ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1842 ลูกบอลยักษ์ที่กลิ้งเข้ามา
- Home
- ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
- ตอนที่ 1842 ลูกบอลยักษ์ที่กลิ้งเข้ามา
ตอนที่ 1842 ลูกบอลยักษ์ที่กลิ้งเข้ามา
“ตูม…ตูม…ตูม…” ลูกบอลขนาดยักษ์มีการสั่นไหวเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกครั้งที่สั่นไหวมันก็จะขยายขนาดของมันให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ขณะที่น้ำหนักก็สูงขึ้นตามไปด้วย
เมื่อลูกบอลขนาดยักษ์เกิดการสั่นไหวจนถึงระดับหนึ่งแล้ว หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่งและเอ่ยขึ้นมาว่า “ไปเถอะ…”
“ตูม ตูม ตูม…” ทันใดนั้นเอง ลูกบอลขนาดยักษ์ได้เพิ่มความเร็วในการหมุนขึ้นอย่างรวดเร็ว พุ่งตรงไปยังพื้นที่บรรพชนที่เป็นแกนกลางสำคัญด้วยความเร็วที่สุดจะเปรียบเปรยได้
ขณะที่บริเวณพื้นที่บรรพชนที่เป็นแกนกลางสำคัญก็ปรากฏแนวป้องกันขึ้นมาเป็นชั้นๆ จากการที่ระดับบรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณตงกงได้ทำการถ่ายทอดพลังขมุกขมัว และพลังของโลกดึกดำบรรพ์จำนวนมากเข้าไปในค่ายกลป้องกันแล้วนั้น แนวป้องกันแต่ละชั้นกลับกลายเป็นแวววาวเจิดจ้ามาก แลดูละลานตายิ่งนัก และมีความแข็งแกร่งมากทีเดียว แนวป้องกันทุกๆ ชั้นล้วนแล้วแต่ปรากฏเป็นอักขระยันต์ที่ได้รับการเคารพสูงสุด ล้วนแล้วแต่เกิดจากการปลุกเสกลงยันต์ของบรรพบุรุษแต่ละรุ่นที่ผ่านมา ต่อให้กาลเวลาได้ผ่านไปยุคแล้วยุคเล่า พลังลักษณะเช่นนี้ยังคงยิ่งนานวันยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น
“ตูม…ตูม…ตูม…” ท่ามกลางเสียงที่ดังตูมตาม ลูกบอลขนาดยักษ์ที่กลิ้งผ่านซากปรักหักพังนั้นได้บดขยี้จนกลายเป็นร่องลึกขึ้นมา เมื่อมันทำความเร็วจนถึงระดับหนึ่งแล้ว มันเริ่มยกตัวลอยขึ้นจากพื้นดิน และพุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง สุดท้ายมันได้กลับกลายเป็นเหมือนดั่งลูกอุกาบาตขนาดยักษ์ลูกหนึ่งที่พุ่งชนเข้าไปยังพื้นที่บรรพชนที่เป็นแกนกลางสำคัญนั่น
ในขณะนี้ บรรดาศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณตงกงที่หนีออกมาได้ต่างรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน ศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณตงกงจำนวนไม่น้อยต้องป้องปากของตนเอาไว้ ด้วยเกรงว่าจะร้องเสียงแหลมดังออกมา
เสียง “ตูม…” ดังสนั่นขึ้นมา พริบตาเดียวนี้เอง ฟ้าดินได้สั่นไหวทีหนึ่ง เสียงวัตถุพุ่งชนได้สะเทือนถึงแก้วหูของทุกคน ทุกคนต่างรู้สึกเหมือนพื้นปฐพีถูกพุ่งชนจนจมลงอย่างนั้น
ทุกคนต่างมองเห็นลูกบอลขนาดยักษ์ที่พุ่งชนเข้าไปยังแนวป้องกันของพื้นที่บรรพชนที่เป็นแกนกลางสำคัญนั่น โดยที่แนวป้องกันแต่ละชั้นถูกชนกระแทกเข้าไปจนมันยุบลงไปอย่างเหลือเชื่อ และรอยที่บุ๋มยุบลงไปนั้นได้ยุบจนถึงขีดสุดของมันแล้ว ขาดอีกเพียงนิดเดียวก็จะถึงส่วนที่เป็นภูเขาที่อยู่ในพื้นที่บรรพชนที่เป็นแกนกลางสำคัญนั้นแล้ว
แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ภายใต้ความพยายามอย่างสุดความสามารถของบรรพบุรุษบรรดาศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณตงกง อักขระยันต์บนแนวป้องกันต่างๆ ได้สำแดงอานุภาพจนถึงขีดสูงสุด มันพวยพุ่งประกายที่เจิดจ้าออกมา พลังที่เนิ่นนานคล้ายดั่งน้ำทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาลเข้าขวางการโจมตีของลูกบอลขนาดยักษ์เอาไว้
เสียง “ปัง…” ดังขึ้น ท้ายที่สุด ลูกบอลขนาดยักษ์กลับเป็นฝ่ายที่ถูกแนวป้องกันแต่ละชั้นของตระกูลขุนนางโบราณตงกงเด้งกระดอนกลับออกไป ได้ยินเสียงดัง “ฟ่าวว” ลูกบอลขนาดยักษ์พลันถูกเด้งกระดอนออกไปจากเมืองสวรรค์นอกอาณาจักร และหายไปบนท้องฟ้าที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาในฉับพลัน
“เย…” บรรดาศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณตงกงที่อกสั่นขวัญแขวนต่างร้องออกมาด้วยความดีใจ ในที่สุด แนวป้องกันของพื้นที่บรรพชนที่เป็นแกนกลางสำคัญยังคงขวางอานุภาพของลูกบอลขนาดยักษ์ลูกนี้เอาไว้ได้
ในที่สุด ได้ทำให้บรรดาศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณตงกงต่างหายใจด้วยความโล่งอก จิตใจที่เป็นกังวลเริ่มปล่อยวางได้บ้างแล้ว นี่เป็นการบ่งบอกว่าตระกูลขุนนางโบราณตงกงของพวกเขายังคงมีความสามารถเผชิญกับวิกฤตได้เหมือนกัน ก่อนหน้านั้น ตระกูลขุนนางโบราณตงกงของพวกเขาถูกทำลายไปภายในระยะเวลาอันสั้น ภายใต้พลังทำลายอย่างรุนแรง ตระกูลขุนนางโบราณตงกงของพวกเขากลายเป็นสุดจะต้านทานอะไรได้ ซึ่งทำลายความเชื่อมั่นบรรดาศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณตงกงอย่างรุนแรง
เวลานี้สามารถต้านลูกบอลขนาดยักษ์ลูกนั้นเอาไว้ได้ ในที่สุด ทำให้หัวใจที่แตกสลายของบรรดาศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณตงกงสามารถเก็บเอาความเชื่อมั่นที่แตกละเอียดนั้นขึ้นมาได้บ้างอย่างเงียบๆ
แม้แต่บรรดาผู้บำเพ็ญตนรุ่นอาวุโสจำนวนมากที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ ก็ไม่อาจไม่ยอมรับและกล่าวว่า “จะอย่างไรเสียตระกูลขุนนางโบราณตงกงก็คือสายสำนักราชันเซียน อย่างไรเสียก็มีธาตุแท้ภายในอยู่บ้าง”
“หลี่ชิเย่ ตระกูลขุนนางโบราณตงกงของพวก พวกเราก็ไม่ใช่จะมารังแกกันได้ง่ายๆ” ในเวลานี้ ตงกงเจิ้งได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง เขาร้องกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า บรรพบุรุษจอมเทพของพวกเราให้ข้าแจ้งให้เจ้าทราบว่า หากรามือในตอนนี้ยังทัน มิฉะนั้นจะทำร้ายเจ้าเองในที่สุด”
คำพูดของตงกงเจิ้งทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่ยืนดูเหตุการณ์ในระยะห่างไกลต่างมองหน้ากันและกัน ทุกคนล้วนแล้วแต่เข้าใจว่านี่เป็นการสร้างสถานการณ์ลวง เนื่องจากทุกคนต่างรู้ว่าจอมเทพกงเฉิงซึ่งเป็นจอมเทพองค์สุดท้ายของตระกูลขุนนางโบราณตงกง หลังจากถูกจอมเทพท่าซิงสังหารไปแล้วก็ไม่ได้มีจอมเทพอีกเลย เวลานี้กลับบอกว่าจอมเทพที่เป็นบรรพบุรุษของพวกเขาให้มาถ่ายทอดคำพูดต่อหลี่ชิเย่นั้น ผู้คนจำนวนมากจึงมองว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ข่มขวัญตบตาของตงกงเจิ้ง เพียงต้องการอาศัยชื่อของจอมเทพมาทำให้หลี่ชิเย่ต้องตกใจและหนีไปเท่านั้นเอง
“หนังสนุกๆ เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง ทำไม่ต้องเลิก ลูกบอลมาแล้ว เตรียมการป้องกันให้ดีหละ” หลี่ชิเย่ไม่หวั่นไหว ยิ้มจางๆ และกล่าวขึ้นมา
คำพูดของหลี่ชิเย่ทำเอาตงกงเจิ้งตกใจสุดขีด เขาแหงนมองไปบนท้องฟ้าทันที! ร้องตะโกนออกมาว่า “ป้องกัน ป้องกันเต็มที่!”
ในเวลานี้เอง ท้องฟ้าพลันมืดคลิ้มขึ้นมา ทำเอาทุกคนตกใจหนักมาก บนท้องฟ้าปรากฎเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่โตมโหฬารพุ่งชนเข้ามา แต่ ไม่ นั่นไม่ใช่ดาวเคราะห์อะไร เป็นลูกบอลลูกนั้นที่เพิ่งจะถูกเด้งขึ้นไปบนท้องฟ้าลูกนั้นนั่นเอง
ในเวลานี้ ลูกบอลลูกนี้ได้กลับกลายเป็นมีขนาดที่ใหญ่โตสุดจะจินตนาการไปแล้ว ด้วยลูกบอลที่ใหญ่โตเช่นนี้พุ่งชนเข้ามา เท่ากับต้องการชนเมืองสวรรค์นอกอาณาจักรจนแหลกลาญ ควรจะรู้ว่า ตัวของเมืองสวรรค์นอกอาณาจักรถูกสร้างขึ้นบนดาวเคราะห์ที่ใหญ่โตมหึมาดวงหนึ่ง
“โอ้แม่จ๋า…” ครั้นมองเห็นเงาทมึนขนาดยักษ์ที่ปกคลุมเมืองสวรรค์นอกอาณาจักร ทำเอาผู้คนจำนวนมากรู้สึกตกอกตกใจจนเข่าอ่อน ไม่รู้มีผู้คนจำนวนเท่าไรที่หันหลังออกวิ่งไปทันที ไปให้ไกลจากบริเวณนี้ เพื่อป้องกันการถูกลูกหลง
“ตูม…ตูม…ตูม…” บังงเกิดเสียงดังสนั่น เมื่อลูกบอลขนาดยักษ์ปราศจากผู้เทียบเทียมใกล้จะพุ่งชนเข้ามาถึงนั้น บนท้องฟ้าที่อยู่ห่างไกลออกไปเพิ่งจะมีเสียงดังตูมตามตามมา ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่า ลูกบอลขนาดยักษ์ลูกนี้มีความเร็วที่รวดเร็วถึงเพียงใดแล้ว
เสียง “ปัง…” ดังสนั่น เมืองสวรรค์นอกอาณาจักรเสมือนหนึ่งถูกทำให้สะเทือนหวั่นไหวเสมือนหนึ่งถูกพุ่งชนจนปลิวออกไปไกลหลายสิบล้านกิโลเมตร เหมือนจากท้องฟ้าด้านนี้กระเด็นไปอยู่ท้องฟ้าอีกด้านหนึ่งอย่างนั้น
ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องตะลึงงันไปกับการถูกแรงพุ่งชนที่สุดยอดปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นนี้ ผู้คนจำนวนมากถูกการพุ่งชนที่น่ากลัวนี้ทำให้หวั่นไหวจนอ่อนแรงลงไปนอนกับพื้น ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั่วทั้งเมืองสวรรค์นอกอาณาจักรต่างรู้สึกว่านี่คือภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่ ทุกคนถึงกับเกิดมโนภาพขึ้นมาว่า ฉับพลันที่ลูกบอลขนาดยักษ์ลูกนี้พุ่งชนเข้ามา คงต้องการชนเมืองสวรรค์นอกอาณาจักรให้แหลกไปทั้งหมด
“ตูม…ตูม…ตูม…” อานุภาพที่ยังเหลืออยู่ได้กระจายไปทั่วไม่หยุดนิ่ง มันได้กระจายไปทั่วทุกทิศทุกทาง ภายใต้อานุภาพที่น่าสยองเช่นนี้พุ่งชนเข้ามา ตระกูลขุนนางโบราณตงกงที่กลายเป็นซากปรักหักพังแล้วนั้น พลันทำให้แม้แต่พื้นแผ่นดินยังถูกชนจนแหลก เสมือนหนึ่งเป็นวันสิ้นโลกอย่างนั้น
ท่ามกลางเสียง “ตูม” ที่ดังขึ้นมานั้นปรากฎแนวป้องกันของตระกูลขุนนางโบราณตงกงพลันแหลกละเอียดไป ต่อให้แนวป้องกันแต่ละชั้นจะได้ผ่านการปลุกเสกลงยันต์จากบรรพบุรุษผู้สมควรได้รับความเคารพสูงสุดมารุ่นแล้วรุ่นเล่า แต่ ในเวลานี้กลับไม่สามารถต้านอานุภาพของลูกบอลขนาดยักษ์เอาไว้ได้ มันอาศัยพลังทำลายที่สูงมากเข้าทำลายแนวป้องกันทั้งหมด
ในขณะเดียวกัน ภายใต้การพุ่งชนของลูกบอล พลันส่งผลให้ภูเขาแต่ละลูกของตระกูลขุนนางโบราณตงกงถูกชนจนแหลกลาญ ภาพนี้เสมือนเป็นภาพช้าที่ถูกฉายไปยังสายตาของคนทุกคน
มองดูลูกบอลขนาดยักษ์ที่พุ่งชนเข้ามาถึงนั้น มันคล้ายกับเป็นดาวเคราะห์จากนอกโลกที่พุ่งชนเข้ามา เดิมภูเขาแต่ละลูกของตระกูลขุนนางโบราณตงกงก็นับว่ามีขนาดใหญ่แล้ว แต่เวลานี้กลับกลายเป็นช่างเล็กจิ๋วอะไรอย่างนั้น เหมือนว่าแค่ถูกลูกบอลขนาดยักษ์สะกิดเข้าก็แหลกแล้ว
จังหวะที่ลูกบอลขนาดยักษ์พุ่งเข้าชนวินาทีนั้น ภูเขาแต่ละลูกได้พังทลายลงมา สะเก็ดหินปลิวว่อน ภาพลักษณะเช่นนี้เสมือนหนึ่งเป็นวันสิ้นโลกอย่างนั้น ผู้คนจำนวนมากที่ได้เห็นภาพนี้แล้วก็ยากที่จะลืมเลือน
“ตูม ตูม ตูม…” ในเวลานี้เอง เสียงตูมตามดังขึ้นมาไม่ขาดสาย ลูกบอลขนาดยักษ์ยังคงพุ่งเข้าชนพื้นที่บรรพชนในส่วนที่ลึกเข้าไปอีก มันต้องการชนทำลายพื้นที่บรรพชนของตระกูลขุนนางโบราณตงกงทั้งหมดให้แหลกจึงยอมเลิกรา
บรรดาศิษย์ที่ได้หลบหนีออกมาจากตระกูลขุนนางโบราณตงกงนานแล้วพลันมีสีหน้าที่ขาวซีดทันทีเมื่อได้เห็นภาพนี้ มีศิษย์จำนวนไม่น้อยถึงกับทรุดตัวลงนั่งกับพื้น หัวใจของพวกเขาดั่งตกลงไปในหุบเหวลึกหมื่นจ้าง ตกอยู่ในสถานะสิ้นหวังอย่างแรง นาทีนี้พวกเขาต่างคิดว่าตระกูลขุนนางโบราณตงกงของพวกเขาจบสิ้นแล้ว
“แว้งค์ แว้งค์ แว้งค์…” เสียงหนึ่งดังขึ้นแผ่วเบาเป็นระลอก ในขณะที่ลูกบอลขนาดยักษ์พุ่งเข้าหาส่วนที่ลึกที่สุดของพื้นที่บรรพชน จังหวะนั้นสถานที่ซึ่งราชันสวรรค์ตงกงเคยอาศัยอยู่ได้เปล่งประกายขึ้นมา และปรากฏร่องรอยของจอมราชันขึ้น พริบตาเดียวนั้นเอง ที่ตรงนั้นปรากฏร่างเงาที่สูงใหญ่ยากจะมีผู้ใดเทียม แม้ว่าเงานั้นจะจืดจางมากแล้ว แต่ยังตลบอบอวลไปด้วยอานุภาพของจอมราชันท่ามกลางฟ้าดิน เสมือนหนึ่งเป็นจอมราชันองค์หนึ่งปรากฏตัวอย่างนั้น
ร่างเงาที่สูงใหญ่ยากจะหาผู้ใดเทียมพลันกางมือออก มือนี้สามารถปิดกั้นฟ้าดินได้ พลันขวางการวิ่งเข้าชนของลูกบอลขนาดยักษ์เอาไว้
ในที่สุด ภายใต้การขัดขวางเต็มที่ของเงาจอมราชัน ความเร็วของลูกบอลขนาดยักษ์เริ่มค่อยๆ ลดลง แต่ว่ามันยังคงหมุนอย่างรุนแรง “ตูม ตูม ตูม” เสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอกไม่ขาดสาย
“ปฐมบรรพบุรุษจอมราชัน…” บรรดาศิษย์ทั้งหมดที่วิ่งหนีออกจากตระกูลขุนนางโบราณตงกงต่างร้องเสียงแหลมดังออกมา เมื่อมองเห็นร่างเงาที่สูงใหญ่อาศัยมือข้างเดียวขวางลูกบอลขนาดยักษ์เอาไว้ได้
“จอมราชัน…” เวลานี้ บรรดาศิษย์ทั้งหมดของตระกูลขุนนางโบราณตงกงทยอยกันคุกเข่าก้มกราบกับพื้น ศิษย์จำนวนมากทยอยกันโขกศีรษะ ในขณะนี้ศิษย์จำนวนมากของตระกูลขุนนางโบราณตงกงถึงกับน้ำตานองหน้า
ในที่สุด ปฐมบรรพบุรุษของพวกเขาก็ได้แสดงอภินิหารขึ้นในเสี้ยววินาทีแห่งความเป็นความตายของตระกูลขุนนางโบราณตงกงแล้ว อานุภาพจอมราชันตลบอบอวลอยู่ภายในจิตใจของศิษย์ตระกูลขุนนางโบราณตงกงทุกคน
“จอมราชันแสดงอภินิหารแล้ว” ผู้คนจำนวนมากต่างกล่าวด้วยท่าทีให้ความเคารพยำเกรง เมื่อได้มองเห็นภาพเช่นนี้
นี่เป็นธาตุแท้ภายในที่มีเฉพาะกับสายสำนักราชันเซียนเท่านั้น ขอเพียงพวกเขาเคยให้กำเนิดจอมราชันเซียนหวัง ภายในตระกูลของพวกเขาก็จะมีร่องรอยของจอมราชันเซียนหวัง และคงจิตที่ยึดติดของจอมราชันเซียนหวังเอาไว้
ยามที่สำนักใดสำนักหนึ่งประสบกับความเป็นความตาย จอมราชันเซียนหวังของพวกเขามักจะแสดงความอภินิหารออกมาอยู่เสมอๆ พวกเขาจะปรากฏออกมาปกป้องลูกหลาน
เสียดาย ราชันสวรรค์ตงกงของตระกูลขุนนางโบราณตงกงเสียชีวิตจากสวรรค์ลงทัณฑ์ ถ้าหากราชันสวรรค์ตงกงของตระกูลขุนนางโบราณตงกงยังคงมีชีวิตอยู่ล่ะก็ ร่องรอยอยู่ในตระกูลขุนนางโบราณตงกงยิ่งมีอานุภาพที่ทรงพลังมาก กระทั่งมีอานุภาพเฉกเช่นจอมราชันเสด็จมาด้วยตนเองอย่างนั้น
แน่นอน โดยปรกติแล้วสายสำนักชันเซียนที่จอมราชันเซียนหวังยังคงมีชีวิตอยู่ จะไม่มีใครหาญกล้าไปโจมตีอยู่แล้ว เว้นแต่จะเป็นจอมเทพที่แข็งแกร่ง หรือผู้ดำรงอยู่ในฐานะจอมราชันเซียนหวังลงมือด้วยตนเอง มิฉะนั้นแล้ว บุคคลทั่วไปไม่สามารถทำลายล้างสำนักลักษณะเช่นนี้ได้อยู่แล้ว จะอย่างไรเสียเมื่อถึงที่สุดแล้วจอมราชันเซียนหวังก็จะลงมือด้วยตนเองอยู่แล้ว
การได้มองเห็นการแสดงอภินิหารของราชันสวรรค์ตงกง ทำให้บรรดาศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณตงกงรู้สึกตื้นตันใจยิ่งนัก สิ่งนี้ได้ทำให้มีการจุดไฟแห่งความหวังขึ้นมานิดหนึ่งท่ามกลางความสิ้นหวัง
“ตูม…ตูม…ตูม…” แม้ว่าราชันสวรรค์ตงกงจะแสดงอภินิหารออกมาขวางลูกบอลเอาไว้ แต่ลูกบอลยังคงไม่ได้หยุดนิ่ง ตรงกันข้ามมันกลับหมุนเร็วขึ้นกว่าเดิมอีก มีการเพิ่มความเร็วขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ถึงกับประลองกำลังกับจอมราชันขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเวลานี้ลูกบอลจะมีความเร็วลดลงมาแล้ว แต่มันไม่ได้หยุดนิ่งโดยสิ้นเชิง ภายใต้การหมุนอย่างรุนแรงของมัน กลับอาศัยพลังที่สุดยอดปราศจากผู้เทียบเทียมผลักดันร่างเงาที่สูงใหญ่ให้ถอยร่นไปเรื่อยๆ จนปรากฎเป็นรอยครูดที่เป็นร่องขนาดลึกมากขึ้นมา!