รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 166 ช่วยเหลือ
แม่ของหลินหว่านรู้ว่าหลินหว่านคอยตามติดอยู่กับอู๋ชง แต่กลับไม่ได้รับความสนใจจากเขา อู๋ชงไม่ยอมรับปากร่วมมือกับหลินหว่าน อันจี๋ถิงแม่ของหลินหว่านรู้สึกกังวลใจแทนหลินหว่าน จึงให้คนของบริษัทติดตามดูความเป็นไปของเรื่องนี้
หลินหว่านไม่ได้รับการต้อนรับใดๆ จากอู๋ชงเลย เพราะเพื่อเซียวจิ่งสือแล้ว แม้จะต้องเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจหลินหว่านก็ไม่ยอมแพ้เลย เธอคิดว่าถ้าตัวเองยืนหยัดอดทนต่ออีกหน่อยบางทีอู๋ชงจะยอมร่วมมือกับเธอก็ได้
ขณะที่อันจี๋ถิงอยู่ในห้องทำงาน ผู้ช่วยเธอก็เข้ามา
ผู้ช่วยพูดรายงานเธออย่างนอบน้อมว่า “ท่านประธานอัน หลินหว่านตอนนี้คอยตามติดประธานกรรมการของบริษัทนั่นทั้งวัน แต่ดูท่าสถานการณ์ไม่ดีนัก ประธานกรรมการคนนั้นไม่สนใจจะต้อนรับเธอเลย หลินหว่านกลับยังทนตื๊ออยู่ได้”
อันจี๋ถิงรู้ว่าในวงการธุรกิจนี้ พวกเขาก็แค่มองเห็นว่าบริษัทคุณจะให้ประโยชน์อะไรกับบริษัทพวกเขาบ้าง ไม่ใช่ว่าพวกคุณอดทนตามตื๊อแล้วจะยอมร่วมมือกับคุณ แล้วยิ่งตอนนี้หลินหว่านในสายตาพวกเขาเป็นแค่คนไม่มีชื่อเสียงเรียงนามคนหนึ่ง เขาจะยอมสละเวลามาพูดคุยเจรจากับหลินหว่านได้อย่างไร
อันจี๋ถิงเข้าใจลูกสาวของเธอดี หลินหว่านตัดสินใจทำเรื่องหนึ่งแล้วมักจะมุ่งมั่นทำต่อไปโดยไม่ยอมแพ้ ถ้าหากบอกให้เธอละทิ้งเรื่องที่ทำอยู่ คงไม่ยอมแน่
อันจี๋ถิงคิดดูแล้วพูดว่า “ผู้ช่วยซุน คุณเป็นตัวแทนฉันไปเจรจากับอู๋ชงเรื่องนี้ ให้เขาตอบตกลงหลินหว่านโดยเร็วที่สุด เชื่อว่ามีฉันเข้าร่วมด้วยน่าจะทำให้เขาเชื่อถือหลินหว่านยิ่งขึ้น เรื่องนี้ฉันหวังว่าคุณจะจัดการให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด”
“ได้ครับ ประธานอัน” ผู้ช่วยซุนพูดพลางออกจากห้องทำงาน
ผู้ช่วยซุนพอฟังว่าอันจี๋อวี่มอบหมายให้เขาไปเจรจากับบอสใหญ่แห่งวงการธุรกิจ คิดในใจว่าเรื่องนี้เขาทำพังไม่ได้เด็ดขาด จึงต้องเตรียมตัวไปอย่างดี
ผู้ช่วยซุนเป็นตัวแทนอันจี๋ถิงไปพบกับอู๋ชง เขาไม่ทราบเลยว่าภารกิจคราวนี้อาจจะยากเย็นแสนเข็ญ
ผู้ช่วยซุนมาถึงห้องทำงานของอู๋ชง เห็นเขากำลังทำงานอยู่ก็ไม่กล้ารบกวน จึงนั่งรอเงียบๆ อยู่ที่ด้านข้างเพียงลำพัง
ตอนนั้นเอง อู๋ชงลุกขึ้นเดินมานั่งลงที่ด้านข้างผู้ช่วยซุน ยิ้มแล้วพูดว่า “ทำไมคุณอันจี๋ถิงไม่ได้มาล่ะ? ผมอยากเจอเธอมากเลย”
ผู้ช่วยซุนตอบอย่างนอบน้อมว่า “ท่านประธานอันมีงานการที่ต้องจัดการมากมาย จึงให้ผมมาเจรจาเรื่องนี้กับคุณ เห็นคุณยุ่งขนาดนี้ ผมจะขอพูดให้สั้นเข้าไว้แล้วกัน ก่อนหน้านี้มีคนที่ชื่อหลินหว่านมาคอยตามตื๊อขอให้คุณช่วยใช่ไหมครับ และคุณก็ยังไม่ได้รับปากเธอทั้งยังรู้สึกไม่ดีกับเธออีกด้วย ประธานอันทราบเรื่องนี้เข้า เธอหวังว่าคุณจะเห็นแก่หน้าเธอ ยอมตกลงรับปากคำขอของหลินหว่าน ช่วยให้เธอพ้นจากความลำบากครั้งนี้ แน่นอนว่า ต่อไปหากทางคุณต้องการความช่วยเหลือหรือความร่วมมือจากบริษัทเรา พวกเราก็ยินดีจะช่วยคุณเต็มที่เช่นกัน”
อันที่จริงอู๋ชงไม่ได้รู้สึกไม่ดีกับหลินหว่าน แต่เขารู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นต้องร่วมมือกับบริษัทของเซียวจิ่งสือ แต่ถึงจะร่วมมือกันแล้วก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับบริษัทของเขา
อู๋ชงเคยเป็นแฟนหนังของอันจี๋ถิงมาก่อน เมื่อก่อนเขาเทิดทูนและชอบอันจี๋ถิงอย่างมาก ตอนนี้แม้ว่าเขาจะมีงานยุ่งมาก อันจี๋ถิงก็ออกจากวงการบันเทิงไปแล้ว แต่เขายังชอบเธอไม่เสื่อมคลายเลยสักนิด
ในเมื่อรู้ว่าครั้งนี้เป็นอันจี๋ถิงให้ผู้ช่วยซุนมาขอร้องเขาให้ช่วยหลินหว่าน จึงไม่อาจหักใจปฏิเสธอันจี๋ถิง
ผู้ช่วยซุนเห็นว่าอู๋ชงลังเลจึงพูดว่า “บริษัทของคุณตอนนี้ทรงอิทธิพลยิ่งใหญ่มาก อีกทั้งเงินทุนก็มากมายล้นขนาดนั้น เชื่อว่าคงไม่มีความจำเป็นต้องร่วมมือกับพวกเขา แต่วงการธุรกิจได้พันธมิตรเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องดีมากนะครับ เรื่องนี้คุณน่าจะรู้ดียิ่งกว่าผม ครั้งนี้คุณช่วยเขาคราวหน้าเขาอาจทำประโยชน์ให้คุณได้มากกว่านี้ ถึงแม้จะเป็นเพื่อนกันไม่ได้ สามารถเอื้อประโยชน์ให้กันและกันได้ก็ไม่เลวนะครับ”
อู๋ชงฟังคำแจกแจงของผู้ช่วยซุนแล้ว เขาคิดว่าอันที่จริงบริษัทจะร่วมมือกับพวกเขาก็ได้อยู่ แล้วยังทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งผลประโยชน์เล็กน้อยด้วย นอกจากนี้ยังสามารถให้อันจี๋ถิงมีความประทับใจที่ดีกับเขาอีกด้วย
อู๋ชงเงยหน้าขึ้นพูดว่า “ได้สิ เรื่องนี้ผมทราบแล้ว ผมจะพยายามช่วยหลินหว่านอย่างเต็มที่ และผมก็จะร่วมมือกับพวกเขา แน่นอนว่า ผมหวังว่าคุณจะบอกคุณอันจี๋ถิงว่า ผมชื่นชมเธออย่างมาก”
ผู้ช่วยซุนได้ฟังว่าอู๋ชงตกลงรับปากคำขอร้องของพวกเขา ก็ถอนใจอย่างโล่งอก เพื่อไม่เป็นการรบกวนการทำงานของอู๋ชง เขาเจรจาเสร็จก็ขอตัวกลับทันที
ผู้ช่วยซุนกลับถึงห้องทำงานของอันจี๋ถิง
“เรื่องนี้จัดการไปถึงไหนแล้ว? สำเร็จแล้วล่ะซิ” อันจี๋ถิงถามอย่างเชื่อมั่น
ผู้ช่วยซุนยิ้มแล้วพูดว่า “ดูเหมือนเขาจะตกลงรับปากร่วมมือกับหลินหว่านแล้ว เขาให้ผมบอกคุณว่าเขาชื่นชอบคุณมาก ประธานอัน ดูท่าว่าคุณอู๋ชงผู้มีชื่อเสียงจะเคยเป็นแฟนหนังคุณมาก่อนนะครับ”
อันจี๋ถิงนึกถึงอาชีพการแสดงที่เคยเป็นอดีตของเธอ ช่างเจิดจรัสขนาดนั้น แต่ตัวเธอกลับสู้เบื้องหลังอันดำมืดของวงการบันเทิงไม่ได้เลย แม้เธอจะชอบการแสดงมากขนาดไหน แต่ก็ต้องหักใจถอนตัวจากวงการ
อันจี๋ถิงถอนใจยาวแล้วพูดว่า “แฟนหนังอะไรกัน ฉันถอนตัวจากวงการบันเทิงมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้ยังจะมีแฟนหนังที่ไหนเหลืออยู่อีกล่ะ”
หลายปีมานี้ผู้ช่วยซุนคอยติดตามอยู่ข้างกายอันจี๋ถิงตลอด เขารู้ว่าอันที่จริงอันจี๋ถิงยังอาลัยอาวรณ์กับอาชีพการแสดงในตอนนั้นเสมอมา เพียงแต่เก็บซ่อนเรื่องพวกนี้ไว้ในใจเท่านั้น เพื่อไม่ไปสะกิดความเจ็บปวดของเธอ ผู้ช่วยซุนจึงไม่พูดอะไรอีก
อู๋ชงหลังจากเจรจากับผู้ช่วยซุนแล้วก็สั่งให้เลขาโทรหาหลินหว่านทันที
“สวัสดีค่ะคุณหลินหว่าน ท่านประธานกรรมการของพวกเราขอนัดพบคุณที่ห้องทำงานของเราตอนหกโมงเย็นวันนี้ เขามีเรื่องสำคัญจะปรึกษากับคุณค่ะ” เลขาพูดเสียงนุ่มนวล
หลินหว่านอึ้งตะลึงตาค้างไปเรียบร้อยแล้ว เธอคิดไม่ถึงว่าคราวนี้อู๋ชงจะเป็นฝ่ายติดต่อเธอเอง การตามตื๊อของเธอเมื่อหลายวันไม่ได้รับการตอบรับใดๆ จากอู๋ชง หลินหว่านกำลังจะยอมแพ้อยู่แล้วเชียว
“ได้ค่ะ ตอนหกโมงเย็น ฉันจะไปให้ทันอย่างแน่นอนค่ะ ขอบคุณนะคะ” หลินหว่านพูดรวดเดียวจบ
พอวางสายแล้ว หลินหว่านก็ตั้งสติขึ้นมาได้ แม้จะไม่รู้ว่าเขาจะรับปากร่วมมือกับบริษัทของเซียวจิ่งสือ
หรือไม่ แต่ตอนนี้ก็นับว่ามีความคืบหน้าก้าวหนึ่งแล้วในที่สุด นั่นทำให้เธอดีใจมาก
หลินหว่านสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตมาศึกษามากมายเพื่อให้การเจรจากับอู๋ชงเป็นไปด้วยดียิ่งขึ้น เธอนึกถึงว่าจะได้การเจรจากับอู๋ชงก็ตื่นเต้นเอามากๆ เธอคิดว่านี่ไม่เพียงเป็นโอกาสของเธอ แต่ยังเป็นการฝึกฝนความสามารถของตัวเองด้วย
ตอนบ่ายหลินหว่านจัดการแต่งตัวสะอาดเรียบร้อยแล้วไปหาอู๋ชงที่ห้องทำงาน เธอตื่นเต้นอย่างมากมาตลอดทาง กลัวว่าตัวเองจะทำพัง หลินหว่านอยากจะช่วยเซียวจิ่งสือด้วยความพยายามของตัวเอง เช่นนี้ถึงแม้เธอจะไปจากเซียวจิ่งสือก็จะไม่เป็นห่วงกังวล หลินหว่านคิดว่าเธอจะทำเพื่อเซียวจิ่งสือเป็นสิ่งสุดท้าย คราวนี้จะทุ่มสุดตัวจนกว่าจะสำเร็จ