รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 196 ขอแต่งงาน
วันนี้ เซียวจิ่งสือพาอินเสี่ยวเสี่ยวไปยังสถานที่ที่พวกเขาเคยไปมาก่อน พวกเขาเที่ยวเล่นอยู่ในสวนสนุกอยู่นาน และพอทานข้าวด้วยกันเสร็จ ฟ้าก็มืดแล้ว
เซียวจิ่งสือส่งอินเสี่ยวเสี่ยวกลับไป หลังจากทั้งสองกล่าว ‘ราตรีสวัสดิ์’ กันแล้ว อินเสี่ยวเสี่ยวยืนอยู่ที่เดิม มองตามรถของเซียวจิ่งสือจนลับสายตาไป
ตอนที่เงาร่างของเซียวจิ่งสือค่อยๆ เลือนรางจนเหลือเพียงจุดเล็กๆ จู่ๆ อินเสี่ยวเสี่ยวก็รู้สึกเหมือนภาพนี้เธอคุ้นเคยมาก ราวกับว่าเธอเคยเห็นมันมาก่อนหลายครั้งมาก
ความรู้สึกนี้ของอินเสี่ยวเสี่ยวไม่หายไปเสียที เธอคลำทางกลับถึงที่พักทั้งที่ในใจคิดว่า ก่อนสูญเสียความทรงจำความสัมพันธ์ของเธอกับเสี่ยวจิ่งสืออาจดีมากจริงๆ ก็ได้ ไม่อย่างนั้นทำไมเขาจะต้องวุ่นวายคอยช่วยให้เธอฟื้นฟูความทรงจำด้วย
แต่เมื่ออินเสี่ยวเสี่ยวมาถึงหน้าประตูบ้านนั้น เธอกลับเห็นฮั่วเทียนอวี่ ในมือเขาถือดอกกุหลาบช่อใหญ่
“พี่อวี่ มาได้อย่างไรคะ?” อินเสี่ยวเสี่ยวเห็นเขามาแปลก ก็ถามอย่างสงสัย “นี่พี่จะทำอะไรเหรอคะ?”
“เสี่ยวเสี่ยว ทำไมเธอกลับดึกนักล่ะ? หลายวันมานี้หลังเลิกงานเธออยู่กับเซียวจิ่งสือตลอดเลยเหรอ?” เมื่อครู่เขาเห็นหมดแล้ว เขาเห็นอินเสี่ยวเสี่ยวลงมาจากรถของเซียวจิ่งสือ พอนึกถึงข่าวลือในบริษัทหลายวันมานี้ ฮั่วเทียนอวี่ก็รู้สึกโกรธขึ้นมา
“ประธานเซียวเขาแค่พาฉันไปสถานที่ที่ฉันเคยรู้จักก่อนหน้านี้ เขาแค่อยากช่วยให้ฉันฟื้นความทรงจำค่ะ พี่อวี่ พี่อย่าเข้าใจผิดนะคะ” อินเสี่ยวเสี่ยวรีบอธิบายกับฮั่วเทียนอวี่
เมื่อก่อนฮั่วเทียนอวี่เคยบอกเธอว่า ก่อนที่เธอจะสูญเสียความทรงจำ พวกเขาเคยเป็นคู่รักกันมาก่อน หลังจากอินเสี่ยวเสี่ยวสูญเสียความทรงจำ ตอนรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาคนที่เธอเห็นเป็นคนแรกก็คือ ฮั่วเทียนอวี่ ดังนั้น เธอจึงเชื่อคำพูดของเขาโดยไม่สงสัยเลยว่า เมื่อก่อนเธอกับฮั่วเทียนอวี่เป็นคู่รักกัน
แต่เนื่องจากความทรงจำเก่าก่อนหายไปหมด อินเสี่ยวเสี่ยวจึงรู้สึกอึดอัดที่จะปฏิบัติตัวด้วยความสนิทชิดเชื้อของฮั่วเทียนอวี่ พอเธอรู้ว่าพวกเขาเป็นคู่รักกัน ก็เอ่ยปากให้พวกเขาเป็นเพื่อนกันไปก่อน เธอขอเวลาทำใจยอมรับกับเรื่องที่เธอสูญเสียความทรงจำเสียก่อน
ฮั่วเทียนอวี่ก็เห็นใจและรับปากเธอ นับแต่เธอฟื้นขึ้นมา เขาจึงไม่เคยสัมผัสใกล้ชิดกับเธออย่างคู่รัก ทั้งไม่เคยประกาศตัวว่าเป็นแฟนกับเธอในบริษัทมาก่อน
แต่วันนี้พอเห็นท่าทางฮั่วเทียนอวี่เช่นนี้ อินเสี่ยวเสี่ยวก็ใจเต้นแรง รู้สึกว่าจะเกิดเรื่องขึ้น
พอนึกถึงข่าวลือของอินเสี่ยวเสี่ยวกับเซียวจิ่งสือในบริษัท ฮั่วเทียนอวี่ก็ถามอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่า “เสี่ยวเสี่ยว จริงเหรอ? เธอกับเซียวจิ่งสือไม่ได้มีอะไรกันจริงนะ?”
“ไม่มีจริงๆ ค่ะ พี่อวี่ พี่ย่าคิดมากสิ! ฉันกับเขาไม่มีอะไรกัน” อินเสี่ยวเสี่ยวพูด
อินเสี่ยวเสี่ยวเพิ่งพูดจบ ก็เห็นว่าฮั่วเทียนอวี่อุ้มช่อกุหลาบคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ชูช่อกุหลาบนั่นขึ้นตรงหน้าเธอ ถามว่า “ถ้าอย่างนั้น เสี่ยวเสี่ยว เธอจะเต็มใจแต่งงานกับพี่ไหม?”
อินเสี่ยวเสี่ยวตกตะลึงกับภาพตรงหน้าจนอ้าปากค้าง ฮั่วเทียนอวี่ นี่เขากำลังขอเธอ…แต่งงาน?
“เสี่ยวเสี่ยว พี่รู้ว่าทำแบบนี้มันกะทันหันไปบ้าง แต่พี่ไม่อยากเห็นเธอกับเซียวจิ่งสืออยู่ด้วยกันอีกแล้ว” ฮั่วเทียนอวี่พูดกับอินเสี่ยวเสี่ยวอย่างร้อนรน “เสี่ยวเสี่ยว เธอเชื่อพี่นะ พี่ขอเธอแต่งานไม่ใช่แค่ความคิดชั่ววูบเท่านั้น ที่จริงพี่อยากทำแบบนี้ตั้งนานแล้ว เสี่ยวเสี่ยว เธอรับปากพี่นะ พี่อยากอยู่กับเธอไปชั่วชีวิต และไม่แยกจากกันตลอดไป”
พูดจบ ฮั่วเทียนอวี่ก็มองดูอินเสี่ยวเสี่ยว รอคำตอบจากเธอ
พอสบสายตาสัตย์ซื่อที่บอกความจริงในใจของฮั่วเทียนอวี่แล้ว อินเสี่ยวเสี่ยวกำลังจะตอบตกลง จู่ๆ ในสมองก็ปรากฏภาพเลือนรางขึ้นตอนหนึ่ง ทำให้เธอว้าวุ่นใจขึ้นมา
ความทรงจำนั้น มีคนเคยใช้สายตาแบบนี้มองดูเธอเช่นกัน แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่คนตรงหน้านี้
อินเสี่ยวเสี่ยวคิดจะค้นหารายละเอียด แต่หัวสมองกลับปรากฏเงาร่างของเซียวจิ่งสือ เธอรีบสลัดมันทิ้งไป ในเวลาแบบนี้เธอคิดถึงเซียวจิ่งสือได้อย่างไรกันนะ?
จากนั้น อินเสี่ยวเสี่ยวสงบสติอารมณ์แล้วพูดว่า “พี่อวี่คะ คุณลุกขึ้นก่อนเถอะ เรื่องนี้ฉันขอคิดดูให้ดีก่อน…”
“เสี่ยวเสี่ยว ถ้าเธอไม่ตกลงพี่จะไม่ลุกขึ้น” ฮั่วเทียนอวี่ตอบอย่างดึงดัน
อินเสี่ยวเสี่ยวฟังแล้ว นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จึงพูดกับฮั่วเทียนอวี่ว่า “ขอโทษนะคะ พี่อวี่ ฉันยังรับปากพี่ตอนนี้ไม่ได้หรอกค่ะ”
“ทำไมล่ะ?” ฮั่วเทียนอวี่เค้นถามอินเสี่ยวเสี่ยว “เสี่ยวเสี่ยว เพราะเซียวจิ่งสือใช่ไหม เธอถึงไม่ยอมรับปากพี่?”
“ฉัน…” พอฮั่วเทียนอวี่พูดถึงเซียวจิ่งสือ อินเสี่ยวเสี่ยวก็เกิดพูดไม่ออกเสียอย่างนั้น
อินเสี่ยวเสี่ยวยอมรับว่า หลายวันมานี้ที่เซียวจิ่งสือคิดหาทางช่วยให้เธอฟื้นความทรงจำ เธอเปลี่ยนความคิดความรู้สึกที่มีต่อเซียวจิ่งสือไปมากจริงๆ
เธอไม่รู้สึกว่าเซียวจิ่งสือเป็นจอมเผด็จการที่ไร้เหตุผลอีก ในทางกลับกัน เซียวจิ่งสืออ่อนโยนเข้าใจเธอมาก ทั้งยังช่วยคิดหาหนทางสารพัดให้เธอฟื้นความทรงจำอีก เธอถึงกับรู้สึกว่าก่อนสูญเสียความทรงจำเธออาจมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเซียวจิ่งสือก็ได้…
“เสี่ยวเสี่ยว เธอคงไม่หลงรักเซียวจิ่งสือนั่นเข้าแล้วใช่ไหม” ขณะที่อินเสี่ยวเสี่ยวกำลังสับสนจนคิดไม่ตกนั้น เธอก็ได้ยินเสียงฮั่วเทียนอวี่พูดโพล่งขึ้น
ใช่สินะ เมื่อครู่ตอนเธอถูกขอแต่งงาน ทำไมจู่ๆ เห็นภาพของเซียวจิ่งสือขึ้นมา หรือว่าเธอรักเซียวจิ่งสือเข้าจริงๆ ซะแล้ว?
พอเห็นว่าอินเสี่ยวเสี่ยวไม่ตอบ ฮั่วเทียนอวี่ก็ใจหายเฮือก เขาลุกขึ้นยืน พูดกับอินเสี่ยวเสี่ยวว่า “เสี่ยวเสี่ยว เธอกับเซียวจิ่งสือมันเป็นไปไม่ได้หรอก เขาเป็นถึงประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ เธอเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง เธอกับเขามันอยู่กันคนละโลกเลย!”
อินเสี่ยวเสี่ยวฟังคำพูดของฮั่วเทียนอวี่ก็ได้สติ เมื่อครู่เธอคิดบ้าอะไรไปนะ? เธอกับฮั่วเทียนอวี่จึงเป็นคู่รักกันไม่ใช่หรือไง?
อินเสี่ยวเสี่ยวรีบอธิบายกับฮั่วเทียนอวี่ว่า “พี่อวี่ ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ พี่ฟังฉันอธิบายก่อนนะคะ ฉันแค่อยากรอให้ความทรงจำของตัวเองกลับคืนมาก่อน แล้วค่อยคิดเรื่องนี้ เพราะว่า…เพราะว่าพอฉันไม่มีความทรงจำแล้ว ฉันก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันชอบพี่หรือเปล่า ถ้าหากแต่งงานโดยไม่มีความรัก ฉันว่าถึงแต่งงานไปก็คงไม่มีความสุขหรอกค่ะ”
อินเสี่ยวเสี่ยวพูดอธิบายกับฮั่วเทียนอวี่ไปยืดยาวแล้ว กลับได้ยินเขาถามเธอว่า “ถ้าความทรงจำของเธอไม่กลับคืนมาตลอดไปล่ะ?”
“เธอก็จะไม่ยอมรับปากฉันตลอดไปงั้นใช่ไหม!”
อินเสี่ยวเสี่ยวหน้าซีด ไม่นะ! เธอไม่อยากเป็นคนไม่มีอดีต ไม่มีความทรงจำ!
ตอนนั้นเอง ท้องฟ้าพลันส่งเสียงคำรามดังครืนครันลั่นมา ตามติดด้วยพายุฝนที่สาดเทลงมา สายฝนไหลลงมาตามร่องแก้มของอินเสี่ยวเสี่ยว เหมือนเป็นน้ำตาของเธอ
ฮั่วเทียนอวี่ยัดช่อกุหลาบที่ถูกพายุฝนกระหน่ำจนรุ่งริ่งไม่มีชิ้นดีใส่ในอ้อมอกอินเสี่ยวเสี่ยว พูดว่า “เสี่ยวเสี่ยว ที่เธอไม่รับปากพี่ ที่จริงก็เพราะรังเกียจพี่ใช่ไหมล่ะ! เธอรังเกียจว่าพี่จน เทียบเซียวจิ่งสือไม่ได้ ใช่ไหม!”
สายฝนเย็นเฉียบสาดซัดเข้าใส่ร่างของอินเสี่ยวเสี่ยว แต่เธอกลับรู้สึกว่า คำพูดของฮั่วเทียนอวี่หนาวเหน็บยิ่งกว่า หนาวลึกเข้าถึงใจเธอ
“ไม่ ฉันไม่ได้…” อินเสี่ยวเสี่ยวพยายามอธิบาย
แต่ฮั่วเทียนอวี่หมุนตัวจากไปหลังพูดจบ เขาวิ่งไปจากอินเสี่ยวเสี่ยว หายลับไปท่ามกลางพายุฝน