ราชันย์หน่วยรบมังกร - ตอนที่ 66.1
ตอนที่ 66: พ่อตาและแม่ยายกำลังมา!
– ตอนกลางคืน –
หลังจากได้ยินคำแนะนำที่หนักแน่นจากทั้งหวังหยิง หยานเหว่ยและอู๋ห่าว ผู้พันก็พลันสงสัยจนต้องโทรหาเพื่อนสนิทของตนที่เป็นหัวหน้าฝึกสอนจากกองทัพภาคที่ห้า
ทว่า หัวหน้าฝึกสอนจากกองทัพภาคที่ห้าก็พลันประหลาดใจขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าผู้พันจากกองทัพภาคที่แปดโทรมาเพื่อเกณฑ์พลทหารไปเข้าร่วม ระหว่างคุยกัน เขาก็พลันเผยยิ้มอย่างขมขื่น “ถ้าเป็นเมื่อเดือนที่แล้ว ฉันก็คงจะปฏิเสธอยู่ดี แต่สำหรับตอนนี้ ถึงแม้ว่าฉันจะเต็มใจให้นายมาเกณฑ์คนไป แต่มันก็สายไปแล้ว”
ผู้พันจากกองทัพภาคที่แปดพลันขมวดคิ้ว “หือ? เขาลาออกไปแล้วงั้นรึ?”
“ไม่ใช่แบบนั้น เขารักอาชีพนี้มากเลยล่ะ แถมเขาก็ยังพิสูจน์คุณค่าของตัวเองให้ฉันเห็นแล้วด้วย แต่น่าเสียดายที่หมอนั่นได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันในภารกิจเมื่อสองเดือนก่อน มันทำให้พละกำลังโดยรวมของเขาลดลงจากระดับ A จนเหลือแค่ C+ พูดตามตรงเลยนะ ถึงเสี่ยวเฉิงจะไม่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมหน่วยรบมังกรแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นทหารได้อยู่ แต่ยังไงเสีย เสี่ยวเฉิงเองก็เป็นชายคนหนึ่งที่มีศักดิ์ศรี สาเหตุที่เขาไม่ต้องการอยู่ในกองทัพภาคที่ห้าต่อก็เพราะว่าหมอนั่นไม่ต้องการให้ใครมาสงสารหรือเห็นอกเห็นใจ และท้ายที่สุด เขาก็จากกองทัพไป พอรู้ว่าหมอนั่นกำลังจะจากไป ฉันเลยจัดหางานใหม่ให้เขาที่เมืองซ่างเฉิง อย่างน้อยก็เพื่อชีวิตที่มั่นคงหลังจากปลดประจำการ…” หัวหน้าครูฝึกภาคที่ห้าพลันถอนหายใจพร้อมกล่าวคำพูด
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันล่ะ? เหตุการณ์แบบไหนกันที่ทำให้พละกำลังของนายทหารคนหนึ่งลดลงไปได้ถึงขนาดนั้น?” ผู้พันจากกองทัพภาคที่แปดเริ่มรู้สึกสงสัย
“มันเป็นภารกิจที่ต้องทำลายฐานลับห้องปฏิบัติการน่ะ อีกฝ่ายซ่อนตัวอยู่ที่ตะวันออกกลาง นอกจากนี้ พวกเราเองก็พบร่องรอยของการลงทุนเถื่อนจากหลายประเทศด้วย เราพบว่าพวกเขาใช้มนุษย์ที่ยังมีชีวิตเป็นหนูทดลอง พอรู้เรื่องแล้ว เบื้องบนก็รีบสั่งให้เราไปทำลายฐานทัพของพวกศัตรูทันที แต่โชคไม่ดีนัก เสี่ยวเฉิงกลับถูกฉีดสารพันธุกรรมบางอย่างใส่ตัวในระหว่างปฏิบัติภารกิจ ทั้งนักวิทยาศาสตร์แล้วก็พวกแพทย์สนามต่างก็บอกว่าเขาอาจมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ยังไงก็เถอะ ตอนนี้ฉันยังไม่ได้บอกเขาเรื่องนั้นเลย”
ท้ายที่สุดแล้ว ผู้พันจากกองทัพภาคที่แปดก็ตระหนักได้ “ไม่แปลกใจเลยนะที่นายต้องปล่อยคนที่มีทักษะและความสามารถเช่นนั้นไป…”
หัวหน้าครูฝึกจากกองทัพภาคที่ห้าพลันหัวเราะและกล่าวคำพูดออกมา “ถึงพละกำลังของหมอนั่นจะลดลงเหลือแค่คนธรรมดา แต่เขาก็ยังเป็นทหารของกองทัพภาคที่ห้าอยู่ดี เลิกคิดเรื่องที่จะเกณฑ์หมอนั่นเข้าไปอยู่ในกองทัพภาคที่แปดได้เลย เด็กคนนี้บอกฉันก่อนที่จะจากไปแล้วว่าเขาจะกลับมา… แม้ว่าฉันจะเชื่อพวกนักวิทยาศาสตร์จากสถานที่วิจัย แต่ยังไงเสีย ฉันก็ยังเชื่อมั่นในตัวเสี่ยวเฉิงมากกว่า เขาจะต้องฟื้นตัวและกลับมาได้แน่! นายเองก็รู้อยู่แล้วว่าเราส่งนายทหารฝีมือดีสองคนเข้าไปประจำการที่หน่วยรบมังกรก่อนแล้ว เพราะฉะนั้น กองทัพภาคที่ห้าก็เหลือเสี่ยวเฉิงเพียงแค่คนเดียวแล้ว อีกอย่าง ฉันเองก็รู้อยู่แล้วด้วยว่ากองทัพภาคที่แปดของนายก็มีทั้งทรัพยากรแล้วก็พวกมากความสามารถอยู่อีกตั้งเยอะ แต่ไม่ว่ายังไง ฉันจะขอบอกอะไรเอาไว้หน่อยนะ เสี่ยวเฉิงเป็นผู้ชายที่ซื่อสัตย์มาก เลิกคิดเรื่องเกณฑ์คนไปได้เลย”
ทันใดนั้น ผู้พันจากกองทัพภาคที่แปดก็พลันกล่าวคำพูดออกมา “แต่ก็อย่างว่าแหละนะ แค่ระดับ C+ งั้นรึ? อันที่จริง หน่วยรบที่ฉันเพิ่งจะส่งไปฝึกซ้อมเมื่อไม่นานนี้ก็อยู่ระดับ B กันหมดแล้ว ยังไงก็เถอะ เด็กของนายก็คงจะไม่ไหวหรอกมั้ง”
ไม่ช้า หัวหน้าครูฝึกจากกองทัพภาคที่ห้าก็พลันตอบกลับแทบจะทันที “เลิกอวดได้แล้วน่า เมืองซ่างเฉิงมีแทบจะทุกอย่าง นายจะหาทั้งคนหรือทรัพยากรก็ย่อมได้ แต่ฉันมีอะไรล่ะ? กองทัพภาคที่ห้าแทบจะไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำ พื้นที่แถวนี้ก็มีแต่ชนบท ทั้งประชากรแล้วทรัพยากรก็น้อยจนแทบจะหาไม่ได้”
“ฮ่าฮ่า แต่ในปีนี้ นายทหารมากฝีมือทั้งสามคนของนายไม่อยู่แล้วนะ ฉันจะรอดูก็แล้วกันว่ากองทัพภาคที่ห้าจะตกไปอยู่อันดับที่เท่าไหร่ ยังไงก็เถอะ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่นายบอก ฉันก็คงจะไม่เกณฑ์คนของนายแล้วแหละ”
หลังจากนั้น ผู้พันจากกองทัพภาคที่แปดก็พลันวางสายและเดินไปหาอู๋ห่าวและคนอื่นที่อยู่ในห้องผู้ป่วย
“หัวหน้า… เป็นยังไงบ้างคะ?” หวังหยิงพลันกล่าวคำถามอย่างร้อนรน
“เสี่ยวเฉิงเป็นทหารของกองทัพภาคที่ห้าก็จริง แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้ลบชื่อของเขาออกจากระบบเลย อีกอย่าง ฉันเองก็ถามหมดทุกเรื่องแล้วด้วย ถึงเธอจะบอกว่าเขาแข็งแกร่ง แต่รายงานการประเมินร่างกายบอกว่าเสี่ยวเฉิงยังอยู่แค่ระดับ C+ อยู่เลย เพราะแบบนั้นแหละ ลืมเรื่องเกณฑ์ชายคนนั้นเข้ามาไปเสียเถอะ”
อู๋ห่าวพลันขมวดคิ้ว “แต่หัวหน้าครับ… ข้อมูลจากรายงานประเมินผิดพลาดหรือเปล่า?”
“ยังไงก็เถอะ ฉันขอจบเรื่องนี้ก่อนก็แล้วกัน หัวหน้าครูฝึกจากกองทัพภาคที่ห้าก็บอกชัดเจนแล้วว่าเขาจะไม่ให้พวกเราดึงตัวเสี่ยวเฉิงเข้ามา” ผู้พันพลันตอบกลับ
หลังจากออกมาจากกองทัพภาคที่แปดแล้ว เสี่ยวเฉิงก็ยังไม่ได้กลับคอนโด เขาตัดสินใจแล้ว เขาไม่ต้องการให้หรานจิงและเซินเหยามารบกวนช่วงเวลาการฝึกฝนของตน แต่ทว่า ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงก็พลันดังขึ้น เสี่ยวเฉิงรีบหยิบขึ้นมาและจ้องมองไปที่เบอร์โทร
หลินจื้อซือ…