ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1954 สี่จอมโหดไกลกันดาร
- Home
- ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
- ตอนที่ 1954 สี่จอมโหดไกลกันดาร
“แว้งค์…” เสียงหนึ่งดังขึ้น พริบตาเดียวกันนี้บนพื้นที่ของไกลกันดารล้วนแล้วแต่ปรากฎบทคัมภีร์มรณะลอยขึ้นมา เส้นรุ้งเส้นแวงแต่ละเส้นถักทอสวนกันไปมา ปาฏิหาริย์และลี้ลับมหัศจรรย์อย่างยิ่ง กลิ่นอายมรณะตลบอบอวลไปทั่วฟ้าดินโดยฉับพลัน
นาทีนี้ไกลกันดารเหมือนหนึ่งถูกทำให้กลับกลายเป็นพื้นที่แห่งความตายไปแล้วอย่างนั้น กลิ่นอายมรณะปกคลุมไปทุกพื้นที่
เรียกได้ว่าในเวลานี้กลิ่นอายมรณะที่หลี่ชิเย่มีไว้ในครอบครองใช้คำว่าปริมาณมหาศาลก็ยังไม่สามารถเปรียบเปรยได้ เขาได้ครอบครองกลิ่นอายมรณะมากมายเหลือเกิน พูดได้เต็มปากว่า กลิ่นอายมรณะที่เขามีอยู่นั้นสามารถปกคลุมไปทั่วทั้งโลกา อีกทั้งความแข็งแกร่งของกลิ่นอายมรณะของเขานั้น เพียงพอที่จะสนับสนุนทุกสิ่งทุกอย่างที่ตายไปแล้วให้กลับมาถือกำเนิดใหม่บนโลกมนุษย์ ต่อให้สิ่งที่ตายไปแล้วนั้นแข็งแกร่งเพียงใด กลิ่นอายมรณะของหลี่ชิเย่ก็สามารถให้การสนับสนุนได้
“ตูม ตูม ตูม” ในขณะนี้ ทั่วทั้งไกลกันดารสั่นไหวโคลงเคลงไปมาทีหนึ่ง ใต้พื้นดินปรากฏเสียงดังซ่าาา ซ่าาาดังขึ้น บนพื้นดินทั่วไกลกันดารมีการปูดขึ้นมาเป็นระยะๆ เหมือนว่ามีสิ่งที่ตายไปแล้วจำนวนนับไม่ถ้วนต้องการคลานออกมาจากใต้พื้นดินอย่างนั้น
การที่สิ่งที่ได้ตายไปแล้วจำนวนนับไม่ถ้วนพลันเหมือนว่าต้องการคลานขึ้นมาจากใต้พื้นดินก็เพราะได้รับผลกระทบจากกลิ่นอายมรณะของหลี่ชิเย่ เพียงแต่บรรดาสิ่งที่ตายไปแล้วเหล่านี้หากไม่ได้รับการเรียกหาจากหลี่ชิเย่แล้ว พวกมันก็ขึ้นมาไม่ได้
“ซ่าาา…” ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ปรากฏมีสิ่งที่คลานออกมาจากใต้พื้นดิน ทั้งยังเป็นการคลานออกมาจากเหนือ ใต้ ออก ตกทั้งสี่ทิศ
ทางด้านทิศใต้ปรากฏหมูน้อยตัวหนึ่งคลานออกมา เจ้าหมูน้อยตัวนี้มีขนาดไม่ได้ใหญ่โตนัก ดูไปแล้วมีขนาดเท่ากะละมัง อีกทั้งเจ้าหมูน้อยตัวนี้ยังมีสีชมพูทั่วทั้งตัว มีลายจุดเป็นแต้มๆ ขนาดเล็กบนตัว หมูน้อยตัวนี้มีใบหูที่ใหญ่มากดั่งหูช้างทั้งใหญ่ทั้งหนาส่งประกายแววบวับ ด้วยใบหูเช่นนี้เกือบจะบังตัวของมันไปได้ครึ่งค่อนตัว อีกทั้งบนหัวของหมูน้อยตัวนี้ยังมีเขางอกขึ้นมาเขาหนึ่ง โดยเขาเดี่ยวเขานี้เปล่งประกายที่เจิดจ้าออกมา และรัศมีที่บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์
หมูน้อยลักษณะเช่นนี้ดูไปแล้วไม่มีความดุร้ายแม้แต่น้อย กระทั่งดูน่ารักยิ่งนัก
ด้านทิศตะวันตกปรากฏเป็นตั๊กแตนตำข้าวตัวหนึ่ง ที่ถูกต้องควรจะพูดว่ามันคือสิ่งมีชีวิตที่มีส่วนคล้ายตั๊กแตนตำข้าว โดยแขน ขา ร่างกายทุกส่วนของสิ่งมีชีวิตตัวนี้ล้วนแล้วแต่แยกออกจากกัน สามารถมองเห็นได้ว่าร่างกายอวัยวะทุกส่วนของมันล้วนแล้วแต่ไม่ได้เชื่อมติดกัน เหมือนลอยอยู่กลางอากาศอย่างนั้น แต่มันกลับกลายเป็นร่างเดียวกันในลักษณะเช่นนี้แหละ เหมือนว่าช่องว่างของอากาศก็คือส่วนที่เชื่อมต่อร่างกายของมันเข้าด้วยกัน แลดูเหมือนหุ่นกระบอกที่ถูกแยกส่วนอย่างนั้น
ทิศเหนือปรากฏวัวออกมาตัวหนึ่ง วัวตัวนี้มีรูปร่างสูงใหญ่และร่างกายบึกบึนมาก แต่ทว่า ยามที่เจ้าวัวตัวนี้โผล่ออกมาจากใต้พื้นดินนั้น ปรากฏเสียงดังซ่าาา ซ่าาา ซ่าาา เนื่องจากร่างกายของมันเหมือนประกอบและก่อขึ้นมาจากทราย และมีเศษทรายที่ร่วงหล่นออกจากตัวอยู่เสมอๆ
สิ่งที่ตายไปแล้วตัวสุดท้ายโผล่ขึ้นมาจากทางทิศตะวันออก ได้ยินเสียงดัง “ปุ” เห็นใต้พื้นดินปรากฏหนอนตัวเล็กๆ ออกมาตัวหนึ่ง มันมีขนาดเท่าฝ่ามือและมีสีเขียวทั้งตัว อีกทั้งยังมีรูปร่างอ้วนตุ๊ต๊ะ บนตัวของมันปรากฏเป็นกระเปาะเนื้อเป็นปล้องๆ เพียงได้เห็นก็รู้สึกได้ว่ามันเหมือนเป็นหนอนบุ้งที่อ้วนเกินไป
กลิ่นอายมารณะของหลี่ชิเย่ทรงพลังมากเหลือเกิน พลันที่เรียกสิ่งที่ตายไปแล้วให้ปรากฏตัวออกมา พวกมันไม่ได้ปรากฎในรูปของโครงกระดูก แต่เป็นรูปลักษณ์โดยตรงก่อนที่พวกมันจะเสียชีวิต
เมื่อสิ่งที่ตายไปแล้วทั้งสี่ถูกเรียกหาโดยหลี่ชิเย่ มันได้วิ่งไปปรากฏอยู่ด้านหน้าของหลี่ชิเย่ และยืนประจันหน้ากับพวกราชันมารเซ่าเจี้ยนที่เป็นจอมราชันเซียนหวังทั้งสี่องค์
“ให้พวกมันได้อุ่นเครื่องกับพวกเจ้าเสียก่อนก็แล้วกัน หากแม้นไม่สามารถผ่านด่านพวกมันได้ นับว่าไม่สมควรให้ข้าต้องลงมือด้วยตนเองแล้ว” หลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่ตรงนั้น กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทุกคนต่างรู้สึกงงงัน มองดูสิ่งที่คลานออกมาจากใต้ดินทั้งสี่ตัว เป็นแมลงสองตัว หมูน้อยหนึ่ง และวัวอีกหนึ่ง ถึงกับหาญกล้าต่อกรกับจอมราชันเซียนหวังทั้งสี่ มันเหลือเชื่อจริงๆ
สัตว์ประหลาดทั้งสี่เว้นแต่วัวตัวนั้นที่ดูจะแข็งแรงมากแล้ว ที่เหลืออีกสามตัวเกรงว่าจอมราชันเซียนหวังแค่ยกเท้าก็สามารถเหยียบพวกมันทั้งหมดให้ตายได้แล้ว
แต่ทว่า พวกราชันมารเซ่าเจี้ยนที่เป็นจอมราชันเซียนหวังคิดต่างกัน แม้จะเป็นเพียงแมลงสองตัว หมูน้อยตัวหนึ่ง และวัวหนึ่งตัว ถึงจะไม่ได้แผ่กลิ่นอายที่สะเทือนฟ้าออกมา แต่ว่าในฐานะจอมราชัน สัญชาตญาณบอกพวกเขาว่า สิ่งที่ตายไปแล้วทั้งสี่มีความสยองขวัญยิ่งนัก มีความน่ากลัวยิ่งนัก
เพียงแต่ ต่อให้พวกของราชันมารเซ่าเจี้ยนที่มีประสบการณ์ขนาดนี้ ก็ไม่เคยพบเห็นสิ่งที่ตายไปแล้วทั้งสี่ตัวนี้มาก่อน และไม่รู้ว่าทั้งสี่ตัวมีประวัติความเป็นมาเช่นใด
“สหาย นี่เป็นสิ่งใด?” ราชันมารเซ่าเจี้ยนจ้องเขม็งไปที่สิ่งที่ตายไปแล้วทั้งสี่โดยไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย แม้ว่าพวกเขาคือศัตรูคู่อาฆาต แต่ราชันมารเซ่าเจี้ยนยังคงไว้ซึ่งท่วงท่าที่สง่างามของจอมราชัน คำพูดคำจาดูงดงาม!
“ทั้งสี่ตัวนี้มีชื่อว่าสี่จอมโหด เคยอาละวาดอยู่ในยุคสมัยหนึ่ง” หลี่ชิเย่อมยิ้มและเอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “ทั้งสี่จอมโหดนี้เป็นผู้ควบคุมพลังทั้งสี่ทิศ”
ศัตรูมีท่วงท่าที่สง่างาม หลี่ชิเย่ก็มีท่วงท่าที่สง่างามเช่นกัน ศัตรูยโส เขายโสยิ่งกว่า ศัตรูไร้เหตุผลเขาก็จะไร้เหตุผลยิ่งกว่า นี่แหละคือหลี่ชิเย่
“เจ้าหมูน้อยตัวนี้อาศัยอยู่ทางทิศใต้ มีชื่อว่าหมูเขาเดี่ยว เป็นผู้ควบคุมพลัง ตั๊กแตนตำข้าวตัวนี้อาศัยอยู่ทิศตะวันตก มีชื่อว่าตั๊กแตนช่องว่าง ควบคุมช่องว่าง วัวตัวนี้อาศัยอยู่ด้านทิศเหนือ มีชื่อว่าวัวทราย ควบคุมด้านความศรัทธา” ท่าทางของหลี่ชิเย่ดูมีบุคลิกที่สง่างามไม่ธรรมดา ทำการแนะนำแต่ละตัวให้กับพวกราชันมารเซ่าเจี้ยนทั้งสี่คน สุดท้าย เมื่อแนะนำถึงหนอนบุ้งตัวนั้นแล้ว ได้กล่าวว่า “เจ้าหนอนตัวนี้อาศัยอยู่ทิศตะวันออก มีชื่อว่าพยาธิตัวตืดหมู (ในสมอง) ทำหน้าที่ควบคุมกาลเวลา มันคือหัวหน้าของสี่จอมโหด กำลังความสามารถของมันอยู่เหนือทั้งสามตัวนั่น…”
“…ทั้งสี่สิ่งถูกยกย่องให้เป็นสี่จอมโหดไกลกันดาร ความแข็งแกร่งของพวกมันไม่ด้อยไปกว่าจอมราชันเซียนหวังอยู่แล้ว” หลี่ชิเย่พูดเจื้อยแจ้วออกมาเช่นนี้ คนที่ไม่รู้ความยังเข้าใจว่าพวกเขาคือสหายเก่า ไม่ได้เหมือนศัตรูคู่อาฆาตสักนิด
แน่นอนที่สุด จอมราชันเซียนหวังมีท่วงท่าที่สง่างามของจอมราชันเซียนหวัง หลี่ชิเย่เองก็มีท่วงท่างดงามที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองของเขา จะอย่างไรเสียจอมราชันเซียนหวังคือผู้ที่ผ่านอุปสรรคมามากมาย เฉกเช่นราชันสวรรค์ขวางเส้าที่เป็นจอมราชันที่มีความรู้ตื้นเขินและอวดดีถือเป็นส่วนน้อย ในโลกนี้คงมีราชันสวรรค์ที่แปลกประหลาดเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
ผู้ที่ดูไม่ออกไม่สามารถเข้าใจได้ถึงความแข็งแกร่งของสิ่งที่ตายไปแล้วทั้งสี่ตัวนี้ได้อยู่แล้ว เมื่อได้ฟังคำแนะนำจากหลี่ชิเย่ เช่นพยาธิตัวตืด ตั๊กแตนตำข้าวช่องว่างที่เป็นแมลงตัวน้อยๆ เรียกว่าแค่ยกเท้าก็สามารถขยี้จนตายได้อยู่แล้ว สำหรับหมูเขาเดียวนั้น ดูไปแล้วแค่สัตว์เลี้ยงที่น่ารักมากตัวหนึ่งเท่านั้น ส่วนวัวทราย แม้ดูบึกบึนแข็งแรง แต่ เกรงว่าแค่แตะเบาๆ ก็ถล่มลงมาแล้ว
ในสายตาของผู้คนจำนวนมากมองว่า นี่มันเหมือนสี่จอมโหดอะไรตรงไหน เหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงตัวน้อยๆ สี่ตัวมากกว่า
แต่ว่าราชันมารเซ่าเจี้ยนที่เป็นจอมราชันเซียนหวังทั้งสี่ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย ความจริงแล้ว จอมเทพมังกรหลวงเองก็ไม่กล้าประมาทเช่นกัน
เมื่อก้าวมาถึงระดับเช่นพวกเขาแล้วสามารถแยกแยะความแข็งแกร่งหรืออ่อนด้อยได้ ต่อให้ไม่สามารถประเมินรายละเอียดกำลังความสามารถที่แท้จริงของคู่ต่อสู้ได้ แต่สามารถประมาณการได้ในระดับหนึ่ง
“ข้ารับมือเอง” ทันใดนั้น ราชันมารเซ่าเจี้ยนได้เลือกคู่ต่อสู้ของตนแล้ว เขาเลือกต่อสู้ชี้ขาดกับหนอนบุ้งที่เป็นหัวหน้าสี่จอมโหด
ส่วนจอมราชันเซียนหวังอีกสามองค์ต่างมองตากันและกัน แล้วทยอยกันอาศัยความได้เปรียบของตนเลือกผู้ที่เป็นคู่ต่อสู้ของตนจากสี่จอมโหดนั่น
ในขณะนี้ สี่จอมโหดไกลกันดารได้ขวางจอมราชันเซียนหวังทั้งสี่ทำการอารักขาหลี่ชิเย่ เอาไว้ เหมือนดั่งที่หลี่ชิเย่ได้พูดเอาไว้ หากพวกของราชันมารเซ่าเจี้ยนเอาชนะสี่จอมโหดไกลกันดารไม่ได้ อย่าหวังจะได้สู้กับหลี่ชิเย่
“ยึด…” นาทีนี้ เซียนหวังที่เป็นหนึ่งในกองกำลังนกหวีดน้อยได้ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง เสียง “ตูม” ดังสนั่น ได้ยินเสียงดัง “ตึง ตึง ตึง” ดังขึ้น ปรากฏชุดเกราะสวมอยู่บนร่างกายของเขา ตัวเขาพลันกลายเป็นผู้มีรูปร่างสูงใหญ่ยากจะหาผู้ใดเปรียบ เสมือนดั่งภูเขาทองคำเสาหยก
คู่ต่อสู้ชี้ขาดของเซียนหวังผู้นี้คือตั๊กแตนช่องว่าง ดังนั้น พลันที่เขาก้าวเท้าออกไปก็ทำการยึดครองช่องว่าง
“แว้งค์ แว้งค์ แว้งค์” เสียงสั่นสะเทือนดังกระเพื่อม จังหวะที่เซียนหวังผู้นี้เพิ่งจะทำการยึดครองช่องว่างเอาไว้ ช่องว่างนั้นพลันแยกออกและกลายเป็นพายุ และพายุที่น่ากลัวได้กลายเป็นมิติที่ไม่มีขอบเขตสิ้นสุด ช่องว่างนั้นเหมือนทับซ้อนกันโดยไม่มีสิ้นสุดโดยพลันอย่างนั้น
ได้ยินเสียงดัง “ปุ” เสี้ยววินาทีนี้เอง เซียนหวังผู้นี้และตั๊กแตนตำข้าวช่องว่างได้หายตัวไปพร้อมกัน ภายใต้การประลองกำลังของทั้งสองฝ่าย ทั้งหมดถูกเนรเทศไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของมิติๆ หนึ่ง ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาถูกเนรเทศไปยังมิติใด
“ลุย…” จอมราชันที่ต่อสู้ชี้ขาดกับหมูเขาเดียวได้คำรามเสียงยาวออกมา พลันยื่นมือออกไปคว้าเอาดวงดาวมาเป็นโล่ พร้อมกับหอบเอาพลังที่สุดยอดปราศจากผู้เทียบเทียมลุยเข้าพุ่งชนต่อหมูเขาเดียวอย่างรุนแรง
การพุ่งชนของจอมราชันเช่นนี้สามารถชนทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกจนแหลกละเอียด เกรงว่าต่อให้เป็นกำแพงศักดิ์สิทธิ์ที่ยอดเยี่ยมกว่านี้ ภายใต้การพุ่งชนในลักษณะนี้จากจอมราชัน ก็ต้องถูกชนจนแหลกละเอียดไปโดยพลัน
แต่ทว่า เมื่อหมูเขาเดียวที่ต้องเผชิญกับการพุ่งเข้าชนของจอมราชัน มันเพียงอาศัยเขาเดี่ยวของมันชนสะกิดเบาๆ “ปัง” เขาเดี่ยวของมันได้ชนเข้ากับโล่ดวงดาวทันที
“ปัง ปัง ปัง” เสียงสิ่งของแตกละเอียดดังขึ้น จอมราชันผู้นี้ถูกหมูเขาเดี่ยวชนจนร่างของเขาปลิวละลิ่วไปชนกับภูเขาหลายลูกพังเป็นแถบๆ
ทุกคนที่มองเห็นภาพนี้ต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ ถึงกับหวาดกลัวจนขนลุกซู่ นี่คือจอมราชันที่มีชะตาฟ้าสามสายนะเนี่ย ถึงกับถูกหมูน้อยตัวหนึ่งชนจนกระเด็น มันเหลือเชื่อเลยจริงๆ ไม่รู้ว่าได้ทำให้ผู้คนจำนวนเท่าไรที่อ้าปากตาค้าง
“ปัง” แต่ว่า นาทีต่อมาจอมราชันผู้นี้ได้พุ่งตัวออกมาจากกองเศษหินนั่น เขายังคงปลอดภัยดี จอมราชันย่อมเป็นจอมราชัน ร่างกายแข็งแกร่งดั่งโลหะ ต่อให้ชนภูเขาจนแหลกละเอียดไปหลายลูก ร่างกายของเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรสักเท่าไร
“เฟี้ยวว” ในเสี้ยววินาทีนี้เอง หมูเขาเดี่ยวก็ได้พุ่งตัวมาอยู่ตรงหน้าจอมราชันผู้นี้แล้ว มันไม่ได้มีท่วงท่ามากมาย เพียงอาศัยเขาเดี่ยวที่มีอยู่พุ่งใส่จอมราชันเท่านั้นเอง
หมูเขาเดี่ยวเป็นผู้ควบคุมพลัง ต่อให้เป็นการชนด้วยเขาของมันเบาๆ ก็สามารถจมพื้นพสุธาได้ พลังของมันยากจะจินตนาการได้ และไม่สามารถบรรยายด้วยปากกาและหมึกได้
“เปิด…” จอมราชันผู้นี้คำรามเสียงดังออกมา เมื่อเผชิญกับการพุ่งชนของหมูเขาเดี่ยวตัวนี้ อาศัยชะตาฟ้าสามสายให้กลับกลายเป็นกำแพงศักดิ์สิทธิ์โดยตรง พริบตาเดียวนั้นเอง กำแพงศักดิ์สิทธิ์ได้ก้าวข้ามมิติ ตัดขาดทุกสิ่งทุกอย่าง แยกพลังทั้งหมดออกจากกัน
พลังจากชะตาฟ้าสามสายน่าเกรงขามและไม่มีสิ้นสุด ป้อนต่อเนื่องไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดก็ตาม กล่าวสำหรับจอมราชันเซียนหวังแล้ว ชะตาฟ้าเสมือนดั่งต้นกำเนิดของสายน้ำที่ไม่มีสิ้นสุด สามารถให้การสนับสนุนพลังต่อจอมราชันเซียนหวังทุกที่ทุกเวลา
เสียง “ปัง…” ดังสนั่น หมูเขาเดี่ยวได้ชนเข้ากับกำแพงศักดิ์สิทธิ์ที่แปลงมาจากชะตาฟ้า แต่ว่า แม้จะอาศัยพลังจากชะตาฟ้าสามสาย จอมราชันผู้นี้ยังคงตึง ตึง ตึงถอยหลังติดต่อกันหลายก้าว และชะตาฟ้าสามสายจึงต้านรับกับการพุ่งชนของหมูเขาเดี่ยว ยอมสามารถนึกภาพได้ว่าพลังของหมูเขาเดี่ยวทรงพลังเช่นใด
แน่นอน สิ่งนี้ก็เป็นการบ่งบอกว่าชะตาฟ้ามีความแข็งแกร่งเพียงพอ ก่อนหน้านั้นแค่ชนทีเดียวทำให้โล่ที่แปลงจากดวงดาวแหลกละเอียดไป เวลานี้ชะตาฟ้ายังคงปลอดภัย ย่อมกล่าวได้ว่า สำหรับจอมราชันเซียนหวังแล้ว ไม่มีสิ่งใดแข็งแกร่งมากไปกว่าชะตาฟ้าอีกแล้ว
“ฆ่า…” จอมราชันผู้นี้คำรามเสียงดัง อาศัยชะตาฟ้าเป็นกำแพงศักดิ์สิทธิ์ พึ่งพาสัจธรรมจอมราชันเป็นตัววิวัฒนาการเป็นพลังมหาศาลที่น่าเกรงขามโดยพลัน เสมือนดั่งเป็นสุดยอดสิ่งมีชีวิตสูงสุด อาศัยมือข้างเดียวผ่าหมื่นแดนให้แยกออก มือกลายเป็นขวานศักดิ์สิทธิ์ฟันลงไปอย่างแรง
“อู๊ด” หมูเขาเดี่ยวร้องเสียงดังขึ้นมา กระโดดตัวลอยและพุ่งเข้าหาขวานศักดิ์สิทธิ์ที่ฟันลงมา ในขณะนี้ หมูเขาเดี่ยวได้สู้รบพันตูกับจอมราชันผู้นี้บนท้องฟ้าจนแยกกันไม่ออก