รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 254 หนี
ตอนนี้ทุกอย่างเตรียมพร้อม แค่รอโอกาสเท่านั้น อี้อวิ๋นฉังอ่านดูที่อยู่ของหลินหว่านที่เมื่อคืนเธอเขียนเอาไว้ เธอทานข้าวเช้าเสร็จก็ขับรถตรงไปยังสถานที่นี่ทันที
อันจี๋ถิงเห็นอี้อวิ๋นฉังออกไป พอคิดดูก็เข้าใจว่าตอนที่เธอจะไปทำอะไร เธอรีบโทรหาคนของเธอ บอกความเคลื่อนไหวของอี้อวิ๋นฉังให้เขาทราบ เช่นนี้คนของเธอก็จะสามารถติดตามดูเธอได้สะดวกยิ่งขึ้น แล้วกลับมาบอกพฤติกรรมของเธอทุกความเคลื่อนไหว
อี้อวิ๋นฉังเปิดสัญญาณนำทาง ที่อยู่หลินหว่านค่อนข้างห่างไกลผู้คน ดังนั้นอี้อวิ๋นฉังจึงไม่รู้จักเลย แต่มีสัญญาณนำทาง เธอจึงมาถึงที่หมายได้ไม่ยากนัก แต่ระหว่างทางเธอมักจะต้องเลี้ยวโค้ง เธอจำได้ว่าเลี้ยวไปหลายถนนกว่าจะมาถึงสถานที่นี้ได้
อี้อวิ๋นฉังกวาดตามองไปรอบข้าง สภาพแวดล้อมค่อนข้างทรุดโทรม ไม่รู้ว่าหลินหว่านอยู่ที่นี่เข้าไปได้ยังไง คิดว่าคงน่าจะอยู่อย่างลำบากแน่ แต่ยิ่งคิดว่าเป็นเช่นนี้ อี้อวิ๋นฉังก็ยิ่งกระหยิ่มใจ ขอเพียงให้หลินหว่านได้รับความลำบาก ก็เป็นเรื่องสุดยอดมากแล้ว
ดังนั้นเธอจึงค่อยๆ เดินดูไป จนในที่สุดมาถึงห้องใต้ดินหลังหนึ่ง ห้องใต้ดินนี้เป็นที่อยู่ของหลินหว่าน เก่าแก่ทรุดโทรมมาก และยังมืดครึ้มมากด้วย เด็กผู้หญิงคนหนึ่งถ้าต้องอยู่ที่นี่คนเดียวคงต้องหวาดกลัวมากแน่ เธอไม่เชื่อว่าหลินหว่านจะกล้าขนาดนี้ การที่ไม่กลัวอะไรเลย คิดว่าตอนนี้คงกำลังหดหู่ท้อแท้ละสิ อี้อวิ๋นฉังนึกอย่างสะใจ
อี้อวิ๋นฉังถือกุญแจในมือ เธอยืนอยู่หน้าประตูห้องใต้ดิน เธอยืนลังเลอยู่นานมาก กว่าจะไขกุญแจเปิดประตูออก พอเปิดประตูก็เห็นหลินหว่านนั่งอยู่ที่มุมห้องอย่างน่าสงสารมาก
เดิมทีห้องใต้ดินนี้มืดครึ้มมาก แต่เนื่องจากการมาถึงของอี้อวิ๋นฉัง ประตูเปิดออก แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามา หลินหว่านรู้สึกแสบตาอยู่บ้าง แต่เธอยังรู้สึกดีใจมากที่ยังมีความหวังว่าตัวเองจะได้ออกไป หลายวันมานี้เธอใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ใช้ชีวิตผ่านไปวันวันอย่างไร้ความหวัง ไม่มีใครมาช่วยเธอได้
ตอนนี้พออี้อวิ๋นฉังเห็นสภาพของหลินหว่าน ก็มีสีหน้าสะใจ อยากตะโกนบอกผู้คนทั้งโลกว่า เธอนี่แหละผู้ชนะ ใครก็ไม่อาจสู้เธอได้ คนที่สู้กับเธอก็จะเหมือนกับหลินหว่านอย่างนี้
ตอนนี้หลินหว่านฟื้นความทรงจำกลับคืนมาแล้ว พอเห็นคนตรงหน้านี้ ก็รู้สึกโมโหพุ่งปรี๊ดขึ้นมา แต่เธอกลับทำอะไรไม่ได้เลย ตอนนี้เธอจะแหวกหญ้าให้งูตื่นไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าอี้อวิ๋นฉังจะทำอะไรได้บ้าง
ตอนนี้เรื่องเร่งด่วนที่สุดคือทำให้อี้อวิ๋นฉังหลงคิดว่าเธอเป็นคนอ่อนแอไร้ทางสู้ ที่สิ้นหวังคนหนึ่ง เช่นนี้อี้อวิ๋นฉังก็จะลดความระวังตัวลง ถ้าอี้อวิ๋นฉังประมาท เธอจึงจะมีหวังหนีออกไปได้ ไม่อย่างนั้นคงต้องถูกขังอยู่ที่นี่ตลอดไป ถ้าเป็นแบบนั้นเธอเองก็ไม่อยากคิดเหมือนกัน
“หลินหว่าน พักนี้เธออยู่นี่สบายดีไหมล่ะ? แต่ที่แบบนี้ก็เหมาะกับเธอดีนี่ เธอก็อยู่ที่นี่ไปทั้งชาติก็แล้วกันนะ ไม่ต้องออกไปอีกแล้ว!” อี้อวิ๋นฉังพูดเสียงดุดัน เธอมีใบหน้าราวกับนางฟ้า แต่ใจกลับเหมือนเป็นอสรพิษที่อัปลักษณ์จนผู้คนไม่กล้ามอง
“เธอต้องการอะไรกันแน่? เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นก็เพราะเธอ เธอยังจะทำผิดบาปไปถึงไหนกัน?” หลินหว่านโกรธจัด เธอลุกขึ้นยืน ตะโกนใส่หน้าอี้อวิ๋นฉัง เธอเป็นแบบนี้ล้วนเป็นเพราะอี้อวิ๋นฉัง ทั้งหมดเป็นเพราะอี้อวิ๋นฉังใส่ร้ายเธอ
อี้อวิ๋นฉังเห็นหลินหว่านเป็นเช่นนี้ก็ประหลาดใจอยู่บ้าง คิดไม่ถึงว่าตอนนี้เธอจะฟื้นความทรงจำแล้ว ทำให้อี้อวิ๋นฉังระวังตัวขึ้นมาทันที แต่พอมาคิดดูแล้วก็รู้สึกว่าไม่เป็นไร ตอนนี้เธอเป็นนักโทษในเงื้อมมือเธอแล้ว อี้อวิ๋นฉังไม่กลัวว่าเธอจะทำอะไรได้อีก
ดังนั้นอี้อวิ๋นฉังยังมีสีหน้าผ่อนคลายสบายใจ เธอไพล่มือไปด้านหลังแล้วหันหลังกลับ พูดกับตัวเองถึงแผนการใหญ่ของเธอ ความทะเยอทะยานของเธอกับความสำเร็จของเธอในระหว่างนี้ ดูเหมือนเธอจะพอใจมากกับทุกอย่างที่เธอมี พูดพล่ามไม่หยุดราวกับที่นี่มีตัวเธออยู่เพียงลำพัง
ขณะที่อี้อวิ๋นฉังพูดนั้นไม่ได้สนใจเลยว่าหลินหว่านจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไร เธอจมอยู่กับโลกของตัวเอง
แต่ในตอนนี้หลินหว่านกลับรู้สึกว่าเธอมีความหวังแล้ว เธอแอบคว้าท่อนไม้ที่ด้านข้างไว้แน่น ใช่แล้ว เธอคิดจะลอบทำร้ายอี้อวิ๋นฉัง นี่เป็นโอกาสเดียวของเธอแล้ว ถ้าเธอไม่คว้าไว้ ก็จะเป็นเหมือนที่อี้อวิ๋นฉังพูด เธอจะไม่ได้ออกไปอีกตลอดกาล
ดังนั้นเธอจึงขยับเข้าหาอี้อวิ๋นฉังอย่างช้าๆ ไร้เสียงฝีเท้า แล้วก็…เธอใช้ท่อนไม้ฟาดจนอี้อวิ๋นฉังสลบไป!
อี้อวิ๋นฉังหมดสติล้มลงบนพื้น หลินหว่านเห็นอี้อวิ๋นฉังเป็นแบบนี้ก็พอใจมาก เธอโยนท่อนไม้ทิ้งลงกับพื้น ตอนนี้ต้องรีบฉวยโอกาสหนี ถ้าให้เธอตื่นขึ้นมา คิดจะหนีก็คงไม่ทันแล้ว แต่ตอนที่เธอจะไปนั้น เธอได้หันกลับไปหยิบกุญแจรถของอี้อวิ๋ฉังด้วย
ที่นี่รกร้างห่างไกลผู้คนคงไม่มีรถรับจ้างผ่านมาแน่ แล้วเธอก็ไม่มีเงินด้วย ก่อนหน้านี้ตอนถูกจับตัวมาที่นี่ก็ฉุกละหุกมาก เธอยังไม่รู้สถานการณ์ว่าเป็นอย่างไรแน่ เธออยู่ที่นี่มาระยะหนึ่งแล้ว ก็ไม่รู้ว่าด้านนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง
หลินหว่านขับรถมุ่งหน้าไปทางบริษัทของเซียวจิ่งสือ ตอนนี้เรื่องแรกที่เธอต้องทำคือไปหาเซียวจิ่งสือ จากนั้นบอกกับเขาว่าเธอได้ความทรงจำกลับคืนมาแล้ว ระหว่างนี้เธอลำบากมากเกินไปทั้งๆ ที่เซียวจิ่งสืออยู่ต่อหน้าเธอ แต่เธอกลับสูญเสียความทรงจำ พูดว่าไม่รู้จักเขา
แต่เธอเชื่อว่าเซียวจิ่งสือเองก็ทุกข์ทรมานเช่นเดียวกัน ตอนนี้เธอรู้สึกผิดอย่างมาก รู้สึกว่าตัวเองทำผิดต่อเซียวจิ่งสือ เธอหายตัวไปแบบนี้ เชื่อว่าเซียวจิ่งสือคงออกค้นหาตัวเธอตลอด ไม่รู้ว่าเขาจะได้ทานข้าว เข้านอนตามเวลาหรือเปล่าสิ พอนึกถึงตรงนี้ สายตาเธอก็มัวลงไปทันควัน หลินหว่านน้ำตาไหลพราก เธอทั้งเป็นทุกข์และเศร้าเสียใจมาก
เธอเหยียบคันเร่งอย่างแรง นาทีนี้เธออยากจะได้พบกับเซียวจิ่งสือเล่าให้เขาฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างเร็ว หลินหว่านก็มาถึงบริษัทของเซียวจิ่งสือ เธอจอดรถไว้ที่ตึกด้านล่างของบริษัท ส่วนตัวเองก็รีบวิ่งขึ้นตึกไป
หลินหว่านมาถึงชั้นที่เป็นห้องทำงานของเซียวจิ่งสือ ขณะที่เธอยังไม่ทันได้เข้าห้องทำงานไปนั้นก็ถูกเลขารั้งตัวไว้
“คุณคะ คุณเข้าไปไม่ได้นะคะ ตอนนี้คุณเซียวหายตัวไป พวกเราก็กำลังตามหาตัวเขาอยู่เหมือนกัน” เลขาพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เห็นได้ชัดว่าเจ้านายของพวกเธอไม่อยู่ และพวกเธอที่เป็นพนักงานทั้งหลายก็ปวดหัวมากเช่นกัน
“หายตัวไป? เขาจะไปที่ไหนพวกคุณไม่รู้หรือคะ? เขาหายตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” คราวนี้หลินหว่านร้อนใจขึ้นมา ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี