ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1974 ราชันเซียนฉานหลง
- Home
- ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
- ตอนที่ 1974 ราชันเซียนฉานหลง
“สมควรจบสิ้นลงได้แล้ว” นาทีนี้เอง ร่างอดีตของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยคำรามเสียงยาวออกมาคำหนึ่ง เสียงตูมดังสนั่นเกิดขึ้น ความมืดทั้งหมดเสมือนดั่งเป็นคลื่นทะเลที่บ้าคลั่งซัดเข้าหาและกัดกร่อนสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของพวกหลี่ชิเย่
เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น นาทีนี้เรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้เกิดขึ้นมาแล้ว ความมืดเข้มข้นที่ปกคลุมอยู่บนสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ถึงกับเสมือนหนึ่งได้ประทับสลักลงไปบนสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่อย่างนั้น
ในเวลานี้ความมืดเข้มข้นที่ได้ประทับสลักลงบนสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่กลับทำการฉีกขาดสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่นั้นอย่างบ้าคลั่ง อีกทั้งจากการที่ร่างอดีตของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยได้รุกด้วยพลังที่สุดแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียมอย่างหนัก มองเห็นคลื่นความมืดที่เข้ากระแทกต่อสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่อย่างรุนแรง
ขณะที่คลื่นความมืดที่ยกตัวขึ้นสูงมากๆ แล้วฟาดลงมาอย่างแรง ความแรงนั้นสามารถฟาดกระหน่ำจนชิงโจวแหลกละเอียดได้ในทันที แม้แต่จอมราชันเซียนหวังระดับสูงเกรงว่าก็คงร่างแหลกเหลวภายใต้คลื่นความมืดที่น่าสยดสยองเช่นนี้!
ภายใต้คลื่นความมืดที่สยองขวัญปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นนี้ สามารถกลืนกินทุกอย่างโดยพลัน ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ถูกบดขยี้ทำลาย
เสียงปัง ปัง ปังที่ดังสนั่น ขณะที่คลื่นความมืดฟาดเข้าใส่สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่อย่างบ้าคลั่งอยู่นั้น โลกทั้งโลกล้วนแล้วแต่โคลงเคลงไปมา ด้วยพลังลักษณะเช่นนี้ที่ฟาดลงมา ต่อให้โลกทั้งโลกก็ต้องแหลกละเอียด แม้แต่บรรดาจอมราชันเซียนหวังที่มองเห็นการรุกเข้าโจมตีอย่างรุนแรงของคลื่นความมืดแล้ว ต่างรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นกระตุกทีหนึ่ง
ในขณะนี้ ร่างอดีตของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยก็ต้องการให้การต่อสู้สิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุด รีบๆ ทำลายสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่นี่เสีย เขาก็สามารถปลีกตัวออกไปช่วยเหลือร่างปัจจุบันที่อยู่บนสายน้ำแห่งกาลเวลาได้อีกแรงหนึ่ง
ในเวลานี้ ร่างปัจจุบันของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยที่อยู่ท่ามกลางสายน้ำแห่งกาลเวลาเห็นได้ชัดว่าสู้หลี่ชิเย่กับนักปราชญ์ไม่ได้ ความมืดของเขาถูกเผาไหม้ไปมากขึ้นๆ ทุกที ความสว่างได้เปรียบอย่างเด็ดขาด หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ความมืดของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยต้องถูกทำลายจนหมดสิ้นแน่นอน สุดท้ายก็จะถูกนักปราชญ์ตัดต้นกำเนิดทิ้งไป
คร๊ากก คร๊ากก คร๊ากก…ภายใต้ช่องโหว่ที่ไม่สมดุลของสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ เมื่อบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยทำการโจมตีอย่างหนัก ในขณะนี้สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่เริ่มยืนหยัดต่อไปไม่ไหวขึ้นมาบ้างแล้วในที่สุด จากเสียงแตกร้าวดังขึ้นเป็นระลอก ประกายที่ดั่งคริสตัลหลากสีของสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ได้ปรากฎริ้วเล็กๆ แต่ละริ้วขึ้นมา แม้ว่าคลื่นความมืดยังไม่สามารถรุกล้ำเข้าไปภายในสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่นั้นได้ แต่ว่า หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่นี้จะแตกละเอียดไปทั้งหมด
ร่างกายของหลี่ชิเย่และจอมราชันเซียนหวังทั้งสิบเจ็ดองค์ล้วนแล้วแต่โคลงเคลงไปมาเมื่อถูกโจมตีอย่างหนักเช่นนี้ เสียงปัง ปัง ปังดังขึ้น พวกเขาได้รับบาดเจ็บไม่เบาทีเดียว มองเห็นเลือดที่ไหลออกมาทางมุมปาก
“แย่แล้ว” จอมราชันเซียนหวังถึงกับรู้สึกเย็นวาบในใจเมื่อได้มองเห็นภาพนี้ กล่าวด้วยความกังวลว่า “หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ต้องล่มสลายแน่ เมื่อถึงตอนนั้นแล้วยากที่จะฟื้นคืนได้อีกต่อไป”
ในระหว่างความเป็นความตาย บรรดาจอมราชันเซียนหวังที่สามารถมองเห็นภาพนี้ด้วยตนเอง ต่างมองตากันและกัน แม้จะมีจอมราชันเซียนหวังที่มีใจอยากจะช่วยเหลือ แต่กลับไม่มีความสามารถเช่นนั้น เนื่องจากสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของพวกหลี่ชิเย่ คิดจะกลับมาสมดุลอีกครั้ง จำเป็นต้องมีจอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าตั้งแต่สิบสายขึ้นไปลงมือเข้าช่วย ทั่วทั้งชิงโจว จอมราชันเซียนหวังที่มีกำลังความสามารถเช่นนี้เรียกได้ว่านับนิ้วได้เลย
ในเวลานี้ เหตุการณ์คับขัน บรรดาจอมราชันเซียนหวังที่ดูชมการต่อสู้ต่างรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา หากว่าบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยเป็นฝ่ายชนะขึ้นมาจริงๆ รับรองได้ว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
เสียงตูมดังสนั่น พริบตาเดียวนี่เอง เส้นทางจอมราชันที่น่าเกรงขามและดึกดำบรรพ์สายหนึ่งพาดผ่านเข้ามา จากบริเวณเส้นขอบฟ้าที่ห่างไกลพลันก้าวข้ามไกลกันดาร มุ่งหน้าตรงไปยังส่วนที่ลึกเข้าไปในไกลกันดาร
“ท่านปรมาจารย์ ฉานหลงมาสายแล้ว” เสียงคำรามเสียงยาวดังก้องไม่หยุด เสมือนดังเสียงคำรามของมังกรแท้จริง มองเห็นเป็นบุรุษผู้หนึ่งที่ก้าวเดินอยู่บนเส้นทางจอมราชันเข้ามา เพียงพริบตาเดียวก็ก้าวเข้าไปยังไกลกันดาร เปิดปากพูดออกมาว่า “ท่านปรมาจารย์ ให้ฉานหลงช่วยท่านอีกแรงหนึ่ง”
บุรุษที่ก้าวเดินบนเส้นทางของจอมราชันผู้นี้ดูอายุน้อยมาก กระทั่งเหมือนแค่ยี่สิบต้นๆ เท่านั้นเอง เขามีท่าทีที่หนักแน่นและมีความรู้เกี่ยวกับอดีต เสมือนหนึ่งเป็นมนุษย์สมัยโบราณที่ก้าวเดินออกมาจากภาพวาด สวมหมวกและชุดโบราณ กอดกระบี่ไว้กับอก บุคลิกดูง่ายๆ สบายๆ ไม่มีผู้ใดเทียม แต่ก็เปี่ยมด้วยกลิ่นอายของความโบราณ
“ราชันเซียนฉานหลง” มีจอมราชันเซียนหวังที่สามารถจดจำประวัติความเป็นมาของบุรุษที่มาถึงผู้นี้ได้ กล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “ราชันเซียนของเก้าแดนมาแล้ว และเป็นราชันเซียนจากเก้าแดนที่สืบทอดชะตาฟ้าแปดสาย!”
“ราชันเซียนฉานหลง” แม้ว่ายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ด้านนอกไม่สามารถมองเห็นการสู้รบที่สะเทือนฟ้าด้านในได้อย่างชัดเจน อดที่จะร้องเสียงแหลมออกมาไม่ได้ เมื่อมองเห็นการมาด้วยตนเองของราชันเซียนองค์นี้
“ปฐมบรรพบุรุษของหลงเฉิน ราชันเซียนฉานหลงมาแล้ว!” พวกอู่ฟ่งหยิ่ง อู่ชีต่างรู้สึกสะเทือนหวั่นไหวยิ่งนัก เมื่อมองเห็นการมาของราชันเซียนฉานหลง ก้มกราบและไม่อาจลุกขึ้นมาเป็นเวลานาน
ราชันเซียนฉานหลงคือปฐมบรรพบุรุษของหลงเฉิน เขาคือราชันเซียนองค์ที่สองของพรรคเซียนเหินแห่งเก้าแดน กำลังความสามารถของเขานั้นแข็งแกร่งมาก เป็นจอมราชันเซียนหวังที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดคนหนึ่ง
นับตั้งแต่ราชันเซียนว่านกุผู้ซึ่งคิดค้นวิธีการที่ทำให้นอกจากสืบทอดชะตาฟ้าจากเก้าแดนแล้ว ยังสามารถสืบทอดชะตาฟ้าในแดนที่สิบได้แล้ว ราชันเซียนฉานหลงคือจอมราชันเซียนหวังองค์ที่สองที่สามารถสืบทอดชะตาฟ้าในแดนที่สิบได้ ขณะเดียวกัน เขาก็เหมือนดั่งราชันเซียนว่านกุที่สามารถสืบทอดชะตาฟ้าในแดนสิบได้ถึงแปดสายเช่นกัน
กล่าวได้ว่า การที่ราชันเซียนฉานหลงได้รับการยกย่องว่าเป็นจอมราชันที่ยืนอยู่จุดสูงสุด หลังจากที่ได้สืบทอดชะตาฟ้าในเก้าแดนแล้ว ได้มาสืบทอดชะตาฟ้าในแดนสิบอีกแปดสาย นับว่าไม่เกินเลยแม้แต่น้อย
เสียงแช้งค์ดังขึ้น ราชันเซียนฉานหลงที่ย่างก้าวเข้าไปในไกลกันดาร หนึ่งกระบี่ที่แหวกอากาศ หนึ่งกระบี่ผงาดฟ้ามาถึง ผ่านิรันดร์กาลให้แยกออก บุกเบิกเส้นทางสายหนึ่งขึ้นมาท่ามกลางความมืดที่ดั่งคลื่นยักษ์นั่น
หนึ่งกระบี่ของราชันเซียนฉานหลงผงาดนิรันดร์ อย่าว่าแต่ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนนับล้านล้านคนเลย แม้แต่จอมราชันเซียนหวังอื่นๆ ก็รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง หนึ่งกระบี่ของราชันเซียนฉานหลงนับว่าอันธพาลปราศจากผู้เทียบเทียมเหลือเกิน
หนึ่งกระบี่ของราชันเซียนฉานหลงผงาดนิรันดร์ ทำให้ราชันเซียนฉานหลงก้าวเข้าไปอยู่ภายในบริเวณส่วนที่ลึกเข้าไปภายในไกลกันดาร นาทีนี้เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น ภายในสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของหลี่ชิเย่ปรากฎตำแหน่งว่างที่หนึ่ง ล้อมรอบไปด้วยหลักกฎเกณฑ์จอมราชัน หลักกฎเกณฑ์จอมราชันแต่ละข้อได้หลอมรวมเข้าไปอยู่ภายในสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่นั่น
เสียงปุดังขึ้น เมื่อราชันเซียนฉานหลงได้รับอนุญาตเห็นด้วยจากหลี่ชิเย่แล้ว ได้ฟันความมืดมิดให้แยกออก ก้าวเท้าก้าวเดียวก็เข้าไปอยู่ในวงของสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ เคียงคู่กับจอมราชันเซียนหวังอีกสิบเจ็ดองค์
จากเส้นขอบฟ้าจนก้าวเข้าไปอยู่ท่ามกลางสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่แค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ทุกอย่างเสร็จสิ้นสำเร็จในรวดเดียว รื่นไหลไม่มีติดขัดดั่งเมฆที่ลอยไปและสายน้ำไหล นับว่ามีความสง่างามยิ่งนัก
หลังจากที่ราชันเซียนฉานหลงเข้ามาร่วมแล้ว ฮึด หลี่ชิเย่และจอมราชันเซียนหวังทั้งสิบแปดองค์คำรามออกมาทีหนึ่ง พลันปรากฏอานุภาพที่ประทุขึ้นมา ขณะที่เสียงดังสนั่นตูมขึ้นมา ชะตาฟ้าเก้าสายของราชันเซียนฉานหลงอยู่เหนือศีรษะ พลังที่ปราศจากผู้ต่อกรของราชันเซียนได้หลอมรวมเข้าไปอยู่ภายในสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่
ตูม ตูม ตูม นาทีนี้เมื่อได้ราชันเซียนฉานหลงที่เข้ามาร่วมด้วย สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ที่เดิมไม่สมดุลก็ค่อยๆ ถูกชดเชยด้วยพลังชะตาฟ้าเก้าสายของราชันเซียนฉานหลง จนช่องโหว่ถูกถมเต็มในที่สุด
เสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา สรรพวิชาแตกสลาย ประกายคริสตัลของสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่เจิดจ้าปราศจากสิ่งใดเทียบเทียม ประกายที่พวยพุ่งออกมาไม่เพียงทำให้เก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินสว่างไสวเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ได้ส่องสว่างสายน้ำแห่งกาลเวลาไปด้วย
ภายใต้ประกายคริสตัลที่ไม่สิ้นสุด ความมืดที่ครอบคลุมอยู่ด้านบนสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่พลันถูกทำลาย และเผาไหม้เป็นจุณในชั่วพริบตา เนื่องจากสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่อยู่ในสภาพที่สมดุลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ได้ยินเสียงดังปัง สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ที่วิวัฒนาการขึ้นมาโดยร่างในอดีตของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยก็แตกสลายไปในทันที
เสียงตึง ตึง ตึงแต่ละเสียงดังขึ้น แม้แต่ร่างในอดีตของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยก็ถูกพลังกระแทกจนต้องก้าวถอยหลังติดต่อกันหลายก้าว
“สมควรสิ้นสุดแล้วจริงๆ” หลี่ชิเย่ที่อยู่ท่ามกลางสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ยิ้มเรียบๆ พูดขึ้นมาช้าๆ
ขณะที่ในขณะนี้ การศึกบนสายน้ำแห่งกาลเวลาก็เข้าสู่ช่วงเวลาของการชนะอย่างท่วมท้น เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้นเป็นระลอก ความมืดทั่วทั้งยุคสมัยถูกเผาผลาญจนเหลืออยู่ไม่เท่าไร ประกายศักดิ์สิทธิ์ของนักปราชญ์ได้ครอบคลุมไปทั่วยุคสมัยของไกลกันดาร
แม้ว่าในขณะนี้ ร่างปัจจุบันของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยยังคงถูกครอบคลุมด้วยความมืดที่เข้มข้นไม่อาจทำให้สลายไปได้ แต่ทว่า สถานการณ์ในเวลานี้ไม่สามารถต่อกรกับการร่วมมือระหว่างนักปราชญ์กับหลี่ชิเย่ได้อีกแล้ว
แช้งค์ แช้งค์ แช้งค์ ในขณะนี้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งตรงอยู่ด้านหน้านักปราชญ์ส่งเสียงคำรามไม่หยุด และมีประกายมันวาวมากขึ้นเรื่อยๆ ในเวลานี้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ได้พวยพุ่งปณิธานการฆ่าที่น่ากลัวยากจะหาใดเทียมขึ้นมา มันสามารถตัดขาดผลกรรมทุกสิ่งในหล้า สามารถตัดขาดวัฏสงสารทุกอย่างบนโลกมนุษย์
ในเวลานี้ นักปราชญ์กำลังรอคอยโอกาสที่จะเข้าโจมตีบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยชนิดครั้งเดียวถึงตาย เขาต้องการตัดขาดต้นกำเนิดของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุย ต้องการให้บรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยสลายไปตลอดกาลภายใต้กระบี่เดียว
“ถึงเวลาที่ข้าจะโต้กลับแล้ว” แม้ว่าบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ย่ำแย่ก็ไม่หวั่น เพียงหัวเราะทีหนึ่งและคำรามเสียงยาวขึ้นมา ปากท่องบ่นคาถา กลายเป็นโองการสูงสุดว่า “จำนนต่อความมืด กลับคืนสู่ต้นกำเนิด”
เสียงตูมดังสนั่น จากการที่บรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยถ่ายทอดโองการออกมา ทำให้เกิดการสั่นไหวโคลงเคลงไปทั่วไกลกันดาร ติดตามด้วยพื้นที่ทั่วไกลกันดารพวยพุ่งเป็นประกายสีดำขึ้นมา ได้ยินเสียงแตกละเอียดแต่ละเสียงที่ดังปัง ปัง ปังขึ้นมา
ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดแต่ละคนที่เดิมฝังร่างอยู่ลึกลงไปใต้พื้นดินพลันโผล่พรวดออกมา สิ่งนี้หาใช่ความต้องการโดยสมัครใจของพวกเขาที่ต้องการออกมา แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่เป็นตัวของตัวเอง
ปุ ปุ ปุ… ภายในเวลาอันสั้น ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดแต่ละคนถึงกับร่างกายแตกสลาย กลายเป็นพลังความมืดที่บริสุทธิ์และดั้งเดิมที่สุด
ไม่ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดแต่ละคนร้องเสียงน่าเวทนาขึ้นมาในขณะร่างกายกำลังแตกสลาย แต่ว่า มีผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดจำนวนมากกว่าที่ไม่ทันได้ส่งเสียงร้องออกมาด้วยซ้ำ ก็ต้องสลายกลายเป็นพลังความมืดไปแล้ว
“ท่านปฐมบรรพบุรุษ พวกเราต่างตัวสั่นงันงกรับใช้ต่อท่านปฐมบรรพบุรุษ…” มีผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดที่มีความแข็งแกร่งยิ่งพยายามดิ้นรน หวังรักษาร่างแห่งความมืดของตนเอาไว้
“ขอเพียงความมืดคงอยู่ พวกเจ้าก็จะเป็นนิรันดร์” บรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยพูดเรียบเฉยว่า “ข้ายืมใช้พลังของพวกเจ้าชั่วคราว รอให้ข้าได้รับชัยชนะแล้ว จะสร้างร่างของพวกเจ้าขึ้นมาใหม่ก็แล้วกัน”
บรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยคือต้นกำเนิดความมืดของยุคไกลกันดาร บรรดาผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดทั้งหมดของไกลกันดารล้วนแล้วแต่ถือกำเนิดขึ้นภายใต้บังคับบัญชาของเขา การที่พวกเขาสามารถเก็บเกี่ยวในไกลกันดารได้ ล้วนแล้วแต่ได้รับการถ่ายทอดสุดยอดวิชาความมืดสูงสุดจากบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุย
ดังนั้น มาวันนี้บรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยต้องการสลายร่างของพวกเขา เก็บเกี่ยวเอาพลังความมืดที่อยู่บนตัวของพวกเขา ต่อให้บรรดาผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดเหล่านี้มีความแข็งแกร่งมากกว่านี้ก็ไม่สามารถต่อต้านเขาได้ เนื่องจากไม่มีใครสามารถต่อต้านต้นกำเนิดของตนได้ นี่แหละเพราะเหตุใดจึงมีคำพูดที่ว่าแหงนมองความสว่างท่ามกลางความมืดมิด
เสียงแตกละเอียดปุ ปุ ปุดังขึ้นเป็นระลอก แม้ว่าบรรดาผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดที่แข็งแกร่งยิ่งต้องการต่อต้านขัดขืน แต่ยังคงไม่สามารถต้านการเก็บเกี่ยวที่มีต่อความมืดของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยเอาไว้ได้ พวกเขายังคงแตกสลายไปทีละคนๆ เพียงแต่จะแตกสลายไปช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง
“ขณะเกิดการทำลายล้างขึ้นข้าได้ให้การคุ้มครองกับพวกเจ้า ให้พวกเจ้ายังคงมีชีวิตอยู่ต่อไปหลังจากยุคของพวกเจ้าได้สิ้นสุดลง วันนี้สมควรแก่เวลาที่ใช้งานพวกเจ้าบ้างแล้วหละ” บรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยอ้าปากดูดกลืนเอาพลังความมืดจากการแตกสลายของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดแต่ละคนอย่างบ้าคลั่ง
ตูม ตูม ตูม ในเวลานี้พลังอำนาจมืดที่ไม่มีสิ้นสุดได้ถูกบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยกลืนกินเข้าไป พลังอำนาจมืดทั้งหมดได้ไหลเข้าปากของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยอย่างไม่ขาดสาย
…………………………………………………………………