รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ - บทที่ 499 ใครคือฆาตกร!
ลั่วเสี่ยวชิงไม่กล้าแม้แต่ที่จะมองดูลู่เฉิงฮ่าว สายตาที่สั่นคลอนของลั่วเสี่ยวชิงหันไปมองยังเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่กำลังเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ลั่วเสี่ยวชิงจับข้อมือของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์อย่างแน่นหนา และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สะอื้น “คุณหมอ คุณหมอ อาการในตอนนี้ของลู่เฉิงฮ่าวเป็นอย่างไรบ้าง? และมีอันตรายถึงชีวิตไหมคะ? แล้วเมื่อไหร่เขาจะฟื้นขึ้นมา ”
คุณหมอมองไปที่ลั่วเสี่ยวชิง จากนั้นก็รีบตอบเธอกลับไปว่า “คุณลั่ว คุณไม่ต้องกังวลไปนะ คุณชายลู่ไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต แต่ที่คุณชายลู่สลบไปเป็นเวลานานขนาดนี้ก็เป็นเพราะเขาสูดดมควันไฟเข้าปอดมากเกินไป ตอนนี้ต้องรอให้คุณชายลู่ฟื้นขึ้นมาก่อน ถึงจะสามารถย้ายตัวไปที่ห้องผู้ป่วยธรรมดาได้”
พอลั่วเสี่ยวชิงได้ยินคุณหมอบอกว่า ลู่เฉิงฮ่าวไม่มีอันตรายถึงชีวิต
เธอจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมา
โชคดี… โชคดี ลู่เฉิงฮ่าวไม่ได้เป็นอะไรมาก
ลั่วเสี่ยวชิงถูกพาออกจากห้องไอซียูโดยบุคลากรทางการแพทย์ มู่ซีซีมองไปที่ลั่วเสี่ยวชิงซึ่งใบหน้าเต็มไปด้วยคาบน้ำตา จากนั้นเธอก็ยื่นมือออกไปประคองลั่วเสี่ยวชิงและพาเธอกลับไปที่ห้องพักผู้ป่วยทันที
ตอนที่ลั่วเสี่ยวชิงนอนหมดสติบนเตียงอยู่สองวันเต็มๆ เธอไม่ได้ทานอะไรเลย อาศัยแค่การได้รับน้ำเกลือก็เท่านั้น
เมื่อลั่วเสี่ยวชิงฟื้นขึ้นมา แพทย์ได้มาตรวจร่างกายของลั่วเสี่ยวชิงอีกครั้งและปรากฏว่าไม่มีอาการอะไรที่น่าเป็นห่วง ดังนั้น มู่ซีซีจึงสั่งให้คนเตรียมซุปร้อนๆมาให้กับลั่วเสี่ยวชิงบำรุงร่างกาย
หลังจากที่เห็นลั่วเสี่ยวชิงทานซุปเสร็จ มู่ซีซีก็บอกให้จี้หลิงชวนกลับบ้านเพื่อไปดูแลอันอันก่อน ส่วนเธอจะนอนที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนลั่วเสี่ยวชิงอีกหนึ่งคืน
แต่เมื่อจี้หลิงชวนได้ยินสิ่งที่มู่ซีซีพูด เขาก็รู้สึกอยากจะปฏิเสธ เพราะเขากลัวว่ามู่ซีซีจะเหนื่อย และกลัวว่าหากมู่ซีซีนอนที่โรงพยาบาลเธออาจจะพักผ่อนได้อย่างไม่เพียงพอ
แต่อย่างไรก็ตาม มู่ซีซีก็ยังคงยืนยันคำพูดของเธออย่างหนักแน่น จี้หลิงชวนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากหันหลังเดินออกไปจากโรงพยาบาลและกลับบ้านไปตามคำขอของมู่ซีซี
และตอนนี้ในห้องพักของผู้ป่วยก็เหลือเพียงแค่มู่ซีซีกับลั่วเสี่ยวชิงเพียงสองคนเท่านั้น เมื่อเห็นว่าลั่วเสี่ยวชิงมีจิตใจดีขึ้น มู่ซีซีก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่ง เธอมองไปที่ลั่วเสี่ยวชิงและพูดขึ้นว่า “เสี่ยวชิง พวกเราสองคนมาคุยกันเถอะนะ”
ลั่วเสี่ยวชิงพยักหน้าให้กับมู่ซีซี
เมื่อเห็นว่าลั่วเสี่ยวชิงไม่ได้ปฏิเสธ มู่ซีซีจึงมองไปที่ลั่วเสี่ยวชิงอีกครั้งและถามขึ้นอย่างตรงไปตรงมาว่า “เสี่ยวชิง เธอไปอยู่กับลู่เฉิงฮ่าวตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ทั้งสองเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมานานหลายปี แน่นอนว่าต่างฝ่ายต่างจะต้องเข้าใจกันเป็นอย่างดี
แม้จะไม่มีใครบอกว่าลู่เฉิงฮ่าวเป็นคนวิ่งเข้าไปช่วยชีวิตของลั่วเสี่ยวชิงเอาไว้ และเพื่อช่วยชีวิตของลั่วเสี่ยวชิง ลู่เฉิงฮ่าวเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด และตอนที่ลั่วเสี่ยวชิงรู้ว่า ลู่เฉิงฮ่าวบาดเจ็บและนอนอยู่ในห้องไอซียู ใบหน้าของลั่วเสี่ยวชิงก็ซีดเซียวขึ้น เธอก็ดูเป็นห่วงเป็นใยลู่เฉิงฮ่าวเป็นอย่างมาก มู่ซีซีจึงเดาได้ว่าลั่วเสี่ยวชิงจะต้องอยู่กับลู่เฉิงฮ่าวแล้วแน่ๆ
โดยปกติแล้วลั่วเสี่ยวชิงเป็นคนที่ดูค่อนข้างเย็นชา หากลั่วเสี่ยวชิงไม่รู้สึกสนใจใครล่ะก็ ลั่วเสี่ยวชิงก็คงจะไม่แสดงออกอย่างเห็นได้ชัดอย่างนี้
ลั่วเสี่ยวชิงอาจจะไม่รู้ใจของตัวเอง แต่มู่ซีซีซึ่งเป็นคนนอกสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ท่าทางที่ลั่วเสี่ยวชิงแสดงออกมานั้น เป็นเพราะว่าเธอกำลังหลงรักลู่เฉิงฮ่าวอยู่
หากว่าลั่วเสี่ยวชิงหลงรักผู้ชายคนอื่น มู่ซีซีคงจะไม่ต้องเป็นกังวลแบบนี้ แต่ใครจะไปรู้ว่ามีผู้ชายตั้งมากมาย แต่ลั่วเสี่ยวชิงดันไปหลงรักลู่เฉิงฮ่าวซะได้!
ภาพลักษณ์ของลู่เฉิงฮ่าวสำหรับมู่ซีซีนั้น เธอรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนดีอะไรมากนัก คนในเมืองหรงต่างขนานนามเขาว่าเป็นเพลย์บอย เขาเปลี่ยนผู้หญิงไปมาเป็นว่าเล่น
คนต่างพูดกันว่า การตกหลุมรักม้าตัวหนึ่งนั้น ศีรษะก็จะถูกปกคลุมไปด้วยต้นหญ้า
ยิ่งไปกว่านั้น คนอย่างลู่เฉิงฮ่าวยังเป็นเหมือนกับม้าป่า ลั่วเสี่ยวชิงเป็นเพียงแค่เด็กสาวไร้เดียงสา แล้วเธอจะไปตามทันลู่เฉิงฮ่าวได้อย่างไรกัน
มู่ซีซีไม่อยากเห็นลั่วเสี่ยวชิงได้รับอันตรายใด ๆอีกต่อไปแล้ว
มู่ซีซีพูดขึ้นพลางมองไปที่ลั่วเสี่ยวชิงและพูดขึ้นว่า”เป็นเพราะฉันที่เป็นคนแนะนำให้เธอเข้าไปทำงานในบริษัทนั้น ทำให้เธอทั้งสองได้รู้จักกัน?”
เมื่อได้ฟังมู่ซีซีพูดอย่างนั้นแล้ว ในสมองของลั่วเสี่ยวชิงก็ฉุดคิดถึงเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ขึ้นมาได้
และจู่ ๆใบหน้าของลั่วเสี่ยวชิงก็ค่อยๆแดงระเรื่อ ๆขึ้น
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับใบหน้าที่รู้สึกผิดของมู่ซีซี ลั่วเสี่ยวชิงจึงได้สติกลับมา เธอรีบคว้ามือของมู่ซีซีและพูดขึ้นว่า”ซีซี อันที่จริงฉันรู้จักกับลู่เฉิงฮ่าวก่อนที่เธอจะแนะนำให้ฉันไปทำงานที่บริษัทนั่นเสียอีก ”
เมื่อมู่ซีซีได้ยินเรื่องนี้ เธอยิ่งรู้สึกกังวลเข้าไปใหญ่ เธอกลัวว่าลั่วเสี่ยวชิงจะถูกเพลย์บอยอย่าง ลู่เฉิงฮ่าวหลอกเอา มู่ซีซีรีบจับมือของลั่วเสี่ยวชิงและพูดขึ้นว่า “เสี่ยวชิง เธอเล่ามาให้ฉันฟังเดี๋ยวนี้เลยนะ ว่าทำไมเธอถึงได้ไปอยู่กับลู่เฉิงฮ่าว ถ้าไม่อย่างนั้นฉันคงจะรู้สึกกังวลจนเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ”
ลั่วเสี่ยวชิงรู้ดีว่ามู่ซีซีเป็นห่วงเธอมาก ดังนั้นเธอจึงรู้จึงเขินอายที่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับลู่เฉิงฮ่าว ตั้งแต่ต้นจนจบให้กับมู่ซีซีฟัง “ก่อนหน้านี้แม่ของฉันบังคับให้ฉันไปนัดบอด หลังจากที่รับโทรศัพท์ของแม่ ฉันก็รู้สึกอารมณ์เสีย ฉันเลยไปดื่มเหล้าที่บาร์คนเดียว แต่ไม่คิดว่าดื่มไปได้สักพักฉันก็เมาไม่รู้สึกตัว จากนั้นฉันก็ได้เจอกับลู่เฉิงฮ่าว… ลู่เฉิงฮ่าว อาจจะจำได้ว่าฉันเป็นเพื่อนของเธอ ดังนั้นเขาจึงพาฉันออกจากบาร์ไป..แต่เขาไม่รู้ว่าฉันอาศัยอยู่ที่ไหน เขาก็เลยช่วยฉันเปิดห้องที่อยู่ใกล้ๆกับบาร์แห่งนั้น…จากนั้นก็ เธอก็น่าจะเดาออก แอลกอฮอล์เป็นตัวสร้างปัญหา…ฉันมีความสัมพันธ์กับเขาแล้ว หลังจากนั้นฉันก็เข้าไปทำงานในบริษัทของเขา พอไปทำงานได้เกือบหนึ่งเดือน ตอนนั้นเธอกับจี้หลิงชวนกำลังไปฮันนีมูนกันอยู่ ส่วนแม่ของฉันก็บังคับให้ฉันไปนัดบอดกับคนที่ชื่อหลิวหยู่…”
ลั่วเสี่ยวชิงได้บอกเรื่องทั้งหมดให้กับมู่ซีซีฟัง แต่เธอไม่ได้บอกเรื่องที่ว่าลู่เฉิงฮ่าว ต้องการให้เธอเป็นคนรักของเขากับมู่ซีซี
หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวของลั่วเสี่ยวชิงแล้ว มู่ซีซีก็รู้สึกทุกข์ใจและโกรธเป็นอย่างมาก
ความทุกข์ใจของเธอก็คือ ลั่วเสี่ยวชิงดูน่าสงสารขนาดนี้ แต่เธอกลับไม่รู้ว่าลั่วเสี่ยวชิงได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากและเรื่องราวร้ายๆมามากมาย เธอในฐานะเพื่อนที่ดีของลั่วเสี่ยวชิง แต่เธอดันไม่สามารถช่วยลั่วเสี่ยวชิงได้เลย
เธอโกรธคุณแม่ตระกูลลั่ว แม่ที่อยู่ในฐานะมารดาผู้ให้กำเนิดของลั่วเสี่ยวชิงดันร่วมมือกับไอ้สารเลวหลิวหยู่คนนั้นมารังแกลั่วเสี่ยวชิง เรื่องนี้มู่ซีซีควรที่จะต้องขอบคุณลู่เฉิงฮ่าวจริงๆ ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะลู่เฉิงฮ่าวช่วยชีวิตของลั่วเสี่ยวชิงเอาไว้ มู่ซีซีไม่อยากจะคิดเลยว่าหากไอ้คนสารเลวหลิวหยู่ทำได้สำเร็จจริงๆ เธออาจจะไม่ได้เห็นลั่วเสี่ยวชิงสบายดีเหมือนอย่างตอนนี้แน่ๆ
ในขณะเดียวกัน มู่ซีซีก็รู้สึกโกรธมากที่ลั่วเสี่ยวชิงไม่ยอมบอกเธอในหลายเรื่องที่เกิดขึ้น
มู่ซีซีคิดขึ้นพลางจ้องไปที่ลั่วเสี่ยวชิงและพูดขึ้นโดยแสร้งทำเป็นโกรธว่า”ลั่วเสี่ยวชิง ฉันจะโกรธเธอจริงๆแล้วนะ เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้แล้ว ทำไมเธอถึงได้ไม่บอกฉัน ?อย่างน้อยถ้าเธอบอกกับฉัน ฉันก็อาจจะหาทางช่วยเธอได้!”
เมื่อลั่วเสี่ยวชิงได้ฟังคำพูดของมู่ซีซีอย่างนั้นแล้ว เธอจึงรู้ตัวว่าเธอทำผิดจริงๆ เธอรีบคว้ามือของมู่ซีซีและพูดขึ้นพลางยิ้มออกไปว่า “ซีซี ฉันขอโทษ ฉันขอโทษจริงๆ ฉันรู้แล้วว่าฉันทำผิดไป ต่อไปฉันจะไม่ทำผิดแบบนี้อีก ตอนนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่เธอจะมีโอกาสได้ไปฮันนีมูนกันคุณชายจี้สองต่อสอง เป็นเพราะฉันไม่อยากให้เรื่องพวกนี้มาทำลายและส่งผลกระทบต่อความสุขของเธอกับจี้หลิงชวน ”