ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2447 ธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวา
- Home
- ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
- ตอนที่ 2447 ธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวา
หลี่ชิเย่เสมือนไม่ได้ยินกับคำซุบซิบนินทาเหล่านี้อย่างนั้น เพียงมองดูศิลาจารึกที่อยู่ตรงหน้าแผ่นนี้
ในขณะนี้ ดวงตาคู่นั้นของหลี่ชิเย่ได้กลับกลายเป็นลึกล้ำอย่างยิ่ง เสมือนดั่งทะลุผ่าศิลาจารึกแผ่นนี้ไปแล้วอย่างนั้น เหมือนว่าศิลาจารึกแผ่นนี้ไม่มีที่ที่จะหลบซ่อนได้อีกแล้ว เมื่ออยู่ภายใต้สายตาของเขา
หลี่ชิเย่ในเวลานี้นั่งสงบอยู่ตรงนั้น ไม่ได้มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่สะเทือนเลื่อนลั่น และไม่มีพลังที่เป็นที่หวาดผวาของผู้คน เหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เป็นการนั่งอยู่ตรงนั้นธรรมดาๆ นั่นเอง คล้ายเป็นการชื่นชมทะเลเมฆที่อยู่ไกลออกไปด้วยท่าทีที่เหนื่อยหน่าย
แต่ว่า จางเจี้ยนชวนที่ยืนอยู่ข้างกายหลี่ชิเย่นาทีนี้กลับสามารถรับรู้ได้แล้ว ในพริบตาเดียวนี้เองจางเจี้ยนชวนที่กำลังรินน้ำชาให้กับหลี่ชิเย่พลันรู้สึกได้ว่าตนเองเหมือนยืนอยู่ข้างหุบเหวลึกอย่างนั้น และเพียงชั่วพริบตาเดียวหลี่ชิเย่เสมือนได้กลับกลายเป็นเหวลึกที่ลึกล้ำยากจะหยั่งถึง ไม่ว่าใครก็ตามหากตกลงไปล่ะก็หมายถึงตายอย่างไร้ที่ฝัง อีกทั้งเหวลึกนี้ลึกไม่สามารถหยั่งถึง ไม่ว่าอย่างไรก็ตกลงไปไม่ถึงก้นเหวได้อย่างนั้น
ดังนั้น จางเจี้ยนชวนที่ยืนอยู่ข้างกายหลี่ชิเย่ พลันร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง และบังเกิดความหวาดกลัวขึ้นโดยสัญชาตญาณขึ้นในใจทันที พริบตาเดียวนั่นเอง รู้สึกเหมือนว่าเหวลึกที่น่ากลัวดังกล่าวจะกลืนกินตนเองเข้าไปอย่างนั้น ทำให้ขาทั้งสองข้างอดที่จะอ่อนแรงไม่ได้
ทันใดนั้นเอง จางเจี้ยนชวนรับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของหลี่ชิเย่ บนตัวของเขาไม่ได้มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่สะเทือนเลื่อนลั่น และไม่ได้มีกลิ่นอายที่น่ากลัว แต่ว่า ภายใต้กายเนื้อที่ดูธรรมดาของเขาเหมือนได้ซ่อนเร้นพลังที่สามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างได้ เหมือนว่าเขาก็คือเหวลึกที่น่ากลัวที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในสถานะใดๆ ก็ตาม หากตกลงไปในเหวลึกเช่นนี้แล้วจะไม่ได้ผุดได้เกิด อย่าหวังจะขึ้นมาได้อีกตลอดกาล เกรงว่าจะต้องตายอย่างไร้ที่ฝังแล้ว
ล้นแล้ว เสียงที่เอ้อระเหยของหลี่ชิเย่ได้ดังขึ้น
ร่างของจางเจี้ยนชวนสั่นเทิ้มทีหนึ่ง เมื่อได้สติกลับมาจึงพบว่าน้ำชาได้ล้นออกมาจากถ้วยแล้ว เขารีบจัดการเช็ดให้แห้ง จากนั้นถอยไปอยู่ด้านหลังเงียบๆ ไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่คำเดียว ด้วยเกรงว่าจะเป็นการรบกวนหลี่ชิเย่
บรรดาศิษย์ของสำนักเสินสิงเหมินจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองตากันและกัน เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่ในศาลาพักร้อนกำลังพินิจพิเคราะห์ศิลาจารึกไร้อักษรอยู่ พวกเขาไม่นึกไม่ฝันเลยว่า หลี่ชิเย่ที่เป็นฮ่องเต้สิ้นชาติพลันให้ความสนใจในศิลาจารึกไร้อักษรของพวกเขาขึ้นมาอย่างกะทันหัน
เขา เขา เขาคงไม่ใช่มาบรรลุศิลาจารึกไร้อักษรของพวกเรากระมัง มีศิษย์ของสำนักเสินสิงเหมินถึงกับมองตากันและกันทีหนึ่ง กล่าวด้วยท่าทีไม่ค่อยจะมั่นใจนัก
เนื่องจากพวกเขายากที่จะจินตนาการได้ว่า ฮ่องเต้องค์ใหม่ที่เล่าลือกันว่าชมชอบแต่นารี ไร้ความรู้ความสามารถจะรู้สึกสนใจในศิลาจารึกไร้อักษรของสำนักเสินสิงเหมินพวกเขาได้ เรื่องเช่นนี้ฟังดูแล้วออกจะไร้เหตุผลมากเหลือเกิน
เกรงว่าจะจริง ดูไปแล้วเขาสนใจในศิลาจารึกไร้อักษรของสำนักเสินสิงเหมินพวกเราจริงๆ แล้ว ศิษย์พี่สาวที่จ้องมองดูหลี่ชิเย่อย่างละเอียด มองเห็นสายตาของหลี่ชิเย่หยุดอยู่บนศิลาจารึกไร้อักษรจริงๆ ท่าทางเหมือนกำลังบรรลุศิลาจารึกไร้อักษรอยู่ และรู้สึกได้ว่าหลี่ชิเย่กำลังบรรลุศิลาจารึกไร้อักษรของพวกเขาอยู่
บรรดาศิษย์ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้ากันและกันเมื่อได้ยินคำพูดลักษณะเช่นนี้ รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ ฮ่องเต้องค์ใหม่ที่เล่าลือกันว่าไร้ความรู้ มั่วโลกีย์ไร้คุณธรรม บ้ากาม ไร้ความสามารถถึงกับต้องการบรรลุศิลาจารึกไร้อักษรของสำนักเสินสิงเหมินพวกเขาขึ้นมากะทันหัน ทั้งยังเป็นศิลาจารึกไร้อักษรที่ไม่เคยมีใครสามารถบรรลุได้มาเป็นพันล้านปี นับว่าเป็นเรื่องปาฏิหาริย์เหลือเกิน
ไม่เจียมตัว ศิษย์พี่คนหนึ่งถึงกับเมินใส่และหัวเราะคริออกมา
ศิษย์พี่สาวผู้หนึ่งก็พยักหน้าและกล่าวว่า ศิลาจารึกไร้อักษรของพวกเราไม่เคยมีใครสามารถบรรลุได้ในพันล้านปีที่ผ่านมา ไม่ต้องพูดถึงไกล หลายปีที่ผ่านมา อัจฉริยะบุคคลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของแดนลัทธิราชันมาบรรลุก็ไม่ได้ผลอะไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตัวเขาที่เป็นเพียงฮ่องเต้สิ้นชาติที่มั่วโลกีย์ไร้คุณธรรมแล้ว
นั่นน่ะสิ เขาเข้าใจว่านี่คือการเล่นเกมที่สวมบทบาทคนในครอบครัวอย่างนั้นรึ? ศิลาจารึกไร้อักษรลักษณะเช่นนี้นอกจากอัจฉริยบุคคลที่ปราศจากผู้ต่อกรตลอดกาลเท่านั้นที่สามารถบรรลุได้ เกรงว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนอื่นๆ จะสามารถบรรลุได้อยู่แล้ว ศิษย์น้องสาวอีกคนก็พูดสนับสนุนขึ้นมาบ้าง
ศิษย์พี่ผู้นี้กล่าวด้วยท่าทีเหยียดหยามว่า คนที่ไร้ความสามารถเช่นนี้ไหนเลยเทียบกับมู่เส้าเฉินได้ ก็แค่ต้องการสร้างความแปลกใหม่และแหวกแนว ให้ตัวเองโดดเด่นเท่านั้น ทำให้ตัวเองต้องอับอายเท่านั้นเอง สวะที่บ้ากามไร้ความสามารถประเภทนี้ เหมาะกับขลุกอยู่แต่ในบ้านเป็นลูกที่ผลาญสมบัติพ่อแม่เท่านั้น
บรรดาศิษย์คนอื่นๆ จำนวนไม่น้อยทยอยกันพยักหน้าสนับสนุน เห็นด้วยกับคำบอกเล่าของศิษย์พี่ตน
จางเจี้ยนชวนที่คอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายได้แต่ทอดถอนใจออกมาเบาๆ เมื่อเหล่าศิษย์พี่ศิษย์น้องต่างทยอยกันวิพากวิจารณ์หลี่ชิเย่ เขาที่อยู่ในฐานะศิษย์พี่รองก็ไม่สามารถปิดปากคนอื่นไม่ให้พูด เขารู้สึกว่าศิษย์พี่ศิษย์น้องภายในสำนักออกจะฟังความข้างเดียวมากเกินไปแล้ว โดยหารู้ไม่ว่าหลี่ชิเย่กับที่เล่าลือกันมันแตกต่างกันอยู่แล้ว
หลี่ชิเย่เหมือนไม่รับรู้อะไร คำพูดเหล่านี้ไม่ได้เข้าหูเขาเลย สายตาของเขาตกอยู่ที่ศิลาจารึกไร้อักษร หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่เขาจึงได้ละสายตากลับมาช้าๆ
น่าเบื่อ… หลี่ชิเย่ส่ายหน้าเบาๆ จากนั้นยกน้ำชาขึ้นมาช้าๆ และค่อยๆ ลิ้มลองมันอย่างละเอียด
จางเจี้ยนชวนที่ยืนอยู่ข้างกายหลี่ชิเย่ถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ทันใดนั้นเอง เขาตระหนักได้ว่าคำพูดคำนี้ของหลี่ชิเย่ไม่ได้พูดกับบรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้องเหล่านั้น เป็นการพูดกับศิลาจารึกไร้อักษรแผ่นนี้ของเขา
ศิลาจารึกไร้อักษรแผ่นนี้ราชันแท้จริงเสินสิง ซึ่งเป็นปฐมบรรพบุรุษของสำนักเสินสิงเหมินพวกเขาเป็นผู้ตั้งขึ้นมากับมือ ผู้ที่ทราบประวัติความเป็นมาของศิลาจารึกไร้อักษรแผ่นนี้ก็ต้องลุกขึ้นแสดงความเคารพเลื่อมใสศรัทธาอย่างสุดซึ้ง และทำการบรรลุความลึกซึ้งยอดเยี่ยมขอวศิลาจารึกไร้อักษรนี้ด้วยจิตที่เคารพเลื่อมใสศรัทธา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นผู้เยาว์ด้วยแล้ว ยิ่งไม่กล้าเอ่ยคำดูหมิ่นปฐมบรรพบุรุษสำนักเสินสิงเหมินของพวกเขา
แต่ว่า หลี่ชิเย่ในเวลานี้กลับเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนว่าไม่มองราชันแท้จริงเสินสิง ปฐมบรรพบุรุษของสำนักเสินสิงเหมินอยู่ในสายตา ในสายตาของเขามองว่าศิลาจารึกไร้อักษรแผ่นนี้ช่างไร้ค่าไม่คู่ควรจะกล่าวถึงอย่างนั้น
ในเวลานี้เอง เสียงเครื่องประดับดังขึ้นเป็นระลอก และมีกลิ่นหอมโชยมาตามลม เจ้าตัวยังมาไม่ถึงก็สามารถรับรู้ถึงความงดงามและบุคลิกลักษณะอันมีเสน่ห์ของนางได้แล้ว
ศิษย์พี่สาว… ในขณะนี้เอง ศิษย์ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นศิษย์ที่อยู่ภายในศาลาพักร้อน หรือว่าด้านหน้าของศิลาจารึกไร้อักษรต่างทยอยกันลุกขึ้น ยืนเอามือลงและเรียกด้วยความเคารพ
ในเวลานี้เอง ร่างเงาที่งดงามได้ปรากฏตัวขึ้นที่ยอดเขาปรมาจารย์ กลิ่นหอมจางๆ ที่แผ่กระจายล่อยลอยตามลม ภาพของเฟยฮวาปรากฎอยู่ในนัยน์ตา เพียงชั่วพริบตาเดียว ร่างเงาที่งดงามนี้ก็ปรากฏอยู่ด้านหน้าของศาลาพักร้อนแล้ว ผู้หญิงที่งดงามและประทับใจก็ได้ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว
ผู้หญิงคนนี้มีรูปร่างสูงโปร่ง ช่วงขาที่เรียวยาวคู่นั้นดึงดูดสายตาผู้คนมากเป็นพิเศษ ข้าทั้งสองข้างของนางได้รับการยกย่องว่างดงามและสมบูรณ์แบบที่สุด ช่วงขาที่ยาวเรียวหากแม้เพิ่มขึ้นหนึ่งมิลลิเมตรก็จะเป็นส่วนเกิน หากน้อยกว่านี้หนึ่งมิลลิเมตรก็จะขาดไป ด้วยช่วงขาเรียวยาวที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ ทำให้ผู้พบเห็นต่างต้องการเอื้อมมือไปลูบไล้เบาๆ สักทีหนึ่ง
ผู้หญิงคนนี้สวมชุดสีชมพูอ่อน และปักดอกไม้เล็กๆ ด้วยไหมทองเอาไว้ดอกหนึ่ง ผ้าแพรบางเบาคาดเอว อวดรูปร่างส่วนเว้าส่วนโค้งออกมาโดยไม่มีการซ่อนเร้น
ผู้หญิงที่งดงามเช่นนี้ ดวงหน้าดั่งดอกท้อ ภาพรวมเปี่ยมด้วยความกระปรี้กระเปร่า ใบหน้าที่บอบบางสวยสดงดงาม
ขณะที่ผู้หญิงคนนี้ยืนอยู่ตรงนั้น มักจะปรากฏเงาบุปผาขึ้นมาเสมอๆ แม้แต่ขณะนางก้าวเดินออกไปก็มีเงาของบุปผาที่ปรากฏขึ้นมา เหมือนว่าทุกย่างก้าวของนางก็จะมีดอกไม้แต่ละดอกที่เกิดขึ้นมาอย่างนั้น ดูเหมือนหาใช่นางที่ไล่ติดตามบุปผา แต่เป็นบุปผาต่างหากที่คอยไล่ติดตามนาง
ศิษย์น้อง เจ้าก็มาด้วยแล้ว จางเจี้ยนชวนเองก็รู้สึกแปลกใจ เมื่อได้เห็นผู้หญิงคนนี้
ธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวา ลู่ปิงก็คือผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า นางคือธิดาศักดิ์สิทธิ์ของสำนักเสินสิงเหมิน และเป็นบุตรีของเจ้าสำนักเสินสิงเหมิน เรียกได้ว่ามีฐานะสูงส่ง ความจริงแล้ว นางยังเป็นทายาทรุ่นหลังของเทพวายุอีกด้วย นางมีสายเลือดที่สูงส่งไหลรินอยู่บนตัว
ด้วยเหตุที่นางมีฐานะ และมีสายเลือดที่สูงส่งเช่นนี้นี่เอง ในครั้งนั้นขณะฮ่องเต้ไท่ชิงขอให้เขาแต่งเข้าวัง ขณะที่เทพวายุก็ไม่เต็มใจนัก แต่ท้ายที่สุดยังคงเห็นด้วยกับงานแต่งงานในครั้งนั้น
เวลานี้บรรดาศิษย์ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้ากันและกัน เมื่อเห็นธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาปรากฎตัวขึ้นที่นี่กะทันหัน ในขณะนี้สายตาของศิษย์จำนวนไม่น้อยต่างตกไปอยู่ที่ตัวของหลี่ชิเย่
เนื่องจากมันหาใช่เป็นความลับอะไรอีกแล้วสำหรับงานแต่งครั้งนี้ ขณะที่หลี่ชิเย่ในฐานะฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์นั้น เรื่องดังกล่าวก็ได้มีการประกาศแจ้งต่อระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่แล้ว
ในครั้งนั้น หลังจากที่บรรดาศิษย์ของสำนักเสินสิงเหมินได้รับรู้เรื่องแต่งงานนี้แล้ว ต่างรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมในทุกระดับชั้น ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวา โดยเฉพาะผู้ที่มีจิตรักชอบต่อธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาด้วยแล้ว ยิ่งแค้นหลี่ชิเย่ที่เป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ชนิดแค้นเข้ากระดูกดำ
ในวันนั้น แม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมอยู่ในใจ มีศิษย์ที่เป็นชายจำนวนไม่น้อยแค้นเคืองหลี่ชิเย่ที่เป็นฮ่องเต้องค์ใหม่นี้อยู่ในใจ แต่ทุกคนก็จนด้วยเกล้า ได้แต่ยอมรับความจริงในเรื่องนี้เท่านั้น
จะอย่างไรเสีย ในขณะนั้นฮ่องเต้องค์ใหม่เรียกได้ว่ามีอำนาจของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่อยู่ในมือ เป็นบุรุษที่ยืนอยู่จุดสูงสุดของอำนาจระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ ในมือมีกองทัพเจ็ดกองทัพ ข้างหลังยังมีซุนหลึ่งหยิ่งที่เป็นผู้ปราศจากผู้ต่อกรคอยสนับสนุน กล่าวได้ว่าเพียงพอที่จะก้มมองใต้หล้า เป็นผู้กำหนดความเป็นความตายได้ ภายใต้อำนาจที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาก็ไม่มีทางเลือก จะต้องแต่งเข้าวัง
แต่ว่ามาถึงวันนี้ สถานการณ์แตกต่างกันแล้ว ฮ่องเต้องค์ใหม่ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดในวันนั้น ได้สิ้นชาติแผ่นดินถูกทำลายไปแล้ว จากที่ยืนอยู่จุดสูงสุดของอำนาจตกลงไปเหวลึกหมื่นจ้างในทันที กลายเป็นฮ่องเต้สิ้นชาติ สุนัขที่ไร้บ้าน
พูดคำพูดที่ไม่น่าฟัง ในอดีต แม้แต่ปรมาจารย์ของพวกเขาเทพวายุเมื่ออยู่ต่อหน้าฮ่องเต้องค์ใหม่ก็ไม่กล้ากระทำการล่วงเกินง่ายดาย แต่มาวันนี้ แม้แต่ศิษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่งของสำนักเสินสิงเหมินก็กล้าดูหมิ่นเขา กระทั่งรังแกเข้า
ดังนั้น กล่าวได้ว่า ในเวลานี้สวะที่ปราศจากอำนาจและกำลังความสามารถ อาศัยอะไรมาแต่งงานกับธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาของพวกเขา ไม่คู่ควรกับคุณหนูธิดาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาอยู่แล้ว!
ดังนั้น ในเวลานี้ สายตาของศิษย์ที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนมากที่มองหลี่ชิเย่จึงเผยปณิธานที่น่าเกรงขามออกมา ในเวลานี้ หากธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาสั่งการลงมาคำเดียว เกรงว่าจะมีศิษย์จำนวนมากยินดีวิ่งเข้าไปจัดการซ้อมหลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงฮ่องเต้สิ้นชาติคนหนึ่งอย่างหนัก กระทั่งเอาชีวิตเขาด้วยซ้ำ
เวลานี้ สายตาของธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาตกอยู่บนตัวขิงหลี่ชิเย่ มองดูหลี่ชิเย่ที่ท่าทางธรรมดา แววตาของนางพลันดูน่าเกรงขามขึ้น โดยเฉพาะท่าทางเหนื่อยหน่ายของหลี่ชิเย่นั้น ในสายตาของนางมองว่าเป็นสวะที่ไม่เป็นโล้เป็นพาย คนที่มีลักษณะเช่นนี้ในสายตาของนางยิ่งดูน่ารังเกียจ
ยิ่งไปกว่านั้น นางได้ฟังข่าวลือต่างๆ นานาที่เกี่ยวกับหลี่ชิเย่ก่อนหน้านั้นนานแล้ว มั่วโลกีย์ไร้คุณธรรม อาศัยกำลังฉุดคราหญิงสาวชาวบ้าน ผู้ชายประเภทนี้ ปรกติแล้วหากนางได้พบเจอก็จะจัดการเชือดทิ้งอย่างไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย!
……………………………………………….