ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2276 กายอายุวัฒนะ
หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อต้องเผชิญกับการท้ารบของหุ่นมังกรเงินยักษ์ เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “เห็นทีข้าไม่รับคำท้าก็คงไม่ได้แล้วล่ะ และคนอื่นก็คงไม่ยอมละเว้นข้า”
“ถูกต้อง วันนี้ในปีหน้าก็คือวันครบรอบวันตายของเจ้า!” หุ่นมังกรเงินยักษ์กล่าวน่าเกรงขามขึ้นมา
หลี่ชิเย่ไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับหัวเราะและเอ่ยถามกับฟ่านเมี่ยวเจินว่า “นังหนู เจ้าลองว่ามาซิ ข้าสามารถล้มเขาลงได้ภายในกี่กระบวนท่า?”
ฟ่านเมี่ยวเจินถึงกับกะพริบตา ท่าทางทะเล้นเม้มปากยิ้มและกล่าวว่า “อภัยน้องที่หาญกล้าทายทักนิดหนึ่ง อาศัยอานุภาพที่ไร้เทียมทานของศิษย์พี่ใหญ่ น้องรู้สึกว่าภายในสิบกระบวนท่าศิษย์พี่ใหญ่ต้องล้มเขาลงได้แน่นอน”
หุ่นมังกรเงินยักษ์พลันมีสีหน้าที่ดำคล้ำ แน่นอนที่สุด เดิมการรวมร่างเป็นหนึ่งเดียวของกองทัพมังกรเงินทั้งกองทัพก็ทรงพลังอย่างยิ่งอยู่แล้ว เวลานี้ยังได้รับการสนับสนุนจากพลังกระแทกรุนแรงและเป็นจังหวะจากแคว้นว่านโซ่ว ฟ่านเมี่ยวเจินถึงกับพูดกับหลี่ชิเย่ว่าสามารถล้มพวกเขาได้ภายในสิบกระบวนท่า เป็นการดูแคลนต่อพวกเขามากเหลือเกิน
“สิบกระบวนท่า?” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะเสียงดังขึ้นมา
“หรือว่าน้องทายผิดอย่างนั้นรึ?” ดวงตาคู่นั้นของฟ่านเมี่ยวเจินเบิกกว้างมาก มือที่อ่อนนุ่มทาบลงบนอกที่อวบอิ่มเย้ายวนใจผู้คนและกล่าวด้วยความตระหนกว่า “หรือว่า ศิษย์พี่ใหญ่สามารถล้มเขาได้ภายในห้ากระบวนท่า? ศิษย์พี่ใหญ่ ท่าน ท่านอย่าทำให้น้องตกใจ”
ท่าทางของฟ่านเมี่ยวเจินในเวลานี้ดูเหมือนน่าสงสารยิ่ง ทำให้รู้สึกน่าทะนุถนอมอย่างยิ่ง และเย้ายวนใจยิ่งนัก
“ห้ากระบวนท่า?” หลี่ชิเย่หัวเราะ ส่ายหน้าและกล่าวว่า “เจ้าออกจะให้ความสำคัญพวกมันเกินไปแล้ว มันเป็นเพียงหุ่นกระบอกที่ถูกชักใยตัวหนึ่งเท่านั้นเอง แค่เศษเหล็กกองหนึ่งเท่านั้น ใช่เป็นระดับอมตะแท้จริงเสียเมื่อไหร่ไม่คู่ควรจะกล่าวถึง อาศัยธาตุแท้ภายในของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะพวกเรา แค่กระบวนเท่าเดียวก็เล่นงานมันจนคลานอยู่กับพื้นแล้ว!”
“หนี่งกระบวนท่า…” ไม่เพียงแต่คนอื่นๆ แม้แต่ฟ่านเมี่ยวเจิน มู่หย่าหลันพวกนางทั้งสามต่างก็ใจหายใจคว่ำ นัยน์ตาคู่นั้นเบิกกว้างมาก โดยเฉพาะฟ่านเมี่ยวเจินนางรู้ว่าหลี่ชิเย่นั้นลึกล้ำยากจะหยั่งถึงอยู่แล้ว แต่หากจะบอกว่าล้มหุ่นมังกรเงินยักษ์ที่อยู่ตรงหน้าภายในกระบวนท่าเดียว พวกนางไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไร จะอย่างไรเสียมันมีความยากที่สูงมากเหลือเกิน
“หนี่งกระบวนท่า…” ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ไม่เชื่อเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ หนึ่งกระบวนท่าล้มหุ่นมังกรเงินยักษ์ตรงหน้าที่อยู่ในสภาพเช่นนี้? มันช่างเป็นเรื่องที่น่าสยองขวัญเพียงใด เกรงว่าสิ่งนี้ได้ล้ำหน้าระดับอมตะทั่วไปเสียแล้ว ซึ่งเป็นระดับอมตะที่ดำรงอยู่ในฐานะที่น่าสยองขวัญอย่างยิ่งแล้ว กระทั่งมีผู้คาดเการณ์ว่า ถ้าหากสามารถล้มหุ่นมังกรเงินยักษ์ที่อยู่ตรงหน้าได้ภายในหนึ่งกระบวนท่าจริงล่ะก็ ต่อให้เป็นระดับราชันแท้จริงก็ต้องไม่ใช่ราชันแท้จริงระดับต้นแล้ว
“หนี่งกระบวนท่า!…” แม้แต่ผู้พเนจรหยางหมิงเมื่อได้ยินคำพูดที่พาลและไร้เหตุผลเช่นนี้ ถึงกับมีประกายตาที่แวบวับทีหนึ่ง
“หนี่งกระบวนท่า?…เป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องเป็นระดับราชันแท้จริงหกลัคนาขึ้นไป” ผู้แทนของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิแห่งหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่เชื่อในคำพูดของหลี่ชิเย่ถึงกับส่ายหน้า และรู้สึกว่าเป็นคำพูดที่อวดดีเหลือเกิน
“วาจาสามหาวมาก แค่กระบวนท่าเดียวก็ล้มเขาได้ คิดว่าตัวเองเป็นราชันแท้จริงที่ปราศจากผู้ต่อกรจริงๆ รึ?” ยอดฝีมือที่หันไปพึ่งพาแคว้นว่านโซ่วย่อมไม่เชื่อคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่อยู่แล้ว มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
“สามารถทำได้จริงๆ รึ? หุ่นมังกรเงินยักษ์ตรงหน้าที่อยู่ในสภาพเช่นนี้ เรียกได้ว่าอานุภาพไร้ขีดจำกัด” แม้แต่ระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิที่ยืนอยู่ข้างฝ่ายของหุบเขาอมตะยังคงสงสัยในคำพูดของหลี่ชิเย่ รู้สึกว่าความน่าจะเป็นต่ำเกินไป
หุ่นมังกรเงินยักษ์ถูกคำพูดของหลี่ชิเย่ทำเอาโกรธจนตัวสั่น คำพูดเช่นนี้ใช่เพียงแค่ดูแคลนต่อพวกเขาเท่านั้น มันเป็นการทำให้กองทัพมังกรเงินต้องอับอายอย่างยิ่งชัดๆ
“ผู้เยาว์ หากเจ้าสามารถล้มข้าได้ภายในหนึ่งกระบวนท่า ข้าจะหันหลังกลับทันที นับจากนี้เป็นต้นไปจะไม่ก้าวออกจากแคว้นว่านโซ่วแม้เพียงครึ่งก้าว” หุ่นมังกรเงินยักษ์ร้องกล่าวด้วยเสียงอันดังออกมา
“เจ้าไร้เดียงสาเหลือเกิน มองโลกในแง่ดีเกินไปแล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “เสียดาย พวกเจ้าไม่มีโอกาสแม้แต่จะหนีไป ถูกลิขิตเอาไว้แล้วต้องตายอยู่ที่นี่”
“ไสหัวลงมารับความตายเสีย จะให้เจ้าร่างกายแหลกเหลวอย่างแน่นอน” หุ่นมังกรเงินยักษ์โกรธจัด อดที่จะร้องเสียงดังออกมาด้วยความโกรธ
“ตกลง ในเมื่อเจ้ารีบร้อนลงนรกขนาดนี้ข้าก็จะสงเคราะห์เจ้า” หลี่ชิเย่ลุกขึ้นมาช้าๆ จากนั้นทำท่าบิดขี้เกียจ ดูท่าทางเหมือนน่าเบื่อหน่ายอย่างสิ้นเชิง ไม่ได้มีบรรยากาศของการสู้รบครั้งใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าเอาเสียเลย
“เฮ่อ ทำไม่นะคำพูดของข้าจึงไม่มีใครเชื่อเล่า ทั้งๆ ที่ข้าพูดไปตามความเป็นจริงแท้ๆ กลับจะมีคนเข้าใจว่าข้าคุยโตโอ้อวดเสียอย่างนั้น” หลี่ชิเย่ส่ายหน้ารู้สึกเสียใจกับสิ่งนี้
เวลานี้ หลี่ชิเย่ก้าวเดินลงมาจากข้างบน ลัคนาถูกเปิดออกและได้ยินเสียงดังแว้งค์เสียงหนึ่ง ต้นไม้ดึกดำบรรพ์ปรากฎขึ้นมา กลิ่นอายดึกดำบรรพ์ทิ้งตัวลงมา เสมือนหนึ่งปิดบังทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก
บนต้นดึกดำบรรพ์ปรากฏติดผลอยู่ผลหนึ่ง ลักษณะคล้ายลูกสน มันคือผลสัจธรรมลูกสนผลแรกของหลี่ชิเย่นั่นเอง
“นั่นมันอะไร?” ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นของหลี่ชิเย่คืออะไร เนื่องจากที่แดนสามเซียนฝึกนั้นล้วนแล้วแต่เป็นการฝึกพลัง ขณะที่หลี่ชิเย่ริเริ่มสร้างระบบการฝึกที่ไม่เคยมีมาก่อนเป็นนิรันดร์ ไม่มีผู้ใดรับรู้มาก่อน และไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน
“เอาเถอะ วันนี้จะให้พวกเจ้าได้รู้จักว่าอะไรที่เรียกว่าปราศจากผู้ต่อกร และให้พวกเจ้าที่เป็นจอมวางแผนคิดชิงบัลลังก์ได้รู้ว่าธาตุแท้ภายในของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะลึกล้ำแค่ไหนกันแน่” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมย
หลี่ชิเย่ก้าวเดินลงมาจากบัลลังก์กษัตริย์ ก้าวเท้าเข้าไปยังแท่นโอสถ ทันใดนั้นเอง ผลสัจธรรมลูกสนสั่นไหวทีหนึ่ง ขณะที่ผลสัจธรรมลูกสนสั่นไหวนั้น เสมือนหนึ่งสัจธรรมทั้งหมดทั่วฟ้าดินก็สั่นไหวเช่นกัน
ทันใดนั้นเองเหมือนได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้น เสียงนี้ดังกังวานคล้ายเป็นเสียงของกระดิ่งลม ท่ามกลางเสียงที่ดังกังวานของกระดิ่งลมนั่นเอง ผลสัจธรรมลูกสนได้สั่นสะเทือนนำเอาสัจธรรมทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ และฐานเต๋าเข้าไปอยู่ภายในผลสัจธรรมลูกสน และเข้าใจในความลึกซึ้งยอดเยี่ยมทั้งหมดโดยพลัน
ทำให้สัจธรรมง่ายขึ้น นี่แหละคือความยอดเยี่ยมพิสดารมากที่สุดของผลสัจธรรมลูกสน ภายใต้ผลสัจธรรมลูกสนลักษณะเช่นนี้ แม้ว่าปล่อยให้เมล็ดสัจธรรมเม็ดหนึ่งร่วงหล่นลงมาตามอารมณ์ ก็สามารถกลับกลายเป็นต้นกำเนิดสัจธรรมแห่งหนึ่งได้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสัจธรรม สิ่งนี้เป็นการบ่งบอกว่า แค่ผลสัจธรรมลูกสนผลหนึ่งก็ได้รวมเอาสัจธรรมทุกๆ สัจธรรมบนโลกกระทั่งทั่วฟ้าดินเอาไว้ภายใน
ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้น ขณะหลี่ชิเย่ก้าวเท้าเข้าไปยังแท่นโอสถนั้น ปรากฏสว่างไสวไปทั่วแท่นโอสถ ตามติดด้วยทั่วทั้งเรือนโอสถก็สว่างไสวขึ้นมาด้วย สุดท้าย เหมือนหนึ่งว่าพื้นที่ที่ไร้ขอบเขตของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะก็ร่วมสอดประสานขึ้นมา
ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ไม่ว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะจะมีความลึกซึ้งและยอดเยี่ยมเพียงใดก็ตาม เกิดจากการหลอมกลั่นจนกลายเป็นสัจธรรมที่ทรงพลังเช่นใดก็ช่าง ท้ายที่สุดแล้วมันก็เพียงกลับกลายเป็นเมล็ดสนเล็กๆ เมล็ดหนึ่งที่อยู่ภายในผลสัจธรรมลูกสนเท่านั้นเอง ต้นกำเนิดสัจธรรมที่ดูเยิ่นเย้อก็แค่เมล็ดสนเม็ดหนึ่งเท่านั้น กระทั่งมีความซับซ้อนน้อยกว่าหลักกฎเกณฑ์สัจธรรมข้อหนึ่งเสียอีก ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ง่ายดายอะไรอย่างนั้น
ดังนั้น เมื่อต้นกำเนิดสัจธรรมลักษณะเช่นนี้ได้กลับกลายเป็นไม่มีความซับซ้อนแล้ว ประกายจากผลสัจธรรมลูกสนแค่ทิ้งประกายสายหนึ่งลงมาเท่านั้น ประกายสายนั้นพลันส่องสว่างให้กับหลี่ชิเย่ ความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของสัจธรรมที่ไม่มีสิ้นสุดได้ทำการวิวัฒนาการอยู่ภายในร่างกายของหลี่ชิเย่ และในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง หลี่ชิเย่ได้ทำการวิวัฒนาการสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะจนถึงจุดสูงสุด ความลึกซึ้งยอดเยี่ยมทั้งหมดล้วนแล้วแต่อยู่ในกำมือของหลี่ชิเย่
“นี่เป็นการควบคุมพลังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะอย่างนั้นรึ?” ผู้คนจำนวนมากยังไม่เข้าใจถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมที่อยู่ภายใน ขณะที่ได้เห็นภาพเช่นนี้
เสียงตูมดังสนั่น พริบตาเดียวนั่นเองหลี่ชิเย่เสมือนหนึ่งได้ทะลุผ่านระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะทั้งหมดอย่างนั้น ความลึกซึ้งยอดเยี่ยมที่ไม่มีสิ้นสุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะทั้งหมดพ่นทะลักอยู่ภายในร่างกายของหลี่ชิเย่ ทำให้หลี่ชิเย่ได้ครอบครองคัมภีร์ทั้งหมดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะเอาไว้แล้วอย่างนั้น
ได้ยินเสียงดังแว้งค์ขึ้นเสียงหนึ่ง มองเห็นบริเวณอกของหลี่ชิเย่ปรากฎประกายแสงที่ไม่มีสิ้นสุดเบ่งบานขึ้นมา พริบตาเดียวนั่นเอง ภายในร่างกายของหลี่ชิเย่คล้ายมีคัมภีร์เซียนเล่มหนึ่งที่พลิกเปิดขึ้นมา เนื่องจากท่ามกลางประกายแสงที่ไม่มีสิ้นสุดปรากฏอักขระยันต์นับไม่ถ้วนที่ลอยขึ้นมา
“นั่นมัน ‘คัมภีร์อายุวัฒนะ’ รึ?” ระดับบรรพบุรุษถึงกับตกใจอย่างยิ่ง กล่าวด้วยความหวาดผวาเมื่อมองเห็นอักขระยันต์ที่นับไม่ถ้วนปรากฏออกมาจากบริเวณหน้าอกของหลี่ชิเย่
เนื่องจากเซียนโอสถอาศัย ‘คัมภีร์อมตะ’ นี่แหละในการก่อตั้งเป็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะขึ้นมา กล่าวได้ว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะได้บ่มฟักความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเอาไว้ทั้งหมด ถ้าหากใครสามารถสำแดง ‘คัมภีร์อมตะ’ ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะได้อย่างแท้จริงล่ะก็ เป็นการบ่งบอกว่าผู้นั้นสามารถควบคุม ‘คัมภีร์อมตะ’ ทั้งเล่ม และสามารถควบคุมเคล็ดวิชาที่สืบทอดกันมาของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะได้ทั้งหมด
ตูมเสียงหนึ่งดังขึ้น ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ร่างกายของหลี่ชิเย่พวยพุ่งเป็นประกายขึ้นมาทั้งตัว ประกายสายนี้แตกต่างจากทั่วๆ ไป มันจัดอยู่ในประเภทของกาลเวลา เหมือนว่าได้ก้าวข้ามอดีตจนถึงปัจจุบัน แล้วก้าวข้ามจากปัจจุบันไปถึงอนาคต พลังทั้งหมดตามความยาวของกาลเวลาล้วนแล้วแต่มารวมอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่
ในพริบตาเดียวนั้นเอง ร่างกายของหลี่ชิเย่เสมือนดั่งได้กลับกลายเป็นร่างของกาลเวลาอย่างนั้น นาทีนี้ดุจดั่งได้นำเอาพลัง ลมปราณ สัจธรรมต่างๆ เป็นต้น จากอดีต ปัจจุบัน และอนาคตมารวมอยู่ ณ ตรงนี้ทั้งหมดในนาทีนี้
พริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกหวาดผวาจนขนลุกขนพอง เนื่องจากการรวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ของหลี่ชิเย่มันคือการอยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว เหมือนว่าเขาอาศัยมือข้างเดียวก็สามารถเข่นฆ่าเทพแท้จริง สังหารราชันแท้จริงได้ ทำให้สรรพสิ่งมีชีวิตทั้งหมดต้องสั่นเทา
‘กายอายุวัฒนะ’ ผู้พเนจรหยางหมิงถึงกับเอ่ยขึ้นมาด้วยความตระหนก เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ที่อยู่ในสภาพเช่นนี้
‘กายอายุวัฒนะ’ แม้แต่ฟ่านเมี่ยวเจินสามพี่น้องก็ต้องดวงตาเบิกกว้าง และไม่อยากเชื่อหูของตนเมื่อได้ยินคำพูดของผู้พเนจรหยางหมิง
“กายอา อา อายุวัฒนะ” ระดับบรรพบุรุษของสำนักต่างๆ ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะต่างอ้าปากค้างเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ มองดูหลี่ชิเย่ด้วยความหวาดผวาอย่างยิ่งและไม่อยากจะเชื่อ
“เป็นกายอายุวัฒนะจริงๆ รึ?” ผู้แทนของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิอื่นๆล้วนแล้วแต่ไม่อยากเชื่อ ถึงกับเอ่ยถามกับผู้พเนจรหยางหมิง
“น่าจะใช่” ผู้พเนจรหยางหมิงจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ แต่ก็รู้สึกไม่ถูกต้องนัก และกล่าวว่า “แต่ว่าดูจะแปลกประหลาดไปนิด หรือบางทีเป็นการควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ ไม่ใช่กายอายุวัฒนะที่บริสุทธิ์”
ความจริงแล้ว เวลานี้นาทีนี้ แม้แต่ผู้พเนจรหยางหมิงที่มีประสบการณ์กว้างขวางมากที่สุดก็บอกไม่ถูกกับลักษณะเช่นนี้ นางรู้สึกว่านี่คือกายอายุวัฒนะของหลี่ชิเย่ แต่ก็น่าจะเป็นการควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะเอาไว้ เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้งแล้ว มันไม่เหมือนทั้งสองอย่าง
“กายอายุวัฒนะคืออะไร” มีผู้เยาว์ที่ไม่เคยได้ยินกระทั่งกายอายุวัฒนะมาก่อน ถึงกับเอ่ยถามกับบรรพบุรุษของตน
“มันคือสุดยอดเคล็ดวิชาสุงสุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะพวกเรา และก็คือเคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดแขนงหนึ่งของปฐมบรรพบุรุษพวกเรา เล่าลือกันว่า ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะมีเพียงปฐมบรรพบุรุษที่ฝึกจนสำเร็จครบถ้วนบริบูรณ์ สำหรับคนอื่นๆ ต่อให้มีการฝึกก็ได้แค่ผิวเผินเท่านั้นเอง” ท่าทีของบรรพบุรุษดูหนักแน่นจริงจังอย่างยิ่ง และหลี่ชิเย่ “พลันที่สำแดงเคล็ดวิชานี้ออกมา สามารถทำลายฟ้าดิน เรียกได้ว่าปราศจากผู้ต่อกร”
‘กายอายุวัฒนะ’ หุ่นมังกรเงินยักษ์ก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากทีเดียวเมื่อมองเห็นสภาพเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ถึงกับก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“อืมม ที่แท้มันคือกายอายุวัฒนะนะเนี่ย บังเอิญไปนิด บังเอิญไปนิดหนึ่ง” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง
สภาพของหลี่ชิเย่ในเวลานี้ก็คือ ‘กายอายุวัฒนะ’ แต่ทว่า มันกับ ‘กายอายุวัฒนะ’ ที่เป็นหนึ่งในสิบสองกายเซียนที่อยู่ใน ‘ตำรากาย’ ไม่ได้มีส่วนสัมพันธ์ใดๆ ทั้งสิ้น
‘กายอายุวัฒนะ’ ในที่นี้หมายถึงเคล็ดวิชาที่ยิ่งใหญ่มากแขนงหนึ่งซึ่งคิดค้นขึ้นโดยเซียนโอสถ และถือเป็นเคล็ดวิชาที่สุดยอดและแข็งแกร่งมากที่สุดที่คิดค้นโดยเซียนโอสถ
กายอายุวัฒนะคือแนวคิดภายใต้ความเป็นอมตะไม่มีวันตาย รวบรวมเอาพลังทั้งหมดในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตที่ผ่านมาของคนๆ หนึ่ง รวมถึงพลังกาลเวลาด้วย กล่าวได้ว่าภายใต้สภาพเช่นนี้ เรียกได้ว่าเป็นสภาพที่ทรงพลังที่สุดที่บุคคลนั้นสามารถเอื้อมถึงได้
เคล็ดวิชาแขนงนี้ลึกล้ำอย่างยิ่ง ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะยกเว้นเซียนโอสถผู้คิดค้นเคล็ดวิชาแขนงนี้แล้ว ไม่มีใครสามารถฝึกสำเร็จได้อีกเลย แต่ว่า เวลานี้กลับปรากฏอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่
ความจริงแล้ว หลี่ชิเย่เองก็ไม่ได้ฝึกเคล็ดวิชา ‘กายอายุวัฒนะ’ แขนงนี้ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ เพียงแต่ผลสัจธรรมลูกสนที่สามารถวิวัฒนาการความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะได้โดยพลัน เนื่องจากในครั้งนั้นฐานเต๋าที่กลั่นบูชาสร้างขึ้นโดยเซียนโอสถในครั้งนั้น ได้อาศัยเคล็ดวิชาที่มีอยู่ใน ‘ตำราอายุวัฒนะ’ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี ‘กายอายุวัฒนะ’ รวมอยู่ด้วย
กล่าวได้ว่า หลี่ชิเย่ไม่จำเป็นต้องมีการฝึกเลย เขาอาศัยผลสัจธรรมลูกสนหยิบยืมเอา ‘กายอายุวัฒนะ’ ที่อยู่ในฐานเต๋าของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะมาสวมบนตัวของตน อีกทั้งยังนำเอาพลังส่วนหนึ่งที่อยู่ในฐานเต๋าของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะมาสวมลงบนตัวของตน เวลานี้หลี่ชิเย่ก็แค่นำเอาชุดเกราะเช่นนี้มาสวมใส่บนตัวเท่านั้น
สะดวกสบายไม่สลับซับซ้อน กระทั่งหลี่ชิเย่ไม่จำเป็นต้องไปวิวัฒนาการและมีความเชี่ยวชาญใน ‘กายอายุวัฒนะ’ และไม่จำเป็นต้องไปฝึก สามารถหยิบยืมมาใช้ได้โดยตรง
…………………………………………………….