ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2071 เนตรแห่งกาลเวลา
- Home
- ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
- ตอนที่ 2071 เนตรแห่งกาลเวลา
ผู้หญิงคนหนึ่งที่เหินลงมาจากฟากฟ้า เสมือนดั่งเป็นเทพธิดาที่ลงมายังโลกของมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ผู้หญิงที่ถูกเรียกขานว่าเป็นเทพธิดานี้ ใช่ว่านางมีรูปโฉมที่งดงามเพียงใด ใช่ว่านางมีรูปโฉมที่ยอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียมแต่อย่างไร
ความจริงแล้ว หากว่ากันถึงความงดงาม ว่ากันถึงรูปโฉมแล้ว ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเทียบไม่ได้กับเหมยซู่เหยา อวี่เชียนเสวียนที่เป็นสุดยอดสาวงาม แต่ทว่า นางที่ไม่ได้มีรูปโฉมที่ยอดเยี่ยมในหล้าไม่ว่าจะมองจากด้านใดก็ตาม ล้วนแล้วแต่เป็นที่สบายตาอะไรอย่างนั้น ล้วนแล้วแต่ชวนมองด้วยความชื่นชมและเจริญหูเจริญตาอะไรอย่างนั้น เสมือนหนึ่งเป็นงานศิลปะที่งดงามไร้ที่ติชิ้นหนึ่ง
ทั้งเหมยซู่เหยาและอวี่เชียนเสวียนต่างก็มีบุคลิกลักษณะดั่งเทพธิดา แต่ว่า ต่อให้เป็นพวกนางเมื่อต้องมาอยู่ตรงหน้าผู้หญิงคนนี้แล้วก็ต้องสลดลงไปมากทีเดียว เนื่องจากผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าดั่งเป็นไปตามธรรมชาติ เหมือนว่านางถือกำเนิดเกิดมาพร้อมกับท่วงท่าของเซียน
บนตัวของนางเปล่งประกายจางๆ ออกมา เสมือนดั่งกาลเวลากำลังไหลรินอยู่บนตัวของนางอย่างนั้น เหมือนว่าบนตัวของนางกลิ่นอายที่ปราศจากผู้เทียบเทียม เหมือนว่านางสามารถก้าวข้ามอดีตจนถึงปัจจุบัน
“อาจารย์” ผู้หญิงผู้นี้เหินฟ้าลงมา เผยรอยยิ้มที่สนิทสนมออกมาเมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ ทำให้ผู้คนอยากจะกอดนางเอาไว้แน่น ยามที่นางเผยให้เห็นรอยยิ้มเช่นนี้ออกมา เรียกได้ว่าสุดยอดยากจะหาผู้ใดเทียมในหล้า เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดในหล้า
“นังหนู” หลี่ชิเย่เองก็เผยรอยยิ้มออกมาเต็มที่ เป็นรอยยิ้มที่เจิดจ้าออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ แม้แต่หลิวจินเซิ่นที่ติดตามอยู่ด้านหลังหลี่ชิเย่ก็เพิ่งจะได้เห็นรอยยิ้มลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่เป็นครั้งแรก
ผู้หญิงที่คล้ายดั่งเทพธิดาผู้นี้ก็คือหมากูนั่นเอง นางติดตามหวงหลงและป้าหู่เพื่อมาให้การช่วยเหลือสถาบันศึกษาเทพเจ้า
กายอายุวัฒนะ…เวลานี้ ราชันเซียนหยินหยางเองก็รู้สึกตระหนกเมื่อมองเห็นหมากู กล่าวขึ้นขณะจ้องมองดูนางว่ “โลกนี้ถึงกับมีผู้ที่ฝึกกายอายุวัฒนะได้สำเร็จ!”
จะอย่างไรเสีย ราชันเซียนหยินหยางก็เป็นถึงระดับราชันเซียน สายตาของเขาปราศจากผู้ต่อกร พลันที่มองเห็นหมากูก็รู้ว่านางฝึกกายอายุวัฒนะสำเร็จขั้นสมบูรณ์ ต่อให้ตัวเขาที่เป็นถึงราชันเซียนก็ต้องหวั่นไหว เนื่องจากพันล้านปีที่ผ่านมา แม้ว่าเคยมีผู้ที่ฝึกกายอายุวัฒนะมา แต่ไม่เคยมีใครสามารถฝึกได้สำเร็จ
เวลานี้ถึงกับมีผู้ที่ฝึกกายอายุวัฒนะได้เป็นผลสำเร็จ นับว่าสร้างความหวั่นไหวมากเหลือเกิน นี่มันคือสิ่งมหัศจรรย์ยิ่งใหญ่นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันชัดๆ
กระทั่งกล่าวได้ว่า ความยากในการฝึกกายอายุวัฒนะมากกว่าการสำเร็จเป็นราชันเซียนเป็นพันล้านเท่าเลยทีเดียว
เวลานี้ กายอายุวัฒนะตัวเป็นๆ ก็ยืนอยู่ตรงหน้านี่เอง แล้วจะไม่ให้รู้สึกสะเทือนหวั่นไหวได้อย่างไร เรียกว่าน่าสะเทือนหวั่นไหวยิ่งกว่าการได้เจอะเจอจอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายเสียอีก
“เจ้า เจ้าก็คือคนที่อยู่หอวิถีฟ้าคนนั้น…” ราชันเซียนหยินหยางจ้องมองหมากูและกล่าวด้วยท่าทีที่ตระหนกยิ่งนัก เขาเคยได้ยินเรื่องที่ลือกันว่ามีบุคคลเช่นนี้ขณะอยู่ที่เก้าแดน ลือกันว่ามีอายุวัฒนะไม่มีวันตาย แต่เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน วันนี้จึงเข้าใจได้ว่าตำนานหอวิถีฟ้าเรื่องอายุวัฒนะไม่มีวันตายมันคืออายุวัฒนะไม่มีวันตายอย่างไรแล้ว
“ถูกต้อง” หมากูตอบได้ตรงมา และกล่าวว่า “รับมือ!” นางไม่พูดมาก ก้าวเท้าออกไปก้าวหนึ่งก็ปรากฎกาลเวลาไหลริน ฉับพลันพาราชันเซียนหยินหยางเข้าไปอยู่ท่ามกลางการไหลรินของกาลเวลา
กล่าวสำหรับหมากูแล้ว ใครก็ตามที่ทำร้ายอาจารย์ของนางก็คือศัตรูของนาง
จี๊ด…เสียงหนึ่งดังขึ้น เมื่อราชันเซียนหยินหยางถูกดูดเขาไปอยู่ท่ามกลางกาลเวลาที่ไหลริน ทำให้ร่างกายที่เป็นเนื้อหนังของเขาเริ่มเน่าเปื่อยทันที เนื้อหนังเริ่มชราแห้งเหี่ยว แม้ว่าตัวเขาในฐานะราชันเซียนจะมีพลังลมปราณที่แข็งแกร่งยิ่งนัก แต่เมื่อต้องอยู่ท่ามกลางกาลเวลาที่ไหลรินเช่นนี้ก็ไม่สามารถรองรับการเน่าเปื่อยและชราภาพเช่นนี้ได้
ตูม…เวลานี้ชะตาฟ้าของราชันเซียนหยินหยางปรากฎขึ้นมา พลังชะตาฟ้ามหาศาลและน่าเกรงขาม ภายใต้พลังชะตาฟ้ามหาศาลและน่าเกรงขาม เลือดเนื้อที่แห้งเหี่ยวและชราภาพของราชันเซียนหยินหยางได้คืนสภาพเหมือนเดิม
เวลานี้ ทุกย่างก้างที่ราชันเซียนหยินหยางก้าวออกไปคือหนึ่งล้านล้านลี้ แต่ ทุกย่างก้าวของหมากูคือพันล้านปี ต่อให้ราชันเซียนหยินหยางมีความเร็วมากไปกว่านี้ ก็ไม่สามารถไล่ย้อนไปถึงหมากูที่อยู่ต้นน้ำของสายน้ำแห่งกาลเวลาได้
ขณะที่อยู่ทวีปชิงโจว พวกหลี่ชิเย่ และบรรพบุรุษหลุนหุยก็เคยไล่ย้อนสายน้ำแห่งกาลเวลา แต่ความหมายนั้นมันแตกต่างกัน สายน้ำแห่งกาลเวลาที่พวกหลี่ชิเย่ และบรรพบุรุษหลุนหุยไล่ย้อนขึ้นไปนั้นคือกาลเวลาที่พวกเขาเคยดำรงอยู่มาก่อน มันมีการไหลรินอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังไหลรินอยู่อย่างนั้นเป็นวันเป็นปี
แต่ทว่า สายน้ำแห่งกาลเวลาของหมากูเกิดจากตัวของนางเอง เป็นเสี้ยวเวลาบนโลกแห่งความเป็นจริง ขณะที่สายน้ำแห่งกาลเวลาของนางคือพันล้านปี เป็นการไหลรินพันล้านปีในพริบตาเดียวนั้น ซึ่งเป็นคุณสมบัติ ที่แตกต่างกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ราชันเซียนหยินหยางก็เทียบไม่ได้กับผู้ดำรงอยู่ในฐานะเช่นบรรพบุรุษหลุนหุย
ดังนั้น ต่อให้ราชันเซียนหยินหยางหนึ่งก้าวหนึ่งฟ้าดิน ก็ไม่สามารถไล่ตามทันหมากูที่ก้าวเดินอยู่ข้างหน้าได้
“เปิด…” เวลานี้ ราชันเซียนหยินหยางคำรามเสียงทุ้มต่ำออกมา กางมือออกสองข้าง พลันเปิดประตูหยินหยางออกมาบานหนึ่ง แว้งค์ราชันเซียนหยินหยางอาศัยประตูหยินหยางเสมือนหนึ่งก้าวข้ามโลกไปสองโลก ไล่ตามทันหมากูที่อยู่ต้นน้ำของสายน้ำแห่งกาลเวลาโดยพลัน
หมากูไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ เมื่อราชันเซียนหยินหยางไล่ตามทันขึ้นมา เพียงชี้นิ้วไปตามอารมณ์ ตูมเสียงหนึ่งดังขึ้น กาลเวลาสายหนึ่งเสมือนดั่งน้ำหลากที่พวยพุ่งออกมาอย่างรุนแรง โดยที่น้ำหลากกาลเวลาสายนี้ฉับพลันก้าวข้ามพันล้านปี ทำการสลายทุกสิ่งทุกอย่างของกาลเวลา.ไอลีนโนเวล.
ราชันเซียนหยินหยางพลันมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไป เมื่อได้เห็นน้ำหลากกาลเวลาเช่นนี้ ต่อให้เขาเป็นราชันเซียนที่แข็งแกร่งเพียงนี้ก็หวาดกลัวต่อการไหลรินของกาลเวลาลักษณะเช่นนี้ เพราะเมื่อไรที่ถูกการไหลรินของกาลเวลานี้ชะล้างเข้าให้ ต้องกายเป็นเถ้าธุลีอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ทำลาย…” ราชันเซียนหยินหยางคำรามเสียงยาวออกมา ดวงตาทั้งสองกลับกลายเป็นหยินหยาง ทันใดนั้น ดวงตาทั้งสองของพวยพุ่งเป็นหยินและหยางที่ไร้ขีดจำกัดออกมา พริบตาเดียวนั้นเอง หยินและหยางของราชันเซียนหยินหยางเสมือนหนึ่งกลับกลายเป็นผลกรรมทันที กลายเป็นโล่ขนาดยักษ์ทำการห่อหุ้มตัวของเขาเอาไว้
เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น กาลเวลาพันล้านปีพลันพุ่งเข้าไปชะล้างโล่แห่งผลกรรมของราชันเซียนหยินหยาง ต่อให้ผลกรรมที่มีการสังสารวัฏไม่สิ้นสุด แต่ทว่า ภายใต้การชะล้างของกาลเวลานับพันล้านปี ยังคงค่อยๆ ย่อยสลายเน่าเปื่อย
“ฆ่า…” ราชันเซียนหยินหยางคำรามเสียงยาว หนึ่งก้าวหนึ่งฟ้าดิน วิ่งไปข้างหน้าพุ่งตัวไปหมายสังหารหมากูเสีย
หมากูไม่รู้สึกหวั่นไหว แม้ต้องเผชิญกับการสังหารเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินของราชันเซียนหยินหยาง เวลานี้ ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้น บริเวณหน้าผากของหมากูเปิดออก ถึงกับปรากฏดวงตาที่สามขึ้นมา ดวงตานี้อยู่ในลักษณะตั้งขึ้น ดูเหมือนว่าภายในดวงตาดวงนี้ได้มีการบ่มฟักซ่อนกาลเวลาทั้งหมดตั้งแต่แรกเริ่มกำเนิดฟ้าดินออกเป็นสองส่วนเอาไว้ มันคือทะเลแห่งกาลเวลา กาลเวลานับล้านล้านปีล้วนแล้วแต่ถูกบ่มเพาะเอาไว้ในดวงตาดวงนี้
แว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น พริบตาเดียวนั่นเอง ดวงตาดวงที่สามได้สาดส่องออกไป และโลกที่ราชันเซียนหยินหยางอยู่นั้นพลันหายไป พริบตาเดียวนี้ เขาตกอยู่ในโลกของกาลเวลาหนึ่ง ที่ตรงนี้กาลเวลาที่ไม่มีสิ้นสุดกำลังไหลริน ขอเพียงเขาก้าวเท้าผิดไปก้าวหนึ่ง ก็จะได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น เพียงชั่วพริบตาเดียว ร่างกายครึ่งหนึ่งของเขากลายเป็นศพแห้งทันที สร้างความตระหนกจนราชันเซียนหยินหยางต้องถอยกลับที่เดิม
นี่เป็นโลกแห่งกาลเวลา ไหลรินเป็นล้านล้านปีตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน คิดจะก้าวออกจากโลกแห่งกาลเวลาเช่นนี้มีเพียงสองวิธี หนึ่ง ก้าวเดินให้ตรงกับเส้นกาลเวลาของตนเอง นับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีสรรพชีวิตจำนวนถึงหนึ่งหมื่นล้านล้านล้านล้านชีวิตในโลกแห่งกาลเวลา มีเส้นกาลเวลาอยู่เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน เส้นกาลเวลาของบุคคลคนเดียวเป็นเพียงหยดน้ำทะเลหยดเดียวของน้ำทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาลเท่านั้นเอง คิดจะค้นหาเส้นกาลเวลาของตนให้พบไหนเลยจะง่ายดายเพียงนี้ มันคือการงมเข็มใต้ทะเลชัดๆ
วิธีที่สองก็คือก้าวข้ามโลกแห่งกาลเวลาแบบแข็งขืน ด้วยการลุยออกจากโลกแห่งกาลเวลานี้ แต่ทว่า การจะลุยฝ่าออกจากโลกแห่งกาลเวลาเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่ากลัวเพียงใด มันต้องลุยฝ่าข้ามกาลเวลาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นเรื่องที่สุดจะจินตนาการได้
ราชันเซียนหยินหยางที่ยืนอยู่จุดเดิมด้วยท่าทีที่หนักแน่นจริงจัง เขาเองก็รู้ว่าตนเองนั้นตกอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่น่ากลัวแล้ว
หลี่ชิเย่ถึงกับพยักหน้าเมื่อมองเห็นหมากูเปิดดวงตาดวงที่สามขึ้นมา และกล่าวว่า “ก้าวล้ำขีดจำกัดสูงสุดแล้ว แม้ว่าไม่ได้เปิดศักราชใหม่ แต่เป็นการฝืนพลิกหน้าตำรากายไปหน้าหนึ่ง เปิดบทคัมภีร์ขึ้นมาใหม่ ในโลกนี้ผู้ที่สามารถทำเช่นนี้ได้มีเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น”
“อาจารย์คิดว่าควรตั้งชื่อว่าอะไรหละ?” หมากูชอบ ต่อให้อยู่ระหว่างชี้ขาดกับราชันเซียนหยินหยาง นางก็ยังคงเรียบเฉยและมีความอิสระ
“เนตรแห่งกาลเวลา” หลี่ชิเย่อมยิ้มและกล่าวว่า “ข้ายังไม่สามารถเปิดศักราชใหม่ขึ้นมา เจ้าก็ได้ทำการฝืนเปิดหน้าใหม่ของกายอายุวัฒนะไปได้หน้าหนึ่ง ในอนาคตข้าเปิดศักราชใหม่ ตำรากายจะต้องอาศัยการบุกเบิกของเจ้าเป็นพิมพ์เขียว”
“เนตรแห่งกาลเวลา ข้าชอบ” หมากูยิ้มด้วยความชื่นชอบ ดุจดั่งเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักมากคนหนึ่ง นางช่างมีความพึงพอใจยิ่ง เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่นางดูจะมีความพึงพอใจได้ง่ายดายอะไรอย่างนั้น
ตำราสวรรค์นพเก้า ทุกๆ ศักราชก็จะมีรูปแบบของแต่ละศักราช เนื่องจากพวกเขาสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และคงอยู่ตลอดเวลา เฉกเช่นตำรากายอาศัยรูปแบบการแสดงออกของร่างกาย เช่นนั้นแล้วในศักราชอื่นๆ อาจไม่เป็นดังนี้ กระทั่งว่ามันอาจไม่ได้มีชื่อว่าตำรากาย
ในยุคสมัยนี้ หมากูไม่เพียงทำการฝึกกายอายุวัฒนะจนถึงขีดจำกัดสูงสุด ทั้งยังทำลายขีดจำกัดสูงสุด ในศักราชนี้ซึ่งยังไม่สิ้นสุด ศักราชที่ใหม่เอี่ยมทั้งหมดยังไม่เปิดใช้ หมากูก็สามารถฝืนบังคับเปิดหน้าใหม่ขึ้นมาได้หน้าหนึ่ง นางได้เปิดโลกที่ใหม่ทั้งหมดของกายอายุวัฒนะขึ้น ก้าวสู่ความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อน นั่นคือเนตรแห่งกาลเวลา!
กล่าวได้ว่า นับแต่อดีตเป็นต้นมายังไม่มีใครสามารถก้าวถึงระดับนี้ได้ แคยมีราชันเซียนที่ฝึกกายเซียนจนถึงกายเซียนขั้นสมบูรณ์ กระทั่งฝึกกายเซียนจนถึงขีดสูงสุด แต่ยังคงไม่ถึงระดับความสูงของหมากู
เนื่องจากชั่วชีวิตของหมากูฝึกเพียงกายอายุวัฒนะเท่านั้น นางมุ่งมันชั่วชีวิต อาศัยวิธีที่โง่เขลาที่สุดทำการฝึกกายอายุวัฒนะจนถึงระดับความสูงที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยความสูงขนาดนี้ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถแซงล้ำหน้าไปได้!
ในเวลานี้ ราชันเซียนหยินหยางต้องยืนเซ่ออยู่ท่ามกลางโลกแห่งกาลเวลา ในขณะนี้เขาพยายามคำนวณหาเส้นกาลเวลาของตน มีเพียงก้าวเดินออกมาจากเส้นกาลเวลาของตนเท่านั้น เขาจึงสามารถหลบหนีออกจากโลกเช่นนี้ได้ มิฉะนั้น เขาต้องถูกขังอยู่ที่นี่ตลอดไป หรือบางทีก้าวเดินผิดเพียงก้าวเดียวก็ต้องกลายเปนเถ้าธุลีไป!
“น่าจะเป็นที่นี่” ในเวลานี้เอง ราชันเซียนไป่เลี่ยนก็มาถึงเรือนตำราแล้ว กิ่งแก่กิ่งหนึ่งของเขาได้แทงลงไปในพื้นดิน สุดท้ายเขาตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดว่าตำราอาวุธสวรรค์ที่ตนเองค้นหาต้องอยู่ตรงนี้แหละ เขาเอ่ยขึ้นด้วยความมั่นใจอย่างยิ่ง
แต่ทว่า เมื่อราชันเซียนไป่เลี่ยนมาถึงเรือนตำราแล้วพบเจอกับพวกหลี่ชิเย่แล้ว ได้ทำให้เขาเกิดความสงสัยขึ้นมาอยู่บ้าง เขาเองก็ไม่สามารถรู้ถึงที่มาของหลี่ชิเย่
“ไป่เลี่ยน ที่นี่หาใช่สถานที่ที่เจ้าควรมา ไสหัวกลับไปเสีย” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นช้าๆ กับราชันเซียนไป่เลี่ยน
บรรดาจอมเทพบางส่วนที่ให้ความสนใจกับภาพนี้ต่างตื่นตระหนกกับคำพูดลักษณะเช่นนี้ หลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงกลุ่มคนรุ่นใหม่ถึงกับกล้าพูดตำหนิเสียงดังต่อราชันเซียนไป่เลี่ยน ช่างเป็นความพาลเช่นใด
…………………………….