ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2557 สยบสังหาร
ตอนที่ 2557 สยบสังหาร
โดยที่ไม่ต้องเปลืองแรงอะไรมากมายก็จัดการพลิกกลับจานศักดิ์สิทธิ์ ในขณะนี้หลี่ชิเย่ที่เดิมถูกสยบจนติดพื้นได้ยืนสูงเด่นอยู่เหนือเก้าชั้นฟ้า เสมือนดั่งอยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง ตัวเขาปราศจากผู้ต่อกรในยุคปัจจุบันเสียแล้ว ไม่สิ เหมือนว่าเขาคือผู้ปราศจากผู้ต่อกรตลอดกาลเสียแล้ว
ควรจบสิ้นได้แล้ว หลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่เหนือเก้าชั้นฟ้าเพียงเอ่ยขึ้นมาเบาๆ
คำพูดที่พูดขึ้นมาแผ่วเบาของหลี่ชิเย่เหมือนว่าพูดไปตามอารมณ์ยิ่ง พูดได้เรียบเฉยอะไรอย่างนั้น แต่ทว่า ด้วยคำพูดที่แผ่วเบาเช่นนี้เสมือนดั่งได้กำหนดสถานการณ์ตลอดกาลแล้ว ไม่สามารถที่จะพลิกกลับได้อีกต่อไป
คำพูดที่พูดขึ้นมาแผ่วเบานี้ ซึ่งมีเพียงห้าตัวอักษรเท่านั้นกลับเป็นการกำหนดทุกอย่าง คำพูดห้าตัวอักษรนี้เหมือนเป็นการสยบชั่วนิรันดร์อย่างนั้น ภายใต้ห้าตัวอักษรนี้ ทุกอย่างถูกกำหนดแน่นอน ไม่ว่าใคร ไม่ว่าจะเป็นผู้ดำรงอยู่เช่นใด ไม่ว่าพลังเช่นใดก็ไม่อาจพลิกตัวได้อีก ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้อีกต่อไป
เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง มือทั้งสองของหลี่ชิเย่ได้กระชับเข้ามา ปรากฏประกายที่เบ่งบานขึ้นมา จังหวะที่มือคู่นั้นกระชับเข้าหาเสมือนหนึ่งโลกทั้งโลกถูกรวบเข้ามาอยู่ในมือ
นี่เป็นเพียงการกระชับมือทั้งสองของหลี่ชิเย่เบาๆ เท่านั้นเอง แต่ว่า จังหวะที่มีการกระชับเข้ามานั้น ทุกคนต่างรู้สึกวิญญาณของตนแตกสลาย ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนต่างรู้สึกเหมือนหนึ่งว่ามิติคล้ายถูกจับบิดจนหักงออย่างนั้น โลกทั้งโลกถูกหลี่ชิเย่รวบเข้าไปอยู่ระหว่างมือทั้งสอง
ไม่เพียงแต่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่เท่านั้นที่ถูกหลี่ชิเย่รวบเอาไว้อยู่ระหว่างมือทั้งสอง และไม่เพียงแค่แดนลัทธิราชัน กระทั่งรวมเอาแดนลัทธิพรรษ แดนลัทธิเซียน ทุกสิ่งทุกอย่างในแดนสามเซียนล้วนแล้วแต่ถูกเขารวบเอาไว้อยู่ในมือทั้งสอง
ในพริบตาเดียวนั่นเอง มือทั้งสองของหลี่ชิเย่ได้รวบเอาทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ มันไม่เพียงแค่รวบเอาโลกทั้งโลก ขณะเดียวกันก็รวบเอากาลเวลาตลอดกาล ยิ่งกว่านั้นยังรวบเอาสัจธรรมนับล้านล้านเอาไว้ ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่ถูกรวบเอาไว้ระหว่างมือทั้งสองของเขา
จังหวะที่มือทั้งสองกระชับหุบเข้าหากันนั้น ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่ถูกจับบิดจนหักงอ ทุกสิ่งถูกบีบอัดจนกลายเป็นตราประทับสี่หลี่ยม โลกทั้งโลกก็ดี กาลเวลานิรันดร์กาลก็ช่าง กระทั่งสัจธรรมนับล้านล้าน ล้วนแล้วแต่ถูกบีบอัดให้อยู่ในตราประทับสี่เหลี่ยมก้อนนี้
นาทีนี้ ในตราประทับสี่หลี่ยมได้ครอบครองพลังที่น่ากลัวและทรงพลังมากที่สุดในโลกเอาไว้แล้ว แค่ตราประทับขนาดเล็ก แต่ก็ได้ครอบครองพลังทุกอย่างที่มีอยู่บนโลกมนุษย์แล้ว มันสามารถสยบและปราบทุกอย่างภายในพริบตาเดียว
สิ้นสุดเถอะ หลี่ชิเย่ยิ้มตามอารมณ์ ตราประทับสี่เหลี่ยมในมือพลันสยบลงมาในทันที
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ภายใต้ตราประทับสี่เหลี่ยมนี้ ช่องว่างถูกทำให้กลับไปยังจุดเดิม ทุกอย่างกลับกลายเป็นขมุกขมัว มีเพียงตราประทับสี่เหลี่ยมที่เปล่งประกายแต่ละสายขึ้นมา เมื่อมองดูให้ละเอียดจะพบว่า ท่ามกลางตราประทับสี่เหลี่ยมเล็กๆ นี้มีโลกทั้งโลก มีดวงดาวเป็นล้านล้านดวง มีสัจธรรมที่ไม่มีสิ้นสุด…ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่อยู่ภายในตราประทับสี่เหลี่ยมนี้
ตราประทับสี่เหลี่ยมอันหนึ่งที่รวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ มันมีน้ำหนักที่ประเมินไม่ได้ ขณะที่มันสยบลงมานั้น ไม่อาจจินตนาการ ไม่อาจคำนวณถึงอานุภาพของมัน หนึ่งตราประทับสี่เหลี่ยมที่สยบลงมานั้น ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นใคร ไม่ว่าจะมีความปราศจากผู้ต่อกรเช่นใด ก็ต้องถูกปราบปรามจนหายวับไปกับตาในพริบตาเดียว
ตูม…ขณะที่ตราประทับสี่หลี่ยมสยบลงมานั้น ร่างเงาจำแลงของปฐมบรรพบุรุษคำรามเสียงดัง เรียกเอาจานศักดิ์สิทธิ์เข้ามา ร่างทั้งร่างของเขาได้พวยพุ่งประกายที่ดั่งคลื่นยักษ์ออกมา อานุภาพปฐมบรรพบุรุษอาละวาดไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ร่างกายของเขาเสมือนหนึ่งกลับกลายเป็นฟ้าดิน สามารถรองรับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกเอาไว้
สำหรับจานศักดิ์สิทธิ์นั้น มันสามารถพวยพุ่งเป็นหลักกฎเกณฑ์สัจธรรมที่ไม่มีสิ้นสุดออกมา โดยที่หลักกฎเกณฑ์ปฐมบรรพบุรุษแต่ละสายได้พุ่งขึ้นท้องฟ้าอย่างรุนแรง สามารถแบกรับโลกทั้งโลกเอาไว้ สามารถต้านการสยบที่น่ากลัวที่สุดเอาไว้ได้
กล่าวได้ว่า นาทีนี้คล้ายดั่งปฐมบรรพบุรุษได้ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ กระบวนท่าเช่นนี้เหมือนว่าสามารถต้านทุกๆ กระบวนท่าโจมตีที่มีอยู่บนโลก
เสียงปัง…ดังสนั่น ตราประทับสี่เหลี่ยมกระแทกลงบนจานศักดิ์สิทธิ์อย่างแรง ท่ามกลางเสียงปังที่ดังสนั่นหวั่นไหวนี้ เสมือนหนึ่งทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกล้วนถูกชนจนทะลุ เหมือนว่าทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ล้วนแล้วแต่ถูกชนจนทะลุไปอย่างนั้น ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกหวาดผวา
ท่ามกลางเสียงปังที่ดังสนั่นขึ้นมา แม้ว่าจานศักดิ์สิทธิ์จะปราศจากผู้ต่อกร แต่ยังคงต้านกับตราประทับสี่เหลี่ยมที่สยบลงมาไม่ได้ หลักกฎเกณฑ์ปฐมบรรพบุรุษที่พุ่งขึ้นท้องฟ้าถูกทำลายสิ้นในพริบตาเดียว ภาพเช่นนี้นับว่าแลดูอลังการอย่างยิ่ง นี่มันหลักกฎเกณฑ์ปฐมบรรพบุรุษเชียวนะ เป็นสิ่งที่แข็งแกร่งไม่อาจทำลายได้ แต่ว่า ภายใต้ตราประทับสี่เหลี่ยมยังคงถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าตราประทับสี่เหลี่ยมมีความน่ากลัวเช่นใดแล้ว
ท่ามกลางเสียงดังปังที่ดังขึ้นมานั้น ตราประทับสี่เหลี่ยมไม่มีสิ่งใดต้านขวางได้ ในพริบตาเดียวนั่นเองหนึ่งการโจมตีที่ทะลุผ่านได้ชนทะลุจานศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ลังเล หลังจากที่จานศักดิ์สิทธิ์ถูกชนทะลุไปแล้วก็ได้แยกตัวกลายเป็นอาวุธปฐมบรรพบุรุษสี่ชิ้นกระจัดกระจายตกลงไป
ขณะที่ตราประทับสี่เหลี่ยมได้พุ่งชนทะลุจานศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วนั้น พลังยังคงไม่อาจต้านทานได้ มันได้ทะลุทะลวงสยบสังหารต่อไปตรงๆ โดยพุ่งเป้าสังหารร่างเงาของปฐมบรรพบุรุษ
นาทีนี้ ร่างเงาจำแลงของปฐมบรรพบุรุษก็รับรู้ได้ถึงอันตรายแล้ว ได้พวยพุ่งประกายที่แข็งแกร่งน่าเกรงขามมากที่สุดขึ้นมา แต่ทว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ช่วยอะไรไม่ได้ การขัดขืนที่ทรงพลังมากกว่านี้ภายใต้ตราประทับสี่เหลี่ยมก็ดูจะปราศจากเรี่ยวแรงอะไรอย่างนั้น ดูจะไร้ค่าคู่ควรจะกล่าวถึง
ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อตราประทับสี่เหลี่ยมพุ่งสังหารลงมา ได้ก่อเกิดเป็นเปลวแสงที่สูงเป็นล้านล้านจ้างขึ้นมา จังหวะที่พุ่งโจมตีลงมานั้น เสมือนหนึ่งโลกทั้งโลกถูกโจมตีจนทะลุอย่างนั้น
ได้ยินเสียงดังปังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ตราประทับสี่เหลี่ยมได้โจมตีเข้าไปที่ร่างเงาของปฐมบรรพบุรุษ ท่ามกลางเสียงนี้ที่ดังขึ้น มองเห็นร่างเงาปฐมบรรพบุรุษปรากฏบริเวณหน้าอกถูกโจมตีจนทะลุ เหลือไว้เพียงรูขนาดยักษ์เอาไว้
ไม่… พวกของโต้วจ้านหวงทั้งสี่ถึงกับร้องเสียงแหลมขึ้นมา เมื่อเห็นร่างเงาของปฐมบรรพบุรุษถูกยิงจนทะลุ เสียงร้องแหลมเสียงนี้ของพวกเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ภาพเช่นนี้สำหรับพวกเขาแล้ว ยังคงสะเทือนหวั่นไหวอย่างยิ่ง
เนื่องจากตราประทับสี่เหลี่ยมของหลี่ชิเย่ไม่เพียงเอาชนะท่าไม้ตายของพวกเขาเท่านั้น ยังเอาชนะสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุด และดำรงอยู่ในฐานะที่สูงส่งที่สุดในใจของพวกเขา นั่นก็คือปฐมบรรพบุรุษ
ในขณะนี้ สมองของทุกคนล้วนมีแต่ความว่างเปล่า มองดูร่างเงาของปฐมบรรพบุรุษที่ถูกยิงทะลุอก คงเหลือไว้เพียงรูขนาดยักษ์รูหนึ่ง รูม่านตาของทุกคนหดตัว มองดูภาพเหตุการณ์นี้ด้วยความสะเทือนหวั่นไหวอย่างยิ่ง
ร่างเงาของปฐมบรรพบุรุษที่ถูกยิงทะลุอกค่อยๆ ล้มตัวลงอย่างช้าๆ สุดท้าย จากการที่อนุภาพลำแสงกระจายตัวออกไป ร่างเงาของปฐมบรรพบุรุษก็ได้จางหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ เอาไว้แม้เพียงน้อยนิด
หมื่นแดน… หลี่ชิเย่ไม่ได้มองดูร่างเงาปฐมบรรพบุรุษที่จางหายไปอีกสักแวบหนึ่ง กล่าวสำหรับเขาแล้วการโจมตีในลักษณะเช่นนี้ไม่มีอะไรจะต้องไปประหลาดใจ ทุกอย่างล้วนแล้วแต่อยู่ในความควบคุมของเขา
เขาเพียงยิ้มเรียบเฉยมองดูตราประทับสี่เหลี่ยมที่เปล่งประกายวูบวาบ จากนั้น ประกายจางหายไป และตราประทับสี่เหลี่ยมนี้ก็ดูจะจางลงๆ สุดท้ายก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย็
ตราประทับสี่เหลี่ยมนี้หาใช่ตราประทับสี่เหลี่ยม แต่เป็นหมื่นแดนที่หลี่ชิเย่รวบรวมเอามาตามอารมณ์ หมื่นแดนกลับกลายเป็นตราประทับสี่เหลี่ยม จัดการสยบและสังหารร่างเงาของปฐมบรรพบุรุษไปในทันที
หมื่นแดนก็คือหนึ่งในเก้าตำราสวรรค์นพเก้า ก่อนหน้านั้นมันมีชื่อว่า ‘ตำรานภา’ เมื่อหลี่ชิเย่ได้พลิกหน้าใหม่ขึ้นมา มันก็กลายเป็นตำราสวรรค์เล่มใหม่ทั้งหมด หลี่ชิเย่ตั้งชื่อให้กับมันว่า ‘หมื่นแดน’
คำว่าหมื่นแดนเป็นการบ่งบอกว่า พลันที่หลี่ชิเย่ลงมือไปตามอารมณ์ก็คือโลกทั้งโลก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอยู่ในกำมือของเขา
ด้วยเหตุนี้เอง การที่มือทั้งสองของหลี่ชิเย่รวบเข้ามาก็คือหมื่นแดน โลกทั้งโลก วันเวลานับแต่อดีตสัจธรรมที่ไม่มีสิ้นสุด ล้วนแล้วแต่อยู่ท่ามกลางนิ้วมือทั้งสิบของเขาที่รวบเข้ามา ท้ายสุดได้กลับกลายเป็นตราประทับสี่เหลี่ยม อาศัยพลังที่แข็งแกร่งที่สุดสยบสังหารลงมา การสังหารที่เด็ดขาดเช่นนี้ ลำพังแค่ร่างเงาของปฐมบรรพบุรุษไหนเลยจะสามารถต้านเอาไว้ได้ หนึ่งกระบวนท่าที่สยบและสังหาร การขัดขืนใดๆ ล้วนแล้วแต่เล็กน้อยอะไรอย่างนั้น ล้วนแล้วแต่ไร้ค่าที่จะกล่าวถึง
ไม่ ไม่ ไม่ นี่มันเป็นไปไม่ได้… ครั้นร่างเงาของปฐมบรรพบุรุษค่อยๆ จางหายไปอย่างช้าๆ อำนาจปฐมบรรพบุรุษก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย สิ่งมีชีวิตของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ต่างก็ลุกขึ้นมาได้แล้ว
แต่ทว่า ในเวลานี้มีศิษย์บางส่วนของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่กลับคุกเข่าลงกับพื้นและไม่ยอมลุกขึ้นเป็นเวลานาน ทั้งยังบ่นพึมพำกับตัวเอง
กล่าวสำหรับศิษย์จำนวนไม่น้อยของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่แล้ว เรื่องเช่นนี้สุดที่พวกเขาจะจินตนาการได้ ทำให้พวกเขายากจะยอมรับได้จริงๆ
ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่บ่มเพาะพวกเขา พวกเขาถือกำเนิดที่นี่ โตที่นี่ ในขณะที่พวกเขาอายุยังน้อยมาก ปฐมบรรพบุรุษก็เสมือนดั่งเป็นท้องฟ้าของพวกเขา คือสิ่งที่อยู่สูงสุด เป็นผู้ปราศจากผู้ต่อกรในหล้า ไม่มีสิ่งใดสูงส่งและปราศจากผู้ต่อกรไปกว่าปฐมบรรพบุรุษอีกแล้ว
มาวันนี้ หลี่ชิเย่กลับยิงทะลุอกร่างเงาปฐมบรรพบุรุษ และสังหารเขาในพริบตา เหมือนเป็นการเอาชนะปฐมบรรพบุรุษจิ่วมี่แล้วอย่างนั้น
การโจมตีลักษณะเช่นนี้ ได้ทำให้ปฐมบรรพบุรุษที่อยู่สูงสุดในความคิดของศิษย์ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ไม่รู้จำนวนเท่าไรต้องพังครืนลงมาทันที สิ่งนี้กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วนับว่าส่งผลกระทบเป็นอันมาก ปฐมบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุด สูงส่งที่สุด คู่ควรให้พวกเขาเคารพนับถือในความคิดของพวกเขา ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับหลี่ชิเย่เช่นนี้ ความจริงเช่นนี้ทำให้ศิษย์จำนวนไม่น้อยไม่อาจยอมรับได้
นี่ นี่มันเป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ มีศิษย์ทีอดจะร้องคร่ำครวญเสียงดังปิ่มว่าจะขาดใจ น้ำตานองหน้าในขณะนี้
ในขณะที่ร่างเงาปฐมบรรพบุรุษปรากฎตัวขึ้นมาก็มีศิษย์ที่น้ำตานองหน้า นั่นเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่ง เป็นความตื่นเต้น ส่วนน้ำตานองหน้าในเวลานี้เป็นความสิ้นหวังอย่างหนึ่ง เป็นความหมดสิ้นเรี่ยวแรงอย่างหนึ่ง
แม้แต่ร่างเงาของปฐมบรรพบุรุษก็ถูกหลี่ชิเย่สยบและสังหารในทันที ช่างเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวเช่นใด เสมือนหนึ่งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ทั้งหมดสั่นเทาอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาอย่างนั้น
ในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นห้าแกร่งอะไร ปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดเช่นใด หรือคณะมนตรีศักดิ์สิทธิ์อะไรนั่น ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงมดปลวกฝูงหนึ่งเท่านั้นเอง กระทั่งกล่าวได้ว่าทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นเพียงมดปลวกทั้งสิ้นภายใต้ฝ่าเท้าของฮ่องเต้องค์ใหม่
ในเวลานี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรขณะแหงนหน้ามองดูหลี่ชิเย่นั้น อดที่จะรู้สึกหวาดผวาจนขนลุกซู่ไม่ได้ ขาทั้งสองข้างไม่เอาไหนเอาแต่สั่นเทา นี่คือผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะผู้สังหารร่างเงาของปฐมบรรพบุรุษ
ในอดีต อำนาจของฮ่องเต้ไท่ชิงเคยปกคลุมระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ทั้งหมด แต่ทว่า เมื่อเปรียบเทียบกับฮ่องเต้องค์ใหม่ในวันนี้แล้ว ฮ่องเต้ไท่ชิงนับเป็นอะไรได้?
ภายใต้ท่วงทีที่มีความสง่างามยอดเยี่ยมแห่งยุคของฮ่องเต้องค์ใหม่ ฮ่องเต้ไท่ชิงที่ยโสโอหังยิ่ง ผู้เคยเป็นใหญ่แต่ผู้เดียวในหล้าพลันสลดและอับแสงทันที
ฝ่าบาท… ในเวลานี้ หลี่ชิเย่ไม่จำเป็นต้องระเบิดอานุภาพที่สะเทือนเลือนลั่นอะไร ไม่จำเป็นต้องวางท่าที เพียงยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ก็มีผู้คนจำนวนมากทยอยกันคุกเข้ากราบกับพื้นเมื่อมองเห็นเขา
ในเวลานี้ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนที่หมอบกราบโดยโน้มตัวไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิ หรือว่าเทพแท้จริงขั้นอมตะ นาทีนี้ก็ต้องก้มหัวที่หยิ่งยโสนั้นลง
นาทีนี้ ผู้คนจำนวนเท่าไรที่ตัวสั่นงันงกขณะหมอบกราบอยู่แทบเท้าของหลี่ชิเย่ ร่างกายสั่นเทา ไม่กล้ากระทั่งหายใจแรง
นาทีนี้ ทุกคนลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นห้าแกร่งอะไร หรือปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุด ฮ่องเต้ไท่ชิง แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษ นาทีนี้ก็ดูจะไร้ซึ่งเรี่ยวแรงอะไรอย่างนั้น
ในเวลานี้ ผู้ชายที่ยืนอยู่บนท้องฟ้าตรงหน้าจึงเป็นผู้ที่สูงสุด ทุกสิ่งที่อยู่ใต้เท้าของเขาล้วนแล้วแต่ ไม่คู่ควรจะกล่าวถึง
……………………………………………..