ราชันย์หน่วยรบมังกร - ตอนที่ 105.2
ตอนที่ 105: เบาะแสของผู้บงการ 2
ท่านฉิงพลันตอบกลับ “หนึ่งพันล้านดอลลาร์จากกลุ่มใต้ดินของพันธมิตรตะวันออกกลาง ค่านายหน้าคือห้าสิบล้านดอลลาร์! ฉันจะให้เวลานายหนึ่งสัปดาห์ในการเตรียมตัวประกาศกร้าวกับสาธารณชนรู้ไปก็ได้ว่าคาสิโน กําลังจัดการแข่งขันโป๊กเกอร์ ด้วยวิธีนี้ พวกตํารวจจะได้ไม่ต้องสงสัยเรื่องกระแสเงินสดที่เพิ่มขึ้นมาในวันนั้น มากเท่าไหร่ แค่บอกไปว่าสมาคมโป๊กเกอร์ระดับชาติได้สนับสนุนการแข่งขันอย่างเป็นทางการก็พอ ทุกคนได้รับการอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่ง แค่นั้นแหละ ทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการพนันแล้วก็นายทุนจากทั่วทุกมุมโลกจะต้องโผล่มาเล่นแน่”
“ครับท่าน! ผมจะเริ่มเตรียมการทันทีครับ“ปรมาจารย์ซินพยักหน้า
ภายในรถ เสี่ยวเฉิงพลันหรี่ตาลง เขาจับประเด็นได้อยู่สองสามคํา…ตะวันออกกลาง… กลุ่มพันธมิตรใต้ดิน… และเงินหนึ่งพันล้านดอลลาร์!
งั้นสิ่งที่เรียกว่าการฟอกเงินคืออะไรกันล่ะ?
ในเมื่อคุณมีรายได้จํานวนมหาศาลมาจากแหล่งผิดกฎหมาย และคุณก็ไม่มีทางพิสูจน์ให้ผู้มีอํานาจเห็นว่ามันถูกกฎหมายได้… ด้วยเหตุนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาใหญ่ คุณก็จะต้องซ่อนเงินจํานวนนี้และทําให้มันไหลเข้าสู่คาสิโน หลังจากนั้น คาสิโนก็จะช่วยเปลี่ยนเงินเหล่านั้นเป็นชิป สิ่งที่คุณต้องทําคือแลกเป็นเงินสดและนํากลับบ้าน เมื่อรายได้ที่เข้ามาชี้ชัดแล้วว่าถูกกฎหมาย คุณก็เพียงแค่ต้องจ่ายค่านายหน้าเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้ว คาสิโนแห่งนี้ก็ได้ดําเนินการทุกสิ่งอย่างถูกกฎหมาย นอกจากนี้ คุณเองก็มีหลักฐานทั้งหมดที่จะพิสูจน์ต่อสํานักงาน ภาษีและพวกตํารวจว่าเงินจํานวนนั้นมาจากแหล่งที่ถูกกฎหมายอีกด้วย
ดูเหมือนว่าภารกิจในวันนี้ของเสี่ยวเฉิงจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่ทว่า มันก็ยังไม่ชัดเจนนักว่าท่านฉิงมีบ ทบาทอะไร แต่ดูจากความเคารพและเชื่อฟังของปรมาจารย์ซินที่มีต่อท่านฉิงแล้ว ชายชราคนนี้จะต้องดํารงอยู่ในตําแหน่งสูงของแก๊งพยัคฆ์ขาวอย่างแน่นอน ในตอนนี้เสี่ยวเฉิงสามารถล่วงรู้ทั้งเวลา สถานที่และตัวผู้บงการแล้ว ในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า ผู้บงการก็จะได้รับเงินหนึ่งพันล้านดอลลาร์จากคลังเงินใต้ดิน และเมื่อถึงตอนนั้น ใครก็ตามที่ชนะรางวัลเงินพันล้านจากการแข่งขันโปกเกอร์ก็จะต้องเป็นผู้อยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน! ทั้งนี้ หากสืบค้นต่อไป เสี่ยวเฉิงอาจจะเจอโรงเก็บเงินใต้ดินก็ได้!
ระหว่างที่ท่านฉิงโบกมือไล่สามสาวงามออกไป เขาก็พลันหันกลับมา เสี่ยวเฉิงจ้องมองดูชายชราตรงหน้า พร้อมกับร่างรูปขึ้นมาทันที เขาดูเป็นชายที่อันตรายไม่น้อย นอกจากนี้ เขาน่าจะเป็นหัวหน้าใหญ่แห่งแก๊งพยัคฆ์ขาวแน่นอน
หลังจากที่ปรมาจารย์ซินเดินมาขึ้นรถและออกจากวิลล่าไป เสี่ยวเฉิงก็พลันแสร้งทําเป็นขับรถผ่านหน้าวิลล่าเพื่อจดเลขที่บ้าน
หลังจากนั้น เสี่ยวเฉิงก็กลับไปยังสํานักงานใหญ่พร้อมกับภาพวาดทั้งสาม”ช่วยตามหาชายสองคนนี้ให้ฉันหน่อย“เสี่ยวเฉิงส่งภาพสเก็ตช์ของท่านฉิงและบอดี้การ์ดให้กับเพื่อนร่วมงานซึ่งทํางานอยู่ที่ในแผนกเก็บเอกสาร
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงใช้ซอฟต์แวร์สร้างแบบจําลองสามมิติของชายสองคนขึ้นมา โดยใช้คอมพิวเตอร์ในการวาดภาพและค้นหาตัวบุคคลผ่านฐานข้อมูล
ในไม่ช้า พวกเขาพบข้อมูลของท่านฉิงและบอดี้การ์ด” กัปตันครับ ชายวัยกลางคนไว้หนวดคนนี้เป็นบอดี้การ์ดภายใต้บริษัทรักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่งครับ ชื่อภาษาอังกฤษของเขาคือนึล อีกอย่าง บริษัทรักษาความปลอดภัยแห่งนี้ก็เป็นของต่างประเทศด้วย ผู้ชายคนนี้เคยเป็นทหารรับจ้างระหว่างประเทศ อีกทั้งยังมีประสบการณ์และเคยผ่านภารกิจมาอย่างโชกโชนด้วยครับ “เสี่ยวเฉิงพลันถามขึ้น “งั้นทําไมคนแบบนี้ถึงเร่ร่อนไปทั่ว เมืองได้ล่ะ?”ทั้งภารกิจแล้วก็ภูมิหลังบางส่วนของชายคนนี้ไม่ได้ขัดแย้งกับกฎของประเทศเรานะครับ อีกอย่างบริษัทรักษาความปลอดภัยก็จ้างชายคนนี้มาอย่างถูกกฎหมายด้วย เพราะแบบนั้น ประเทศเราจึงทําอะไรเขาไม่ได้มากครับ”
เสี่ยวเฉิงชี้นิ้วไปที่ไฟล์ของท่านฉิงและถามขึ้น “แล้วผู้ชายคนนี้ล่ะ?”
เจ้าหน้าที่ตอบกลับ “ชายชราคนนี้ชื่อฉางฉิงอายุหกสิบแปดปี เขายังเป็นคนใจบุญสุนทานมากเลยล่ะครับ เขาเป็นคนรวยที่ชอบเก็บตัวอยู่เงียบ ๆ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร ผมเคยได้ยินมาด้วยนะครับว่าชายชราคนนี้ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไปตั้งเยอะแหนะ”
เสี่ยวเฉิงพลันหรี่ตาลง “ตัวตนของเขาไม่น่าจะใช่แบบนั้นนะ อย่างน้อย นายเคยเห็นรอยสักแบบนี้อยู่กลางอกของพวกคนใจบุญบ้างไหมล่ะ?”
เจ้าหน้าที่เผยยิ้ม” ผมว่ากัปตันก็พูดถูก อันที่จริง ทางกรมตํารวจของเราเองก็กําลังตรวจสอบความมั่งคั่งของชายชราคนนี้อยู่แหละครับ แต่พอเอาเข้าจริง ตอนนี้แค่หาที่อยู่ของเขายังยากเลยครับ”
ทันใดนั้น เสี่ยวเฉิงก็พลันถามขึ้น “แล้วไอ้บอดี้การ์ดที่ชื่อนีลนี่ล่ะ? ลองตรวจสอบจํานวนเงินที่ลูกค้าจ้างหมอนี่ให้ฉันหน่อยสิ”เจ้าหน้าที่พลันตอบกลับ” อ่า บริษัทรักษาความปลอดภัยแห่งนี้มีชื่อเสียงมากเลยล่ะครับ อีกอย่าง พวกเขายอมจ่ายค่าจ้างให้กับบอดี้การ์ดคนนี้ตั้งห้าพันล้านหยวนเลยด้วย…”
“แล้วนายคิดว่าทรัพย์สินที่ถูกต้องตามกฎหมายของชายชราที่ชื่อฉางฉิงมีมูลค่ามากกว่าห้าพันล้านไหมล่ะ?” เสี่ยวเฉิงถามขึ้น
“ไม่ถึงแน่นอนครับ อันที่จริง ชายชราคนนี้มีทรัพย์สินเพียงแค่หนึ่งจดห้าพันล้านเท่านั้นเองครับ”