยู่ลักพาตัวไปก็ได้ลู่เฉิงฮ่าวเป็นคนมาช่วยเหลือ ในครั้งนี้ไม่รู้ว่าลู่เฉิงฮ่าวจะรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้เธอถูกลักพาตัวไป
ลั่วเสี่ยวชิงแอบคิดติดตลกเล็กน้อย ราวกับว่าตั้งแต่ที่เธอได้พบกับลู่เฉิงฮ่าวก็มักจะเกิดเรื่องโชคร้ายกับตัวเองขึ้นตลอด
คนขับรถแท็กซี่ขับรถรวดเร็วมาก แถมทิวทัศน์ทางด้านนอกหน้าต่างก็รกร้างมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง ลั่วเสี่ยวชิงก็มองไม่เห็นอาคารหรือตึกสูงๆ ทั้งสองข้างทางล้วนเต็มไปด้วยต้นไม้และป่า
คาดว่าตอนนี้เธอน่าจะมาถึงเขตชานเมืองที่ห่างไกลจากเมืองหรงแล้ว
รถขับได้ขับไปต่ออีกเกือบครึ่งชั่วโมงและในที่สุดก็มาหยุดทางด้านนอกบ้านไม้ที่ทรุดโทรมและดูร้างมานาน
คนขับลงจากรถก่อน จากนั้นก็เดินวนไปเปิดประตูให้กับลั่วเสี่ยวชิงและเอาตัวเธอลงมาจากรถ
เขาลากตัวลั่วเสี่ยวชิงไปตลอดทาง จนกระทั่งพาตัวเธอเข้าไปในบ้านไม้เก่าที่ทรุดโทรมและถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน
จากนั้นก็ทิ้งลั่วเสี่ยวชิงไว้ข้างในบ้าน ส่วนเขาก็เดินออกไป
ลั่วเสี่ยวชิงไม่รู้ว่าชายคนนี้กำลังจะทำอะไรกันแน่ จากนั้นเธอจึงพยายามยื่นมือออกไปหยิบโทรศัพท์ออกมาจากรองเท้าบูตของเธออย่างใจเย็น
เป็นเพราะตอนที่คนขับรถมัดมือและเท้าของเธออยู่นั้น ลั่วเสี่ยวชิงให้ความร่วมมือเป็นอย่างมาก ทำให้เขาไม่ได้ผูกเชือกแน่นเกินไป จึงมีพื้นที่เล็กน้อยสำหรับให้มือของเธอเคลื่อนไหวได้
ลั่วเสี่ยวชิงเฝ้าดูประตูอย่างระมัดระวังพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือที่ยัดอยู่ในรองเท้าบูตของเธอออกมาอย่างง่ายดาย
หางตาของเธอเหลือบมองที่หน้าจอโทรศัพท์ และเธอก็มองเห็นว่าได้โทรศัพท์ของเธอนั้นมีสัญญาณกลับมาอีกครั้งแล้ว!
และยังมีข้อความสายโทรเข้าที่เธอไม่ได้รับจากลู่เฉิงฮ่าวอีกกว่าสิบสาย
ลั่วเสี่ยวชิงไม่กล้าที่จะโทรหาลู่เฉิงฮ่าว เพราะกลัวว่ามันอาจจะทำให้คนขับรถที่อยู่ทางด้านนอกรู้ตัว ได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงแค่พิมพ์ข้อความส่งไปให้กับลู่เฉิงฮ่าวด้วยความยากลำบากว่า ลู่เฉิงฮ่าว ฉันถูกลักพาตัวไป และตอนนี้ฉันอยู่ในเขตชานเมืองหรง คนที่ทำการลักพาตัวฉันมาต้องการที่จะฆ่าฉัน!
หลังจากส่งข้อความเสร็จ ลั่วเสี่ยวชิงก็รีบส่งตำแหน่งปัจจุบันของเธอไปให้ลู่เฉิงฮ่าวอย่างรวดเร็ว
และทันทีที่เธอแชร์ตำแหน่งสถานที่เธอยู่สำเร็จ ลั่วเสี่ยวชิงก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังก้องมาจากที่ไกลๆเข้ามากระทบที่หูของเธอ
คนขับคนนั้นเดินกลับมาแล้ว และฝ่ามือของลั่วเสี่ยวชิงก็เต็มไปด้วยเหงื่อไหลซึมออกมา เธอรีบปิดโทรศัพท์ลงและใส่มันกลับเข้าไปในรองเท้าบูตเช่นเดิม
ทันทีที่เธอยัดโทรศัพท์ใส่เข้าไปในรองเท้าเสร็จ ลั่วเสี่ยวชิงก็เห็นร่างสูงของคนขับรถเดินเข้ามาพร้อมกับกองฟืนที่อยู่บนไหล่ของเขา
คนขับรถวางฟืนลงบนพื้นที่ว่างซึ่งอยู่ไม่ไกลจากลั่วเสี่ยวชิงมากนัก และเขาไม่แม้แต่จะมองลั่ว เสี่ยวชิงเลย เมื่อวางของเสร็จเขาก็หันหลังและเดินออกไป ไม่นานหลังจากนั้น เขาถือฟืนหลายมัดเข้าและวางไว้รอบตัวของลั่วเสี่ยวชิง
คนขับออกไปอีกครั้ง และหยิบถังน้ำมันที่มีกลิ่นฉุนออกเข้ามา เขาเทถังน้ำมันลงไปบนฟืนที่อยู่รอบตัวของเธอ จากนั้นคนขับรถก็เหลือบมองที่ลั่วเสี่ยวชิงและกล่าวขึ้นว่า “คุณลั่ว ที่เธอต้องมาตายจะโทษฉันไม่ได้นะ เพราะมีคนใช้ให้ผมทำแบบนี้!”
ทันทีที่เสียงพูดของคนขับรถหายไป คนขับก็หยิบไฟแช็คออกมาและจุดไฟลงบนฟืนที่เติมน้ำมันเบนซินตรงหน้าของลั่วเสี่ยวชิง
เป็นเพราะมีน้ำมันเบนซิน ทำให้การเผาไหม้โหมกระหน่ำขึ้น ฟืนที่ราดด้วยน้ำมันเบนซินซึ่งวางเป็นวงกลมถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ บ้านหลังนี้ก็ยังเป็นบ้านไม้ด้วย เมื่อไฟแรงขึ้นเรื่อยๆ บ้านก็จะมอดไหม้ไปด้วยในไม่ช้า
ในที่สุดลั่วเสี่ยวชิงก็เข้าใจว่าทำไมคนขับรถคนนี้ถึงได้พาตัวเธอเข้ามาในบ้านไม้หลังนี้
ไฟแรงขนาดนี้ ไม่นานบ้านไม้หลังนี้ก็จะถูกเผามอดไหม้ไปด้วย ร่างกายของลั่วเสี่ยวชิงก็จะมอดไปด้วยบ้านหลังนี้เช่นกัน
ถึงตอนนั้นแม้แต่ซากศพก็คงจะไม่เหลือ ซึ่งมันเป็นวิธีการฆ่าคนได้สมบูรณ์แบบจริงๆ
ฟืนถูกราดด้วยน้ำมันเบนซินซึ่งอยู่รอบตัวของลั่วเสี่ยวชิง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ถูกมัดมือมัดเท้าก็ยังหนีออกมาได้อย่างยากลำบาก แต่นั้นมืและเท้าของเธอดันถูกมัดเอาไว้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องความเป็นไปได้ว่าเธอจะหนีออกมาจากตรงนั้นได้อย่างไร
และในเวลาเพียงไม่กี่นาที มันก็สามารถทำให้ลั่วเสี่ยวชิงสำลักควันออกมา เธอไออย่างรุนแรง และรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิภายในห้องที่มันเริ่มร้อนขึ้นมา มันทำให้เหงื่อของเธอไหลออกมาราวกับฝนตก
และสิ่งที่ลั่วเสี่ยวชิงทำได้เพียงอย่างเดียวก็คือ การมองดูคนขับรถค่อยๆเดินออกไปจากห้อง