ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2120 จอมเทพหน้าวัว
แม้ว่าผู้คนจำนวนมากไม่เข้าใจว่า เหตุใดจอมเทพหน้าวัวจึงต้องมาให้ความสนใจกับระบบถ่ายทอดทางลัทธิของผู้หญิงที่มีประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจนผู้นี้ แต่ จอมราชันเซียนหวังระดับสูงส่วนหนึ่งกลับเข้าใจ เนื่องจากระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิของผู้หญิงที่มีประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจนผู้นี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเมืองสัจธรรมเซียน
เมืองสัจธรรมเซียน หนึ่งในเก้าสมบัติสวรรค์นพเก้า เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง มิน่าเล่าจอมเทพหน้าวัวถึงได้ให้ความสนใจกับระบบถ่ายทอดทางลัทธิของผู้หญิงที่มีประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจนผู้นี้ถึงเพียงนี้ และใส่ใจถึงขนาดนี้
นัยน์ตาของเทพธิดาเก็บจันทราเพ่งตรงไปข้างหน้า ท่าทีเย็นยะเยือก ยังคงประหยัดคำพูดในบรรยากาศที่เหงาเศร้า เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพวกของจอมเทพหน้าวัวที่เป็นจอมเทพทั้งห้า และกล่าวว่า “อาศัยพวกเจ้าน่ะหรือ?”
คำพูดนี้ดุดันอันธพาลยิ่ง ด้วยท่าทีที่หมางเมินเหล่าเทพ เหมือนว่าใต้หล้านี้ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าตาของนางอย่างนั้น เปี่ยมด้วยความพาล แม้จะต้องเผชิญหน้ากับจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวงก็ตาม ยังคงมีท่าทีเช่นนี้
พลันที่คำพูดนี้ออกจากปากของเทพธิดาเก็บจันทรา ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องใจหายใจคว่ำ หลายคนต่างจ้องมองตากันและกัน ล้วนแล้วแต่รู้สึกว่าผู้หญิงที่มีประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจนผู้นี้พูดจาอันธพาลมากเกินไปแล้ว และยโสมากเกินไป จอมเทพหน้าวัวนั้นคือจอมเทพระดับดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวง หากจะหันมองไปรอบๆ ในทวีปเจียวเหิงโจวในปัจจุบัน กระทั่งมองไปทั่วสิบสามทวีป ตัวเขานับได้ว่าเป็นระดับผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง เป็นยอดฝีมือที่มีอันดับคนหนึ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น จอมเทพอีกสี่คนที่อยู่ด้านหลังของเขาไม่มีคนไหนที่เป็นผู้อ่อนด้อยสักคน พวกเขามาอยู่ที่ตรงนี้ห้าคน ย่อมสามารถประเมินถึงความเข้มแข็งด้านของกำลัง ไม่ว่าใครก็ตามต้องหวั่นเกรงอยู่สามส่วน เมื่อต้องเผชิญกับพวกของจอมเทพหน้าวัวที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นนี้ของพวกเขา
เวลานี้ผู้หญิงที่มีประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจนผู้นี้ยังไม่ทันได้สืบทอดชะตาฟ้าก็ยโสและพาลถึงเพียงนี้ ถึงกับกล้าท้าทายต่อจอมเทพหน้าวัวเสียแล้ว ความจริง ต่อให้สืบทอดชะตาฟ้ากลายเป็นเซียนหวังแล้ว เกรงว่าเมื่อเปรียบเทียบกับจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวงก็ยังมีช่วงห่างที่ห่างชั้นกันมากทีเดียว
“ยังไม่ทันได้เป็นเซียนหวังก็กล้าที่จะท้าทายจอมเทพหน้าวัวเสียแล้ว มันออกจะกำแหงมากไปหน่อยแล้วกระมัง” มีผู้ที่บ่นพึมพำออกมา
มีระดับจอมเทพที่รู้สึกว่าเทพธิดาเก็บจันทรากำแหงมากเกินไปเช่นกัน ต่างอดที่จะพูดว่า “ในบรรดาเหล่าจอมเทพด้วยกัน จอมเทพหน้าวัวก็นับเป็นบุคคลผู้นำทัพคนหนึ่ง อย่าว่าแต่ยังไม่ได้เป็นเซียนหวังเลย ต่อให้เป็นจอมราชันเซียนหวังระดับล่างเป็นจำนวนมากก็ไม่กล้าท้าทายต่อจอมเทพหน้าวัวเช่นนี้”
แม้แต่ราชันทักษิณยังถึงกับต้องหัวเราะเจื่อนๆ ทีหนึ่งเมื่อได้ยินคำพูดที่เย็นชาแต่เปี่ยมด้วยความพาลเช่นนี้ กี่ปีผ่านมานางยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ราชันทักษิณถึงกับต้องมองดูหลี่ชิเย่ที่อยู่ข้างกาย เขารู้ว่ามีผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นนี้คอยให้ท้ายอยู่ และสามารถเข้าใจได้กับการที่เทพธิดาเก็บจันทราพาลถึงเพียงนี้ ผู้ที่อยู่ข้างกายอีกาทมิฬมีใครบ้างที่ไม่ใช่เปี่ยมด้วยความพาล?
เมื่อจอมเทพหน้าวัวได้ยินคำพูดเช่นนี้ถึงกับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเป็นอันมาก เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในจอมเทพที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปเจียวเหิงโจว มีชื่อชั้นเสมอด้วยจอมเทพเก้ากระบี่ ได้รับการให้เกียรติจากบรรดาราชันและเหล่าเทพ แม้แต่จอมราชันเซียนหวังระดับล่างบางส่วนยังต้องเรียกตัวเองว่าผู้เยาว์เมื่ออยู่ต่อหน้าของเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแค่ผู้เยาว์ที่ไม่มีชื่อคนหนึ่ง
สีหน้าของจอมเทพหน้าวัวดูไม่เป็นมิตร กล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “แม่นางน้อย ฝีมือเจ้ายอดเยี่ยมก็จริง สัจธรรมก็เป็นที่น่าภาคภูมิใจ แต่ว่า บนโลกนี้มังกรเร้นกายพยัคฆ์หมอบ ผู้ปราศจากผู้ต่อกรมีมากมายดั่งดอกเห็ด หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกลที่เจ้าจะต้องก้าวเดิน! อย่าว่าแต่เจ้าที่ยังไม่ได้เป็นเซียนหวัง ต่อให้เป็นเซียนหวังแล้ว ยังคงมีฟ้าเหนือฟ้า…”
จังหวะที่จอมเทพหน้าวัววางท่าทีความเป็นผุ้อาวุโสออกมานั้น เทพธิดาเก็บจันทราโบกมือและกล่าวตัดบทของเขาด้วยท่าทีที่ไม่สะทกสะท้าน เงียบเหงาเศร้าสร้อย และกล่าวว่า “แล้วเป็นอย่างไร!”
คำพูดที่พาลปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นนี้ ใช่เพียงจอมเทพหน้าวัวเท่านั้นที่มีสีหน้าเปลี่ยนไป จอมเพทอีกสี่คนที่อยู่ด้านหลังของเขาก็มีสีหน้าที่ดูไม่จืดถึงขีดสุด
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของเทพธิดาเก็บจันทราเป็นการดูถูกจอมเทพหน้าวัวชัดๆ ไม่ได้เห็นจอมเทพหน้าวัวอยู่ในสายตาเลย และไม่ได้มองจอมเทพอีกสี่คนอยู่ในสายตาเช่นกัน หมางเมินทั่วหล้า ท่าทีที่สูงเด่นเช่นนี้ อย่าว่าแต่จอมเทพอย่างพวกเขาเลย เกรงว่าผู้คนทั่วไปก็รับไม่ได้
“ผู้เยาว์ เจ้ากำแหงมากเกินไปแล้ว!”เวลานี้ จอมเทพผู้หนึ่งที่อยู่ด้านหลังจอมเทพหน้าวัวทนไม่ไหวตวาดเสียงดังขึ้นมา และกล่าวน่าเกรงขามขึ้นมาว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้าเจ้าเป็นใคร! เอ่ยชื่อออกมาเกรงว่าเจ้าจะต้องตกใจ!”
“ไม่รู้ และไม่อยากรู้” เทพธิดาเก็บจันซากล่าวเสียงเย็นชาว่า “หมาแมวที่ไหนไม่ต้องรู้ก็ได้”
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของเทพธิดาเก็บจันทราทำเอาจอมเทพผู้นี้แทบกระอักเลือดออกมา ขณะที่จอมเทพหน้าวัวสีหน้าแดงก่ำ นี่เท่ากับเป็นการประทับหนึ่งฝ่ามือลงบนหน้าของเขา ทำให้ใบหน้าของเขาแผดร้อนขึ้นมา
“คำพูดแบบนี้คุ้นหูมาก เหมือนเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน” มีจอมราชันเซียนหวังระดับสูงถึงกับตะลึงนิดหนึ่งเมื่อได้ยินคำพูดทำนองเช่นนี้ ถึงกับพึมพำออกมา
วิธีการพูดที่อันธพาล และท่าทีที่ดูถูกเหล่าจอมเทพเช่นนี้ ทำให้จอมราชันเซียนหวังระดับสูงรู้สึกเหมือนคุ้นๆ เหมือนว่าเคยได้ยินจากปากของคนใดคนหนึ่งอย่างนั้น
สำหรับผู้บำเพ็ญตนส่วนใหญ่แล้วต่างรู้สึกงงงันอย่างสิ้นเชิง พวกเขาล้วนแล้วแต่ไม่รุ้ว่าผู้หญิงที่มีประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจนผู้นี้มีประวัติความเป็นมาเช่นใดกันแน่ ถึงกับโอหังอวดดีเช่นนี้ หาญกล้าดูถูกจอมเทพหน้าวัวถึงเพียงนี้
“ผู้ไม่รู้ย่อมไม่กลัว” ระดับจอมเทพได้ทอดถอนใจออกมาและกล่าวว่า “เกรงว่านางคงเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่ยุทธภพไม่นาน ไม่รู้จักผู้ดำรงอยู่ในฐานะเช่นจอมเทพหน้าวัว และไม่รู้ถึงความน่ากลัวของจอมเทพหน้าวัว ถ้าหากนางรู้ถึงความน่ากลัวของจอมเทพหน้าวัวแล้ว เกรงว่าจะต้องเสียใจกับคำพูดที่ได้พูดออกมาในเวลานี้” ไอรีนโนเวล
สีหน้าของจอมเทพหน้าวัวดูปั้นยากอย่างยิ่ง เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง ไม่ง่ายนักกว่าเขาจะระงับเพลิงแห่งความโกรธในใจลง สีหน้าบึ้งตึง กล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “แม่นางน้อย เห็นแก่ที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยกัน ข้าก็จะไม่ขัดขวางการเป็นเซียนหวังของเจ้า แต่ว่า อาศัยท่าทีของเจ้าที่ไม่มีใครสั่งใครสอน ก็สมควรที่ข้าจะต้องสั่งสอนเจ้าสักหน่อย!”
ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้ ดวงตาทั้งสองของจอมเทพหน้าวัวดูน่ากลัว กล่าวน่าเกรงขามว่า “ในเมื่อเจ้ามีวาจาที่กำแหงถึงเพียงนี้ เช่นนั้นแล้วผู้คุ้มครองของเจ้าต้องเป็นผู้ที่สะเทือนฟ้ายิ่งนัก ให้ผู้คุ้มครองของเจ้าออกมา ข้าจะได้ขอคำชี้แนะสักหน่อย ถือโอกาสให้เขาได้เรียนรู้ว่าควรจะสั่งสอนผู้เยาว์แบบไหนกัน!”
เวลานี้จอมเทพหน้าวัวนับว่าโกรธขึ้นมาจริงจังแล้ว ยอดฝีมือจำนวนมากต่างจ้องมองตากันและกัน ดูท่าผู้หญิงที่มีประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจนผู้นี้หาญกล้าพาลถึงเพียงนี้ บางทีอาจเป็นอย่างที่จอมเทพหน้าวัวพูดเอาไว้อย่างนั้น ผู้คุ้มครองที่อยู่เบื้องหลังต้องเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่ง
“ใยต้องอาศัยคนอื่น ข้าคนเดียวก็พอแล้ว!” เทพธิดาเก็บจันทรายังคงมีท่าทีเหงาเศร้า มองจอมเทพหน้าวัวอย่างเย้ยหยัน ยังคงเปี่ยมด้วยความพาล มีท่าทีที่หมางเมินต่อเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน
“ดี ดี ดี…” จอมเทพหน้าวัวโกรธจัดจนต้องหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของเทพธิดาเก็บจันทรา ดวงตาทั้งสองพลันดูน่ากลัว เผยให้เห็นถึงปณิธานการฆ่าออกมา กล่าวน้ำเสียงน่าเกรงขามว่า “เช่นนั้นแล้วก็ให้ข้าสั่งสอนๆ เจ้าสักหน่อย ทั้งยังถือว่าข้าสั่งสอนแทนผู้อาวุโสของเจ้า ให้เขาได้รู้ว่าสมควรสั่งสอนผู้เยาว์อย่างไร!”
“จอมเทพหน้าวัวดูจะโกรธจริงจังแล้ว” มีระดับจอมเทพที่มองเห็นจอมเทพหน้าวัวโกรธจัดจนต้องหัวเราะออกมา จึงกล่าวว่า “คราวนี้แม่นางน้อยผู้นี้นับว่ากำแหงเกินไปแล้ว จะต้องแลกด้วยค่าตอบแทนที่ยับเยินมากแน่นอน”
“นับว่าน่าสนใจจริงๆ คนของข้ายังต้องให้คนอื่นมาสอนข้าว่าควรจะสั่งสอนอย่างไร” ยังไม่ทันที่เทพธิดาเก็บจันทราได้พูดอะไร เสียงที่เอ้อระเหยเสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นเสียงที่ช่างมีความเป็นอิสระ เอ้อระเหยสบายๆ ทั้งยังมีความเหนื่อยหน่ายอยู่สามส่วน
เวลานี้ เพียงมองเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างกายของเทพธิดาเก็บจันทรา ท่าทางของเขาดูช่างเอ้อระเหยและสบายใจอะไรอย่างนั้น และเขาก็ดูสุดแสนจะธรรมดา และทั่วๆ ไป มองดูแล้วไม่สะดุดตาเอาเสียเลย
“โอ้แม่เจ้า…” จอมเทพระดับสูงผู้หนึ่งตกใจสุดขีด แทบจะเข่าอ่อนทรุดตัวลงคุกเข่าลงกับพื้น เมื่อมองเห็นการปรากฎตัวของผู้ชายที่สุดแสนจะธรรมดาผู้นี้
“มิน่าเล่า ถึงว่าทำไมถึงได้คุ้นกับคำพูดลักษณะเช่นนี้!” ครั้นมองเห็นผู้ชายที่สุดแสนจะธรรมดาปรากฎตัวอยู่ข้างกายของเทพธิดาเก็บจันทราแล้ว แม้แต่จอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ขนลุกซู่ในใจ ต่างหุบปากเงียบไม่กล้าพูดซุบซิบมากความอีก
“คนผู้นี้คือใคร?” ผู้ยิ่งใหญ่และยอดฝีมือจำนวนมากไม่รู้จักผู้ชายที่สุดแสนจะธรรมดาที่อยู่ตรงหน้า แม้แต่เจ้าสำนักกระทั่งระดับบรรพบุรุษจำนวนมากก็ไม่เคยเห็นผู้ชายที่สุดแสนจะธรรมดาผู้นี้มาก่อน
จอมเทพหน้าวัวเหมือนถูกฟ้าผ่าเมื่อได้เห็นผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างกายของเทพธิดาเก็บจันทรา พลันยืนเซ่ออยู่ตรงนั้น อ้าปากกว้างพูดอะไรไม่ออกเวลานี้
“หนิวยุ่ยชาง ถ้าเช่นนั้นเจ้ามาสอนข้าทีว่า ข้าควรจะสั่งสอนผู้เยาว์อย่างไรดี ควรจะสอนคนๆ หนึ่งอย่างไรจึงจะดูเป็นผู้ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาล่ะ?” ผู้ชายที่สุดแสนจะธรรมดาซึ่งปรากฎตัวอยู่ข้างกายเทพธิดาเก็บจันทราจ้องมองดูจอมเทพหน้าวัว ยิ้มกล่าวเฉยเมยขึ้นมา
“บังอาจ ชื่อของจอมเทพไหนเลยให้เจ้าเรียกขานเช่นนี้ได้” เวลานี้จอมเทพผู้หนึ่งที่อยู่ด้านหลังจอมเทพหน้าวัวตวาดเสียงดังออกมา เขาเองก็ไม่เคยพบเห็นผู้ชายที่สุดแสนจะธรรมดาตรงหน้ามาก่อน และไม่รู้ว่าผู้ชายที่สุดแสนจะธรรมดาตรงหน้ามีประวัติความเป็นมาเช่นใด
“โลกทัศน์แคบเกินไป ย่อมถูกลิขิตเอาไว้แล้วว่าต้องเป็นละครเศร้า” จอมราชันเซียนหวังระดับสูงส่ายหน้าและกล่าวขึ้นมา เมื่อมองเห็นจอมเทพที่อยู่ด้านหลังจอมเทพหน้าวัวส่งเสียงตวาดใส่ผู้ชายที่สุดแสนจะธรรมดาผู้นี้
อย่างไรก็ตาม ผู้ชายที่สุดแสนจะธรรมดาไม่ได้มองหน้าจอมเทพที่อยู่ด้านหลังของจอมเทพหน้าวัวแม้แต่แวบเดียว เพียงจ้องมองไปที่จอมเทพหน้าวัว ยิ้มจางๆ และกล่าวว่า “หนิวยุ่ยชาง ข้ายังรอให้เจ้ามาสั่งสอนข้าอยู่นะ”
เสียงตุบ…เสียงหนึ่งดังขึ้น เมื่อจอมเทพหน้าวัวได้สติกลับมา สีหน้าขาวซีด เข่าทั้งสองข้างอ่อนแรงพลันคุกเข่าลงตรงนั้น อ้าปากแต่ก็พูดอะไรไม่ออกในเวลานี้
“จอมเทพ…” เมื่อจอมเทพที่อยู่ด้านหลังจอมเทพหน้าวัวเห็นจอมเทพหน้าวัวคุกเข่าลงตรงนั้นล้วนแล้วแต่ตะลึงงันขึ้นมา
“คุกเข่า…” จอมเทพหน้าวัวกล่าวเสียงแผ่วเบา บรรดาจอมเทพทั้งสี่ที่อยู่ด้านหลังยังไม่ทันได้สติกลับมา ตุบคุกเข่าลงตรงนั้น
“ใต้เท้า ข้าน้อยมีตาหามีแววไม่ ไม่ทราบใต้เท้ามาด้วยตนเอง และไม่รู้ว่าเทพธิดาผู้นี้คือคนของใต้เท้า กระทำบุ่มบ่ามล่วงเกิน ข้าน้อยสมควรตาย ข้าน้อยสมควรตาย!” เวลานี้จอมเทพหน้าวัวตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง รีบโขกศีรษะและกล่าว
แม้ว่าหนิวยุ่ยชางจะมีความแข็งแกร่งมาก และเปี่ยมด้วยความหยิ่งยโส แต่เมื่อต้องเปรียบกับผู้ที่อยู่ตรงหน้าแล้ว แม้แต่มดปลวกยังไม่เท่า ขนาดผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดยังต้องพ่ายแพ้จนวิ่งหนี นับประสาอะไรกับตัวเขา
กล่าวสำหรับจอมเทพหน้าวัวแล้ว หากเขาจะต้องตายคนเดียวก็คงไม่มีอะไร เมื่อไรที่ใต้เท้าอีกาทมิฬที่อยู่ตรงหน้าโกรธขึ้นมา ผลที่ตามมาก็สุดที่จะคาดคิด ไม่เพียงตัวเขาต้องถูกสังหาร ไม่เพียงศิษย์ในสำนักของพวกเขาถูกสังหาร กระทั่งเผ่าทั้งเผ่าก็อาจจะต้องถูกสังหารสิ้น ในโลกนี้สำนักและเผ่าพันธุ์ที่ถูกอีกาทมิฬทำลายล้างมีจำนวนน้อยเสียเมื่อไหร่?
ดังนั้น จอมเทพหน้าวัวในเวลานี้ไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีจอมเทพอะไรอีกต่อไป เกียรติยศของคนๆ เดียว หากคิดจะปกป้องตระกูลของตนเอง ปกป้องเผ่าพันธุ์ของตนเองก็ต้องยอมอ่อนข้อ อีกอย่างการคุกเข่าอยู่ตรงหน้าอีกาทมิฬก็ไม่นับเป็นเรื่องเสียหน้าแต่อย่างใด จะมีสักกี่คนที่กล้ายืดตัวตางต่อหน้าอีกาทมิฬ?
…………………….