ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 314
บทที่ 314
บทที่ 314
“เชิญขอรับท่าน !” หลิวจี้เชาและคนอื่น ๆ พาถังหยินเข้าไปในงานเลี้ยงด้วยความเคารพ
ก่อนที่ถังหยินและหลิวจี้เชาจะพากันนั่งลงเบาะหน้า ส่วนแขกคนอื่น ๆ นั่งด้านซ้ายและขวา โดยเว้นพื้นเวทีตรงกลางไว้ให้นางรำและนักดนตรีจัดแสดงได้ร่ายรำและขับกล่อมพวกเขา
“นับตั้งแต่ที่นายท่านถังยึดเมืองสีไป่ ชีวิตของพวกเราก็กลับมาสงบสุขอย่างที่ควรเป็น..” ขณะที่พูด หลิวจี้เชาก็ได้ยกจอกสุราขึ้น และเมื่อเห็นเช่นนั้น แขกคนอื่น ๆ ก็พากันยกจอกสุราของพวกเขาขึ้นตาม ก่อนเป็นถังหยินที่หัวเราะและหยิบจอกสุราขึ้นมา พร้อมพูดว่า “มันเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว เอาละ ดื่ม !”
ทุกคนต่างพากันยกจอกสุราขึ้นดื่ม ทำให้บรรยากาศงานเลี้ยงดูคึกคักขึ้นทันตาเห็น
ทุกคนเคยได้ยินมาตลอดว่าถังหยินโหดเหี้ยม แต่นับตั้งแต่กองทัพเทียนหยวนเข้ามาในเมือง พวกเขาก็ไม่รบกวนประชาชน ทั้งยังไม่กลั่นแกล้งผู้อื่นอย่างกดขี่ข่มเหง ทำให้ถังหยินดูมีความเป็นมิตรและแตกต่างจากข่าวลือ และเมื่อได้เจอกับอีกฝ่ายตรง ๆ ในงานเลี้ยงครั้งนี้ ความกลัวของทุกคนที่มีต่อถังหยินก็พลันลดน้อยลง ทำให้ภายในงานเกิดเสียงหัวเราะและการพูดคุยกันมากขึ้น
เมื่อเห็นถังหยินมีความสุขและยิ้มออกมา หลิวจี้เชาก็ดูจะพอใจเช่นกัน จากนั้นเขาก็จำได้ว่าตนเองได้จ้างคณะแสดงมาเป็นพิเศษ ก็เลยหันไปยิ้มให้ถังหยินและพูดว่า “ท่านถัง เมื่อเร็ว ๆ นี้มีคณะละครที่มีชื่อเสียงเข้ามาในเมือง ท่านสนใจที่รับชมเสียหน่อยไหม ?
“อ๋อ ?” ถังหยินสนใจขึ้นมาทันที เขาไม่ได้มีความสนใจในความบันเทิงประเภทนี้มากนัก แต่เขาก็อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับคณะละคร ดังนั้นชายหนุ่มจึงได้พยักหน้ายิ้มรับออกไป “แน่นอน !”
หลิวจี้เชาหันศีรษะ ร้องสั่งคนรับใช้ที่อยู่ข้างหลังเขาทันที และเมื่อคนรับใช้เห็นเช่นนั้น อีกฝ่ายก็รีบออกจากห้องโถง ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานเขาจะกลับมาพร้อมกับคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเสื้อผ้าของพวกเขาทั้ง 10 คนนั้นก็ดูจะโดดเด่นไม่น้อย ด้วยไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ล้วนสวมชุดสีฉูดฉาด โดดเด่นสะดุดตา
สองคนแรกที่ขึ้นเวทีเป็นเยาวชน 2 คน คนหนึ่งสูงและคนหนึ่งเตี้ย ในขณะที่อีกคนหนึ่งอ้วนและอีกคนผอม เด็กตัวสูงกำลังทำหน้าที่เป็นชาวนา ในขณะที่เด็กตัวเตี้ยกำลังทำตัวเป็นลิง ที่กำลังกระโดดขึ้นลงแกล้งคนตัวสูง
ถังหยินรู้สึกว่าการแสดงตรงหน้าตลก และน่าสนใจไม่น้อย ทำให้เขาจับจ้องไม่วางตา พร้อมกับหัวเราะไปด้วยตลอดการแสดง
หลังจากที่ทั้งสองคนแสดงเสร็จ เด็กสาวอีกคนก็ได้เดินออกมา ซึ่งการแสดงหลักของนางก็คือศิลปะการร่ายรำ และด้วยรูปลักษณ์ของนางที่งดงามเกินคำบรรยาย มันก็ทำให้ทุกคนที่ได้มองหลงจงแทบโงหัวไม่ขึ้น …แม้แต่ถังหยิน เขาเองก็ยังอดไม่ได้ที่จะจ้องมองนางเสียหลายหน
ร่างกายของนางนั้นอ่อนนุ่มราวกับว่าไม่มีกระดูก เด็กสาวขยับร่างกายไปมาในแบบที่คนธรรมดาทั่วไปยากจะทำได้ สำหรับถังหยิน เขาเองนั้นก็ได้รับการฝึกมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นจึงทราบดีว่าการแสดงตรงหน้ามันยากแค่ไหน ทำให้เมื่อเห็นการแสดงของเด็กสาวคนนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเล็กน้อย
เมื่อเห็นว่าดวงตาของถังหยินเป็นประกาย หลิวจี้เชาก็เข้าใจความคิดของชายหนุ่มผิดในพลัน เขาขยับเข้าไปใกล้ถังหยิน ปากร้องถามว่า “ถ้านายท่านสนใจ ข้าจะให้คนรับใช้ของข้าจองตัวนางเอาไว้ให้ !” ในเวลานั้นสถานะและตำแหน่งของคณะละครต่ำต้อยเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่นักแสดงเหล่านี้จะขายอย่างอื่นด้วยนอกจากฝีมือ
ถังหยินตกใจในตอนแรก แต่แล้วก็ยิ้มขณะโบกมือพลางพูดว่า “ข้าสนใจแค่การแสดงของนางก็เท่านั้น” ไม่ว่าเปล่า ชายหนุ่มยังได้ปลดปล่อยปราณของตัวเองออกมา ทำให้บรรยากาศโดยรอบเย็นเสียจนเหน็บหนาว จนหลิวจี้เชาต้องรีบกล่าวขอโทษออกมา “ข้าน้อยเข้าใจผิดไปเอง ขออภัยด้วยขอรับ !”
“หื๊ม ?” ถังหยินโบกมืออย่างง่าย ๆ “พี่หลิวเชิญข้ามาที่งานนี้ก็ถือเป็นเกียรติอย่างมากแล้ว ข้าไม่โกรธท่านหรอก !”
ใบหน้าของหลิวจี้เชาเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย แต่ในขณะเดียวกันเขาก็พยักหน้าอย่างเงียบ ๆ ว่าชายผู้นี้น่าสนใจยิ่งนัก !!
เมื่อเด็กสาวแสดงเสร็จแล้ว นางก็พลันจากไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเป็นกลุ่มคนเล็ก ๆ ที่มีสมาชิก 3 ขึ้นมาบนเวทีเพื่อแสดงต่อไป
หลังจากการแสดงของทุกคนเสร็จสิ้น นักแสดงในคณะต่างก็พากันมาร่วมแสดงละครเรื่อง ‘กองทัพเทียนหยวนจู่โจม’ โดยพวกเขาได้แต่งตัวเป็นทหารในกองทัพเทียนหยวนและกองทัพเปิงที่กำลังสู้รบกับ ทำให้แขกในงานเลี้ยงชมการแสดงด้วยความเพลิดเพลิน ก่อนที่ต่อมาทุกคนจะต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็น !!!
บรรดานักแสดงพากันเริ่มต้นเรื่องราวด้วยการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างทั้งสองฝ่าย แต่การแสดงที่เหลือก็ได้เปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ หลังจากตีเมืองได้ การสังหารหมู่ชาวเมืองก็ตามมาติด ๆ ทว่าถึงจะเป็นเช่นนั้น หากแต่กองกำลังจากฝั่งเปิงก็ยังคงยืนหยัดอย่างไม่ยอมจำนน แม้ว่ามันจะหมายถึงความตายก็ตาม !
จนถึงตอนนี้ละครเรื่องนี้ได้บอกเล่าถึงเรื่องราวโดยยกให้กองทัพเปิงเป็นตัวเอกไปโดยสมบูรณ์แล้ว ทั้งยังใส่ความด้วยการให้ตัวละครทางฝั่งเทียนหยวนกลายเป็นกลุ่มคนบ้าคลั่งที่กระหายเลือดและโหดร้าย !!
เมื่อเห็นเช่นนั้น ถังหยินก็ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าของเขาดำมืด ในขณะที่หลิวจี้เชาที่อยู่ข้าง ๆ ก็กำลังรู้สึกราวกับว่าตนเองนั่งอยู่บนเข็มนับพันเล่ม ในใจคิดว่าคณะแสดงกลุ่มนี้กำลังทำบ้าอะไรกัน ? เหตุใดพวกเขาถึงได้แสดงออกมาเช่นนี้ ? ยิ่งไปกว่านั้น ยังแสดงต่อหน้าถังหยินอีก นี่มันเป็นการยั่วโมโหไม่ใช่หรือไงกัน !
เพียงไม่นาน หลิวจี้เชาก็ไม่อาจอดทนได้อีก เขากระแทกโต๊ะและลุกขึ้นยืน ก่อนจะตะโกนว่า “พอแล้ว หยุ…!!” ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้พูดจบ นักแสดง 2 คนในชุดกองทัพเทียนหยวน พร้อมคันธนูในมือก็ได้หันกลับมาและยิงใส่ถังหยินเสียก่อน !!
ระยะห่างระหว่างทั้งสองใกล้เกินไป และลูกศรก็ยิงออกมาอย่างกะทันหันเช่นกัน ทำให้ถึงแม้ว่าหยวนอู่กับหยวนเปียวที่ยืนอยู่ข้างหลังถังหยินจะรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่มันก็สายไปแล้ว ด้วยลูกศรได้มาถึงหน้าถังหยินแล้ว !!!!
ในตอนนั้นถังหยินไม่ได้ให้ความสนใจกับการแสดงตรงหน้าแม้แต่น้อย ทว่ากำลังมองไปที่หลิวจี้เชาที่อยู่ข้าง ๆ อย่างสงสัย ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงเชิญเขามาดูละครเรื่องนี้ ? และในขณะที่เขาครุ่นคิดถึงเป้าหมายของหลิวจี้เชาในใจ ลูกธนู 2 ดอกก็ได้พุ่งตรงมาที่ชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่ยอดฝีมือแห่งยุคก็ไม่สามารถหลบได้ แล้วจะนับประสาอะไรกับถังหยิน !
อย่างไรก็ตาม สัญชาตญาณของถังหยินเฉียบแหลมเกินไป ด้วยเขาตระหนักได้ในทันทีว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามา และแม้ว่าจะไม่เห็นลูกศร แต่ร่างกายของชายหนุ่มก็ได้หลบไปด้านข้างโดยสัญชาตญาณ
ปุ ! ปุ !
หลังจากเสียงหนัก ๆ สองครั้ง ลูกศรทั้ง 2 ดอกก็ได้แทงทะลุเข้าไปยังบริเวณไหล่และซี่โครงด้านซ้ายตามลำดับ !
“มือสังหาร !!” “พี่น้องฉางกวนร้องออกมาในเวลาเดียวกัน ก่อนที่พวกเขาจะช่วยกันดึงถังหยินออกมาและคว้าเก้าอี้มาบังร่างชายหนุ่มเอาไว้ในจังหวะเดียวกัน
ขณะที่พวกเขาสองคนดึงถังหยินออกมา คนที่เหลือในกลุ่มนักแสดงก็ได้ยิงคมศรออกมาพร้อมกับอีกรอบ !
ฮ่าาาาาาาา !!!
หยวนเปียวคำรามลั่น เขายกขาขึ้น ทำการเตะโต๊ะของถังหยิน ทำให้เกิดเสียง ‘ปัง’ ดังออกมา ก่อนตามมาด้วยลูกศรกว่า 10 ดอกที่ปักคาลงบนโต๊ะ
ในเวลาเดียวกันนั้น สองพี่น้องฉางกวนก็ไม่รอช้า รีบสวมเกราะปราณและตะโกนเสียงดังออกมา “มีมือสังหาร !”
เสียงตะโกนของพวกเขาทำให้ทหารยามนอกห้องโถงตกใจ จนพวกเขาเหล่านั้นพากันเข้ามาในห้องโถงและร้องถามออกมา “มีอะไร !!?”
“มีการลอบสังหาร ! จับมันให้ได้ !” หยวนอู่สั่งการผู้ติดตามอย่างรวดเร็ว
ทหารยามที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับตกใจกลัว ถังหยินถูกลอบสังหารงั้นหรือ ?
แต่ทว่าก่อนที่พวกทหารยามจะได้เข้าถึงตัวพวกมือสังหาร นักแสดงพวกนั้นก็ได้คว้ายาออกมาจากอกเสื้อและกินเข้าไป ก่อนที่พวกเขาจะพร้อมใจกันดึงกระบี่เหล็กที่เตรียมไว้ และแยกออกเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อต่อสู้ โดยกลุ่มแรกนั้นพุ่งเข้าหาหยวนอู่และหยวนเปียว ส่วนอีกกลุ่มก็ไปอีกทาง
ในเวลานี้มันก็ชัดแล้วว่าพวกนักแสดงธรรมดาทั้ง 10 คนนี้ไม่ใช่คนธรรมทั่วไป แต่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ที่แข็งแกร่งเกินคำบรรยายต่างหากเล่า !
คนพวกนี้เจ้าเล่ห์ไม่น้อย พวกเขาได้กินยาสลายลมปราณไปก่อนหน้า เพื่อทำให้คนอื่นคิดว่าเป็นคนธรรมดา ก่อนที่จะทำการกินยาฟื้นฟูลมปราณ เพื่อเข้าโจมตีเมื่อได้โอกาสเหมาะ !!
มือสังหารกำลังพุ่งเข้าหาสองพี่น้องฉางกวน แต่เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่ทั้งสอง หาแต่เป็นถังหยิน !
ถังหยินโดนลูกศรเข้าไปเต็ม ๆ ทว่าก็ยังไม่แน่ชัดว่าอีกฝ่ายเป็นหรือตายกันแน่ ดังนั้นจึงมีแต่ต้องตัดหัวของถังหยินมาเป็นหลักฐานยืนยันเท่านั้น !!!
สองพี่น้องพากันสร้างดาบปราณขึ้นต้านรับนักฆ่า ทว่าก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่านักฆ่าเหล่านี้อย่างน้อย ๆ น่าจะอยู่ในขั้นปราณบรรพกาลขึ้นไป ! ทำให้สองพี่น้องไม่กล้าประมาทอีก พากันใช้ทักษะทั้งหมดที่มีเพื่อเข้าปะทะในทันที
ทว่าสองหมัดมีหรือที่จะต้านทานสี่ฝ่ามือไหว ? น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ไม่ว่าพี่น้องฉางกวนจะแข็งแกร่งเพียงใด พวกเขาก็มีเพียงสองคน เมื่อมีฝ่ามือพุ่งเข้ามาเจ็ดถึงแปดคนพร้อม ๆ กันแบบนี้ ในที่สุดพวกเขาก็ไม่อาจต้านไหว เปิดโอกาสให้มือสังหาร 3 คนพุ่งเข้าหาถังหยินที่อยู่ข้างหลัง
ในตอนนี้ถังหยินยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ โดยเขานั้นก็กำลังดึงลูกธนูออกจากซี่โครงและไหล่อย่างแรง ทำให้พวกมือสังหารที่เห็นแบบนั้นไม่อาจชักช้าได้อีก พากันร้องตะโกนพร้อมฟันออกด้วยดาบปราณในมือเข้าใส่ถังหยินในทันที
ชายหนุ่มที่เห็นการโจมตีที่ตรงเข้ามา เขาก็ได้ตวาดลั่น “เข้ามา !” พลางบิดร่างหลบ ก่อนจะหันหลังเตะเก้าอี้กระเด็นใส่มือสังหารทั้งสาม
โครม !
เมื่อเก้าอี้ไม้สัมผัสกับปลายดาบปราณทั้งสาม มันก็พลันแตกออกเป็นชิ้น ๆ และปล่อยให้คมดาบพุ่งตรงไปทางถังหยินเช่นเคยโดยไม่ชะลอแม้แต้น้อย !!!
เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ ถังหยินจึงไม่เต็มใจที่จะเผชิญหน้ากับการโจมตีตรง ๆ เขาพลันใช้ออกด้วยวิชาสลับเงา เข้าหามือสังหารที่ด้านหลังของพวกเขา ก่อนจะใช้ลูกศรในมือที่เพิ่งดึงถอนออกมาแทงไปที่หลังของชายมือสังหารคนตรงกลางอย่างรวดเร็ว
นักฆ่าดูเหมือนจะคุ้นเคยกับความสามารถของถังหยินเป็นอย่างมาก ดังนั้นก่อนที่ชายหนุ่มได้แทง อีกฝ่ายก็ได้ปัดลูกศรทิ้งไป และบิดตัวเข้าหาหมายจะแทงตรงไปที่คอของถังหยินในทันที !
นี่คือการต่อสู้ระหว่างชีวิตและความตาย ถ้าพลาดแม้เพียงชั่วลมหายใจเดียว ชายหนุ่มก็อาจตายได้ !!!
ถังหยินขมวดคิ้วแน่น ทำอะไรไม่ถูก เขาทำได้เพียงแค่ถอนการโจมตี ลดศีรษะลง และหลบการโจมตีของคู่ต่อสู้ ซึ่งในจังหวะที่เขาหลบผ่านมาได้ ก็เป็นนักฆ่าอีก 2 คบทที่ 314นที่เหลือเข้าประชิดตัวจากทางซ้ายและขวา พวกมันพร้อมใจกันใช้ดาบปราณเรียวยาวสองเล่มพุ่งเข้ามา โดยเลงตรงไปยังซี่โครงซ้ายและขวาของชายหนุ่ม
เขาไม่มีอาวุธในมือ มีเพียงลูกศร ทำให้การปัดป้องดาบปราณเป็นเรื่องที่ยากเกินไป ถังหยินหายใจเข้าลึก ๆ แล้วกระโดดถอยหลัง และแม้ว่าร่างกายของเขาจะได้รับบาดเจ็บจากลูกศร แต่การเคลื่อนไหวของชายหนุ่มก็ยังคงว่องไว ทำให้ด้วยการกระโดดครั้งเดียว เขาก็ได้ออกห่างจากจุดเดิมมา 1 จั้งได้ !!!