ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2526 ประจัญหน้า
ตอนที่ 2526 ประจัญหน้า
เลือนรางไม่ชัดเจนไร้ขอบเขต เขาจิ่วเหลียนซานเหมือนดั่งถูกบดบังเอาไว้ทั้งหมดอย่างนั้น ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ค่ายกลกระบี่ขนาดยักษ์ปราศจากผู้เทียบเทียมปรากฏขึ้น ทำการครอบคลุมเขาจิ่วเหลียนซานอยู่ภายในทั้งหมด
เลือนรางไม่ชัดเจนไร้ขอบเขต เขาจิ่วเหลียนซานเหมือนดั่งถูกบดบังเอาไว้ทั้งหมดอย่างนั้น ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ค่ายกลกระบี่ขนาดยักษ์ปราศจากผู้เทียบเทียมปรากฏขึ้น ทำการครอบคลุมเขาจิ่วเหลียนซานอยู่ภายในทั้งหมด
ท่ามกลางค่ายกลกระบี่ขนาดใหญ่ยิ่ง เต็มไปด้วยการเข่นฆ่า กระบี่ยักษ์จำนวนนับไม่ถ้วนที่ผุดขึ้นมา หลังจากที่ถูกกวาดล้างโดยกระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งไปแล้ว ดวงดาวบนท้องฟ้าก็เสมือนดั่งกลายเป็นฝุ่นผงที่ปลิวกระจายหายไป
ขณะที่กระบี่ยักษ์ลักษณะเช่นนี้ปรากฏขึ้นมานั้น กลิ่นอายของการเข่นฆ่าตลบอบอวลระหว่างฟ้าดิน เหมือนว่าสรรพสิ่งมีชีวิตที่อยู่ท่ามกลางค่ายกลกระบี่นี้ก็ต้องถูกสังหารไปในพริบตา ทั้งยังเป็นการบดขยี้จนกลายเป็นหมอกเลือดไม่มีเหลือแม้แต่ซาก
‘ค่ายกลกระบี่เทียนหยวน’ ในเวลานี้เอง ระดับบรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณที่มองดูเขาจิ่วเหลียนซานกลับกลายเป็นค่ายกลกระบี่แล้ว อดที่จะพึมพำขึ้นมาว่า “นี่คือค่ายกลกระบี่ที่ทรงพลังมากที่สุด เป็นหนึ่งในสามสุดยอดค่ายกลของแคว้นว่านเจิ้น”
ในเวลานี้ ทุกคนที่มองเห็นทั่วทั้งเขาจิ่วเหลียนซานล้วนแล้วแต่ถูกค่ายกลกระบี่ที่มีขนาดยักษ์อย่างยิ่งครอบคลุมเอาไว้ทั้งหมดอยู่ในนั้น จึงได้เข้าใจว่าเพราะอะไรก่อนหน้านั้นราชันแท้จริงปาเจิ้นจึงได้ให้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์จำนวนมหาศาลพุ่งลงมาจากฟ้าและปักอยู่บนเขาจิ่วเหลียนซานทั้งหมด เพื่อต้องการวางสุดยอดค่ายกลกระบี่ที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองนี้เอาไว้บนเขาจิ่วเหลียนซาน
ในเวลานี้ ทุกคนอดที่จะกลั้นลมหายใจเอาไว้ไม่ได้ แคว้นว่านเจิ้นได้รับการยกย่องว่ามีค่ายกลที่เป็นหนึ่งไม่มีสอง มาวันนี้ราชันแท้จริงปาเจิ้น ได้ทุ่มเทกำลังใจกำลังสมองมากมายเช่นนี้ วางสุดยอดค่ายกลกระบี่ในหล้าเอาไว้ ไม่รู้ว่าเขาสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้หรือไม่
เสียงตึง…ดังขึ้นเสียงหนึ่ง พริบตาเดียวนั่นเองราชันแท้จริงปาเจิ้นก้าวเท้าเข้ามาและหยุดอยู่ที่เขาหงฮวงซาน สายตาที่เยือกเย็นของเขากวาดตามองผ่านไป และสายตาของเขาตกอยู่บนตัวของปิงฉือหานยวี่เป็นอันดับแรก ปิงฉือหานยวี่ในเวลานี้ยืนอยู่ข้างกายหลี่ชิเย่เงียบๆ
จากนั้น สายตาของราชันแท้จริงปาเจิ้นได้ตกไปอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ ขณะที่สายตาของเขาตกอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่นั้น ได้เบ่งบานเป็นประกายกระบี่ที่เจิดจ้าอย่างยิ่ง เสมือนหนึ่งโลกๆ หนึ่งระเบิดขึ้น เปี่ยมด้วยกลิ่นอายน่าเกรงขามที่ปราศจากผู้ต่อกร
เมื่อศัตรูเวียนมาพบกันย่อมรู้สึกโกรธ เพียงแต่ ราชันแท้จริงปาเจิ้นยังคงเป็นราชันแท้จริง ยังมีจิตใจที่กว้างขวาง ในเวลานี้ไม่ได้เอะอะโวยวายด้วยความโกรธ
“หลี่ชิเย่…” ในเวลานี้ ราชันแท้จริงปาเจิ้นเรียกชื่อหลี่ชิเย่ออกมาตรงๆ เสียงของเขาแกร่งประดุจเหล็กและหิน เสมือนดั่งกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่ออกจากฝัก ทุกๆ คำล้วนแล้วแต่เปี่ยมด้วยการฆ่าฟันที่รุนแรง
การพบกันระหว่างผู้เป็นเจ้าด้วยกัน ในพริบตาเดียวนี้เองทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ ต่างอดที่จะจ้องเขม็งไปยังภาพตรงหน้าอย่างไม่ลดละ ล้วนแล้วแต่ไม่ต้องการพลาดสิ่งที่น่าตื่นเต้นมากที่สุดไป
ในเวลานี้ ฟ้าดินมีเพียงเสียงของลมหายใจอย่างนั้น เหมือนว่าแม้แต่เข็มเงินตกพื้นสักเล่มก็สามารถได้ยิน
ทุกคนต่างจ้องมองดูหลี่ชิเย่ กับราชันแท้จริงปาเจิ้นอย่างไม่กะพริบตา กล่าวได้ว่า นี่เป็นการพบกันระหว่างผู้เป็นเจ้าด้วยกันเป็นครั้งที่สองระหว่างหลี่ชิเย่กับราชันแท้จริงปาเจิ้น
การพบกันครั้งแรก ราชันแท้จริงปาเจิ้นนำพากำลังพันธมิตรจากหกกองทัพ ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ และแคว้นว่านเจิ้นตีวังหลวงจนแตก นำทัพเข้าประชิด
ในขณะนั้น ฮ่องเต้องค์ใหม่เป็นเพียงฮ่องเต้โง่เขลาที่มั่วโลกีย์ไร้คุณธรรมคนหนึ่งเท่านั้น อ่อนแอจนไม่คู่ควรจะกล่าวถึง
เรียกได้ว่า เวลานั้นสามารถคาดการณ์ได้ถึงผลที่จะเกิดขึ้นได้อย่างสิ้นเชิง ผู้คนเอาใจออกห่าง ฮ่องเต้องค์ใหม่ถูกราชันแท้จริงปาเจิ้นขับไล่ออกจากบัลลังก์ ต้องหลบหนีไปเสมือนหนึ่งหมดที่พึ่งไร้ญาติขาดมิตร
สำหรับราชันแท้จริงปาเจิ้นในขณะนั้นเรียกได้ว่ามีจิตใจฮึกเหิม มีชื่อเสียงโด่งดังมากปราศจากผู้เทียบเทียม กระทั่งมีทีท่าว่าจะได้ขึ้นสู่ตำแหน่งฮ่องเต้แทน
แต่ทว่า การพบกันระหว่างผู้เป็นเจ้าด้วยกันอีกครั้งในวันนี้ ทุกอย่างได้กลับกลายเป็นไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ฮ่องเต้องค์ใหม่ปราศจากผู้ต่อกรในหล้า ทุกสิ่งบนโลกล้วนแล้วแต่มดปลวกทั้งสิ้น แม้แต่ราชันแท้จริงปาเจิ้นเองยังต้องตั้งมั่นพร้อมรับมือกับศัตรู
สิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออกยิ่งกว่าก็คือ องค์หญิงหานยวี่ คู่หมั้นของราชันแท้จริงปาเจิ้นตกอยู่ในมือของฮ่องเต้องค์ใหม่!
ท่าทางของหลี่ชิเย่ดูเอ้อระเหยสำหรับการเรียกชื่อตรงๆ ของราชันแท้จริงปาเจิ้น วางถ้วยน้ำชาในมือลง ทำท่าหาวทีหนึ่ง ท่าทางเหมือนเซ็งมาก และกล่าวว่า “เจ้าใช้เวลาเตรียมตัวนานมาก น่าเบื่อจริง”
พลันที่คำพูดลักษณะเช่นนี้ถูกพูดออกมา ทำให้ผู้คนถึงกับหายใจไม่ออก ราชันแท้จริงปาเจิ้นนั้นเรียกได้ว่าสรรพวิชารวมอยู่บนตัว มีลักษณะท่าทางที่ปราศจากผู้ต่อกรอยู่ในความครอบครอง แต่ว่า ด้วยลักษณะท่าทางเช่นนี้ในสายตาของฮ่องเต้องค์ใหม่มองว่าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้อยู่แล้ว
แม้ว่าราชันแท้จริงปาเจิ้นในขณะนี้จะบังคับและควบคุมพลังอันน่าเกรงขามของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่แล้ว ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังคงมีท่าทีอย่างไรก็ได้ ยังคงมีท่าทางเหมือนเป็นเรื่องที่เซ็งมาก ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าฮ่องเต้องค์ใหม่ไม่ได้มองราชันแท้จริงปาเจิ้นอยู่ในสายตาเลย
สภาพที่ปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้ของราชันแท้จริงปาเจิ้นก็ยังไม่อยู่ในสายตาของฮ่องเต้องค์ใหม่ เช่นนั้นแล้ว ฮ่องเต้องค์ใหม่มีความแข็งแกร่งเช่นใด มีความน่ากลัวเพียงใด ดังนั้นทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนแล้วแต่อดที่จะอึดอัดจนหายใจไม่ออก
ราชันแท้จริงปาเจิ้นเองก็ไม่ได้แสดงอาการโกรธ ท่าทางของเขาหนักแน่นจริงจัง สายตาดูไม่เป็นมิตร กล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “วันนี้ ข้ามาเพื่อรับตัวองค์หญิงหานยวี่!” พลันที่พูดขาดคำ ดวงตาทั้งสองของเขาได้พวยพุ่งประกายที่เจิดจ้าออกมาเหมือนสามารถผ่าโลกทั้งโลกได้
ลักษณะท่าทางเช่นนี้ของราชันแท้จริงปาเจิ้น บ่งบอกถึงการตัดสินใจที่เด็ดขาดของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
“ความกล้าหาญน่ายกย่องชมเชย มีน้ำใจ” หลี่ชิเย่ยังคงมีท่าทีที่มีลมหายใจแต่ไร้เรี่ยวแรง โบกมือเบาๆ ทำท่าหาวทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเจ้ามีความสามารถที่จะเอาตัวนางไปจากมือข้าได้หรือไม่ เจ้าต้องถามนางเสียก่อนว่านางยินดีที่จะไปกับเจ้าหรือไม่”
ท่าทางของหลี่ชิเย่ไม่ได้เห็นราชันแท้จริงปาเจิ้นอยู่ในสายตาเลย ทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยที่อยู่ในเหตุการณ์รู้สึกไม่เป็นธรรมต่อราชันแท้จริงปาเจิ้น รู้สึกว่าฮ่องเต้องค์ใหม่อวดดีมากเหลือเกิน ลำพองเหลือเกิน
แต่ว่า ไม่มีใครกล้าพูดออกมา ต่อให้ในใจรู้สึกไม่พอใจก็ไม่กล้าพูดสักคำ ฮ่องเต้องค์ใหม่ที่เป็นทรราชพลันลงมือก็เข่นฆ่าเป็นล้าน ใช่ว่าพวกเขาจะไม่เคยเห็นมาก่อน
สายตาของราชันแท้จริงปาเจิ้นเพ่งไปข้างหน้า จากนั้น สายตาของเขาได้ตกไปอยู่บนตัวของปิงฉือหานยวี่ทันที แววตาดั่งสายน้ำ นุ่มนวลลงมากทีเดียว
“องค์หญิง ตามข้ากลับไปเป็นไร?” ในขณะนี้ ราชันแท้จริงปาเจิ้นยังคงแสดงออกด้วยท่าทีของความเป็นสุภาพบุรุษ ไม่เสียทีที่เป็นถึงราชันแท้จริงคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกลักษณะหรือท่าทาง ล้วนแล้วแต่เหมาะสมกับฐานะความเป็นราชันแท้จริงของเขา
ปิงฉือหานยวี่ทอดถอนใจออกมาเบาๆ ขณะจ้องมองราชันแท้จริงปาเจิ้น ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “คุณชายเทียนจือ เรื่องราวทั้งหมดล้วนแล้วแต่เกิดจากตัวข้า ก็ให้จบสิ้นที่ข้าก็แล้วกัน ท่านมีอนาคตที่ดีและยาวไกล ละทิ้งบุญคุณความแค้นเสียและไปจากที่ตรงนี้ ฟ้าสูงแผ่นดินกว้างไกล ท้องฟ้าสูงทะเลกว้างใหญ่”
ปิงฉือหานยวี่พูดคำพูดนี้ออกมาเบาๆ นับว่าเห็นแก่ความสัมพันธ์ก่อนเก่าแล้ว เนื่องจากภายในใจของนางชัดเจนมาก ในยุคปัจจุบันไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่ ทุกๆ คนที่เป็นศัตรูกับหลี่ชิเย่มีแต่ตายสถานเดียว การดิ้นรนขัดขืนทุกอย่างล้วนช่างอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง นางย่อมอ่อนข้อและติดตามหลี่ชิเย่
พลันที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องหวาดผวากับสิ่งนี้ ชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ผู้คนจำนวนมากต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกสะดุ้งภายในใจ
ในเวลานี้ ภายในใจของทุกคนอดที่จะเย็นวาบทีหนึ่ง ก่อนหน้านี้ ผู้คนใต้หล้าล้วน รู้ว่าองค์หญิงหานยวี่กับราชันแท้จริงปาเจิ้นดั่งมาจากสรวงสวรรค์ เป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ พวกเขาทั้งสองคือกิ่งทองใบหยก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายใต้โอกาสต่างๆ องค์หญิงหานยวี่ก็สามารถสร้างสถานการณ์ให้กับราชันแท้จริงปาเจิ้น ช่วยสร้างความสัมพันธ์ให้กับราชันแท้จริงปาเจิ้น ช่วยแสวงหาผลประโยชน์ให้กับราชันแท้จริงปาเจิ้น…เรียกได้ว่า เพื่อช่วยให้ราชันแท้จริงปาเจิ้นสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งฮ่องเต้ องค์หญิงหานยวี่ได้ทุ่มเทอย่างสุดกำลัง ทำเต็มกำลังความสามารถ
ในสายตาของผู้คนใต้หล้าในเวลานั้นมองว่า องค์หญิงหานยวี่นับเป็นผู้ช่วยที่มีสติปัญญา นางไม่เพียงมีรุปลักษณ์ที่งดงามน่าประทับใจ ขณะเดียวกันก็เป็นผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์ มีบุคลิกที่สูงส่ง และมีคุณธรรมและสติปัญญา นับว่าเป็นฮองเฮาที่ได้มาตรฐานอย่างยิ่ง
แต่ว่า ภายในระยะเวลาอันสั้น กลับเปลี่ยนแปลงไปได้มากถึงเพียงนี้ องค์หญิงหานยวี่แค่ตกอยู่ในมือของฮ่องเต้องค์ใหม่เพียงแค่คืนเดียวเท่านั้น ก็เปลี่ยนแปลงไปทุกอย่าง
ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องอึดอัดหายใจไม่ออกเมื่อนึกถึงตรงนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในชั่วข้ามคืน? เวลานี้ได้ทำให้ผู้คนอดที่จะบังเกิดความคิดหลายอย่างผุดขึ้นมาไม่ขาดสาย!
ไม่นานนี้เอง องค์หญิงหานยวี่กับราชันแท้จริงปาเจิ้นเรียกได้ว่าสามีภรรยารักใคร่ปรองดองกัน เป็นคู่รักที่น่าอิจฉาในสายตาของผู้คนไม่รู้จำนวนเท่าไร
แต่ว่า วันนี้องค์หญิงหานยวี่กลับติดตามฮ่องเต้องค์ใหม่เสียแล้ว การเปลี่ยนแปลงลักษณะเช่นนี้ไม่รู้ว่าได้ทำให้ผู้คนจำนวนเท่าไรต้องใจหายใจคว่ำ
ลักษณะท่าทางของราชันแท้จริงปาเจิ้นเปลี่ยนไป เมื่อได้ยินคำพูดขององค์หญิงหานยวี่ ร่างกายของเขาสั่นเทิ้มทีหนึ่ง แต่ว่า จะอย่างไรเสียเขาก็คือราชันแท้จริงคนหนึ่ง ปรับสภาพให้กลับมาสงบดังเดิมอย่างรวดเร็ว ลักษณะท่าทางพลันสงบขึ้นมาทันที
“องค์หญิง ท่านวางใจ ข้าจะต้องช่วยท่านออกมาให้ได้” ราชันแท้จริงปาเจิ้นสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง ทำใจสงบ แล้วเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในเมื่อท่านต้องสูญเสียอิสรภาพเพราะข้า ข้าก็มีหน้าที่ที่ต้องพาท่านกลับไป!”
ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างแอบยกนิ้วให้เมื่อได้ยินคำพูดของราชันแท้จริงปาเจิ้น นี่แหละคือผู้ชายอกสามศอก พูดคำไหนคำนั้น ท่าทางที่แสดงถึงความรับผิดชอบ ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกเลื่อมใสศรัทธา
ปิงฉือหานยวี่ทอดถอนใจเบาๆ นางส่ายหน้าและเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “คุณชายเทียนจือ ท่านยังคงไม่เข้าใจ ท่านไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฝ่าบาท การดื้อดึงที่จะเป็นศัตรูกับฝ่าบาท มันเป็นหนทางแห่งความตาย สิ่งนี้หาใช่เพียงทำให้แคว้นว่านเจิ้นนำมาซึ่งภัยล่มสลาย และยังพลอยทำให้ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือต้องแย่ไปด้วย”
ในเวลานี้ คำพูดของปิงฉือหานยวี่ชัดเจนยิ่งกว่าอะไรเสียอีก และพูดออกมาตรงๆ คำพูดเช่นนี้ไม่น่าฟังอย่างยิ่ง ไม่ว่าใครก็ตามฟังแล้วก็จะรู้สึกไม่รื่นหู กระทั่งทิ่มแทงจิตใจ แต่ว่า คำพูดนี้ของปิงฉือหานยวี่กลับเป็นการพูดความจริง
ภายในใจของปิงฉือหานยวี่เข้าใจเป็นอย่างดี หากราชันแท้จริงปาเจิ้นดึงดันที่จะทำเช่นนี้ ต้องมีภัยถึงแก่ชีวิตอย่างแน่นอน สิ่งนี้หาใช่เกี่ยวพันเพียงแค่เกียรติยศศักดิ์ศรีของพวกเขาทั้งสองเท่านั้น แต่เกี่ยวพันถึงความเป็นความตายของแคว้นทั้งแคว้น และตระกูลทั้งตระกูล
พลันที่ปิงฉือหานยวี่พูดคำพูดเช่นนี้ออกมา ทุกคนต่างสะดุ้งภายในใจ และมีผู้คนจำนวนมากที่ไม่เข้าใจการกระทำของปิงฉือหานยวี่ จะอย่างไรเสียผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองว่า การที่ราชันแท้จริงปาเจิ้นยอมเสี่ยงภัยมากขนาดนี้มาที่นี่ก็เพื่อที่จะช่วยนาง
สีหน้าราชันแท้จริงปาเจิ้นเปลี่ยนไปมากทีเดียว แต่ว่า เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง จากนั้นก็สงบอารมณ์ขึ้นมาได้ เขาละสายตากลับมาจากตัวของปิงฉือหานยวี่อย่างไม่ลังเล
ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น เวลานี้ดวงตาทั้งสองของราชันแท้จริงปาเจิ้นดูเฉียบขาด เสียงกระบี่คำรามดังขึ้นมา แววตาของเขาได้กลับกลายเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียม เหมือนต้องการฟันศีรษะหลี่ชิเย่ให้ขาดอย่างนั้น
ในพริบตาเดียวนั้นเอง ราชันแท้จริงปาเจิ้นได้พวยพุ่งกลิ่นอายแห่งการฆ่าที่น่ากลัวออกมาทั่วร่าง ในพริบตาเดียวนี้เอง ร่างของเขาได้กลับกลายเป็นเทพสังหารอย่างนั้น ใครขวางทางเข้าล่ะก็ ฆ่าไม่มีละเว้น!
“วันนี้ ข้าจะให้เจ้ามอบศรีษะให้กับข้า! และพาองค์หญิงหานยวี่ไป มิฉะนั้นแล้ว ไม่ตายไม่เลิก” ลักษณะท่าทางราชันแท้จริงปาเจิ้น เวลานี้พลันดูเข้ม เสียงทุ้มต่ำ คำพูดที่เขาพูดออกมานั้นหนักแน่นจริงจัง แทนหัวใจที่ตัดสินใจอย่างมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง
ปิงฉือหานยวี่ทอดถอนใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นราชันแท้จริงปาเจิ้นตัดสินใจจะสู้ จึงไม่เกลี้ยกล่อมอีกต่อไป เนื่องจากนางรู้ว่าสิ่งนี้ได้ลิขิตเอาไว้แล้ว ไม่ว่าใครก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้
…………………………………………………………