ราชันย์หน่วยรบมังกร - ตอนที่ 95.2
ราชันย์หน่วยรบมังกร ตอนที่ 95: ความรู้สึกสุดตราตรึง 2
หลินกุ้ยเหลินพลันพ่นลมหายใจ ” สําหรับตอนนี้ แกยังห่างชั้นกับพ่อของแกมากโขเลยล่ะ!”
ภายในห้อง คุณแม่หลินและหลินจื้อซือต่างก็บ่นพึมพํา “พวกโรคจิตเอ๊ย!”
” สมัยยังเป็นวัยรุ่น พ่อของลูกจีบแม่หนักมากเลยล่ะ หนักถึงขั้นแทบจะถวายตัวเองให้แม่เลยนะ แม่ล่ะสงสัยจริง ๆ ว่าเขาไปเป็นทหารได้ยังไง หรือว่าเขามีการศึกษาหรือเปล่า แต่สุดท้ายแล้ว เราก็รักกันแหละ”
หลินเหล่ยไม่รู้ว่าควรจะร้องไห้หรือหัวเราะออกมาดี เพราะท้ายที่สุดแล้ว หลินจื้อซือและหลินเหล่ยต่างก็หวังว่าคุณพ่อของตัวเองจะมีภาพลักษณ์ที่สูงศักดิ์กว่านี้
ระหว่างที่เสี่ยวเฉิงกําลังรู้สึกสับสนและฟุ้งซ่าน หลินกุ้ยเหลินก็รีบพุ่งตัวไปข้างหน้า เขากางมือเป็นรูปกรงเล็บมังกรและพยายามคว้าคอเสื้อของเสี่ยวเฉิงเพื่อที่จะโยนข้ามไหล่ แต่ทว่า ระหว่างที่มือของหลินกุ้ยเหลินกําลังจะแตะโดนคอเสื้อของเสี่ยวเฉิง หลินกู้ยเหลินก็พลันไม่สามารถขยับกรงเล็บของตัวเองได้แม้แต่นิ้วเดียว นั่นเป็นเพราะเสี่ยวเฉิงคว้าข้อมือของหลินกู้ยเหลินเอาไว้อยู่
“พ่อใช้ท่านี้ไปร้อยกว่ารอบได้แล้วมั้งครับ ทําไมยังใช้ท่าเดิมอยู่ล่ะ? เมื่อก่อน พ่อเอาชนะผมได้เพราะได้เปรียบเรื่องความเร็ว พ่อทั้งแขนยาวกว่า แล้วก็ก้าวเท้าได้ไกลกว่าผม แต่วันนี้ดูเหมือนพ่อจะช้าไปหน่อยนะครับ” เสี่ยวเฉิงกล่าว
ในตอนนั้น หลินกุ้ยเหลินก็พลันจ้องมองไปยังเสี่ยวเฉิง อันที่จริง หลินกุ้ยเหลินต้องการพลิกข้อมือและล็อคแขนของเสี่ยวเฉิง ถึงอย่างไร หลินกุ้ยเหลินก็ไม่คาดคิดเลยว่าตนจะเอาชนะกําลังข้อมือของเสี่ยวเฉิงไม่ได้
ทันทีที่ทั้งสองสบตากัน เวลาก็เหมือนจะหยุดลงไปชั่วครู่ ทั้งสองพลันเปลี่ยนจากการต่อสู้ด้วยกระบวนท่าเป็นการประลองพละกําลังในทันที
ทว่า ไม่ว่าหลินกุ้ยเหลินจะพยายามใช้แรงกระชากมือตัวเองออกมาขนาดไหน มันก็แทบจะไม่ขยับเลย…. หากนี่เป็นการงัดข้อแล้วคุณถูกคว้าข้อมือเอาไว้ โอกาสที่คุณจะชนะก็แทบจะเป็นศูนย์! มันถือเป็นข้อเสียเปรียบเลยด้วยซ้ํา แต่ถึงอย่างไร สิ่งที่ขัดใจหลินกุ้ยเหลินในตอนนี้มากที่สุดก็คือเขาไม่สามารถทําให้มือของเสี่ยวเฉิงขยับได้เลยแม้แต่น้อย!
ท้ายที่สุด หลินกุ้ยเหลินก็ยอมรับความจริงแล้วว่าตนไม่สามารถดึงมือของตัวเองออกมาได้ ทันใดนั้น หลินกุ้ยเหลินก็พลันร้องตะโกนออกมาพร้อมกับหันหน้าไปทางหลินจื้อซือ “ลูกรัก ถ้าผู้ชาย คนนี้สามารถคว้าลูกเอาไว้แน่นและไม่ยอมปล่อยลูกไปแบบที่เขาทํากับข้อมือของพ่อ พ่อก็คงจะตายตาหลับ!”
ทว่า คําพูดเมื่อครู่ของหลินกุ้ยเหลินนั้นฟังดูน่าอึดอัดมากเสียจนเสี่ยวเฉิงต้องปล่อยมือ ทันทีที่ดึงมือออกไปได้แล้ว หลินกุ้ยเหลินก็ตัดสินใจพุ่งเข้ามาคว้าคอเสื้อของเสียวเฉิงอีกครั้ง แต่ทว่า ใครจะไปรู้ล่ะว่าเสี่ยวเฉิงจะเร็วกว่า? เพียงเสี้ยววินาที เสี่ยวเฉิงก็คว้าข้อมือของพ่อบุญธรรมเอาไว้ได้อีกครั้ง
ในตอนนี้ ข้อมือของหลินกุ้ยเหลินก็พลันติดอยู่กับเสี่ยวเฉิงอีกครั้งจนได้
“ลูกรัก! ผู้ชายคนนี้เคยจับมือลูกแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า?” หลินกุ้ยเหลินรีบหันหน้าไปตะโกนถามหลินจื้อซืออีกครั้ง
ทันใดนั้น หลินจื้อซือก็พลันเผยใบหน้าแดงก่ําราวกับแอปเปิ้ล ดูเหมือนว่าวันนี้พ่อของเธอจะพูดมากเกินไปแล้ว
เสี่ยวเฉิงพลันปล่อยมือออกอีกครั้ง แต่ทว่า คราวนี้หลินกุ้ยเหลินเองก็กลับพยายามที่จะคว้าคอเสื้อของเสี่ยวเฉิงอีกครั้ง ทันใดนั้น แขนของเสี่ยวเฉิงก็ทํางานโดยอัตโนมัติราวกับเป็นเครื่องจักรตรวจจับอันตราย เขาสามารถคว้าข้อมือของหลินกุ้ยเหลินได้อีกครั้งเช่นกัน!
หลินกุ้ยเหลินในตอนนี้รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เขาสามารถคว้าข้อมือของเราได้ตั้งสองรอบด้วยความเร็วระดับนั้นได้ยังไงกัน?
ทันใดนั้น เสี่ยวเฉิงก็พลันจับแขนของหลินกุ้ยเหลินแล้วเริ่มพลิกตัวกลับราวกับต้องการที่จะโยนลูกบอล เสี่ยวเฉิงพลันยกร่างพ่อบุญธรรมของตัวเองขึ้นฟ้าพร้อมกับโยนเขาลงไปในสระว่ายน้ําตรงหน้า
ความเงียบสงัดพลันเกิดขึ้นทันใด ในตอนนี้ ทั้งคุณแม่หลินและหลินเหล่ยต่างก็จ้องมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าพร้อมกับอ้าปากค้าง เช่นเดียวกับเสี่ยวหลานที่กําลังเบิกตากว้างให้กับฉากตรงหน้า
ทันทีที่หลินกุ้ยเหลินปืนขึ้นมาจากสระราวกับหนูตกน้ํา เขาก็พลันรู้สึกท่วมท้น…
ทันใดนั้น คุณแม่หลินและหลินจื้อซือก็พลันวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามาอย่างประหม่าและก้มลงกล่าวคําพูด “เป็นอะไรมากไหมคะคุณพ่อ?”
หลินกุ้ยเหลินที่กําลังรู้สึกท่วมท้นพลันจ้องมองและตอบกลับ ” พ่อไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแล้วนะเนี่ย! มันเป็นความรู้สึกเดียวกันกับวันที่พ่อของเสี่ยวเฉิงเอาชนะพ่อได้เลย… พ่อล่ะคิดถึงตอนนั้นจริง ๆ การประลองกับเสี่ยวเฉิงเมื่อครู่ทําให้พ่อรู้สึกราวกับได้ย้อนกลับไปเมื่อสมัยก่อนเลย อันที่จริง หลายปีที่ผ่านมา ไม่มีใครสามารถล้มพ่อได้แบบนี้มานานมากแล้ว ตอนนี้พ่อก็รู้สึกโคตรจะดีเลยล่ะ!”
ทุกคนพลันพูดอะไรไม่ออก
หลินจื้อซือมองดูพ่อของตัวเองจากหางตาและกล่าวคําพูดออกมา ”ครั้งนี้พ่อโดนเสี่ยวเฉิงยําเละเลยนะคะ”
ทันใดนั้น เสี่ยวเฉิงก็พลันวิ่งเข้ามาพร้อมกับนั่งยอง ๆ และมองไปที่หลินกุ้ยเหลิน ” พ่อครับ ต่อไปนี้พ่อไม่ต้องเป็นห่วงหรือกังวลเรื่องผมแล้วนะครับ บอกแล้วว่าผมดูแลตัวเองได้”
หลินกุ้ยเหลินพลันพยักหน้า “ดีมากไอ้ลูกชาย! ลูกดูแลตัวเองได้แล้วจริง ๆ งั้นต่อจากนี้ไป มาดูกันเถอะว่าลูกจะล้างแค้นให้พ่อของตัวเองสําเร็จไหม…”