รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 237 วางยา
“ไม่นะ! ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ!” เธอไม่ได้พูดแบบนั้นซะหน่อย อินเสี่ยวเสี่ยวรีบปฏิเสธ
“หึหึ คุณอิน ยังไม่ต้องรีบปฏิเสธหรอก เอาอย่างนี้ คุณดื่มเป็นเพื่อนผม ถ้าคุณทำให้ผมพอใจได้ ผมก็จะให้บทหนังเรื่องนี้กับคุณ เป็นไงล่ะ?”
หวังจงไห่เข้าใจผิดว่าอินเสี่ยวเสี่ยวแกล้งทำท่าไร้เดียงสาเพื่อยั่วยวนเขา
“ผู้กำกับหวัง ขอโทษค่ะ ฉันดื่มไม่เป็นจริงๆ ” อินเสี่ยวเสี่ยวรีบปฏิเสธ แล้วพูดว่า “ผู้กำกับหวัง นี่ก็ดึกมากแล้ว ฉันควรจะกลับไปได้แล้ว ฉ…ฉันขอลาก่อนค่ะ”
พูดจบ อินเสี่ยวเสี่ยวก็ลุกขึ้นจากที่นั่งจะจากไป แต่กลับถูกหวังจงไห่ดึงตัวกลับไป
“คุณอิน คุณจะไม่เห็นแก่หน้าผมเลยใช่ไหม?” พอเห็นว่าอินเสี่ยวเสี่ยวไม่เอาด้วย หวังจงไห่ก็โมโหกรุ่นขึ้นมาบ้าง
เขาถูกใจอินเสี่ยวเสี่ยว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่บังคับเธอ พอนึกถึงตรงนี้ หวังจงไห่ก็นึกถึงวิธีการหนึ่งขึ้นมาได้
อินเสี่ยวเสี่ยวเห็นหวังจงไห่มีท่าทางโมโห ขณะไม่รู้จะทำอย่างไรดี ก็ได้ยินเขาพูดว่า “คุณอิน เอางี้แล้วกัน แค่คุณดื่มเหล้าสามแก้วนี้ให้หมด ผมจะให้บทหนังกับคุณ เป็นไง สนใจไหม?”
พูดพลาง หวังจงไห่ก็เทเหล้าต่อหน้าอินเสี่ยวเสี่ยวจนเต็มแก้วทั้งสามใบ
อินเสี่ยวเสี่ยวคิดดูแล้ว เสนอเงื่อนไขว่า “ถ้าฉันดื่มเหล้าสามแก้วนี้แล้ว ผู้กำกับหวังจะปล่อยฉันไปได้ไหมคะ”
“ได้แน่นอนอยู่แล้ว” หวังจงไห่พูดด้วยสีหน้าเป็นปกติ
“งั้นก็ได้ค่ะ ฉันจะดื่ม” อินเสี่ยวเสี่ยวพูดจบก็หยิบเหล้าตรงหน้าแก้วหนึ่งดื่มลงท้องไป เหล้าขาวขมฝาดมาก อินเสี่ยวเสี่ยวขมวดคิ้ว แต่ยังดื่มมันลงไปจนหมด
แต่อินเสี่ยวเสี่ยวไม่ทันได้สังเกตว่า ตอนเธอดื่มเหล้าแก้วแรก หวังจงไห่ได้เทผงยาห่อหนึ่งใส่ลงในเหล้าแก้วที่สองอย่างรวดเร็ว
อินเสี่ยวเสี่ยวดื่มหมดไปหนึ่งแก้ว เธอวางแก้วลงแล้วหยิบแก้วที่สองกรอกลงคอไป
หวังจงไห่เห็นว่าเหล้าในแก้วที่อินเสี่ยวเสี่ยวถืออยู่ค่อยๆ ลดหายไป ก็ยิ้มเย็นออกมาอย่างพอใจ
พอดื่มเหล้าทั้งสามแก้วหมด เนื่องจากอินเสี่ยวเสี่ยวดื่มเร็วเกินไป ใบหน้าแดงก่ำ ร่างส่ายโงนเงนไปมา หวังจงไห่มองดูแล้วใจเต้นรัวเร็วขึ้น
จู่ๆ อินเสี่ยวเสี่ยวก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะขึ้นมา เธอคิดว่าอาจเป็นเพราะดื่มเร็วเกินไปกระมัง เธอพยายามหยิกขาตัวเองเพื่อเรียกสติกลับคืนมา แล้วพูดกับหวังจงไห่ว่า “ผู้กำกับหวัง ฉันดื่มเหล้าหมดแล้ว นี่ก็ดึกมากแล้ว ฉ…ฉันขอลานะคะ”
“อย่ารีบร้อนสิ คุณอิน เราคุยกันต่ออีกสักหน่อยเถอะ” หวังจงไห่จะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ ได้ยังไง เขาดึงอินเสี่ยวเสี่ยวไว้ไม่ยอมให้เธอไป วางแผนว่ารอให้ยาที่เธอดื่มลงไปออกฤทธิ์ก่อนจะได้ลงมือสะดวก
“ผู้กำกับหวัง ขอให้คุณรักษาคำพูดด้วยค่ะ อย่าทำแบบนี้นะคะ!” อินเสี่ยวเสี่ยวพูดอย่างโมโห จากนั้นคิดจะดิ้นหลุดจากการเกาะกุมของหวังจงไห่
หวังจงไห่จะปล่อยให้อินเสี่ยวเสี่ยวดิ้นหลุดไปง่ายๆ ได้ยังไงกัน เขาดึงตัวอินเสี่ยวเสี่ยวเข้ามา อินเสี่ยวเสี่ยวเวียนศีรษะไปหมด พอถูกเขาดึงตัวก็ล้มลงบนโซฟาที่ด้านข้างหวังจงไห่
หวังจงไห่เห็นว่าอินเสี่ยวเสี่ยวมีอาการอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง ก็ดีใจมาก โถมเข้ามาทับร่างเธอไว้
อินเสี่ยวเสี่ยวแม้จะมึนงง แต่ยายังไม่ออกฤทธิ์ เธอยังรู้สึกตัวมีสติดีอยู่ เธอเห็นว่าหวังจงไห่ขึ้นคร่อมร่างตัวเองก็ตกใจมาก
วันนี้เธอจะต้องถูกข่มขืนงั้นหรือ? เธอหนีไม่รอดแล้วงั้นเหรอ? ไม่! ไม่นะ! อินเสี่ยวเสี่ยวใช้มือข้างหนึ่งผลักร่างของหวังจงไห่ที่ทับลงมาบนร่างเธอ อีกมือหนึ่งก็ไขว่คว้าวุ่นวายจนคว้าได้ขวดเหล้าใบหนึ่ง
อินเสี่ยวเสี่ยวไม่ทันได้คิดอะไรอีก พอคว้าขวดเหล้าได้ก็ฟาดลงบนศีรษะของหวังจงไห่
ขวดเหล้าไม่ได้แตก แต่ศีรษะของหวังจงไห่ถูกฟาดจนปูดโนขึ้นมา
อินเสี่ยวเสี่ยวรีบฉวยโอกาสตอนที่หวังจงไห่ยังไม่ทันตั้งสติ รีบลุกขึ้นยืน แล้ววิ่งหนีออกจากห้อง
“นังบ้า…” พอหวังจงไห่ได้สติ อินเสี่ยวเสี่ยวก็วิ่งออกไปแล้ว เขายกมือกุมศีรษะ พ่นคำด่าออกมาอย่าฉุนเฉียว
อินเสี่ยวเสี่ยววิ่งหนีออกมาแล้ว ก็ไม่สนว่าผู้คนมองมาทางเธอด้วยสายตาประหลาด วิ่งเตลิดหนีออกไปอย่างไม่คิดชีวิต
พอออกจากโรงแรมมาได้ อินเสี่ยวเสี่ยวถอนใจโล่งอก กำลังคิดว่าจะกลับไปอย่างไรดี กลับชนเข้ากับคนคนหนึ่ง
“ขอโทษค่ะ ขอโทษ…” อินเสี่ยวเสี่ยวรีบเอ่ยปากขอโทษ
“ไม่เป็นไรครับ คุณคือ…อินเสี่ยวเสี่ยว?”
พอได้ยินเสียงคนตรงหน้า อินเสี่ยวเสี่ยวก็เงยหน้าขึ้น มองคนตรงหน้าอย่างประหลาดใจ
“สวัสดีครับ คุณอิน ผมขอแนะนำตัวนะครับ ผมชื่อถ้วนเยว่ เป็นนักข่าว” ถ้วนเยว่แนะนำตัวเองกับอินเสี่ยวเสี่ยว
“สวัสดีค่ะ” อินเสี่ยวเสี่ยวพูดกระหืดกระหอบ
“คุณอินครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคุณหรือครับ? ทำไมดึกดื่นขนาดนี้ยังอยู่ข้างนอกในสภาพนี้?” ถ้วนเยว่ได้กลิ่นแอลกอฮอล์บนร่างอินเสี่ยวเสี่ยว ถามอีกว่า “คุณอินครับ คุณเมาเหล้าหรือเปล่าครับ?”
“ไม่ค่ะ ไม่ใช่นะคะ” อินเสี่ยวเสี่ยวพูด พอเห็นว่าอีกฝ่ายมีกล้องมาด้วยก็นึกได้ว่าอีกฝ่ายเป็นนักข่าว จึงถามอีกว่า “คุณเป็นนักข่าวจริงๆ หรือคะ? คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม?”
“ไม่เป็นไรครับ คุณอิน คุณอยากให้ผมช่วยอะไรครับ?” ถ้วนเยว่ถามอย่างอยากรู้
เรื่องนี้ไม่แน่ว่าจะได้ข่าวใหญ่ ถ้าเขาขุดคุ้ยมาได้ นั่นก็สุดยอดไปเลย
พอฟังคำพูดของถ้วนเยว่ อินเสี่ยวเสี่ยวก็รีบบอกเรื่องของหวังจงไห่กับเขา “คืออย่างนี้ค่ะ เมื่อครู่ฉันไปร่วมงานเลี้ยงมา ได้พบกับ…”
แต่อินเสี่ยวเสี่ยวยังเล่าไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงของหวังจงไห่ดังมาจากด้านหลังของเธอ “อินเสี่ยวเสี่ยว! คุณทำอะไรน่ะ?”
อินเสี่ยวเสี่ยวกับถ้วนเยว่หันกลับไปมองทางต้นเสียง เห็นหวังจงไห่กำลังก้าวยาวๆ เข้ามา
หวังจงไห่ดึงตัวอินเสี่ยวเสี่ยวมาทางเขา จากนั้นถามถ้วนเยว่ว่า “คุณเป็นใคร? มาทำอะไรอยู่ที่นี่?”
“ผู้กำกับหวัง? คุณก็อยู่นี่หรือครับ” ถ้วนเยว่รู้จักหวังจงไห่ เขาทักทายหวังจงไห่แล้วถามอยากแปลกใจว่า “ผู้กำกับหวัง คุณกับคุณอินเธอ…”
“อ้า! ผมนึกออกแล้ว คุณก็คือนักข่าวที่เขียนข่าวโจมตีผมบนเน็ตนั่นเอง ชื่อ…ชื่ออะไรนะ?” คิดไม่ถึงว่าหวังจงไห่จะจำถ้วนเยว่ได้
ถ้วนเยว่เคยโพสต์ข้อมูลด้านลบของหวังจงไห่ลงเน็ต หวังจงไห่จึงจำเขาได้แม่นนัก
“ผู้กำกับหวัง ความทรงจำคุณดีจังนะ ผมชื่อถ้วนเยว่” ถ้วนเยว่พูด
“เหอะ ถ้วนเยว่งั้นสิ ผมจะจำคุณไว้!” หวังจงไห่พูด คว้าตัวอินเสี่ยวเสี่ยวที่ยากำลังจะออกฤทธิ์เอาไว้แน่น ข่มขู่เขาว่า “ผมจะบอกคุณให้ เรื่องในวันนี้ คุณต้องทำเหมือนไม่เห็นอะไรเลย เข้าใจไหม? ถ้าให้ผมเห็นคุณเขียนมั่วอะไรลงเน็ตอีก คุณก็ไม่ต้องอยู่ในวงการอีกต่อไปแล้ว เข้าใจ๋?”
“ผู้ทราบแล้ว ผู้กำกับหวัง ผมเข้าใจดี!” ถ้วนเยว่รีบค้อมเอวก้มหัวพูด
หวังจงไห่เห็นเช่นนั้นก็พอใจมาก จากนั้นดึงตัวอินเสี่ยวเสี่ยวกลับไป
แต่พอหวังจงไห่กับอินเสี่ยวเสี่ยวจากไปไม่ไกลนัก ถ้วนเยว่ก็หยิบกล้องถ่ายรูปที่เขาสะพายไหล่อยู่ออกมาถ่าย “แชะ” “แชะ” ไปหลายภาพ