ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 24
บทที่ 24
ต่อถังหยินไม่ได้รับบาดเจ็บ เขาก็ยังสู้หยวนกุยไม่ได้อยู่ดี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบาดแผลตรงที่ซี่โครงที่เขาได้รับมาในตอนนี้อีก เมื่อเห็นว่าหยวนกุยกำลังจะปลดปล่อยแรงกดดันออกมาอีกครั้ง มันก็ทำให้ชายหนุ่มไม่มีเวลาคิดอะไรมากนัก
เคร้ง!
หยวนกุยส่ายหอกเงินของเขาปัดดาบเหล็กของถังหยินออกไป รอยยิ้มปรากฏมากขึ้นบนใบหน้า ในเมื่อไม่มีอาวุธแล้ว เจ้าพลทหารเฟิงตรงหน้ายังไงก็ได้ตายแน่ ๆ แต่คราวนี้เขาคิดผิด หลังจากที่ดาบถูกปัดออกไป ชายหนุ่มก็พุ่งเข้าไปหาทหารนายอื่น
เขาเปิดฝ่ามือออกกว้าง ก่อนที่จะมีเปลวไฟสีดำปรากฏขึ้นตรงกลางฝ่ามือของถังหยิน หลังจากเข้ามาในฝูงชน มือของเขาก็คว้าคอทหารไว้ 2 นาย
ก่อนที่ทหารทั้ง 2 จะร้องด้วยความตื่นตระหนก ไฟสีดำในฝ่ามือของถังหยินได้เผาผลาญร่างกายของพวกเขาไปหมดแล้ว ภาพที่ปรากฏทำให้เกิดเสียงแตกตื่นขึ้น ตอนนี้ทหาร 2 นั้น พวกเขาทั้งคู่เหลือแค่เพียงชุดเกราะและอาวุธที่หล่นลงบนพื้นเท่านั้น
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น หลังจากใช้วิชาเพลิงแห่งความมืดแล้ว ถังหยินก็ไม่ได้หยุดพักและวิ่งเข้าหาศัตรูคนอื่นต่อ กลิ่นเนื้อไหม้ลอยคละคลุ้งในอากาศพร้อมกับควันสีดำมากมาย
ในขณะที่พลังปราณในร่างของเขาเริ่มฟื้นฟูมากขึ้นเรื่อย ๆ เลือดบาดแผลเองก็เริ่มหยุดไหลแล้ว ทั้งหมดนี่เป็นเพราะพลังงานความมืด แม่ทัพบางคนของแคว้นหนิงเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไป พร้อมกับร้องอุทานออกมา “ผู้ใช้ศาสตร์มืด!”
ใบหน้าของหยวนกุยหันกลับมามองอย่างน่าเกลียด เขาตะโกนอย่างดุเดือดและไล่ตามถังหยินพร้อมหอกในมือ ความเร็วของชายผู้นั้นเร็วมาก เพียงพริบตาเขาก็มาถึงด้านหลังถังหยินแล้ว
ชายหนุ่มรู้ว่าเขามีฐานพลังที่ไม่สูงมาก และเทียบแม่ทัพนายนี้ไม่ติด ดังนั้นถังหยินจึงไม่คิดที่จะสู้กับหยวนกุย เมื่อเห็นถึงหอกเงินที่กำลังพุ่งเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มก็ไม่ได้คิดที่จะหลบแต่อย่างใด
การเคลื่อนไหวของถังหยินแปลกมาก เขาเหมือนกับปลาไหลที่ปะปนไปกับฝูงชน หยวนกุยไล่ตามชายหนุ่มได้หลายครั้งแล้วก็จริง แต่แม่ทัพหนิงนายนี้ก็ทำได้แค่เพียงเฝ้ามองนายทหารหนิงที่ลุกติดไฟ และกลายเป็นเถ้าถ่าน
หยวนกุยคำรามสู่ท้องฟ้า หอกสีเงินในมือของเขาปล่อยแสงออกมาหนึ่งหมื่นดวง หลังจากนั้นปลายหอกนั้นก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นเข็มเหล็กนับไม่ถ้วนที่เคลื่อนไปยังร่างของถังหยิน
มันคือ หนามล่าวิญญาณ!
ถังหยินจดจำท่วงท่าของหยวนกุยเอาไว้ ชายหนุ่มขยับตัวอย่างรวดเร็วและคว้าอาวุธจากแถวนั้นซัดใส่หยวนกุย
ปุ๊ ปุ๊ ปุ๊!
ทหารหนิงที่ไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นได้ถูกเจาะทะลุด้วยหนามของหยวนกุยอย่างน่าสงสาร ร่างของเขาร่วงหล่นบนพื้นพร้อมด้วยโลหิตที่ไหลออกมา
แม้ว่าถังหยินจะใช้พวกหนิงเพื่อสกัดกั้นการโจมตีไว้ได้ แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่อาจหลบหนีได้อยู่ดี โชคดีที่สัญชาตญาณของเขายังสูงอยู่จึงทำให้เขาสามารถหลบการโจมตีที่จุดตายมาได้ แขนข้างซ้ายของถังหยินในตอนนี้เต็มไปด้วยร่องรอยจากหนามนั่นจนเลือดอาบ
ถังหยินผู้ได้รับบาดเจ็บหนีไปเร็วขึ้น พร้อม ๆ กับเปลวไฟสีดำที่ปรากฏขึ้นบ่อยครั้งท่ามกลางฝูงคน ในบางครั้งทหารหนิงจะกรีดร้องเนื่องจากความเจ็บปวดที่เกิดจากการเผาไหม้ออกมา ก่อนที่พวกเขาจะหายตัวไปเมื่อถูก ‘กิน’ อย่างหมดจดโดยชายหนุ่ม
เมื่อเห็นว่าดวงตาของหยวนกุยติดไฟด้วยความโกรธ แม่ทัพใหญ่นายนี้พยายามใช้ทุกวิชา ทุกเทคนิคก้นหีบออกมา หากแต่ถังหยินก็ยังคงหลบได้อยู่ดี แปลกมากที่พลังของหยวนกุยไม่สามารถทำอะไรชายหนุ่มตรงหน้านี้ได้เลย กลับกัน พลทหาร หนิงก็ค่อย ๆ ล้มตายไปทีละคน ทหารหนิงหลายคนถูกเปลี่ยนเป็นเกราะป้องกันของถังหยินทำให้หยวนกุยไม่สามารถโจมตีได้
“เกิดอะไรขึ้น?”
ชายหนุ่มสวมเสื้อคลุมสีเงินและสวมมงกุฎสีดำเดินออกมาจากพลับพลา นอกจากทหารคุ้มกันรอบตัวเขาแล้วก็ยังมีสาวใช้ที่งดงามเดินตามมาด้วย
เมื่อเห็นเขา แม่ทัพทั้งหมดของแคว้นหนิงก็ตกใจ พวกเขาแห่กันไปข้างหน้าทีละคนเพื่อปกป้องชายหนุ่มผู้นั้นอย่างแน่นหนา ก่อนที่หนึ่งในแม่ทัพระดับสูงของหนิงจะออกมาอย่างเคารพว่า “ฝ่าบาท ข้างนอกอันตรายมาก ได้โปรดกลับไปยังกระโจมของท่านก่อน”
ชายที่ถูกเรียกว่าฝ่าบาทหันไปมองแม่ทัพนายนั้น ก่อนที่เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ข้าได้ยินมาว่ามันมีแค่คนเดียวเท่านั้นเอง ยังจัดการไม่เรียบร้อยอีกหรือ?”
แม่ทัพคนนั้นยิ้มเงียบ ๆ และตอบกลับ “ฝ่าบาท แม่ทัพหยวนกำลังไล่จัดการศัตรูอยู่ ข้าเชื่อว่าอีกไม่นานก็จะเรียบร้อย แต่ตอนนี้ท่านต้องกลับเข้าไปในกระโจมของท่านก่อนเถอะ!”
ตอบนี้สถานการณ์รอบด้านอันตรายเกินไป มันจึงทำให้แม่ทัพคนนี้ไม่กล้าปล่อยปละละเลย ถ้าพลทหารเฟิงนายนั้นต้องการจะทำอะไรสักอย่างละก็ หัวของพวกเขาคงหลุดออกจากบ่าเป็นแน่
“ฮ่า!” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาปฏิเสธที่จะฟังคำแนะนำของแม่ทัพ เขาส่ายหัวและพูด “แม่ทัพของพวกเราเก่งกล้าสามารถ ส่วนศัตรูก็เป็นเพียงแค่โจรกระจอก ทำไมข้าต้องกลัวมัน ?” ระหว่างที่เขาพูดก็ได้กลอกตามองไปยังแม่ทัพและผลักคนที่ขวางทางออกไป จากนั้นก็เลือกหาที่นั่งเหมาะๆเพื่อที่จะสังเกตการณ์
ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ใครนอกจากทายาทคนที่ 3 ของอ๋องแห่งหนิง องค์ชายสาม หยูฉาง
เมื่อเขาได้ยินว่ามีการโจมตีของศัตรูที่จุดตรวจ เขาก็เลือกที่จะซ่อนตัวอยู่ในกระโจมกองทัพของเขาทันที หลังจากที่ได้ยินเสียงตะโกนสังหารจากภายนอก มันก็ทำให้เขากลัวจนไม่กล้าที่จะออกมาจากกระโจม หลังจากนั้นไม่นาน องค์ชายสามก็ได้ยินจากคนรับใช้ของเขาว่ามีศัตรูเพียงคนเดียวที่อยู่นอกกระโจมเท่านั้น ดังนั้นแล้วผู้เป็นองค์ชายจึงกล้าที่จะออกไปดูสถานการณ์ข้างนอก
มันยากมากที่ถังหยินจะไม่สังเกตเห็นเขา รอบตัวของชายผู้นั้นเต็มไปด้วยทหารอารักขามากมาย นอกจากนี้ชายผู้นั้นเองก็ยังเลือกที่จะยืนอยู่บนที่สูงเด่นสะดุดตาอีกด้วย
ถังหยินสามารถบอกได้ว่าชายคนนี้เป็นคนสำคัญของศัตรูแน่นอน และเมื่อเป้าหมายปรากฏตัวแบบนี้ มีหรือที่เขาจะทิ้งโอกาสที่ดีไป? ด้วยความคิดนั้น ถังหยินสูดหายใจเข้าลึก ๆ และรีบพุ่งไปหาหยูฉางอย่างรวดเร็ว
หยวนกุยมีประสบการณ์สู้รบมามาก เขาสามารถคาดเดาความตั้งใจของถังหยินได้ทันทีโดยดูจากทิศทางของการเคลื่อนไหวของเขา หากองค์ชายสามเป็นอะไรไป แม่ทัพอย่างเขาจะต้องถูกตำหนิแน่นอน!
แม่ทัพใหญ่ตัดสินใจปล่อยพลังปราณลงไปในหอกเงินในมือจนมันเปลี่ยนเป็นสีแดง ขนาดของหอกเองก็ยาวขึ้นกว่าเดิมหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเปลี่ยน ‘อาวุธปราณ’ หยวนกุยก็ไล่ตามเป้าหมายของเขาต่อ ตอนนี้จะมีอะไรอันตรายเขาก็ไม่สนใจมันอีกต่อไปแล้ว ตราบเท่าที่เขาสามารถจัดการถังหยินได้และรับรองความปลอดภัยของหยูฉาง เขาไม่สนใจหรอกว่าจะมีใครต้องตาย
ความเร็วของถังหยินนั้นเร็วมาก แต่หยวนกุยเองก็ไม่ต่างกันเลย แม่ทัพหนิงนายนี้ตามถังหยินมาทันและเงื้อหอกขึ้นเล็งด้านหลังไปที่ของถังหยิน ก่อนจะขว้างมันออกไป
หอกยาวพุ่งตัดผ่านอากาศจนทำให้พลังปราณสั่นคลอน เพียงแค่ได้ยินเสียง ถังหยินก็สามารถระบุได้ว่าการโจมตีนั้นทรงพลังเพียงใด ชายหนุ่มกัดฟันและดึงเอาง้าวขึ้นมาป้องกันอย่างรวดเร็ว
เคร้ง!
หอกยาวที่ถูกเปลี่ยนได้ถูกกระแทกเข้ากับง้าว ตอนแรกมันเกิดเสียงดังแสบแก้วหู ก่อนที่ง้าวในมือถังหยินแตกหัก แรงกระแทกจากหอกได้ส่งร่างของเขาให้ลอยออกไปไกล
พลุ่บ
การโจมตีเต็มแรงของหยวนกุยนั้นแข็งแกร่งเกินไป แม้แต่ทหารโดยรอบก็ถูกบังคับให้ต้องหลบหนีเมื่อพวกเขาต้องเผชิญเข้ากับแรงกดดัน ถังหยินซึ่งเป็นเป้าหมายหลักเองก็ประสบเข้ากับชะตากรรมที่น่าสังเวชยิ่งกว่า แรงกระแทกส่งให้ชายหนุ่มและทหารหนิงกว่าสิบนายลอยขึ้นไปบนอากาศและกระเด็นไปไกลจากจุดเดิมถึง 2 จั้ง
เมื่อนอนอยู่บนพื้น ถังหยินก็รู้สึกตึงแน่นที่หน้าอก และมีรสหวานอยู่ในลำคอของเขา ก่อนที่ชายหนุ่มจะพ่นเลือดออกมาเต็มปากเต็มคำ
ไม่ใช่แค่ไม่มีเวลาในการฟื้นฟูตัวเองเท่านั้น ทหารรอบ หนิงที่รอบตัวเขาเองก็ได้วิ่งกรูกันเข้ามา หอกมากมายได้แทงเข้าใส่ร่างของชายหนุ่ม
ตาของถังหยินเปิดกว้าง ปลายลิ้นแตะฟันบน เขารวบรวมกำลัง ก่อนจะกระโดดขึ้นมาจากพื้นดิน ร่างกายของชายหนุ่มเคลื่อนไหวเร็วเท่ากับฟ้าผ่า เขาวิ่งผ่านช่องว่างในการโจมตีของคู่ต่อสู้ตรงไปที่หยูฉาง
ถังหยินไม่ได้รับการโจมตีอย่างหนักของหยวนกุยโดยเปล่าประโยชน์ มันทำให้ชายหนุ่มเจ็บตัวก็จริง หากแต่มันก็ช่วยเสริมให้เขาเข้าใกล้องค์ชายได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
“ฮะ?” เมื่อเห็นว่าถังหยินกำลังพุ่งเข้าหาหยูฉาง ทหารทุกคนก็เริ่มกรีดร้องออกมา แม่ทัพและทหารหนิงต่างก็รีบเข้าไปคุ้มกันองค์ชายของพวกเขา จากนั้นก็แทงอาวุธเข้าใส่ถังหยินอย่างโหดเหี้ยม พวกเขาคือผู้ฝึกยุทธ์ที่มีพลัง ถึงแม้บางคนจะอ่อนแอกว่าถังหยิน แต่เมื่อมารวมมันก็ทรงพลังไม่ใช่น้อย!
ในมือของถังหยิน เขายังถือง้าวที่หักอีกครึ่งหนึ่งเอาไว้อยู่ หลังจากปัดป้องกันการโจมตีได้เล็กน้อย มันก็ได้มีหอกแหลมอีก 2 อันที่เหลือพุ่งเข้าใส่จุดอ่อนของชายหนุ่ม หากแต่ถังหยินเอง เขาก็ได้เตรียมใจเอาไว้แล้ว ชายหนุ่มหลบเลี่ยงจุดตายไปได้อีกครั้ง แต่ถ้ามากกว่านี้ละก็เขาคงแย่เป็นแน่
“มาดูกันดีกว่าว่าเจ้าจะหนีไปไหนได้? เวลาตายของเจ้ามาถึงแล้ว!” หยวนกุยคำรามออกมาแล้วยกหอกขึ้นฟันไปยังถังหยิน
หอกสีเงินที่เปลี่ยนร่างนั้นหนาและยาวขึ้น ใบมีดทั้ง 2 ด้านคมกริบแถมบวกด้วยพลังของหยวนกุยอีก ทำให้ถังหยินที่ไม่มีเกราะปราณไม่สามารถป้องกันการโจมตีนี้ได้ หอก ดาบ ขวาน ง้าว และทุกอาวุธล้อมกรอบถังหยินราวกับตาข่ายให้อยู่ข้างใน
ถังหยินในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากลูกไก่ในกำมือ ทุกการโจมตีของศัตรูสามารถฆ่าเขาได้ทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้นหอกที่แทงเข้าไปในร่างของเขาก็ไม่ต่างอะไรกับเหล็กแหลมที่ตรึงร่างของเขาไว้ไม่ให้ขยับได้
ชายหนุ่มไม่สามารถขยับและไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ แล้วแบบนี้เขาจะทำยังไงดี?
ถ้าถังหยินขยับไปได้อีกนิด เขาก็จะสามารถคว้าชัยเอาไว้ได้แล้ว แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถขยับตัวหรือทำอะไรได้เลย เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ดูจะไม่เป็นใจแบบนี้ ชายหนุ่มก็ได้แต่พยายามต่อไปท่ามกลางความสิ้นหวังที่กำลังใกล้เข้ามา!