ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1848 ต้วนเจียง
ตอนที่ 1848 ต้วนเจียง
แม้จะเป็นเพียงจอมเทพระดับล่างที่ชมการต่อสู้ก็ต้องรู้สึกสะท้านขึ้นมา เมื่อมองเห็นดาบโค้งที่อยู่ในมือของจอมเทพเสินกง ต่อให้ดาบโค้งเล่มนี้จะมีปากแหว่ง แต่ทว่า ลางสังหรณ์ที่แม่นยำที่สุดของจอมเทพได้บอกเขาว่า ดาบโค้งลักษณะเช่นนี้สามารถเก็บเกี่ยวเอาชีวิตของใครก็ได้อย่างง่ายดาย
“อะไรรึที่เรียกว่าตำราและอาวุธสวรรค์?” ผู้เยาว์ไม่รู้ว่าอะไรคือตำราและอาวุธสวรรค์ จึงถามผู้อาวุโสของสำนักตน
ผู้อาวุโสผู้นี้ทำท่าไตร่ตรองนิดหนึ่งแล้ว จึงได้กล่าวขึ้นมาว่า “รายละเอียดอาจารย์เองก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน เนื่องจากสำนักของพวกเราไม่เคยมีตำราและอาวุธสวรรค์มาก่อน เล่าลือกันว่า ตำราและอาวุธสวรรค์คือสิ่งของที่หล่นลงมาจากศึกเดินทางไกลเพื่อปราบปรามเป็นครั้งสุดท้าย สิ่งของที่ร่วงหล่นลงมาไม่แน่เสมอไปว่าจะต้องเป็นอาวุธ มักจะขึ้นอยู่กับเจ้าของคนแรกเป็นผู้ตัดสินถึงลักษณะสุดท้ายของมันอยู่เสมอ สิ่งที่เจ้าบรรลุคืออะไร บางทีมันก็จะเป็นสิ่งนั้น รายละเอียดของเรื่องนี้ไม่อาจชี้ชัดลงไปได้”
“แล้วตำราครึ่งเล่มและอาวุธที่ไม่สมประกอบหมายความว่าอย่างไร?” ผู้เยาว์ยังคงรู้สึกแปลกใจมากและต้องการถามให้สุด
“เล่าลือกันว่า สิ่งของที่ร่วงหล่นลงมาจากศึกเดินทางไกลเพื่อปราบปรามเป็นครั้งสุดท้ายมีสารพัดรูปแบบ แต่ที่แน่นอนที่สุดมันไม่เพียงเป็นแค่สิ่งของชิ้นใดชิ้นหนึ่ง หรือจะบอกว่ามันไม่ได้เป็นเพียงของวิเศษชิ้นนั้นแค่นั้น สิ่งของที่หล่นลงมาจากท้องฟ้าเหล่านี้ ตัวของมันเองมีองค์ประกอบของกฎเกณฑ์สวรรค์ ถ้าหากสิ่งของทุกชิ้นสมบูรณ์แบบล่ะก็ มันไม่เพียงแค่ความสมบูรณ์ในรูปลักษณ์ของมันเองเท่านั้น ขณะเดียวกัน องค์ประกอบของกฎเกณฑ์ฟ้าดินที่มีอยู่ในตัวของมันเองก็สมบูรณ์แบบด้วย…”
“…ในยุคหลัง เคยมีจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนที่ยอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียม ได้เคยทำการแยกเอาสิ่งของชิ้นนั้นและองค์ประกอบกฎเกณฑ์ออกจากกัน คิดจะนำเอาองค์ประกอบที่เป็นหลักกฎเกณฑ์นี้มาเป็นสุดยอดวิชาให้มันได้ถ่ายทอดต่อไปเรื่อยๆ ดังนั้น จึงมีผู้ที่เรียกสิ่งของที่แยกเอาองค์ประกอบกฎเกณฑ์ออกไปแล้วนั้น เรียกว่าอาวุธสวรรค์ กับหลักกฎเกณฑ์ฟ้าดิน แต่ว่า สิ่งของที่ร่วงหล่นลงมาจากบนฟ้าส่วนใหญ่แล้วจะไม่สมบูรณ์ ล้วนแล้วแต่มีส่วนที่ขาดหายไป จากการที่สิ่งของเหล่านั้นไม่สมบูรณ์ส่งผลให้หลักกฎเกณฑ์ฟ้าดินก็ไม่สมบูรณ์เช่นกัน ดังนั้น ทุกคนจึงได้เรียกสิ่งของที่ร่วงหล่นลงมาจากบนฟ้าและไม่สมประกอบเรียกว่า ตำราครึ่งเล่มและอาวุธที่ไม่สมประกอบ!”
ผู้อาวุโสผู้นี้อธิบายให้กับผู้เยาว์ของตนด้วยความอดทน
“ตำราครึ่งเล่มและอาวุธที่ไม่สมประกอบนี้ทรงพลังมากรึ?” เมื่อผู้เยาว์มองเห็นท่าทีของจอมเทพท่าซิงหนักแน่นจริงจัง จึงอดที่จะเอ่ยถามขึ้นมาไม่ได้
“ใช่เพียงแค่ทรงพลังเท่านั้น นี่มันอาวุธฆ่าคนชัดๆ โดยทั่วไปแล้วไม่มีใครต้องการแยกตำราและอาวุธสวรรค์ออกจากกัน ต่อให้เป็นเพียงตำราครึ่งเล่มและอาวุธที่ไม่สมประกอบก็เช่นกัน มีเพียงตำราและอาวุธสวรรค์และหลักกฎเกณฑ์ฟ้าดินที่รวมเข้าด้วยกัน จึงนับเป็นอาวุธเข่นฆ่าที่แท้จริง! กระทั่งเรียกได้ว่า พานพบเทพเข่นฆ่าเทพ พานพบมารสังหารมาร หากไม่ดื่มเลือดจะไม่กลับเข้าฝัก!” ผู้อาวุโสผู้นี้กล่าวด้วยท่าทีที่หนักแน่นจริงจัง
ผู้ที่สามารถมองเห็นภาพนี้กับตาตนเอง และมีความเข้าใจอย่างแท้จริงว่าอะไรคือตำราและอาวุธสวรรค์ก็ต้องมีท่าทีที่หนักแน่นจริงจัง แม้แต่จอมเทพท่าซิงก็เป็นเช่นนี้ เขาจ้องเขม็งไปที่ดาบโค้งที่ไม่สมบูรณ์เล่มนั้น สายตากระตุกทีหนึ่ง
“ถ้าหากเกมนี้ข้าพ่ายแพ้ ขอสหายโปรดให้ความเอ็นดูอาวุธเล่มนี้” เวลานี้ จอมเทพเสินกงก็ได้กล่าวขึ้นช้าๆ โดยไม่มีท่าทีของความลำพองใจ
“ไม่แน่อาจเป็นข้าที่พ่ายแพ้ อาศัยเลือดของข้าบูชายันต์อาวุธ” จอมเทพท่าซิงก็เอ่ยขึ้นช้าๆ
นาทีนี้ ทั้งสองฝ่ายกลับกลายเป็นถ่อมตน เนื่องจากการต่อสู้จากนี้จะต้องปรากฎผลเป็นหรือตายออกมาให้เห็น พวกเขาที่ก้าวมาถึงระดับนี้แล้ว ต่างฝ่ายต่างพอฟัดพอเหวี่ยงกัน มีความสามารถใกล้เคียงกัน ระหว่างกันจึงไม่มีอะไรต้องไปอวดอ้างกัน กล่าวสำหรับพวกเขาสองคนแล้ว คู่ต่อสู้หาได้ยาก ไม่ว่าการต่อสู้ในครั้งนี้จะเป็นหรือตาย ต่างก็คู่ควรแก่การเคารพนับถือ
“อาวุธเล่มนี้มีชื่อว่าต้วนเจียง” เวลานี้จอมเทพเสินกงได้เอามือลูบไลส่วนหลังของดาบโค้ง และเอ่ยขึ้นมาช้าๆ ในขณะนี้เขาทำเหมือนดั่งเป็นการลูบไล้ลงบนตัวของคนรักอย่างนั้น มันช่างอ่อนโยน ละเอียดและอาลัยอาวรณ์เหลือเกิน
“ชื่อดี ข้าจำได้แล้ว” ท่าทีของจอมเทพท่าซิงดูหนักแน่นจริงจัง และพยักหน้าแล้วกล่าวขึ้นช้าๆ
ในขณะนี้ จอมเทพเสินกงที่ยืนอยู่กลางอากาศได้หลับตาทั้งสองข้างลงช้าๆ ในมือกำต้วนเจียง กล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “ลงมือเถอะ ไม่ตายไม่เลิก!” ในเวลานี้เขาจะลืมตาหรือหลับตาก็ไม่ใช่ปัญหา เขาไม่จำเป็นต้องไปมองดูคู่ต่อสู้อีกแล้ว ดาบโค้งที่อยู่ในมือสามารถรับรู้ได้ทุกอย่าง
พริบตาเดียวนี้เอง จอมเทพเสินกงได้เก็บงำประกายศักดิ์สิทธิ์ที่พลุ่งพล่าน อานุภาพที่สยบผู้คน หลักกฎเกณฑ์ที่ดั่งน้ำตก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่เก็บงำและสลายไป ในเวลานี้เสื้อของเขาส่งเสียงดังหวิดหวิว เขายืนสงบนิ่งอยู่ท่ามกลางอวกาศ
นาทีนี้เหมือนว่าปราศจากตัวจอมเทพเสินกงแล้ว สิ่งเดียวที่เผชิญหน้ากับจอมเทพท่าซิงคือดาบโค้งเล่มนั้น ดาบโค้งที่ไม่สมบูรณ์ ขณะที่ตัวของจอมเทพเสินกงเหมือนไม่ได้คงอยู่อีกต่อไป
ด้วยดาบโค้งลักษณะเช่นนี้แหละ ไม่มีกลิ่นอายการฆ่าที่สะเทือนฟ้าดิน ไม่มีท่าทีที่สยบเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน มันเพียงแผ่กระจายประกายเยือกเย็นที่จางๆ ออกมา ทำให้วิญญาณของผู้คนถึงกับหนาวสะท้านขึ้นมา
ในเวลานี้ จอมเทพท่าซิงจ้องเขม็งไปที่ดาบโค้ง เขาเองก็ไม่ได้มองดูจอมเทพเสินกง เนื่องจากในขณะนี้จอมเทพเสินกงไม่ได้มีความสำคัญอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่ส่งผลถึงแก่ชีวิตหาใช่จอมเทพเสินกง แต่เป็นดาบโค้งเล่มนั้น
“ตูม…” เสียงดังสนั่นเกิดขึ้น ชั่วพริบตาเดียวกันนี้เองจอมเทพท่าซิงได้ปะทุประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีสิ้นสุดออกมาทั่วร่าง ดวงตราสัญลักษณ์ทั้งเก้าของเขาได้สำแดงพลังถึงขีดสูงสุด ดวงตราสัญลักษณ์ทั้งเก้าหมุนวน ปรากฏดวงดาวเต็มท้องฟ้า เสมือนหนึ่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวมากมายปรากฎอยู่เหนือศีรษะของเขา
จากนั้น ได้ยินเสียงดัง “แว้งค์” ชุดตัวอ่อนม้าบินเหยียบดาวที่สวมอยู่บนตัวของจอมเทพท่าซิงพลันพวยพุ่งประกายสีแสดที่ไม่มีสิ้นสุดออกมา เสมือนหนึ่งเป็นปีกคู่ที่ศักดิ์สิทธิ์ได้กางออก
ในเวลานี้เอง สัญลักษณ์ม้าบินเหยียบดาวกลับกลายเป็นชัดเจนยิ่ง บทคัมภีร์บทนี้ก็ได้ถูกขยายความจนสมบูรณ์ไร้ที่ติ พลังสัจธรรมตลบอบอวลไม่จางหาย เป็นที่น่าเกรงขามไม่มีสิ้นสุด
“แว้งค์…” ธนูดาวถูกทาบลงบนคันธนูและน้าวสายเต็มที่ ในเวลานี้เอง ได้ยินเสียงดัง “แว้งค์ แว้งค์ แว้งค์” เสมือนหนึ่งมีทางช้างเผือกเป็นหมื่นเป็นพันสายที่มารวมอยู่บนธนูดอกนี้ ทำให้ทุกคนบังเกิดมโนภาพขึ้นมา ไม่มีผู้ใดสงสัยว่าธนูดอกนี้ที่จะยิงออกไปนี้สามารถยิงทะลุผ่านโลกทั้งโลกได้หรือไม่!
“ปุ…” หลังจากที่ลูกธนูได้พุ่งตัวออกไปแล้วจึงมีเสียงตามมา เสี้ยววินาทีที่ธนูดอกนี้ถูกยิงออกไปนั้น ประกายของธนูเจิดจ้ายิ่งนัก พลันส่องสว่างไปทั่วทั้งจักรวาล ประกายของลูกธนูที่ยิงออกไปนี้ละลานตายิ่งกว่าดวงตะวันระเบิดพร้อมกันเป็นหมื่นดวงเสียอีก จังหวะที่ยิงออกไปนั้น ผู้คนจำนวนมากไม่สามารถจ้องมองตรง ๆ เหมือนหนึ่งดวงตาทั้งสองถูกทำให้บอดไปกับประกายที่แวบเข้ามา
ธนูดอกนี้ที่ถูกยิงออกไป แม้แต่จอมเทพระดับล่างที่ชมการต่อสู้อยู่ถึงกับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป และพึมพำออกมาว่า “ธนูดอกนี้แม้ว่าจะเทียบกับราชันเซียนตี้อิเจี้ยนไม่ได้ แต่ธนูดอกนี้สามารถสังหารจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สามถึงสี่ดวงได้อย่างแน่นอน!”
เสียง “ตูม…” ดังสนั่น หนึ่งธนูยิงทะลุผ่านแผ่นฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวล้านล้านผืน พุ่งเข้าเจาะคอหอยของจอมเทพเสินกงในบัดดล แม้ว่าธนูดอกนี้เหมือนดั่งได้รวมเอาทางช้างเผือกสิบล้านสายเอาไว้ แต่กลับมีขาดเท่านิ้วมือ หัวธนูที่แหลมคมยากจะหาใดเทียม สามารถยิงทะลุผ่านทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกได้โดยพลัน
“ตึง…” ขณะที่ลูกธนูพุ่งเข้าใส่จอมเทพเสินกงได้ลงมือแล้ว ดาบในมือฟันฉับออกไปง่ายๆ ตรงๆ สะอาดหมดจด ไร้ซึ่งความกังวลใดๆ ฟันธนูหักภายใต้หนึ่งดาบ
พริบตาเดียวที่ดาบนั้นฟันลงมาไม่ได้มีท่าทีที่สะเทือนฟ้า ไม่ได้มีพลังดาบที่ปราศจากผู้ต่อกร และไม่มีกลิ่นอายการฆ่าที่ทำให้ศัตรูต้องหวาดกลัว แค่หนึ่งดาบที่ฟันลงมาเฉยๆ เท่านั้นเอง ง่ายและและแสนธรรมดา แต่ด้วยหนึ่งดาบที่ธรรมดาดาบนี้พลันทำให้ธนูที่ปราศจากผู้ต่อกรของจอมเทพท่าซิงถูกฟันหักเป็นสองท่อน ประกายธนูเสื่อมสลายไปโดยพลัน และสูญสิ้นพลังไป
“ฟ่าวว…” จังหวะชั่วพริบตาเดียวที่จอมเทพเสินกงได้ลงมือฟันธนูจนหักนั้น อาวุธสองเล่มที่อยู่ในตำแหน่งซ้ายขวาบนแผ่นหลังของจอมเทพท่าซิงพลันพุ่งเข้าโจมตีมาถึง
อาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองเล่มพุ่งเข้าหาแบบไขว้กันมาคล้ายดั่งเป็นกรรไกรทอง มันสามารถตัดขาดหยินหยาง ตัดขาดวัฏสงสาร ตัดขาดโลกีย์โลกทั้งใบ ภายใต้การตัดของมันโลกหล้าขาดสบั้น ทุกสิ่งไม่อาจเชื่อมกลับไปได้อีก
จังหวะที่จอมเทพเสินกงฟันธนูดอกนั้นจนขาดสองท่อน กรรไกรเล่มนี้ได้ตัดไปที่บริเวณลำคอของเขา หมายตัดศีรษะของเขาให้ขาด เป็นการตัดที่มาได้รวดเร็วมาก ทำให้ยากที่จะป้องกัน เพียงชั่วพริบตาเดียวก็จะตัดศีรษะของจอมเทพเสินกงจนขาด โดยไม่เปิดโอกาสให้ตอบโต้
ในเสี้ยววินาทีนี้เอง เสียง “ตึง” ดังขึ้น แม้ว่าการตัดของกรรไกรจะรวดเร็วยิ่ง แต่ ดาบของจอมเทพเสินกงไวกว่า ไม่มีใครมองเห็นได้ชัดเจน อาวุธสองเล่มที่ลอบโจมตีเข้ามาก็ถูกปัดออกไป
“ตึง…” ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันมองเห็นได้อย่างชัดเจน หนึ่งดาบของจอมเทพเสินกงได้ฟันไปที่หน้าอกของจอมเทพท่าซิง หนึ่งดาบนั้นก้าวข้ามท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ฟันไปยังบริเวณหน้าอกของจอมเทพท่าซิง โดยท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวไม่ใช่ระยะห่างอีกต่อไป
เริ่มตั้งแต่หนึ่งดาบที่ฟันธนูจนหัก ถึงหนึ่งดาบที่ปัดอาวุธสองเล่มออกไป สุดท้ายหนึ่งดาบที่ฟันฉับไปที่หน้าอกของจอมเทพท่าซิง ทั้งสามดาบล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นมาชั่วพริบตาเดียว ทันใดนั้น เสมือนหนึ่งจอมเทพเสินกงได้ฟันดาบที่อยู่ในมือออกไปทีเดียวสามดาบต่อเนื่องกันไป โดยปราศจากร่องรอย
หนึ่งดาบที่ฟันใส่จอมเทพท่าซิงนั้นไม่ได้มีรกะบวนท่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่มีความลึกซึ้งพิสดารของสัจธรรม เพียงแค่ดาบๆ เดียวเท่านั้น
แค่ดาบนี้ดาบเดียวก็เพียงพอแล้ว หนึ่งดาบถึงตาย ไม่ว่าจะเป็นกระบวนท่าใดๆ การเปลี่ยนแปลงใดๆ ความลึกซึ้งพิสดารของสัจธรรมใดๆ ภายใต้ดาบนี้ดูจะลวดลายเกินไป ไม่สามารถรับมือได้เลย
ความเร็วของจอมเทพท่าซิงนับว่ารวดเร็วมาก ความเร็วของม้าบินเรียกได้ว่าได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในความสุดยอดด้านความเร็ว แต่ภายใต้ดาบนี้จอมเทพท่าซิงก็หลบไม่พ้น แม้แต่จอมเทพระดับล่างก็ไม่สามารถมองเห็นดาบนี้ได้อย่างชัดเจน มันรวดเร็วเหลือเกินจนจอมเทพระดับล่างมองตามไม่ทัน
“ปัง…” หนึ่งดาบปิดฉากลง เห็นดาบที่เปื้อนเลือดสดๆ จนแดงฉาน ได้ยินเสียงแปะ แปะ แปะ เลือดสดๆ ไหลไปตามสันดาปหยดลงพื้นช้าๆ ทุกๆ หยดช่างแดงสดอะไรอย่างนั้น ทุกๆ หยดได้เปล่งจิตวิญญาณออกมา นี่มันคือเลือดของจอมเทพนะเนี่ย
เสื้อเกราะที่สวมอยู่บนตัวของจอมเทพท่าซิงถูกผ่าออกในดาบเดียว ปรากฎร่องรอยอันสยดสยองของดาบเอาไว้บนแผ่นอก ลึกเข้าไปถึงกระดูก ร่างของจอมเทพท่าซิงเกือบถูกผ่าสะพายแล่งเป็นสองท่อน
ในขณะนี้ ทวนวงเดือนสั้นที่อยู่ในมือของจอมเทพท่าซิงได้ต้านรับดาบโค้งของจอมเทพเสินกงเอาไว้ แม้ว่าทวนวงเดือนสั้นเล่มนี้จะต้านรับดาบโค้งเล่มนี้เอาไว้ได้ แต่บนทวนวงเดือนยังปรากฎร่องรอยจากคมดาบบนนั้น
แม้ว่าทวนวงเดือนสั้นที่อยู่ในมือของจอมเทพท่าซิงเล่มนี้จะมีลักษณะไม่สง่างามนัก แต่มันกลับมีกลิ่นอายที่สะเทือนฟ้าออกมาวูบวาบ เมื่อทวนเล่มนี้ปรากฏ เบื้องบนสามารถปราบสวรรค์ เบื้องล่างทำลายอเวจีได้ ทวนวงเดือนสั้นลักษณะเช่นนี้ไร้เทียมทานทั่วหล้า ยากจะหาผู้ใดมาเทียบเทียม
เมื่อผู้คนจำนวนมากได้มองเห็นทวนวงเดือนสั้นเล่มนี้ส่งประกายวูบวาบออกมาถึงกับหนาวสะท้านขึ้นมา เหมือนว่าทวนวงเดือนสั้นเกิดมาเพื่อการฆ่าเท่านั้น ทวนวงเดือนสั้นนี้เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายทำลายล้างโลกา
แม้จะกล่าวว่าทวนวงเดือนสั้นเล่มนี้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างรวกๆ เหมือนว่าเป็นการสร้างขึ้นมาอย่างเร่งรีบเป็นการเฉพาะหน้า แต่ว่า มันกลับสืบทอดและเปี่ยมด้วยอานุภาพราชันเซียนที่สามารถสยบเหล่าชั้นฟ้า มันได้สืบทอดปณิธานสูงสุดของจอมราชัน ภายใต้ปณิธานที่สูงสุดนี้ สามารถสังหารสิ้นทุกสิ่งที่อยู่บนโลกนี้!
……………………………………………………………………
นิยายที่คุณน่าจะสนใจ